“มึงงงง กูว่าเริ่มไม่ใช่ละอีหยก”
“จริงค่ะแม่ กลิ่นแปลกมาก ปกติมันอยู่ใกล้เขาเกินระยะห้าเมตรที่ไหน เหม็นขี้หน้าประหนึ่งเกลียดกันมาแต่ชาติปางก่อน นี่อะไร วิ่งไปช่วยเขาทำครัว พิรุธมากกกก”
“แถมพี่คนนั้นก็ไม่ถอยหนี อีเหี้ย โอบเอวแล้วค่ะกะเทย กำลังจะมีเหตุการณ์เสียวเกิดขึ้น!”
พิมพ์ชนกและหยกฟ้าบีบมือกันอยู่ใต้โต๊ะทานข้าวขณะนั่งรอมื้อเย็น
ใครจะรู้ นัดทำเค้กเซอร์ไพรส์วันเกิดนังจอยลีจะกลายเป็ถูกยัยระฟ้าตัวดีเซอร์ไพรส์เสียได้ เซอร์ไพรส์แรกคือสามีของระฟ้าความจำเสื่อม เซอร์ไพรส์ยิ่งกว่านั้นคือความสัมพันธ์ของทั้งสองแปรเปลี่ยนจากหน้ามือเป็หลังเท้า
“เหมือนผัวเมียกันจริงๆ กลิ่นแรงมากอีหยก จบเื่กูต้องโทรอัพเดตอีจอยด่วน”
“ตัวแม่แห่งเอกประชาสัมพันธ์เดินเกมแล้ว เ้าชายแห่งวงการจอเงินไม่รอดแน่งานนี้”
“ยัยฟ้ามันไม่ได้ร่านเหมือนมึงค่า” สรรพนามยัยฟ้าถูกยกมาใช้ตามใครบางคน
สองเพื่อนซี้คุยกันก็เหมือนทะเลาะกันไปจวบจนมื้อเย็นถูกจัดลงจาน
ระฟ้าแอบถลึงตาเล็กน้อยใส่รอยยิ้มกรุ้มกริ่มนั่น ไม่ชอบเลย แค่เพียงมองหน้า ไม่ต้องอ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้วว่าพิมพ์ชนกและหยกฟ้ากำลังคิดสิ่งใดอยู่ สุดสัปดาห์อันแสนสงบสุขถูกปกคลุมด้วยความวุ่นวาย แถมเหมือนเื่จะยังวุ่นวายไม่พอ พระเ้าเล่นส่งชวิศมาเสริมทัพอีก ระฟ้าอยากลาออกจากการเป็ระฟ้ามันเสียเดี๋ยวนี้
“อ้าว ฟ้าจำไม่ได้หรือว่าฟ้านัดพี่ให้มาช่วยดูร่างกฎหมายโปรเจคใหม่วันอาทิตย์น่ะ”
ระฟ้าตบหน้าผากตนเองดังแปะ ลืมสิ้นอย่างไม่น่าให้อภัย เหตุการณ์รถไฟชนกันไม่เคยเกิดขึ้นในชีวิตระฟ้ามาก่อนธรรมชาติของระฟ้า วาสุรีย์โรจน์คืุ์ละเอียดยิบ วางแผนเป็ขั้นตอน ความจำแม่นที่หนึ่ง ทว่าั้แ่สามีกลายเป็อัลฟ่าสมองเพี้ยน ระฟ้าก็มีเื่ให้ปวดหัวเต็มไปหมดจนกระทบตารางชีวิต
“ขอโทษจริงๆครับพี่วิศ ไหนๆมาแล้วอยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนนะ หยกกับพิมก็อยู่”
“จะมาไม่เห็นบอกหยกบ้างอะพี่วิศ” เ้าของชื่อโบกมือเรียกคนมาใหม่จากโต๊ะทานข้าว
“พี่ไม่รู้ว่าหยกมาหาฟ้านี่ครับ”
เนื่องจากสนิทกับระฟ้ามาั้แ่ยังเด็ก ชวิศก็เลยพลอยสนิทกับเพื่อนของระฟ้าไปด้วย การทานมื้อเย็นในวันนี้จึงปราศจากความกระอักกระอ่วนเพราะทุกคนล้วนรู้จักกันอยู่แล้ว อ้อไม่สิ…
ระฟ้าขอถอนคำพูดที่ว่าไม่กระอักกระอ่วนดีกว่า
“เป็อะไรเนี่ยคุณ”
เ้าของบ้างหันไปกระซิบถามใครบางคนที่กำลังจ้องหน้าใหม่เขม็ง ตอนแรกที่มีแค่พิมพ์ชนกกับหยกฟ้าก็ยังดีๆอยู่หรอก แต่พอชวิศมาเพิ่มปุ๊บ ใบหน้าอันยิ้มแย้มของเ้าชายแห่งวงการจอเงินก็เริ่มบูดบึ้งปั๊บ
“เธอก็รู้ว่าพี่ไม่ชอบมัน พวกอัลฟ่าไม่เคยน่าไว้ใจ”
พ่ออัลฟ่าเืบริสุทธิ์กระซิบตอบภรรยา เพราะเห็นแก่หน้าภรรยาเอามากๆจึงไม่อยากพูดเสียงดัง หากเป็ศิธาสมัยอยู่โลกก่อนนะ เขาจะตอกหน้ากลางโต๊ะอาหารไปเลยว่าเหม็นหน้าไอ้พวกอัลฟ่าชนบทว่ะ แต่สัญญาก็คือสัญญา ศิธารักษาสัญญาที่มีต่อเมียยิ่งชีพ เมียไม่ให้ทำตัวเกเรใส่แขกเขาจะไม่ทำ แม้ในใจจะอยากฟาดงวงฟาดงามากกว่านี้ก็ตาม แหม ดูหน้ามันสิ มองระฟ้าตาเป็มัน คิดว่าคนเขาดูไม่ออกหรือไงว่ามันจ้องจะงาบยัยระฟ้าน่ะ
ตลอดการทานมื้อเย็นเลยเต็มไปด้วยความหวาดระแวง ระฟ้ากลัวสามีจะลุกขึ้นมาทำอะไรเพี้ยนๆ เวลาอีกฝ่ายหันไปคุยกับพิมพ์ชนกและหยกฟ้าก็ยิ้มแย้มดีอยู่หรอก แต่พอเป็ชวิศที่ยิงคำถามเพื่อให้บทสนทนาไหลลื่น น้ำเสียงทุ้มนุ่มก็เข้าสู่โหมดสั้นห้วนมะนาวไม่มีน้ำ ระฟ้าต้องเลื่อนมือไปลูบที่ต้นขาสามีเบาๆแทนสัญลักษณ์ว่าเย็นไว้ไอ้หนุ่ม และดูเหมือนหยกฟ้าและพิมพ์ชนกจะตาไว เหยี่ยวสาวเผลอไปเห็นจังหวะดังกล่าวเข้าพอดี
‘แหม หรือผัวปลอมจะกลายเป็ผัวจริงน้า~’
โดนแซวไปตามระเบียบแบบไม่ต้องสงสัย นั่นไง! ป้องปากกระซิบคุยกันพลางหันมาอมยิ้มกรุ่มกริ่มอีกแล้ว คนถูกแซวรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วหน้าจนต้องถลึงตาให้เพื่อนตัวแสบหยุดเดี๋ยวนี้นะ พระเ้าช่วย ระฟ้าได้แต่ภาวนาให้่เวลาอันแสนวุ่นวายผ่านพ้นไปเร็วพลัน กระทั่งเข็มสั้นของนาฬิกาชี้เลขเจ็ด ่เวลาที่รอคอยก็มาถึง
“พี่ศิธาทำอาหารอร่อยมากเลยค่า ไว้วันหลังหยกมากินอีกได้มั้ยน้า”
“ได้สิน้องหยก น้องพิมด้วยนะ ชวนน้องจอยลีมาก็ดี จะได้ครบกลุ่ม”
“งุ้ยยยย พี่ศิธาจำชื่อพวกเราได้ด้วยอะ” พิมพ์ชนกตีแขนเพื่อนชายข้างกายเบาๆพร้อมบิดไปบิดมา
ฝั่งชวิศก็กล่าวขอบคุณมื้ออาหารตามมารยาท ไม่ลืมระบายยิ้มให้เ้าของบ้านอย่างระฟ้า
“เจอกันพรุ่งนี้นะฟ้า อย่าหักโหมมากเข้าใจไหม”
ร่างสูงโบกมือบ้ายบายก่อนจะเดินตามหยกฟ้าและพิมพ์ชนกออกไปทางบริเวณรั้วหน้าบ้าน ระฟ้ามองตามแผ่นหลังของเพื่อนๆด้วยลมหายใจโล่งอกเฮือกยาว เื่วุ่นวายประจำสุดสัปดาห์ผ่านพ้นไปได้เสียที
“ทำอะไรคุณ”
จังหวะเดียวกันก็หันมาเห็นสามีของตนเองกำลังยืนหรี่ตาจ้องเขม็งใส่แผ่นหลังใครบางคนแบบไม่ยอมกระพริบ ถ้าให้เทียบมันคงคล้ายๆกับภาพน้องหมาตำรวจตัวโตกำลังยืนขู่แง่งๆเวลาเจอวัตถุผิดกฎหมายกระมัง
“กำลังข่มมัน”
“หมายถึง?”
“ไอ้ชวิศ พี่กำลังปล่อยฟีโรโมนข่มมัน ถึงเธอจะบอกว่ามันเป็อัลฟ่าระบบรับกลิ่นพัง แต่วันนี้พี่ว่ามันััฟีโรโมนพี่ได้ ดูจากท่าทางหายกล้าชาญชัย มันต้องไปรักษามาแล้วแน่ๆ เธอต้องอยู่ห่างมันเข้าไว้นะยัยฟ้า พี่บอกแล้วไงพวกอัลฟ่าไม่น่าไว้ใจ อัลฟ่ามันก็เหมือนกันหมดทั้งโลก!”
ระฟ้าไม่พูดอะไรนอกจากเอามือกุมขมับแล้วเดินถอนหายใจอีกเฮือกเข้าบ้าน
ไม่แสดงอาการเพี้ยนกลางโต๊ะอาหารก็ดีแค่ไหนแล้ว เอาเป็ว่าขอบคุณพระเ้า
ทางศิธา ครั้นแน่ใจแล้วว่าอัลฟ่าผู้รุกรานบึ่งรถออกจากบริเวณเขตหวงห้ามเสร็จสรรพ ก็หมุนตัวเดินเข้าบ้านไปหาเมียบ้าง ไม่ลืมล็อคกลอนประตูให้มิดชิด นี่เขาว่าจะจ้างช่างมาติดตั้งประตูเพิ่มอีกสักชั้นสองชั้น เอาเกรดเดียวกับเซฟเฮ้าส์ไปเลย พวกอัลฟ่าที่มาตามเกาะแกะยัยระฟ้าจะได้ถูกคุมกำเนิด
ขายาวก้าวเหยียบบันไดตรงไปยังชั้นสองของบ้าน หยุดยืนหน้าบ้านประตูที่มีแผ่นกระดาษแปะเด่นหลา ‘เขตปลอดอัลฟ่า’ ศิธารวบรวมความกล้าวางมือลงบนคันโยกประตู โอ้!? ไม่ได้ล็อค หมายความว่าภรรยาสุดที่รักเป็คนรักษาสัญญา ให้ตาย น่ารักขนาดนี้จะไม่ให้หลงรักได้ยังไงวะยัยโอเมฟ้านางฟ้าแม่ทูนหัว
“อะแฮ่ม”
แต่ต่อให้จะกำลังดีใจเนื้อเต้นเพียงไร ศิธาก็ต้องเก็บอาการและวางฟอร์มให้ดูหล่อเท่มากที่สุด สาเหตุก็เพราะหลังมื้อเย็นวันนี้เขามีเื่สำคัญที่จะต้องมาคุยกับภรรยาคนสวยให้รู้เื่
“ห้ามขึ้นเตียงนะครับ ไปอาบน้ำก่อน”
ส่วนยัยตัวดีเหมือนจะััไม่ได้ถึงความจริงจังปริศนา ร่างบางนั่งอยู่บนโซฟาปลายเตียง ที่ตักมีโน้ตบุคตัวเก่งวางเอาไว้ ท่านประธานกรรมการกลับมาทำงานอีกแล้ว เป็ภาพอันแสนติดตาเมื่อคุณนึกถึงระฟ้า วาสุรีย์โรจน์ คุณก็จะต้องนึกถึงภาพคุณเธอกำลังพิมพ์คอมต๊อกแต๊กบ้าง รับโทรศัพท์บ้าง จดอะไรยิกยิกบ้าง
“พี่มีเื่จะคุยกับเธอให้รู้เื่ยัยฟ้า”
“เื่เขตปลอดอัลฟ่าน่ะเหรอครับ ปลดให้แล้วนี่”
ปากพูด ตามองจอ มือระรัวแป้นพิมพ์ เธอนี่มันยอดมนุษย์จริงๆยัยคนสวย
“อ๊ะ!”
แต่ศิธาไม่ชอบบทสนทนาที่ผู้ฟังไม่มองตา มือหนาเดินมาหยุดยืนตรงหน้าภรรยา ถือวิสาสะพับจอคอมบนตักระฟ้าลงทั้งอย่างนั้น ระฟ้าสะดุ้งโหยงพร้อมกับเปลี่ยนมาทำท่าเท้าสะเอวเตรียมบ่นตามประสาคนสวย ขณะเดียวกันก็เงยมองสามีให้สายตาเราสบประสานกัน
“มีอะไรครับ”
“พี่เคยพูดเื่นี้ไปแล้วแต่พี่จะพูดอีกรอบ”
“พูดอีกรอบ?”
ร่างสูงหยุดพัก เว้นจังหวะสูดลมหายใจ ครู่หนึ่งถึงเอ่ยประโยคสำคัญ
“พี่มาจากต่างโลก”
ระฟ้าขมวดคิ้วจนยุ่ง ประโยค มาจากต่างโลก ศิธาเคยพูดกับเขาจริงๆสมัยเพิ่งฟื้นจากอุบัติเหตุ แล้วก็คำว่าต่างโลกนี่คุ้นมาก อ้อ อยู่ในนิยายแนวอิเซไกเกิดใหม่กระมัง เห็นว่าสมัยนี้ชาวเน็ตกำลังฮิตอ่านกัน อีตาสามีของระฟ้าคงเผลอเอาบทนิยายมาปนกับชีวิตจริงอีกแล้วเป็แน่ แต่เราจะไปคัดค้านคนป่วยมากไม่ได้ระฟ้า เล่นไปตามน้ำก่อน
“อ่า ครับ แล้วคุณจะกลับโลกเดิมเหรอ?”
“มันกลับได้เล่าที่ไหนยัยบ๊อง” นิ้วยาวดีดเบาๆลงบนหน้าผากภรรยาแบบไม่แรงเท่าไหร่ “พี่แค่จะบอกเธอว่าพี่ไม่ได้ความจำเสื่อม ิญญาพี่ย้ายเข้ามาอยู่ร่างศิธา หมอนั่นน่าจะตายไปแล้วมั้ง ซึ่งช่างเถอะ ยังไงเธอก็ไม่ได้ชอบมันอยู่แล้วนี่ ที่พี่จะบอกก็คือ พี่ชอบเธอว่ะ เธอแม่งสเปคพี่เลยยัยฟ้า”
“ห หา? ครับ?” ระฟ้าชะงักแรงมาก เกิดมาเพิ่งจะเคยโดนบอกชอบโต้งๆขนาดนี้
“เอาเป็ว่าถ้าไม่ได้ชอบไอ้ศิธาคนก่อนก็ลืมๆมันไปซะเถอะ แล้วมาเริ่มใหม่กับพี่” พูดไม่พอยังคุกเข่าดึงมือระฟ้ามากุม “พี่จริงจังนะโว้ย แต่ถ้าเธอยังไม่สนิทใจก็ไม่เป็ไร พี่เข้าใจ ของอย่างนี้ต้องใช้เวลา เดี๋ยวพี่จะค่อยๆจีบเธอเอง เธอไม่ต้องทำอะไรเลย นั่งสวยๆให้พี่จีบ ตกลงตามนี้นะ”
สิ้นประโยคพ่อเ้าชายแห่งวงการจอเงินก็ยิ้มแก้มปริประหนึ่งว่าได้ยกูเาทั้งลูกออกจากอกแล้ว มือหนาเปลี่ยนมาลูบหัวภรรยาป้อยๆพร้อมกับบอกว่า เดี๋ยวพี่ไปอาบน้ำก่อน แล้วคืนนี้จะมานอนด้วย
“ห้ามล็อคประตู สัญญา พี่ไม่ทำลูกหรอก แค่นอนกอดเฉยๆจ้ะ”
ว่าจบก็โบกมือบ้ายๆแล้วเดินผ่านประตูออกไปห้องตัวเอง ทิ้งให้คนถูกสารภาพรักนั่งอ้าปากค้าง ไม่รู้ตัวเลยว่าูเาลูกใหญ่ที่ตนเองยกออกน่ะมันย้ายมาอยู่ในอกระฟ้าแทนน่ะซี และกว่าจะได้สติก็กินเวลาไปสองนาทีถ้วน ระฟ้ารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเลื่อนหาเบอร์ส่วนตัวของคุณหมอเ้าของไข้
“ทำไงดีครับคุณหมอ แย่แล้วครับ อาการเขาหนักมากแล้ว”
/
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นมาจากบทละคร
คุณหมอแจ้งว่าอาการของศิธา วาสุรีย์โรจน์อธิบายด้วยหลักการแพทย์ 100% ไม่ได้ อันที่จริงการแพทย์ก็ไม่มีอะไรเต็มร้อย โดยเฉพาะการแพทย์ยุคหลังหัดผีเสื้อระบาด โรคทางสมองเกิดใหม่แบบแตกแขนง จนถึงขนาดบางโรค กรมสาธารณสุขก็ยังอธิบายไม่ลงตัวในเื่ชื่อและอาการ คุณหมอทำได้เพียงวินิจฉัยเบื้องต้น ถ้าอาหารหนักอย่างเช่นพูดจาเพ้อเจ้อ ตาลอย สติฟั่นเฟือนให้รีบพามาโรงพยาบาลโดยด่วน แต่ระฟ้าสังเกตดูแล้วว่าสามีของตนก็ไม่ได้เป็หนักถึงขั้นนั้น จะว่าไงดี.. เขาเหมือนคนสติสัมปชัญญะปกติที่พูดเป็ตุเป็ตะเฉยๆ
“ไหวหรือเปล่าคะคุณระ”
การต้องรับมือกับสามีสุดเพี้ยนทำท่านประธานกรรมการแห่งวาสุกรุปสภาพไม่ค่อยดีนัก เลขาสาวปุ๊กกี้เอ่ยทักเ้านายเป็อย่างแรกเมื่อเห็นใบหน้าอิดโรยมาแต่ไกล
“ขอกาแฟให้ผมสักแก้วนะครับคุณปุ๊ก เอาเข้มๆ”
“ไม่ใช่ว่าคุณระดื่มมาจากที่บ้านแล้วหรือคะ”
“นั่นพอที่ไหนล่ะครับ”
ระฟ้าปัดมือใส่เลขาสาวให้ไปเตรียมกาแฟอย่าได้เซ้าซี้ ส่วนเขาก็เดิมกุมขมับเข้าห้องทำงาน เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ปาไปตีสาม ระฟ้าปรึกษาคุณหมอเ้าของไข้สามีถึงราวๆเที่ยงคืน เสร็จแล้วต่อด้วยการนั่งตรวจงานยิงยาวเพราะวันรุ่งขึ้นมีประชุมนัดสำคัญ นิสัยคลั่งไคล้ความสมบูรณ์แบบทำให้ร่างกายผู้บริหารหนุ่มเริ่มรับภาระไม่ไหว
ระฟ้าตื่นขึ้นมาอาเจียนตอนรุ่งสาง หากถึงกระนั้นก็ยังแบกสังขารมาทำงานแม้จะถูกสามีและคนที่บ้านทัดทานเพียงไร จะว่าไปั้แ่ทำงานที่วาสุกรุปมาระฟ้าก็ยังไม่เคยลาป่วยหรือใช้วันพักร้อนเลยสักวัน แหงล่ะ
ผู้บริหารจะลาไปทำไม คุณหญิงเยาวมาลย์สอนระฟ้าเสมอ
“คุณระหน้าซีดมากเลยนะคะ จะรับกาแฟจริงๆเหรอคะ”
“เร็วเข้าเถอะครับ เดี๋ยวประชุมไม่ทัน”
เลขาปุ๊กกี้แสดงสีหน้าเป็กังวล แต่สุดท้ายก็ต้องยอมตามใจเ้านาย ระฟ้าแม้จะใจดีกับลูกน้อง แต่ไม่เคยดีใจกับตนเอง มีหลายครั้งที่ระฟ้าเอ่ยปากให้ลูกน้องกลับบ้านตามเวลาเลิกงานได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ ส่วนทางระฟ้าก็อยู่เคลียร์งานจนดึกดื่น เป็เลขาปุ๊กกี้นั่นแหละที่นึกสงสารเ้านาย ไม่รู้จะหักโหมไปทำไมตั้งขนาดนั้น หญิงสาวก็เลยนั่งทำงานเป็เพื่อน ไม่ใช่เพราะเกรงใจ แต่กลัวคุณระจะเป็ลมเป็แล้งขึ้นมาน่ะสิ
“สรุปตาศิไม่มาจริงๆรึ”
“ครับ เขามีถ่ายละครคิวสำคัญ”
ร่างบางเอ่ยตอบ ‘ศรุต’ ลูกชายคนรองของคุณหญิงเยาวมาลย์ ชายผู้มีศักดิ์เป็อาแท้ๆของศิธา วาสุรีย์โรจน์ ศรุตแค่นยิ้มราวไม่เคยพอใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ข้างกายศรุตคือ ‘สิปปางค์’ น้องสาวแท้ๆของเขา สายตาคมเฉี่ยวของสิปปางค์ปลายมองทายาทนอกสายเืที่กำลังทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ผู้บริหาร
ศรุต และ สิปปางค์ปราศจากยินดีทุกเมื่อเชื่อวันหลังมารดาของตนเลือกยกหุ้นจำนวนมากให้หลานชายคนโตและเด็กรับใช้ไม่มีหัวนอนปลายท้า แทนที่จะเป็ลูกในไส้อย่างพวกเขา ขนาดบ้านวาสุรีโรจน์เหลือทายาทเพียงชอบธรรมแค่สองคนคือศรุต และ สิปปางค์ คุณหญิงเยาวมาลย์ก็ยังไม่เลือกยกให้
อนึ่ง คุณหญิงเยาวมาลย์มีทายาทอยู่ทั้งหมด 4 คน คนแรกคือ ‘ศิระ วาสุรีย์โรจน์’ พ่อของศิธาที่เสียไปเมื่อนานมาแล้ว ถัดมาคือศรุต และสิปปางค์ที่เพิ่งกล่าวไป ส่วนคนสุดท้ายคือ ‘ศิวัช’ ลูกคนสุดท้องที่ขอแยกออกไปทำธุรกิจส่วนตัว ไม่รับมรดกใดๆทั้งสิ้น ทำให้โอกาสมีโอกาสสูงที่หุ้นทั้งหมดจะตกเป็ของศรุตและสิปปางค์ หากถึงกระนั้นคุณหญิงเยาวมาลย์ก็ยังไม่เลือกยกให้อยู่ดี สร้างความโกรธแค้นคับข้องใจแก่ทั้งสองเป็ยิ่งยวด ระฟ้ามองตาคุณอาทีไรล้วนรับรู้ได้ถึงเปลวเพลิงแห่งความอิจฉาริษยา
ทางนี้ก็ไม่ได้ขอให้คุณหญิงย่ายกให้เหมือนกันนั่นแหละน่า...
“จริงๆรองประธานควรมานะ แต่ถ้าแบ่งลำดับความสำคัญของหน้าที่ไม่ได้อาก็ไม่รู้จะว่าไง” เสียงทุ้มของชายวัยกลางคนกล่าวตำหนิกลางที่ประชุม “เอาเถอะ เริ่มเลยก็ได้ ถ้าท่านประธานเห็นชอบเช่นนั้น”
ระฟ้าพยายามข่มกลั้นความไม่สบอารมณ์ที่ก่อตัวขึ้นในอก เวลาประชุมใหญ่อาศรุตและอาสิปปางค์มักหาทางหักหน้าระฟ้าเสมอ ส่วนระฟ้าก็จะแก้ไขปัญหาด้วยความอดทนเสมอ ท่องเอาไว้ เดี๋ยวทุกอย่างก็จะจบลง อีกไม่นานระยะเวลาสามปีก็จะมาถึงแล้ว ร่างบางสูดลมหายใจเรียกสติก่อนเพยิดหน้าให้เริ่มการประชุมประจำปี
ประชุมวันนี้เป็การรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของบริษัท รวมถึงอีกหนึ่งหัวข้อสำคัญคือการเปิดตัวบัตรเครดิตรูปแบบใหม่ VSB card อันที่จริงวาสุแบงก์ก็มีบัตรเครดิตและบัตรเดบิตรประจำธนาคารอยู่แล้ว แต่ทุกๆปีทางบริษัทมักออกบัตรรูปแบบใหม่ขึ้นมาเพื่อเจาะกลุ่มตลาดแต่ละเป้าหมาย อย่างรอบนี้ก็เป็บัตรเครดิตสำหรับนักศึกษาจบใหม่ ข้อมูลตัวบัตรระฟ้าได้ทำการอ่านมาั้แ่เมื่อคืนแล้ว ทว่าเนื่องจากหลายทีมเสนอเข้ามาหลายรูปแบบ ทำให้มนุษย์ละเอียดยิบแบบระฟ้าต้องใช้เวลาเกือบทั้งคืนในการศึกษา
“ในส่วนของ VSB travel card ทางทีมได้ทำการออกแบบโดยใช้นักวาดชื่อดังอย่างอาจารย์ชไนเดอร์ค่ะ โดยที่...”
ขณะนั่งฟังระฟ้าก็รู้สึกได้ถึงความพะอืดพะอมที่ค่อยๆตีขึ้นจุกอก อาจเป็อาการคลื่นไส้เพราะไม่ได้ทานมื้อเช้า ทานเพียงกาแฟ ระฟ้าพยายามข่มกลั้นความรู้สึกไม่สบายร่างกายพร้อมจ่ายความสนใจไปยังพรีเซนเทชั่นเบื้องหน้า หากสุดท้ายก็ไม่อาจอดทนไหว ร่างบางรีบขอตัวลุกออกไปเข้าห้องน้ำ ทันทีที่ไปถึงก็รีบสำลอกเอากาแฟที่ดื่มไปเมื่อครู่จนหมดสิ้น ระฟ้ารู้ตัวแล้วว่าตนเองกำลังประสบกับสภาวะอาหารเป็พิษ ระฟ้าป่วยด้วยโรคนี้บ่อยครั้งเนื่องจากท้องไส้ไม่ค่อยดี ใจอยากลากลับไปนอนพักที่บ้านเพราะรู้สึกหนักอึ้งศีรษะ หากทำไม่ได้
ต้องไปประชุมให้เสร็จ ไหนจะต้องคอมเม้นท์โปรเจคของทางทีมพัฒนาอีก
“ฟ้า ไหวหรือเปล่า อาศรุตแกไม่ให้หยุดการประชุม แกให้ทีมพรีเซนท์พูดเื่บัตรต่อไปเลย”
ชวิศที่ยืนรอระฟ้าอยู่หน้าประตูห้องน้ำรีบเข้ามาประคองคนน้อง ระฟ้าพอจะรู้อยู่แล้วแหละว่าคุณอาต้องหาทางกีดกันระฟ้าออกจากวงโคจรของบริษัท เดี๋ยวคอยดูสิ เขาจะใช้เหตุผลที่ระฟ้าแวะออกไปเข้าห้องน้ำเป่าหูกรรมการในที่ประชุมว่าระฟ้าเด็กเกินไป และยังไม่พร้อมนั่งแท่นผู้บริหาร
“ผ ผมไหว พี่วิศช่วยเปิดประตูให้หน่อยครับ”
ชายหนุ่มเม้มปากด้วยความห่วงใยท่านประธาน หากก็ไม่วายรีบเปิดประตูออก ระฟ้าไม่ให้ชวิศประคอง เขาไม่้าให้ใครรู้ว่าตนเองกำลังป่วย ร่างบางสูดลมหายใจลึกสุดปอด เรียกสติตนเองกลับมาอีกครั้งก่อนจะเดินหลังตรงเชิดหน้ากลับเข้าไป ทว่าสิ่งที่ทำให้ระฟ้าประหลาดใจกลับเป็การปรากฎตัวของใครบางคน
“ผมเห็นด้วยนะที่เลือกใช้อาร์ตจากอาจารย์ชไนเดอร์ แต่ travel card ควรใช้ภาพที่สื่อถึงประเทศเราแล้วก็ประเทศเพื่อนบ้านหรือเปล่า อย่างน้อยก็ควรเป็ภาพที่ลูกค้ามองแล้วนึกถึงการท่องเที่ยว”
ระฟ้าพบกับร่างสูงของศิธาที่กำลังนั่งอยู่ฝั่งทางขวาเก้าอี้ผู้บริหาร ศิธา วาสุรีโรจน์ ในชุดสูทดำเป็ทางการ นั่งประสานมือจ้องเขม็งไปยังทีมพรีเซนท์บัตรตัวใหม่ด้วยน้ำเสียงสุขุม การประชุมหยุดลงครู่หนึ่งเมื่อทุกคนเห็นว่าท่านประธานกลับมาแล้ว ระฟ้ารีบเดินตรงไปนั่งยังเก้าอี้ประจำตำแหน่งพร้อมกับเพยิดหน้าให้สามีพูดต่อ
“ที่เขาพรีเซ้นท์เมื่อสักครู่ผมไม่ติดเื่ข้อมูลบัตรเช่นการแปลงวงเงินเรียลไทม์ การเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่นโดยไม่คิดค่าธรรมเนียมครับท่านประธาน แต่ผมอยากให้การวางอาร์ตของบัตรไม่เพียงเป็ตัวการ์ตูน อาจารย์ชไนเดอร์มีชื่อเสียงเื่วาดการ์ตูนสยองขวัญก็จริง แต่ผมก็อยากให้ภาพบนบัตรสื่อถึงการท่องเที่ยวตรงตามชื่อ Travel card ด้วย ท่านประธานเห็นควรว่าอย่างไรครับ”
ศิธาสรุปใจความสำคัญตอนที่ระฟ้าไม่อยู่ให้ฟังแบบรวบยอด ขณะเดียวกันก็เอ่ยถามถึงความเห็นที่มีต่อบัตรตัวใหม่นี้ด้วยรอยยิ้ม ระฟ้าอึ้งเล็กน้อยเพราะปกติศิธาแทบไม่มีความรู้เื่บริษัทเลย เช่นเดียวกับชวิศและคนอื่นๆที่ต่างอ้าปากค้าง เวลาเข้าประชุมใครๆต่างก็คุ้นชินกับภาพดาราหนุ่มนั่งเล่นโทรศัพท์ บ้างก็หยิบบทละครขึ้นมาอ่าน ศิธา วาสุรีย์โรจน์ ไม่เก่งกาจเื่ใดสักอย่างยกเว้นการแสดงละคร หากไม่ใช่กับศิธาคนปัจจุบันนี้ เขามีออร่าปริศนาคล้ายผู้บริหารที่แผ่ซ่านเสียจนระฟ้าััได้
“พี่อ่านในโน้ตบุคเธอเมื่อคืนหมดแล้ว ไม่ต้องห่วงหรอก”
เขาหันมาป้องปากกระซิบให้ระฟ้าได้ยินเพียงสองคน หลังระฟ้าหลับไป่ตีสาม ศิธาก็แอบตื่นขึ้นมา ใช้่เวลาหลังจากนั้นศึกษาข้อมูลที่ระฟ้าต้องใช้ประชุมตอนรุ่งเช้า โชดดีที่หนึ่ง วาสุกรุปในโลกนี้มีข้อมูลหลายอย่างคล้ายคลึงกับโลกก่อน โชคดีที่สองคือศิธาโลกก่อนนั่งแท่นผู้บริหารตำแหน่งเดียวกับภรรยา เขาเลยรู้จักวิธีวางตัว วิธีควบคุมผู้คนผ่านจิตวิทยา และโชคดีที่สาม ศิธาเป็อัจฉริจะ ไอคิว 200 ถึงระฟ้าจะมองศิธาเป็อัลฟ่าสมองเพี้ยน แต่เนื้อแท้นั้นศิธาสามารถจดจำข้อมูลที่ระฟ้าต้องใช้เวลาศึกษาหลายวันให้จำได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง
“อ อ่า... ผมไม่ติดครับ เห็นด้วยกับท่านรองประธานเช่นกัน”
“ถ้าอย่างนั้นก็มาต่อที่บัตรกดเงินสดเลยเนอะ หรือคุณอาทั้งสองมีอะไรจะคัดค้านไหมครับ”
เ้าของเสียงทุ้มหันไประบายยิ้มการค้าให้แก่ศรุตและสิปปางค์ คิดไปเองหรือเปล่าว่ารอยยิ้มนั้นแฝงเร้นไปด้วยการกดข่ม ศรุตและสิปปางค์ที่มักชูคอเตรียมพร้อมพูดจาแดกดันระฟ้า บัดนี้กำลังกัดฟันกรอดราวกับอยู่ต่อหน้าราชสีห์ที่ไม่อาจต่อกร ระฟ้าััได้เช่นนั้นจริงๆ นี่น่ะหรือบารมีของผู้บริหารที่คุณย่าเคยพูดเอาไว้
‘จำไว้นะตาฟ้า ถึงความเป็เ้าคนนายคนจะฝึกฝนกันได้ แต่มันก็จะมีมนุษย์บางกลุ่มบางพวกที่เกิดมาพร้อมความสามารถนั้นเช่นเดียวกัน ความสามารถที่สามารถควบคุมผู้คนได้โดยไม่ต้องฝึกปรือ หรือภาษาวัยรุ่นที่เขาเรียกว่า born to be ย่าเห็นสิ่งนั้นในตัวแกกับศิธา มันคือพร์ ใช่ ต้องเรียกว่าพร์’
ระฟ้าหันมองไปทางร่างสูงข้างกาย
ร่างสูงที่กำลังนั่งประสานมือใต้คางจดจ้องการนำเสนองานอย่างไม่วางตา ตอนแรกระฟ้าคิดว่าการประชุมครั้งนี้ตนเองต้องเป็ตัวละครหลัก คอยคัดค้าน สนับสนุน หรือให้คอนเม้นท์เกี่ยวกับโปรเจคต่างๆ เพราะถ้าระฟ้าไม่ทำ คุณอาทั้งสองก็จะใช้ช่องโหว่ดังกล่าวในการหาผลประโยชน์เข้าตัว แย่ที่สุดก็ใช้เล่นงานระฟ้า ระฟ้าต้องมีสติอยู่เสมอ กระทั่งวันนี้ จู่ๆก็มีความคิดบางอย่างแล่นเข้ามาในหัว ความที่คิดว่าใครบางคนจะสามารถจัดการแทนได้
“ในส่วนของดอกเบี้ยบัตรที่จะเก็บกับลูกค้าผมไม่ติด เพราะเรทเราก็ไม่ได้แตกต่างมากจากเ้าอื่น ที่ผมอยากรู้คือวิธีการพีอาร์มากกว่า คุณจะเชื่อมโยงบัตรนี้กับสินค้าอะไรดี สินค้าที่แมสและคนซื้อเยอะจนอยากมาผ่อนกับเรา”
ั้แ่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่ระฟ้าเริ่มคิดว่าเสียงทุ้มนุ่มของเขามีเสน่ห์แปลกๆ
การประชุมครั้งนี้ศิธาแย่งซีนของระฟ้าเสียหมดจด หากระฟ้าไม่นึกถือโทษโกรธเขาแม้แต่น้อย เป็ระฟ้าเสียอีกที่นั่งฟังการวิจารณ์ของสามีอย่างเพลิดเพลิน เพราะเหตุใดกัน.. เพราะระฟ้ากำลังป่วยเลยไม่มีแรงสู้รบปรบมือ? หรือเพราะสิ่งที่ศิธาพูดล้วนเต็มเปี่ยมด้วยเหตุผลและข้อมูล วิธีการใช้น้ำเสียงของเขา สายตามากด้วยอำนาจของเขา การมีอยู่ของเขาฉีกกฎออกจากการเป็นักแสดงโดยสิ้นเชิง ราวกับนักธุรกิจหนุ่มผู้โชกโชนประสบการณ์ ศิธา วาสุรีย์โรจน์คนนี้สามารถทำให้คนทั้งห้องฟังเขา จดจ้องมาที่เขา ไม่อาจละสายตาไปจากเขา
เคยบอกหรือเปล่านะว่าสเปคผู้ชายของระฟ้าไม่ใช่คนหล่อรวย อัธยาศัยดี หรืุ์สัมพันธ์เยี่ยมเลย
ไม่ใช่เลยสักนิด อัตลักษณ์ที่ทำให้ระฟ้าหลงใหลน่ะ
คือความฉลาด ฉลาดทั้งทางสมอง ฉลาดทั้งทางอารมณ์
และศิธาในการประชุมวันนี้ก็ดูฉลาดไม่น้อย ไม่สิ.. ดูฉลาดสุดๆไปเลยไม่ใช่หรือไง ยิ่งพูดยิ่งดูฉลาด ยิ่งแสดงความเห็นเื่งานยิ่งมีเสน่ห์ มือบางเลื่อนขึ้นจับแผ่นอกด้านซ้าย จู่ๆก้อนเนื้อด้านในก็เต้นโครมครามอย่างไม่ทราบสาเหตุ แย่แล้วระฟ้า นี่มันรหัสแดง!
tbc
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้