เสียงของจ้าวซื่อดังไม่ใช่น้อย ถึงกับเรียกให้กู้ซิ่วไฉและกู่ซื่อเดินมาดู ทันทีที่คนทั้งสองเข้ามาในห้อง มารดาเ้าหกก็ร่ำไห้โวยวายเสียงดัง “ฉินเจียกง ฉินเจียมู่ บุตรชายของพวกท่านไม่มีความรับผิดชอบเอาเสียเลย เขาคิดจะไม่รับผิดชอบเ้าหกของข้า! เ้าหกที่น่าสงสารของแม่อายุยังน้อยก็ต้องมาแต่งงานเพื่อขจัดอัปมงคลให้ผู้อื่น แต่พอคนเขาดีขึ้นกลับทอดทิ้งลูกของแม่! นี่น่ะหรือนิสัยของผู้รู้หนังสือ ข้านับว่ารู้แจ้งแล้ว!
“ยามนี้ทุกคนในหมู่บ้านล้วนรู้ว่าเ้าหกของข้าแต่งเข้าสกุลกู้ หากนางกลับบ้านเดิมในเวลานี้จะมีหน้าใช้ชีวิตต่อไปอีกได้อย่างไร นางต้องกลายเป็ที่หัวเราะเยาะของคนทั้งหมู่บ้านเป็แน่! เ้าหก แม่ผิดต่อเ้าเหลือเกิน แม่จะพาเ้ากลับบ้านประเดี๋ยวนี้ พวกเรากลับไปตายพร้อมกันเถิด ถึงอย่างไรก็ไม่มีหน้าให้อยู่อีกต่อไปแล้ว!”
กู้อวี้ที่อยู่บนเตียงตาโตด้วยความตระหนก ด้านกู้ซิ่วไฉถึงกับทำอันใดไม่ถูกเดินเข้าไปหาบุตรชายพร้อมกับกล่าวเสียงขึงขัง ใบหน้าแดงก่ำอย่างเริ่มมีน้ำโห “เป็บุรุษจะผิดคำพูดมิได้! ในเมื่อเ้าหกแต่งเข้าสกุลกู้แล้วก็ถือว่าเป็คนของสกุลกู้ เ้าจะทอดทิ้งนางมิได้!”
กล่าวจบหันไปยกสองมือกุมหมัดแก่จ้าวซื่อ “ฉินเจียมู่ ท่านวางใจเถิด หากมีข้าอยู่จะต้องให้ความยุติธรรมแก่เ้าหกอย่างแน่นอน”
กู่ซื่อเห็นจ้าวซื่อยังคงร่ำไห้จึงเดินเข้าไปฟาดที่ไหล่บุตรชายไม่เบานัก “เ้าลูกคนนี้นี่ ไฉนถึงไม่รู้ความ รีบขอโทษฉินเจียมู่ประเดี๋ยวนี้!”
ทว่ากู้อวี้ยังคงมีสีหน้าสงบนิ่ง “ลูกทำผิดเื่ใดหรือขอรับ ชายหญิงอายุเจ็ดปีถึงจะไม่นอนร่วมเตียงเดียวกัน แต่นางเพิ่งจะสี่ขวบเท่านั้น ดังนั้นแม้จะนอนอยู่ห้องเดียวกับลูกก็ไม่นับว่าส่งผลกระทบต่อชื่อเสียง อีกอย่างหากต้องใช้ชีวิตกับคนพิการอย่างลูกไปตลอดชีวิต ไม่สู้ให้นางรีบไปจากสกุลกู้ เผื่อภายภาคหน้าจะได้แต่งงานกับบุรุษปกติ ใช้ชีวิตกับสามีที่ปกติ ไม่ใช่สามีที่พิการเช่นลูก”
จบประโยคนี้ทั้งกู้ซิ่วไฉและกู่ซื่อต่างนิ่งเงียบไป
เ้าหกแต่งงานเข้าสกุลกู้เพื่อขจัดอัปมงคลให้แก่กู้อวี้ ถึงแม้หมอจะให้คำแนะนำว่าหากเข้าไปหาหมอที่มีชื่อเสียงในหัวเมืองอาจจะมีหนทางรักษา แต่นั่นก็แค่ ‘อาจจะ’ แล้วถ้ารักษาไม่ได้เล่า หากเป็เช่นนั้นมิใช่ว่าพวกเขาทำให้เ้าหกเสียเวลาหรอกหรือ
จ้าวซื่อหยุดร่ำไห้ เวลานี้สามีก็ไม่ได้อยู่ด้วยนางจึงไม่รู้ว่าควรต้องทำเช่นไร หากลองขบคิดให้ดีตนเองก็ไม่อยากให้บุตรสาวต้องใช้ชีวิตกับสามีพิการไปตลอดชีวิตเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ที่เห็นชอบให้เ้าหกแต่งเข้าสกุลกู้ เพราะมั่นใจว่าอีกไม่นานกู้อวี้และสองสามีภรรยากู้ก็คงจะตายจากไป ทีนี้สมบัติของสกุลกู้ก็จะตกเป็ของพวกนาง ถึงยามนั้นค่อยหาสามีใหม่ให้บุตรสาวสักคน ทว่าตอนนี้…
เ้าหกซึ่งเดิมทีนอนหลับสบาย ต่อมาได้ถูกเสียงร่ำไห้ของมารดาปลุกให้ตื่น นางฟังบทสนทนาของผู้ใหญ่อยู่นานแต่ก็ไม่เข้าใจว่าทุกคนกำลังพูดเื่ใดกันอยู่ ถึงกระนั้นก็พอจะจับใจความสำคัญได้ว่า สกุลกู้กำลังคิดเสียใจทีหลัง
นางไม่มีทางยอมเป็อันขาด!
เ้าหกดิ้นลงจากอ้อมกอดของจ้าวซื่อ วิ่งไปที่เตียงแล้วปีนขึ้นไปกอดเอวกู้อวี้เอาไว้แน่น
“นี่คือของข้า! พี่ชายคือของข้า! ข้าไม่ให้ใครทั้งสิ้น! ตอนเป็ก็เป็คนของข้า ต่อให้ตายก็เป็ผีของข้า!”
การกระทำนี้ทำให้บรรยากาศที่เดิมทีอึมครึมถึงกับผ่อนคลายลงไปไม่น้อย
ครั้นเห็นเ้าหกชอบพอบุตรชายผู้พิการของตนถึงเพียงนี้ ในใจกู้ซิ่วไฉกับกู่ซื่อยิ่งรู้สึกซาบซึ้งตื้นตัน แต่ยิ่งเป็เช่นนี้ก็ยิ่งรู้สึกผิดว่าพวกตนทำให้เ้าหกเสียเวลา
กู้ซิ่วไฉทำท่าขบคิดอยู่ครู่หนึ่งถึงค่อยเอ่ยว่า “ฉินเจียมู่ เอาแบบนี้ดีหรือไม่ เรียกฉินเจียกงมาพูดคุยปรึกษากันก่อน”
จ้าวซื่อพยักหน้าเห็นด้วย เดิมทีนางก็ไม่มีความกล้าพอตัดสินใจเื่ใดอยู่แล้ว เมื่อเกิดปัญหานี้ก็คิดอยากจะไปตามสามีให้มาตัดสินใจแทนอยู่พอดี จากนั้นจึงคิดพร้อมกับเดินออกจากบ้านสกุลกู้ไป
กู้ซิ่วไฉเหลือบตามองบุตรชายผาดหนึ่ง ก่อนจะเดินออกจากห้องทิศตะวันตกไปยังห้องโถงเพื่อรอหยวนเหล่าเอ้อร์พร้อมกับภรรยา
เวลาเดียวกันนี้เองหยวนเหล่าเอ้อร์กำลังทะเลาะกับผู้เฒ่าหยวนและหยวนเหล่าต้า จนในที่สุดทั้งสองคนต้องยอมให้เงินมาสองร้อยตำลึงเพื่อเป็ค่าเชิญแม่สื่อ หยวนเหล่าเอ้อร์ถือเงินเดินออกจากบ้านใหญ่ด้วยรอยยิ้มปรีดา ก่อนที่สายตาจะเห็นจ้าวซื่อเดินมาทางนี้ด้วยสีหน้าร้อนอกร้อนใจ
“เป็อันใดของเ้า เกิดเื่ที่สกุลกู้อย่างนั้นหรือ”
จ้าวซื่อทำท่าขบคิดอยู่ชั่วครู่ เื่ที่กู้อวี้ไม่้าเ้าหกนับว่าเป็เื่ใหญ่มิใช่น้อย จึงเอ่ยตอบออกไปวา “เกิดเื่ใหญ่แล้ว”
ครั้นได้ยินว่าเกิดเื่ใหญ่ หยวนเหล่าเอ้อร์รีบวิ่งไปที่บ้านสกุลกู้ในพลันนั้น
ฝั่งผู้เฒ่าหยวนและหยวนเหล่าต้า รวมถึงคนอื่นๆ ต่างหันมองหน้ากัน ในใจรู้สึกคันยุบยิบด้วยความอยากรู้
“หรือว่าสองสามีภรรยากู้ตายแล้ว?” เจียงซื่อเอ่ยการคาดเดาของตนเองออกมา
“ไปดูดีหรือไม่” หวางซื่อหันไปมองหน้าผู้เฒ่าหยวน
ครั้งก่อนที่ไปที่นั่น ผู้เฒ่าหยวนต้องเสียหน้ากลับมา ครั้งนี้ยังจะให้เขาไปอีกหรือ ไม่มีทาง
หยวนเหล่าต้าส่ายหน้าปฏิเสธเช่นกัน เพียงแค่นึกถึงสายตาเย้ยหยันของคนในหมู่บ้านก็รู้สึกหนาวสะท้านไปทั้งตัวแล้ว ต่อให้ตีให้ตายเขาไม่มีทางไปที่นั่นอีกเป็อันขาด
“ท่านแม่ เมื่อวานนี้ลูกกับท่านพ่อถูกกู้ซิ่วไฉไล่ออกจากบ้านต่อหน้าคนมากมาย อีกทั้งเขายังพูดทิ้งท้ายอีกว่า ห้ามลูกกับท่านพ่อไปเหยียบที่นั่นอีก”
“เพราะเหตุใด พวกเราเป็ผู้ใหญ่ของเ้าหก หากจะไปเยี่ยมเ้าหกที่นั่นถือเป็เื่สมควร เขามีสิทธิ์อะไรมาห้ามไม่ให้ไป ข้าจะไปดูประเดี๋ยวนี้ สะใภ้ พวกเราไปดูกัน!”
“ดีเ้าค่ะ” เจียงซื่อเดินตามแม่สามีไปบ้านสกุลกู้ด้วยสีหน้ากระตือรือร้น สกุลกู้เกิดเื่ หากเื่ที่ว่าคือสองสามีภรรยากู้เสียชีวิต เช่นนั้นกู้อวี้ในเวลานี้คงได้แต่ต้องนอนอยู่บนเตียง เช่นนั้นเื่งานศพก็ต้องเป็สกุลหยวนที่จะเข้าไปช่วยจัดการ ทีนี้เื่จัดการสมบัติก็จะง่ายขึ้น เพียงแค่คิดถึงสมบัติเ่าั้ นางก็แทบอดใจไม่ไหวอยากจะได้มาเสียเดี๋ยวนี้
“ท่านแม่ ครั้งนี้ท่านต้องข่มเ้ารองเอาไว้ให้ได้นะเ้าคะ พวกเราต้องเอาเื่งานศพของสกุลกู้มาจัดการเองให้จงได้” เจียงซื่อเอ่ยขณะเดินตามแม่สามีไปยังบ้านสกุลกู้
“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว” หวางซื่อเชิดหน้าขึ้นด้วยสีหน้าถือดี หากนางไม่ได้อะไรมาจากสกุลกู้สักอย่างสองอย่างก็อย่าเรียกนางว่าแซ่หวางอีกเลย!
เ้าใหญ่มองตามท่านย่าและท่านแม่ที่กำลังเดินออกจากบ้านผ่านหน้าต่างโดยที่ไม่คิดจะห้ามเลยแม้แต่น้อย ด้วยเพราะนางเองก็้าให้ทำอย่างนั้นเช่นกัน หญิงสาวอยากให้มีใครสักคนไปดูที่บ้านสกุลกู้ว่าเกิดเื่อันใดขึ้น ทั้งในใจก็หวังเป็อย่างยิ่งว่าชาตินี้กู้อวี้จะเสียชีวิตั้แ่ยังหนุ่มเหมือนชาติที่แล้ว เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในชาตินี้ไม่ควรเปลี่ยนแปลงไปจากคราก่อน แม้นางจะได้กลับชาติมาเกิดใหม่ซึ่งอาจเป็สาเหตุทำให้การตายของกู้อวี้เกิดการเปลี่ยนแปลงก็ตาม
อย่างไรเสียจะตายเร็วหรือช้าก็คือตายอยู่ดี ขอแค่กู้อวี้ตายไปเื่ทุกอย่างหลังจากนี้ก็จะยังคงเหมือนกับชาติก่อนที่สมบัติของสกุลกู้จะตกเป็ของสกุลหยวน
ภายในหมู่บ้านไม่มีความลับ กอปรกับเสียงของจ้าวซื่อดังมิใช่น้อย เพื่อนบ้านที่อยู่ละแวกนั้นต่างพากันมามุงดูอยู่หน้าบ้านสกุลกู้ ยิ่งเห็นหวางซื่อและเจียงซื่อกำลังเดินไปด้วยท่าทีเร่งร้อน ทุกคนต่างคาดเดากันไปต่างๆ นานา ก่อนจะเดินตามไปดูที่บ้านหลังนั้นเช่นกัน
หยวนเหล่าเอ้อร์คิดว่าสองสามีภรรยาสกุลกู้ตายแล้วเช่นเดียวกับที่บ้านใหญ่คิด แต่เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดเช่นเมื่อครั้งก่อน ระหว่างทางจึงเอ่ยถามถึงเื่ที่เกิดขึ้นกับจ้าวซื่อ
หลังจากได้ฟังเื่ราวทั้งหมด หยวนเหล่าเอ้อร์ขบคิดอย่างหนัก หากกู้อวี้ยังไม่ตาย ให้เ้าหกอยู่กับเขาก็มีแต่จะเสียเวลา ทว่าอีกใจก็ยังตัดใจจากสมบัติของสกุลกู้ไม่ลง หากได้สมบัติของสกุลกู้มา เขาจะนับเป็เศรษฐีของหมู่บ้านแห่งนี้เลยก็ว่าได้
ช่างเป็เื่ที่ตัดสินใจได้ยากโดยแท้
“ข้าขอถามเ้า ระหว่างบุรุษคนหนึ่งพิการแต่มีฐานะร่ำรวยมาก กับบุรุษอีกคนที่แขนขาปกติสมบูรณ์ดีแต่มีฐานะธรรมดา หากให้เลือกแต่งงานกับใครคนหนึ่ง เ้าจะเลือกผู้ใด”
“ข้าจะแต่งกับท่าน” จ้าวซื่อตอบโดยไม่เสียเวลาคิดแม้แต่น้อย
“ในตัวเลือกไม่มีข้า มีแค่สองคนนี้ให้เลือกเท่านั้น เ้าจะเลือกใคร”
“ในเมื่อท่านยังไม่ตายแล้วข้าจะไปเลือกใครได้” จ้าวซื่อเอ่ยถามด้วยสีหน้างุนงง
หยวนเหล่าเอ้อร์คิดในใจ ข้าอยากจะกระอักเืตายเสียให้รู้แล้วรู้รอด
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้