อิงฉีเลิกคิ้ว หัวเราะเบาๆ "ไม่เลว ได้คุณชายรูปงามขนาดนี้มาเป็คู่นอน ถือว่าเ้าไม่เสียเปรียบ"
ถังชิงหรูเช็ดคราบฝุ่นบนใบหน้า พลางเอ่ยวาจาอย่างเอ้อระเหย "ใครจะอยากได้เขามาเป็คู่นอน ชอบทำหน้าบูดเยี่ยงนั้น ข้าคงรับไม่ไหว จริงสิอิงฉี เมื่อเ้าเป็ถึงหัวหน้าเผ่า ก็ต้องรู้จักที่นี่เป็พิเศษแน่ ไม่ทราบว่าแถวนี้มีสถานที่เที่ยวน่าสนุกบ้างหรือไม่"
เฉินิฟังคำกล่าวก็เอื้อมมือมาดึงแขนของนางไว้ แต่ถังชิงหรูกลับสะบัดเขาออกอย่างรำคาญ แล้วคุยกับอิงฉีต่อ
"พวกเาาวเผ่าอิงกูใช้ชีวิตเลี้ยงสัตว์อยู่บนทุ่งกว้าง สถานที่ที่ไม่ไกลเกินไปนักก็คือเมืองชิ่ง แต่พวกเราชอบชีวิตอิสระเช่นนี้มากกว่า เ้าเห็นทุ่งหญ้าเขียวขจีตรงนั้นหรือไม่ มีทะเลสาบแห่งหนึ่งอยู่ไม่ไกลจากตรงนั้น ที่นั่นถูกขนานนามว่าทะเลสาบธิดาศักดิ์สิทธิ์"
"ตรงข้ามกับทะเลสาบมีเทือกเขาแห่งหนึ่ง พวกเราเรียกที่นั่นว่าเทือกเขาธิดาศักดิ์สิทธิ์ หากถามว่ามีที่ไหนน่าเที่ยวบ้าง ก็คงเป็เทือกเขาธิดาศักดิ์สิทธิ์นี่แหละ ที่นั่นมีสัตว์ใหญ่น้อยมากมาย แล้วก็มีผลไม้วิเศษเยอะมาก แต่พวกเาาวเผ่าอิงกูเห็นเทือกเขาและทะเลสาบธิดาศักดิ์สิทธิ์เป็ของกำนัลจากเหล่าทวยเทพ ปรกติแล้วก็จะไม่แตะต้องของจากที่นั่น ดังนั้นต่อให้เป็ว่าที่หัวหน้าเผ่าเช่นข้า ก็ทำได้แค่พาพวกเ้าไปชม แต่ไม่อาจให้พวกเ้าแตะต้องสิ่งของบนนั้นได้"
"ฟังดูแล้วน่าสนใจ ข้าสัญญาจะไม่แตะต้องของวิเศษเ่าั้เป็อันขาด พาพวกเราไปดูเถอะนะ"
"นี่ เ้าช่างขวัญกล้าเหลือเกิน ตอนมาถึงตกลงกันไว้ดิบดีว่าจะแค่เข้าร่วมงานเลี้ยง ตอนนี้ก็เริ่มอยากเที่ยวูเาชมทะเลเสียแล้ว" เฉินิเห็นนางทำหมางเมิน ก็เริ่มไม่พอใจเล็กน้อย
"หากท่านไม่อยากไป ก็เฝ้าอยู่ที่บ้านสกุลหลิน ส่วนข้าจะรีบไปรีบกลับ" ถังชิงหรูกล่าว
"ไม่ได้ เ้าไปที่ไหน ข้าก็จะไปที่นั่น" เฉินินิ่วหน้า "ด้วยวรยุทธ์แมวสามขาอย่างเ้า หากไปเจอสัตว์ร้าย มีแต่จะเดือดร้อนผู้อื่นเปล่าๆ"
"หากข้าจำไม่ผิด ตอนนั้นใครบางคนถูกข้าจัดการเสียจนอนาถนัก ขอถามหน่อยคนที่สู้ข้ายังไม่ได้ ไหนเลยจะมีปัญญาคุ้มครองข้า" ถังชิงหรูถากถางด้วยหางตา
"เ้า..." เฉินิรู้สึกขัดใจยิ่ง สาบานกับตัวเองเงียบๆ รอกลับไปครานี้ เขาจะเชิญยอดฝีมือในยุทธภพมาให้คำชี้แนะสักหน่อย เขาไม่เชื่อว่าตนเองจะจัดการสตรีคนนี้ไม่ได้
อิงฉีเห็นทั้งสองทำาน้ำลายกันก็นึกขันในใจ นางจูงมือถังชิงหรู ชี้ไปด้านหน้ากล่าวว่า "ที่นั่นอยู่ไกลจากตรงนี้มาก พวกเราต้องขี่ม้าไป เ้าจะนั่งอาชาตัวเดียวกับเขา หรือกับข้าล่ะ"
"แล้วบุรุษที่มากับเ้าเมื่อครู่นี้เล่า? จะออกไปเที่ยวทั้งที ก็พาคู่หมั้นของเ้าไปด้วยกันสิ ส่วนข้า ข้าจะหัดขี่ม้าก่อน หลังจากนั้นค่อยขี่ไปเอง" ถังชิงหรูลูบหัวอาชาเอ่ยด้วยความมั่นใจเต็มสิบส่วน "ให้เวลาข้าสักหนึ่งถ้วยชา ข้าจะต้องเรียนรู้ได้แน่"
อิงกูรู้สึกตระหนก "ขี่ม้าไม่ได้เรียนรู้ง่ายดายขนาดนั้น ตอนข้าเริ่มหัดใหม่ๆ ยังตกม้าจนหน้าบวมจมูกเขียวต้องรักษาตัวเป็แรมเดือน ่เริ่มแรกที่ยังไม่คล่องตัว จะขี่เร็วไปก็ไม่ได้ มิเช่นนั้นม้าจะตื่นตระหนก คนขี่อาจพลัดร่วงลงมาง่ายๆ"
"อิงฉี เ้าวางใจได้เลย ข้าบอกว่าหนึ่งถ้วยชาได้ก็คือได้ มิทำให้เ้าผิดหวังหรอกน่า คอยรอชมดีกว่า" ถังชิงหรูกล่าวจบก็พลิกกายขึ้นหลังอาชา
เฉินิลอบปาดเหงื่อแทนอยู่ข้างด้าน มองการเคลื่อนไหวของนางด้วยความรู้สึกหวาดเสียว หัวคิ้วมุ่นขมวดเอ่ยว่า "สตรีเช่นเ้าช่างดื้อรั้นนัก ให้คุณชายเยี่ยงข้าขี่พาเ้าไปไม่ดีกว่าหรือ รีบลงมาเถอะ อย่าก่อความวุ่นวายอีกเลย"
"ไม่เอา" ถังชิงหรูสะบัดแขนเสื้อ สองมือกุมสายบังเหียนแน่น "ข้าไม่เชื่อว่าเื่เล็กน้อยแค่นี้จะเหนี่ยวรั้งข้าไว้ได้"
ขนาดยานอวกาศกับเรือรบนางยังบังคับมาแล้ว นับประสาอันใดกับอาชายุคโบราณตัวหนึ่ง กล้าเผชิญหน้ากับอุปสรรคและเอาชนะมันให้ได้ถึงจะเป็วิสัยของนาง หากเจอปัญหานิดหน่อยก็ถอยหลัง แล้วนางจะมีหน้าพบผู้คนได้อย่างไร วันนี้ต่อให้ไม่ได้ไปเที่ยวชมทิวทัศน์ นางก็ต้องกำราบม้าตัวนี้ให้จงได้
อาชาตัวนั้นเริ่มแสดงท่าทางขัดขืน มันยกเท้าหน้าขึ้นควบกลางอากาศ พลางร้องเสียงแหลม
อิงฉีนั่งบนพื้นมองถังชิงหรูรับมือกับอาชาตัวนั้น
เฉินิซึ่งอยู่ด้านข้างจดจ้องที่เงาร่างของนางตาไม่กะพริบ แค่อาชาตัวนั้นยกเท้าหน้าขึ้น หัวใจของเขาแทบร่วงลงไปกองที่พื้นแล้ว
อิงฉีเห็นสีหน้าตื่นตระหนกจนเกินเหตุของเฉินิ ก็หัวเราะฮ่าๆ เสียงดัง คู่หมั้นของนางได้ยินเสียงก็วิ่งเข้ามา เห็นอิงฉีอยู่กับบุรุษอีกคน สายตาก็เต็มไปด้วยความหึงหวง ชายผู้นั้นเข้าไปนั่งข้างอิงฉี โอบไหล่ของนางไว้พลางกล่าวอย่างไม่พอใจ "เขาเป็ใคร เ้ามีคนรักใหม่แล้วหรือ"
"เ้าโง่หรือเปล่า ดูท่าทางของเขาเสียก่อน หัวใจล้วนไปอยู่ที่ตัวผู้อื่นหมดแล้ว จะมาเป็คนรักใหม่ของข้าได้อย่างไร" อิงฉีสวมกอดบุรุษผู้นั้นพลางยิ้มกล่าว "แต่คนผู้นี้น่าสนใจดี มองแค่ปราดเดียวก็รู้แล้วว่าต้องเป็คุณชายที่มีชาติกำเนิดไม่ธรรมดา ส่วนถังชิงหรูมองทีเดียวก็รู้ว่าเป็แค่หญิงสามัญชนชาติกำเนิดไม่ดีนัก ทว่าเขาก็ยังใส่ใจนางมากเป็พิเศษ"
"ความรักไม่มีแบ่งแยกชนชั้นวรรณะ คุณชายสูงศักดิ์ชอบหญิงสามัญชนใช่ว่าจะเป็ไปไม่ได้" ชายผู้นั้นเอียงศีรษะเข้าหา เอ่ยวาจาอย่างนุ่มนวล "เช่นนั้นก็กล่าวได้ว่า คนผู้นี้คู่ควรแก่การคบค้าสมาคมด้วย พวกเาาวเผ่าอิงกูกล้ารักกล้าชัง มิเคยแบ่งชนชั้นสูงต่ำ"
"กล่าวได้ถูกต้อง สองคนนี้น่าสนใจจริงๆ ข้าชอบ" อิงฉีโอบกอดชายผู้นั้นพลางกล่าวว่า "ถังชิงหรูบอกว่านางใช้เวลาเพียงหนึ่งถ้วยชาก็สามารถเรียนรู้การขี่ม้าได้ เ้าเชื่อหรือไม่"
"ไม่เชื่อ" ชายหนุ่มสั่นศีรษะ "ขนาดพวกเราเติบโตมาบนหลังอาชา ก็ยังไม่อาจทำได้ถึงขั้นนี้ นางทะนงตนเกินไป"
"เดิมทีข้าก็ไม่เชื่อ แต่ดูจากท่าทางของนางตอนนี้ กลับชวนให้น่าเชื่ออยู่บ้าง" อิงฉีกระซิบข้างหูชายหนุ่ม "พวกเรามาพนันกัน หากข้าแพ้ จะยอมให้ท่านลงโทษได้ทุกอย่าง แต่หากท่านแพ้ ก็ต้องยอมให้ข้าลงโทษเหมือนกัน"
บุรุษผู้นั้นมองนางอย่างกรุ้มกริ่ม "เช่นนั้นข้าขอยอมแพ้เลยแล้วกัน ข้าชอบให้เ้าลงโทษ"
"เ้าทำแบบนี้มันก็ยิ่งตื่นตระหนกไปใหญ่" เฉินิมองถังชิงหรูทรมานอาชาตัวนั้น ก็พะว้าพะวัง การกระทำของนางยิ่งดูน่าหวาดเสียวและเป็อันตรายมากขึ้นเรื่อยๆ เขารู้สึกไม่สบายใจเลย จึงตัดใจเบือนหน้าหนี เมื่อตาไม่เห็นใจย่อมไม่หงุดหงิด แต่พอหมุนตัวกลับมา ก็เห็นอิงฉีกำลังกอดจูบกับบุรุษคนหนึ่งอย่างดุเดือด เลยจำต้องหันกลับไปอย่างช่วยไม่ได้ แต่แค่นึกถึงภาพที่เห็นเมื่อครู่ ก็รู้สึกคันยุบยิบไปทั้งหัวใจ
พลั่ก! ถังชิงหรูถูกอาชาสะบัดตกลงมาอีกครั้ง
แค่ได้ยินเสียง ก็รู้สึกได้ว่านางต้องเจ็บกายเนื้อ ส่วนเขาก็เ็ปที่หัวใจ
อดคิดไม่ได้ว่าครานี้นางคงได้รับบทเรียนแล้วกระมัง ทว่าพอเงยหน้าขึ้น สตรีผู้นั้นกลับยังปีนขึ้นไปขี่อีกครั้งอย่างไม่หวั่นเกรงต่อความตาย
เฉินิหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก นับได้ว่าวันนี้ตนเองได้เปิดหูเปิดตากับความดื้อรั้นของสตรีผู้นี้อย่างเต็มที่แล้ว
ผ่านไปครู่หนึ่ง ถังชิงหรูก็ควบอาชามาอยู่ต่อหน้าพวกเขา ใบหน้าของนางอาบรอยยิ้มกระจ่างพร่างพราย มองพวกเขาจากบนหลังอาชาอย่างภาคภูมิ "เป็อย่างไร?"
เฉินิเห็นมือของนางเต็มไปด้วยแผลถลอก ไหนจะรอยช้ำบนใบหน้าจากที่ตกลงมาเมื่อครู่ ก็เอ่ยปากอย่างไม่พอใจ "แทบดูไม่ได้"
"ใครใช้ให้ท่านดูสภาพข้าเล่า ข้าบอกว่าขอเวลาแค่หนึ่งถ้วยชาสำหรับการเรียนรู้ นี่ก็ทำได้แล้วมิใช่หรือ" ถังชิงหรูะโลงมาด้วยความพึงพอใจ "ในโลกนี้ไม่เคยขาดอุปสรรคปัญหา แต่ขอแค่มีหัวใจที่เด็ดเดี่ยว ย่อมสามารถแก้ไขและพิชิตได้ทุกอุปสรรค"
อิงฉีโอบกอดคู่หมั้นของตนเองเดินเข้ามา แนะนำให้ถังชิงหรูรู้จัก "นี่คือคู่หมั้นของข้า เขาชื่อถังอวี้ซู"
"ถัง? แซ่เดียวกับข้าเลย" ถังชิงหรูมองถังอวี้ซูอย่างพิจารณา
"หากเ้ามิเอ่ยถึง ข้าก็ไม่ได้สังเกต" อิงฉีหัวเราะเบาๆ "เมื่อเ้าหัดขี่ม้าเป็แล้ว พวกเราก็ออกเดินทางกันตอนนี้เลย"
"ไปไหน?" ถังอวี้ซูหน้าตาคมสันเกลี้ยงเกลา แต่เมื่อเทียบกับเฉินิ ยังห่างชั้นอีกมาก แต่สายตาของคนรักย่อมเห็นไซซี[1] ดังนั้นสายตาของอิงฉีย่อมมีแต่เขาเท่านั้น
ยามถังอวี้ซูเห็นเฉินิคราแรก ก็ยังนึกวิตกกังวลว่าหน้าตาของเขาดูดีเกินไป แต่พอมาสังเกตดีๆ ก็พบว่าเฉินิหาใช่บุรุษในแบบที่อิงฉีชอบพอ ดังนั้นจึงค่อยเบาใจลงมาไม่น้อย ประกอบกับความคิดจิตใจของอีกฝ่ายวนเวียนอยู่กับถังชิงหรูตลอดเวลา ดังนั้นไม่มีทางมาชอบพออิงฉีของตนเองได้
"เมื่อครู่ลืมบอกท่านไป พวกเราวางแผนว่าจะไปเทือกเขาธิดาศักดิ์สิทธิ์" อิงฉีจับมือถังอวี้ซู "ข้ากำลังจะได้เป็หัวหน้าเผ่า สามารถไปขอพรที่เทือกเขาธิดาศักดิ์สิทธิ์ได้"
"อื้ม" ถังอวี้ซูผงกศีรษะ "เช่นนั้นพวกเรารีบไปดีกว่า เดี๋ยวเ้าต้องกลับมาเตรียมตัวสำหรับพิธีสืบทอดตำแหน่งอีก จะเสียเวลาอยู่ที่นั่นนานนักไม่ได้"
"ออกเดินทาง" เฉินิขึ้นไปนั่งบนหลังอาชา สายตามองไปที่ถังชิงหรู
แม้ว่านางจะขี่ได้ดี แต่เขาก็ยังไม่วางใจเสียทีเดียว ด้วยเหตุนี้จึงคอยจดจ้องทุกอิริยาบถของนาง
ทั้งสี่ต่างมุ่งหน้าไปยังเทือกเขาธิดาศักดิ์สิทธิ์ หลังจากนั้นครึ่งชั่วยาม ก็มาถึงเทือกเขาในตำนานแห่งนั้น
ท่ามกลางทุ่งหญ้าล้อมรอบ ูเาลูกนี้มีเสน่ห์อันเป็เอกลักษณ์เฉพาะตัว สำหรับผู้คนที่อาศัยอยู่บนที่ราบ มันคือสถานที่อันลึกลับมหัศจรรย์ แม้แต่กระต่ายตัวเล็กๆบนูเา ก็เป็ดั่งสมบัติล้ำค่าในสายตาของพวกเขา แต่ไรมาถังชิงหรูไม่เคยเชื่อเื่มหัศจรรย์อันใด นางคิดว่าเป็เพียงแค่การเล่าขานให้ดูพิเศษเหนือธรรมชาติเท่านั้น
ถังชิงหรูมิได้เห็นความสำคัญของเทือกเขาธิดาศักดิ์สิทธิ์เท่าไรนัก นางแค่อยากมาเที่ยวเล่น แต่ยามปีนเขาขึ้นมา พลันรู้สึกได้ถึงความแตกต่าง ประการแรกอากาศของที่นี่ไม่เหมือนกับด้านล่าง ไม่ว่าจะเมืองชิ่งหรือทุ่งหญ้าที่เผ่าอิงกูใช้ชีวิตกันอยู่ ล้วนมีสภาพอากาศค่อนข้างร้อน แต่บนหุบเขาอากาศราวกับฤดูใบไม้ผลิ ไม่หนาวจนเป็น้ำแข็ง และไม่ร้อนอบอ้าว หากมาตั้งกระโจมเล็กที่นี่ได้ นางก็คงรู้สึกสบายจนไม่อยากจากไปไหนแน่
บนูเามีสัตว์ป่าขนาดเล็กจำนวนมาก ระหว่างทางพวกเขามองเห็นเงาร่างน้อยๆ ของพวกมันวิ่งผ่านไปผ่านมา แต่น่าเสียดาย ที่นี่เป็เขตหวงห้าม ดังนั้นพวกเขาจึงมิอาจลงมือกับพวกมัน
ยามเห็นสัตว์เล็กๆ เ่าั้วิ่งผ่าน ถังชิงหรูก็รู้สึกว่าเนื้อที่มาถึงปากถูกคาบไปต่อหน้าต่อตา เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม อย่าไปท้าทายความอดทนของชนเผ่าอิงกูจะดีกว่า
"ที่นี่มีรูปปั้นเทพเ้าด้วยหรือ" พอเห็นเทวรูปกวนอิมบนแท่นหิน ถังชิงหรูก็เอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ
"ใช่แล้ว รูปปั้นองค์นั้นอยู่ที่นี่มานานมากแล้ว" อิงฉีมองเทวรูปตรงหน้าอย่างเลื่อมใสศรัทธา ก่อนคุกเข่าโขกศีรษะทำความเคารพ ถังอวี้ซูซึ่งอยู่ด้านข้างก็คุกเข่าคำนับไปพร้อมกับนาง
ถังชิงหรูกับเฉินิหาได้ลงไปคุกเข่า นางไม่เชื่อเื่เทพเ้า ส่วนเฉินิก็ยอมคุกเข่าให้กับฟ้าดินและบิดามารดาเท่านั้น ไม่คุกเข่าให้ใครอื่น
ถังชิงหรูสะกิดเฉินิ ชี้ให้ดูเทวรูปกวนอิมที่อยู่ตรงข้าม พลางกล่าวว่า "ข้ารู้สึกว่าต้องไม่ใช่สิ่งที่เกิดจากธรรมชาติ มันดูประณีตงดงามเกินกว่าที่จะเกิดขึ้นเองได้"
"เ้าคิดว่ามีคนแกะสลักเทวรูปแล้วเอามาตั้งไว้กระนั้นหรือ แล้วจะเป็ผู้ใดได้เล่า" เฉินิก็รู้สึกว่าสมมุติฐานของถังชิงหรูฟังดูมีเหตุผล
ถังอวี้ซูประคองอิงฉีลุกขึ้นมา อิงฉีกำลังจะเดินไปข้างหน้าต่อ แต่เห็นถังชิงหรูกับเฉินิยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม และมองจ้องไปที่เทวรูปกวนอิมอย่างเหม่อลอย
"มีอะไรหรือ" เมื่อครู่นี้อิงฉีใช้สมาธิกับการไหว้พระขอพรจึงไม่ได้ยินสิ่งที่พวกเขาคุยกัน พอเห็นท่าทางชอบกลของคนทั้งสอง ก็อดซักไซ้ไล่เลียงไม่ได้
"เ้าไม่รู้สึกหรือว่าเทวรูปกวนอิมองค์นี้ช่างงามวิจิตรยิ่งนัก พวกเราเข้าไปดูตรงนั้นกันเถอะ" ถังชิงหรูกล่าวกับอิงฉี
อิงฉีลังเลอยู่ชั่วครู่ นางยืนอยู่ข้างกายถังชิงหรู มองตามสายตาของอีกฝ่ายแล้วเอ่ยว่า "ที่จริงตอนเด็กๆ ข้าก็รู้สึกว่ามันงดงามมาก และคิดว่าของประณีตเช่นนี้น่าจะมีคนสร้างขึ้นมา แต่ท่านแม่กับผู้าุโในชนเผ่าไม่อนุญาตให้ข้ากล่าวเช่นนี้ ซ้ำยังให้ข้าโขกศีรษะตรงนี้ตั้งหลายสิบครั้ง เป็การขอขมาที่เอ่ยวาจาล่วงเกิน ตอนนี้ไม่มีผู้อื่น พวกเ้าอยากดู ก็เข้าไปดูเถิด จะได้ช่วยไขข้อกังขาที่ติดค้างอยู่ในใจของข้ามาหลายปี"
--------------------------------------------------------------------------------
[1] สายตาคนรักย่อมเห็นไซซี หมายถึง ในสายตาของคนที่รักกันคู่รักของตนเองย่อมงดงามที่สุด
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้