หลิวจินเซียงเป็คนพูดจริงทำจริง วันต่อมาเธอไปจับไก่ในเล้าของตนเองมาฆ่าหนึ่งตัว รอจนเย็นย่ำครอบครัวของสองพี่น้องที่ทำงานในนากลับมาถึงจึงรับประทานอาหารร่วมกันด้วยความครื้นเครง
งานเลี้ยงในวันนี้จัดขึ้นที่ห้องรับแขกในบ้านของคุณลุง
ซูอินจัดเตรียมของขวัญที่ตั้งใจจะให้ในการเจอกันครั้งแรกไปด้วย เธอมอบของขวัญให้คุณป้าแล้ว แต่ของคนอื่นๆ ในครอบครัวเธอยังไม่ได้ให้
ครอบครัวของคุณลุงมีสี่คนเหมือนกับครอบครัวของเธอ สองสามีภรรยามีบุตรชายและบุตรสาวอย่างละหนึ่งคน เจอกันครั้งแรก ทั้งสองฝ่ายได้แนะนำตัวต่อกัน ซูอินทำความรู้จักอีกฝ่ายพร้อมกับมอบของขวัญให้
คุณลุงของเธอ ซูเจี้ยนกั๋วเป็ชายวัยกลางคนที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอมาก ซึ่งดูเป็คนซื่อสัตย์และใจดี ทำนามาหลายปีทำให้ผิวของเขาคล้ำ แผ่นหลังดำกร้าน
ก่อนหน้านี้ซูอินได้ฟังเมิ่งเถียนเฟินเล่าว่าคุณลุงของเธอคนนี้เป็คนอดทนมาก นอกจากที่นาของตนเอง ยังรับทำนาให้หลายๆ ครอบครัวในหมู่บ้านด้วย ไม่รู้เลยว่ากว่าจะได้บ้านหลังใหญ่ที่กว้างขวางและสว่างไสวสร้างด้วยอิฐนี้ เขาต้องสูญเสียหยาดเหงื่อไปมากเพียงใด
เห็นได้ชัดว่าคุณลุงดีใจมากที่ได้พบเธอ ชายในชนบทที่มีความซื่อสัตย์และจริงใจจะไม่ค่อยพูดต่อหน้า เมื่อรับของขวัญจากเธอ ใบหน้าของคุณลุงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขาพยักหน้าก่อนหันไปมองยังภรรยาที่อยู่ข้างๆ
หลังจากนั้นเขาจึงหยิบซองแดงออกมายัดใส่ในมือของซูอิน
“อินอินกลับมาครั้งแรก ยังใส่ใจซื้อของมาให้พวกเราด้วย พวกเราไม่รู้ว่าหลานชอบอะไร จึงไม่ได้เตรียมของไว้ให้ เอานี่ไปนะ ชอบอะไรก็ไปซื้อเอง”
“นี่…ไม่ได้หรอกค่ะ”
เจอกันครั้งแรกจะให้ซูอินรับเงินของคนอื่นได้อย่างไร เธอปฏิเสธทันทีก่อนมองขอความช่วยเหลือจากสองสามีภรรยาตระกูลซูที่อยู่ด้านข้าง
เมิ่งเถียนเฟินรีบเข้ามาช่วยปฏิเสธ ยื้อยุดกันไปมาครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ต้องรับซองแดงนั้นมา
ซูอินจับซองแดงซึ่งดูจะไม่ได้หนามาก แต่จากความกว้างของซองไม่ใช่เป็ธนบัตรสิบหยวนแน่ๆ ปีนี้ชาวนาจะได้รับเงินเดือนเพียงไม่กี่ร้อยหยวน แต่หากให้ซองแดงที่มีธนบัตรร้อยหยวน…ย่อมหมายถึงการให้ความสำคัญกับผู้รับ และหลายครั้งเงินก็สามารถแสดงถึงความรู้สึกของผู้คน
จิตใจของเธอรู้สึกสงบ เพราะอย่างไรก็เป็ญาติพี่น้องกัน หลังจากนี้ต้องไปมาหาสู่ ค่อยหาโอกาสมอบเงินเหล่านี้คืน
เมื่อตัดสินใจรับเงินแล้ว ซูอินจึงไม่ทำให้มากความ ก่อนจะยิ้มหวาน “หนูขอบคุณคุณลุงกับคุณป้ามากๆ นะคะ”
“แบบนี้สิถึงจะถูกต้อง ครอบครัวเดียวกันจะพูดอะไรให้มากความ ป้าให้ก็รับไปเถอะ”
ใบหน้าของหลิวจินเซียงเต็มไปด้วยความสุข
ไม่ต้องพูดถึงของขวัญที่ซูอินมอบให้เมื่อวานซึ่งแค่มองก็รู้แล้วว่าเป็ของดี ต่อให้ซูอินไม่มอบของขวัญให้ เธอก็จะมอบซองแดงให้หลานสาวที่หน้าตาน่ารักและนิสัยน่าเอ็นดูเช่นนี้อยู่ดี
หากย้อนกลับไป หลานสาวแท้ๆ คนนี้ไม่เคยได้รับซองแดงมาหลายปี ถือเสียว่าครั้งนี้เป็การให้เพื่อชดเชย
เื่ซองแดงนี้ทำให้ใบหน้าของทั้งสองครอบครัวเต็มไปด้วยความสุข เว้นเสียแต่เด็กสาวคนหนึ่งที่นั่งหลบมุม
ซูเล่อมองซองแดงในมือของซูอินด้วยแววตาโกรธเคือง เมื่อครู่ตอนที่มีการเตรียมซองแดงเธอเห็นมันเข้าพอดี เงินหลายร้อยหยวนซึ่งเป็เงินของครอบครัวเธอ มิหนำซ้ำอาสะใภ้ก็ไม่เคยให้ซองแดงที่มีเงินจำนวนเยอะๆ กับเธอ
ทั้งสองครอบครัวล้อมวงกันอย่างมีความสุข โดยไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของซูเล่อ
หลังจากรับซองแดงแล้ว ซูอินจึงมอบของขวัญต่อ
พี่ชายคนโต ซูผิง เป็ชายหนุ่มร่างผอมสูง สวมแว่นตา เขาอายุมากกว่าเธอสองปี กำลังศึกษาอยู่ในโรงเรียนมัธยมปลายในตัวอำเภอ หากหมด่ปิดเทอมนี้ก็จะขึ้นชั้นมัธยมปลายปีที่สาม พี่ชายคนโตมีผลการเรียนที่ไม่เลว ซูอินจึงมอบปากกาแบรนด์เนมให้เขา พร้อมกับน้ำหมึกอีกหนึ่งชุด
พี่ชายที่ได้รับของขวัญรู้สึกดีใจมากเช่นกัน “ต่อไปนี้ถ้าอินอินมีปัญหาเื่เรียนก็มาปรึกษาพี่ได้เลยนะ”
สำหรับซูอินแล้วนั่นคือความสุขที่เธอไม่ได้คาดคิดไว้ก่อน
ถึงแม้คะแนนสอบขึ้นชั้นมัธยมปลายยังไม่ประกาศ แต่เธอรู้ว่ามันต้องออกมาไม่แย่อย่างแน่นอน เธอรู้สาเหตุดีว่าทำไมคะแนนของตัวเองถึงออกมาดี ซึ่งมันก็ถือเป็แค่การหยิบฉวยโอกาส
ในชาติก่อนที่ไม่สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยทำให้เธอเสียใจมาก เมื่อกลับชาติมาเกิด แน่นอนว่าเธอ้าชดเชยในส่วนนั้น เนื้อหาบทเรียนใน่มัธยมต้นถือเป็พื้นฐานเพื่อนำไปใช้ต่อใน่มัธยมปลาย การกลับมาครั้งนี้เธอจึงให้สองสามีตระกูลซูนำหนังสือเรียนของมัธยมต้นกลับมาด้วยเพื่อใช้่เวลาปิดเทอมทบทวนบทเรียน
หากมีคุณครูที่ไม่ต้องเสียเงินจ้างแบบนี้ หางตาของเธอก็เหลือบเห็นความสำเร็จอยู่รำไร ซูอินรีบคว้าโอกาสในครั้งนี้ไว้ทันที
“งั้นก็ดีเลยสิคะ ฉัน้าใช้ประโยชน์่ปิดเทอมทบทวนเนื้อหาตอนมัธยมต้นอยู่พอดี หากมีแรงพอก็อยากลองอ่านเนื้อหาของมัธยมปลายล่วงหน้า ถ้ามีตรงไหนที่ฉันไม่เข้าใจก็คงต้องให้พี่ช่วย ถึงเวลานั้นอย่าเบื่อที่ฉันเซ้าซี้นะคะ”
ซูอินร้องขอ
น้องสาวคนใหม่ที่กลับมาอยู่บ้านไม่เพียงแค่หน้าตาสะสวย ยังรักการเรียนอีกด้วย ตัวเขาที่รักการเรียน…จะไม่ชื่นชอบน้องสาวคนนี้ได้อย่างไร
น่ารักกว่าน้องสาวแท้ๆ ของเขาเสียอีก
“ไม่มีปัญหา หากมีตรงไหนไม่เข้าใจก็ถามได้ตลอดเวลา ใช่ว่าฉันจะทำได้ทั้งหมด แต่พวกเราสามารถปรึกษากันได้” ท่าทีของซูผิงอ่อนโยนขึ้นและพยักหน้ารับคำ
เมื่อบุตรชายและบุตรสาวของตนเองรักการเรียน คนที่เป็ผู้ปกครองก็ดีใจ บิดามารดาของทั้งสองฝ่ายต่างพยักหน้า หลิวจินเซียงมองบุตรสาวคนเล็กของตนเองด้วยความคาดหวัง
“เล่อเล่อ ลูกก็มาเรียนกับอินอินสิ เวลาว่างดูโทรทัศน์ให้น้อย หน่อย อ่านหนังสือให้เยอะๆ”
พ่อแม่ให้ซองแดง พี่ชายก็ชอบเธอ ซูเล่อที่อารมณ์ไม่ดีอยู่แล้ว เมื่อถูกมารดาตำหนิ ใจของเธอก็หล่นไปอยู่ตาตุ่ม สาเหตุที่เธอไม่ตีโพยตีพาย เหตุผลแรกเพราะเธอโดนบ่นจนชินแล้ว เหตุผลต่อมา เธอกำลังคาดหวังของขวัญ
ดังนั้นเมื่อซูอินมอบของขวัญชิ้นสุดท้ายให้ ใบหน้าที่ต้อนรับซูอินกลับมาของซูเล่อจึงแสดงออกถึงความมืดมน
“พี่คะ นี่เป็ของขวัญที่ฉันให้สำหรับการเจอกันครั้งแรกค่ะ”
เธอสังเกตเห็นอารมณ์ที่ผิดปกติไปของอีกฝ่าย เพราะเมื่อครู่ถูกมารดาตำหนิแน่ๆ ซูอินไม่ได้สนใจไปมากกว่านั้น ในมือของเธอยังคงถือของยื่นไปข้างหน้า
“ขอบคุณ”
ซูเล่อรับของมา แทบอดใจไม่ไหวที่จะเปิดออกดู
ถุงหิ้วสวยงามบรรจุสมุดจดบันทึก หน้าปกสวย ด้านข้างมีตัวล็อกสีทองสวยงาม เป็สมุดบันทึกที่ทำอย่างประณีต เหมาะสมมากที่จะอยู่ในมือของเด็กสาววัยรุ่น อีกทั้งมีกุญแจล็อกเหมาะสำหรับจดบันทึกเื่ส่วนตัวที่้าเก็บเป็ความลับ
ซูอินชอบสมุดบันทึกแบบนี้มาก เมื่อรู้ว่าซูเล่ออายุเท่ากับเธอ และเพิ่งผ่านการสอบขึ้นชั้นมัธยมปลายมาเหมือนกัน เธอจึงคิดว่าสิ่งนี้เหมาะสมและใช้ได้จริง
แต่ต่อให้เหมาะสมอย่างไรมันก็เป็เพียงสมุดบันทึกเล่มหนึ่ง
ซูเล่อหวนคิดถึงของขวัญสามชิ้นก่อนหน้านี้ ของที่ให้มารดาของเธอเป็สินค้าแบรนด์เนม ของที่ให้บิดาของเธอก็เป็สินค้าแบรนด์เนม ของที่มอบให้พี่ชายของเธอก็เป็สินค้าแบรนด์เนม
แต่ทำไมของเธอกลับกลายเป็เพียงสมุดจดบันทึกราคาแค่แปดหยวน สิบหยวนที่ซื้อได้จากร้านเครื่องเขียนข้างทาง
จู่ๆ คำพูดของเมิ่งเมิ่งก็ดังขึ้นในหัว “ซูอินน่ะเป็คนที่ทำอะไรก็จะดูฐานะและสภาพแวดล้อมของอีกฝ่าย และรู้ว่าตนเองควรทำดีกับใคร จะเชื่อหรือเปล่าก็แล้วแต่เธอ เอาเป็ว่าเมื่อถึงเวลานั้นเดี๋ยวเธอก็รู้เอง”
เมื่อถึงเวลานั้นเดี๋ยวก็รู้เอง…
ฉันรู้แล้ว…
รู้แล้ว…
ตอนนี้เธอรู้แล้ว ซูเล่อถือสมุดบันทึกด้วยความรู้สึกโกรธที่ก่อตัวขึ้นในใจ
ทำไมหน้าตาดูเคร่งเครียดมากกว่าเดิมล่ะ
ลูกพี่ลูกน้องคนนี้ของเธอไม่ชอบของที่ได้หรือ ซูอินคิดว่าซูเล่อไม่ชอบของขวัญของเธอ และอาจจะไม่ชอบเธอด้วย
ไม่น่าจะเป็แบบนั้น เพราะทุกคนต่างก็ชอบเธอนี่นา
คนจำนวนสามในสี่ของครอบครัวคุณลุงต้อนรับและรักเธอ ทำให้ซูอินมีความมั่นใจมาก เธอมีมารยาท มอบของขวัญให้ ั้แ่แรกจนถึงตอนนี้ไม่เกิดปัญหา หากมีคนไม่ชอบเธอ มันจะต้องไม่ใช่ปัญหาจากเธออย่างแน่นอน!
ถ้าเช่นนั้นก็ไม่จำเป็ต้องสนใจ
ซูอินโอบกอดความมั่นใจและรีบกำจัดอารมณ์ขุ่นเคืองเ่าั้ออกไป เธอพาเ้าตัวน้อยไปนั่งที่โซฟาเพื่อเล่นพันด้าย โดยเล่นพลิกแพลงไปมาหลายรูปแบบระหว่างรออาหาร