บุรุษตรงหน้าสูงประมาณสองเมตรกว่าๆ ร่างกายแข็งแรงมาก กล้ามเนื้อที่อยู่ใต้เกราะหนัง ยามที่เคลื่อนไหวกล้ามเนื้อจะปูดขึ้นมาเป็มัดๆ ราวกับพร้อมที่จะะเิได้ตลอดเวลา เมื่อเขายืนอยู่ตรงนั้นดูคล้ายหมีั์หรือกำแพงสูง
เขามองซุนเฟยด้วยท่าทางเหมือนแมวเจอหนู มุมปากฉีกยิ้ม ไม่ได้ปิดบังท่าทางหยอกล้อของตัวเอง
ที่เขาแสดงท่าทางหยิ่งยโสนั้น
นั่นเป็เพราะว่าตามข้อมูลที่ได้รับมาก่อนหน้านี้ องค์าาเมืองแซมบอร์ดของอาณาจักรเล็กๆ แห่งนี้เป็เพียงนักรบสามดาวเท่านั้น แม้ว่าต่อมาโอโคชาจะรู้สึกสงสัยเล็กน้อยว่ายอดฝีมือลึกลับก่อนหน้านี้อาจจะเป็ชายตรงหน้า แต่เขากลับไม่คิดแบบนั้น บนโลกนี้จะมีใครใช้เวลาไม่ถึงครึ่งเดือนเลื่อนจากนักรบสามดาวเป็สี่ดาวได้บ้าง?
เห็นได้ชัดว่ามันเป็เื่ไร้สาระที่สุด!
ดังนั้น เมื่อโอบินนาให้เขามาทดสอบฝีมือของซุนเฟย เขาจึงรีบตามตูดซุนเฟยมาอย่างเปิดเผย ไม่มีการปิดบังกลิ่นอายใดๆ
ในมุมมองของเขา การที่ซุนเฟยหลอกล่อให้เขามายังซอยแคบๆ นี้ มันก็เหมือนซุนเฟยะโลงมาสู่กับดักเอง
แต่ก่อนที่เขาจะทดสอบความแข็งแกร่งขององค์าาคนนี้ เขาไม่ถือสาที่จะใช้ฐานะต้อยต่ำอย่างผู้คุ้มกันมาลูบคมศักดิ์ศรีขององค์าาที่สูงส่ง สำหรับคนที่มีจิตใจที่วิปริตเล็กน้อยอย่างเขา มันไม่มีเื่อะไรน่าตื่นเต้นเท่ากับการที่ได้ทำลายเกียรติยศของพวกเชื้อพระวงศ์ที่สูงศักดิ์พวกนั้น
ดังนั้น ในระหว่างที่กำลังพูด เขาจึงแสดงความแข็งแกร่งของตัวเองออกมาอย่างไม่ปิดบัง เพียงเสี้ยววินาที พลังของเขาก็ทะลักออกมาแล้วพุ่งไปทางซุนเฟย พลังนี้แข็งแกร่งจนทำให้แผ่นดินต้องสั่นะเื เมื่อเปลวไฟสีส้มผ่านไปที่ใด ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะเคลือบไปด้วยสีส้ม ด้วยสภาพแวดล้อมแบบนี้ เขาสามารถควบคุมดินและก้อนหินทั้งหมดก็ในระยะห้าสิบเมตรจากตัวเขาได้
เขาคือยอดฝีมือธาตุดิน
ชื่อของเขาคือฮาซึงจิน
ที่อาณาจักรเธรซ ความแข็งแกร่งของเขาถูกจัดให้อยู่ในสามอันดับแรกของอาณาจักร
ด้วยมือคู่นี้ของเขา มีหัวของคนนับไม่ถ้วนที่ถูกเขาบีบจนแตกเป็เป็ชิ้นๆ ไม่มีใครต้านทานเขาได้ ไม่ว่าจะเด็ก สาวงาม คนแก่ ชาวบ้าน ขุนนาง...หรือแม้แต่องค์ชายองค์หนึ่งของอาณาจักรเธรซที่ถูกเขาสังหารตามคำสั่ง และนั่นเป็ผลงานชิ้นเอกที่เขาไม่มีวันลืม เขาที่ทำให้องค์ชายน้อยวัยหกขวบต้องกรีดร้องโหยหวนข้างหูเขาถึงสิบวันสิบคืนถึงก่อนจะตาย เด็กน้อยที่น่าสงสาร ตอนตายก็ตายแบบไม่มีกระดูก ร่างของเขาก็กลายเป็ซากเนื้อเน่าๆ ที่น่าขยะแขยง
กะโหลกศีรษะขององค์ชายน้อยคนนั้น เขานำมาทำเป็ภาชนะใส่เหล้าเล็กๆ ไว้พกพาติดตัวไว้เสมอเพื่อนำมาดื่มยามกระหาย
ไม่ช้า ฮาซึงจินก็ได้เห็นฉากที่ตัวเองคาดว่าจะเห็น...
หลังจากที่เขาได้แสดงพลังสี่ดาวระดับต้นออกมาเล็กน้อย เขาก็มั่นใจเลยว่าาาตรงหน้าคงเหมือนหิมะที่กำลังจะละลายแล้วสลายไปในพริบตาอย่างไร้ร่องรอย เมื่อคิดดังนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป จากที่มั่นใจกลายเป็ดุร้าย แม้เขาจะพยายามสงบจิตสงบใจตัวเอง แต่เมื่อฮาซึงจินได้เห็นขาขององค์าาองค์นี้เริ่มสั่นขึ้นมา พร้อมทันยังหันรีหันขวางมองรอบๆ แล้วเตรียมจะวิ่งหนี
สุดท้ายมันก็เป็แค่ขยะ
“คิดจะหนี?”
ฮาซึงจินยกมือกอดอก ก่อนจะก้าวเท้าไปด้านหน้าอย่างช้าๆ ใบหน้ายิ่งเผยท่าทีหยอกล้อมากยิ่งขึ้น
“เ้า...เ้าเป็ใคร? คิดจะทำอะไร?” ชายผู้โชคร้ายตรงหน้าพูดเสียงตะกุกตะกัก ที่ทำให้ฮาซึงจินแทบกระอักเืคือ การที่ชายตรงหน้ายกมือขึ้นมาปิดหน้าอกของตัวเอง ราวกับว่าเขาคิดจะทำเื่มิดีมิร้ายกับตัวเอง
“ข้า?”
ฮาซึงจินเห็นฉากนี้ ในใจก็พอจะเดาความคิดคนตรงหน้าได้ เขาเคี้ยวก้านหญ้าในปาก ก่อนจะปรายตามององค์าาตรงหน้าด้วยท่าทางเหยียดหยาม พูดรอดไรฟันว่า “นี่ ไอ้หนุ่ม บิดาเป็นักฆ่า รับเงินสังหารคน ที่ข้ามาขวางเ้าที่นี่ คิดว่าข้าจะทำอะไรเ้าล่ะ?”
เขาจงใจข่มขู่ชายผู้โชคร้ายตรงหน้า
“อ่า...เ้า...ฆ่า...ฆ่าข้า?” องค์าายิ่งตัวสั่นเทิ้มกว่าเดิม ราวกับกระต่ายน้อยที่ถูกทำให้ใ องค์าาร้องถามเสียงแหลม หน้าซีดเผือด พลางมองชายร่างั์ด้วยท่าทางไม่อยากจะเชื่อ “เ้ารู้ไหมว่าข้าเป็ใคร? ข้าคือาาเมืองแซมบอร์ด เ้ากล้าฆ่าองค์าาเชียวเหรอ?”
ไอ้ปัญญาอ่อน
ฮาซึงจินี้เีจะพูดกับาาตรงหน้านี้แล้ว
มีบางคนที่ไม่รู้ข้อบกพร่องของตัวเอง และคิดว่าตัวเองอาศัยอยู่ในโลกที่ความคิดของตัวเองถูกต้องที่สุด สิทธิพิเศษที่เกิดมาพร้อมกับเขาทำให้เขาเย่อหยิ่ง มันเป็เื่ยากที่ทำให้คนพวกนี้เข้าใจว่าสิทธิของพวกเขานั้น ความจริงแล้วมันมีค่าไม่ต่างอะไรกับตูดหมา นี่เป็เื่ที่น่าเศร้ายิ่งนัก
องค์าาตรงหน้าช่างเป็เด็กหนุ่มที่ไร้เดียงสาและน่าเศร้า
ฮาซึงจินยกสองมีอกอดคนพลางก้าวไปด้านหน้าทีละก้าว
แน่นอนว่าเขาไม่ได้จะสังหารองค์าาตรงหน้าจริงๆ ความจริงแล้วในแผนการขั้นต่อไปของพวกเขา องค์าาอาณาจักรนี้ถือว่าเป็ส่วนสำคัญในแผนการ หากมันตายไปก็เท่ากับทำลายแผนการของคนคนนั้น ซึ่งเขาคงรับผิดชอบไม่ไหว
เขาก็แค่อยากเพลิดเพลินไปกับภาพการต่อสู้ดิ้นรนตรงหน้าตัวเองเท่านั้น
“อ๊ะๆๆๆ...เ้า...เ้าอย่าเข้ามานะ...เ้าจะทำอะไร?” องค์าาก้าวถอยหลังทีละก้าว ใบหน้าขาวซีดเหมือนกระต่ายน้อยที่ถูกหมาป่าต้อนจนจนมุม เขาพูดเสียงตะกุกตะกักว่า “ทำไมต้องสังหารข้า? ใครส่งเ้ามา? บอกข้าสิ...บางทีนี่อาจเป็เื่เข้าใจผิด!”
ฮาซึงจินก้าวเข้ามาใกล้
เปลวไฟสีส้มกระพริบอยู่ใต้เท้าของเขา คลื่นพลังธาตุดินสี่ดาวแผ่กระจายออกมาเต็มที่ ทุกที่ที่เขาก้าวผ่าน ก้อนหินแข็งๆ บนพื้นก็กลายเป็อ่อนนุ่มและเหนียวหนืดขึ้นมาเหมือนแอ่งน้ำ นี่คือความแข็งแกร่งของนักรบสี่ดาวที่สามารถเปลี่ยนรูปแบบสนามรบได้ เพื่อสร้างสนามรบที่สมบูรณ์แบบสำหรับตัวเองขึ้นมา
“ใครเป็คนส่งเ้ามาฆ่าข้า?” องค์าาตัวสั่นยิ่งกว่าเดิม ภายใต้รังสีฆ่าฟันที่น่ากลัว สติปัญญาของเขาก็ดูเหมือนจะเริ่มแตกสลายเล็กน้อย เอาแต่ถามประโยคนี้ซ้ำไปซ้ำมา
น่าเสียดายคือ ไม่ว่าจะถามกี่ครั้ง ฮาซึงจินก็ไม่ตอบคำถามนี้
เพราะตัวเองไม่ได้มาฆ่าเขาจริงๆ
แต่ตอนนี้เองก็เื่แปลกๆ ก็เกิดขึ้น
ในตอนที่ฮาซึงจินเข้าใกล้องค์าาน้อยในระยะไม่ถึงสิบเมตร
สีหน้าของเขาก็พลันตกตะลึง
ทันใดนั้น องค์าาน้อยที่มีท่าทางกระวนกระวายใจตรงหน้าเขา จู่ๆ ก็แสดงสีหน้าจากหวาดกลัวกลายเป็....ผิดหวัง
ใช่แล้ว มันเป็สีหน้าเหมือนเด็กน้อยจะร้องไห้หลังจากที่ผิดหวังที่ไม่ได้รับการปลอบใจจากบิดามารดา
ไม่รอให้เขามีปฏิกิริยาตอบโต้ ก็ได้ยินเสียงถอนหายใจพลางลูบคางขององค์าาน้อยตรงหน้า “โธ่เอ๊ย ไม่สนุกจริงๆ นั่นแหละ ข้อมูลที่มีประโยชน์สักนิดก็ไม่คายออกมา...เฮ้อ เ้าลมกรด เ้าบอกหน่อยสิว่า การแสดงของข้ามันห่วยใช่หรือไม่?”
โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง!
เ้าสุนัขั์สีดำที่หมอบอยู่ด้านหลังของซุนเฟย ซึ่งกำลังชมฉากสนุกๆ ตรงหน้าก็พลันเห่าออกมา เหมือนจะบอกว่ามันน่าเบื่อมาก ดวงตากลมโตจ้องมองมาที่ซุนเฟยด้วยท่าทางดูถูก ราวกับจะกระตุ้นซุนเฟย...ให้รีบจัดการเื่ยุ่งยากพวกนี้ให้เร็วที่สุด จะได้กลับพระราชวังสักที ท่านปู่สุนัขตัวนี้ยังไม่ได้กินข้าวเย็นเลยนะ
“ช่างเถอะ...” ซุนเฟยมองฮาซึงจินด้วยท่าทางไม่พอใจ ท่าทางใกลัวก่อนหน้านี้ แค่เสี้ยววินาทีก็กลายร่างจากหมูเป็หมาป่าไปเสียแล้ว เขาดัดไม้ดัดมือตัวเองจนเกิดเสียงดังกร๊อบพลางแกว่งเล็กน้อยแล้วถามว่า “ในเมื่อไม้อ่อนมันไม่เหมาะกับเ้า งั้นข้าก็เปลี่ยนวิธีแล้วกัน ใช้หมัดสื่อสารกับเ้าแทน!”
สีหน้าของฮาซึงจินค่อยๆ สงบลงก่อนจะพูดเชิงเหยียดหยามว่า “แค่เ้า?”
ซุนเฟยไม่พูดอะไร
เขาเริ่มเดินไปด้านหน้า
ไม่ช้าสีหน้าของฮาซึงจินก็กลายเป็จืดเจื่อน
เพราะว่าทุกก้าวที่ซุนเฟยเดินเข้ามา บรรยากาศบนร่างของเขาก็ะเิออกมาเท่าหนึ่ง กลิ่นอายความแข็งแกร่งที่ะเิออกมา จากนักรบสองดาวระดับปลายก็ค่อยๆ ทะยานขึ้นไปเรื่อยๆ เมื่อเขาก้าวมาได้ก้าวที่ห้า ความแข็งแกร่งที่เผยออกมาไม่ได้ด้อยไปกว่าคลื่นพลังธาตุดินสี่ดาวระดับต้นของฮาซึงจิน แม้ว่าจะไม่มีคลื่นพลังเปลวไฟที่สวยงาม แต่กลิ่นอายก็ดุดันนี้ก็ทำให้ฮาซึงจินรู้สึกได้ถึงอันตราย
หลงกลมันแล้ว!
ในใจของฮาซึงจินเริ่มล่วงหล่นไปที่ตาตุ่ม
ตอนนี้เขาได้พบแล้วว่า ตัวเองต่างหากที่กลายเป็สิ่งที่น่าหัวเราะ
ั้แ่ความคิดในตอนแรกแล้วที่คิดว่า มันเหมือนแมวหยอกหนู ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของเขา อีกทั้งเมื่อครู่ยังหัวเราะคนอื่นพลางคิดว่าช่างไม่รู้ข้อบกพร่องของตัวเองเสียเลย แต่ใครจะรู้ว่าสุดท้าย การแสดงออกของตัวเองเมื่อครู่มันเป็เื่ที่น่าตลกที่สุด หนึ่งคนหนึ่งหมาตรงหน้า คนหนึ่งแสดงละครหลอกเขา อีกตัวก็คอยชมเื่สนุก
โดยเฉพาะเ้าสุนัขั์สีดำตัวนั้นที่มองมาทางตัวเองด้วยสายตาเยาะเย้ย ทำให้ฮาซึงจินรู้สึกว่า ตัวเองเทียบไม่ได้แม้แต่สุนัข
“รน...หา...ที่...ตาย!”
เมื่อความอวดดีและปมด้อยของตัวเองถูกกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ฮาซึงจินก็พลันรู้สึกโกรธเกรี้ยวอย่างที่ไม่เคยเป็มาก่อน เหมือนหมีดำกำลังถ่ายอยู่แล้วถูกคนเอาไม้เล็กๆ แทงตูด เขาคำรามออกมา ะเิเปลวเพลิงสีส้มออกมาทั่วร่างอย่างคลุ้มคลั่ง ราวกับเป็หลอดไฟั์ที่ทำให้ซอยที่มืดมิดสว่างขึ้นมา จากนั้นร่างของเขาก็กลายเป็ะุปืนใหญ่ พุ่งเข้ามาหาซุนเฟย เงื้อมสองมือชกออกไปอย่างรวดเร็วดุจสายฟ้าผ่า
ซุนเฟยก้าวขาข้างหนึ่งออกไปด้านหน้า พลางชกสวนกลับ
ตูม!
หมัดทั้งสี่ข้างปะทะกันกลางอากาศ
ในตอนนี้เอง เสมือนเวลาได้หยุดชะงักลง จากนั้นในซอยคับแคบก็เริ่มสั่นหวั่นไหวขึ้น เปลวไฟสีส้มเริ่มแตกสลาย สามารถมองเห็นหมัดของฮาซึงจินสั่นสะท้านด้วยตาเปล่าั้แ่หมัดจนไปถึงไหล่ทั้งสองข้าง...
สิ่งที่ตามมาคือเสียงกระดูกร้าว
วินาทีต่อมา ร่างั์ของฮาซึงจินเหมือนกระสอบที่แตกสลาย หลังค่อมเล็กน้อยขณะที่กระเด็นออกไป ความเร็วที่เขากระเด็นออกไป เร็วยิ่งกว่าตอนที่เขาพุ่งเข้ามาหลายเท่า
เืสาดกระจาย
-------------------
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้