ขาสองข้างของเสิ่นเสวียนที่เปลี่ยนไปบนลานประลอง ทำให้ทุกคนรอบลานประลองตาเบิกโพลง
เปรี้ยง!
หลังจากนั้นพลันเกิดเสียงกระแทกดังสนั่นออกมาจากลานประลอง ร่างของทั้งสามคนที่เพิ่งจะปะทะกันกระเด็นออกไปคนละทิศทาง กระแทกลงที่พื้นลานประลองทั้งสองฝั่งอย่างรุนแรง ทำให้พื้นลานประลองเกิดรอยแตกร้าวขึ้นเต็มไปหมด
อานุภาพที่ปะทุออกมาเมื่อกี้ ถึงขั้นแม่ทัพระดับสูงสุดในพริบตา!
“ท่านพี่!”
เสิ่นเสี่ยวเม่ยที่นั่งอยู่ในตำแหน่งผู้เข้าชมเห็นเสิ่นเสวียนล้มลงกับพื้น จึงะโเรียกด้วยสีหน้าเป็กังวล
เจี้ยนอู๋เฉินแววตาเป็ประกาย ท่านลุงกู่สายตายอดเยี่ยมจริงๆ เสิ่นเสวียนไม่เลวเลยทีเดียว!
หานเฟิงยิ่งมีสีหน้าเคร่งขรึม!
ซือหม่าหว่านเอ๋อร์ตั้งสติได้ แววตาของนางวาววาบด้วยความใ!
ในที่นั่งตำแหน่งผู้าุโ สีหน้าของผู้าุโทุกคนเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ทว่าเสิ่นเหวินเทากลับลุกขึ้นยืน มองทุกอย่างที่เกิดขึ้นในลานประลองอย่างไม่เชื่อสายตา
“เป็ไปได้อย่างไร!”
เสิ่นเหวินเทากล่าวออกมาอย่างยากลำบาก คนที่พึ่งพาได้มากที่สุดของเขาแพ้แล้วอย่างนั้นหรือ
“แค่ก! พวกเ้าไม่เลวเลยทีเดียว มีพวกเ้าอยู่นับเป็ความภาคภูมิใจของตระกูลเสิ่น”
เสิ่นเสวียนลุกขึ้นยืนบนลานประลองด้วยร่างที่สั่นเทา มีเืไหลออกจากมุมปากเล็กน้อย
พลังของทั้งสองคนซ้อนทับเข้าด้วยกัน ทำให้พลังเหนือกว่าขั้นแม่ทัพระดับสูงสุดไปอีก อานุภาพของการผสมผสานเคล็ดวิชาน่ากลัวยิ่งนัก ก่อนหน้านี้เขาดูถูกคู่ต่อสู้อยู่เล็กน้อย
แต่ในขณะที่ปะทะกันเมื่อครู่นี้ เขากลับหาจุดอ่อนของอีกฝ่ายเจอ นั่นคือให้ทำลายการผสมผสานพลังของทั้งสองคนตอนที่พวกเขาแสดงเคล็ดวิชาผสมผสานออกมา จะส่งผลให้พลังยุทธ์ของอีกฝ่ายแตกสลายไปเอง
อีกด้านหนึ่งของลานประลอง เสิ่นหลงและเสิ่นหู่นอนอยู่ที่พื้น พวกเขาขยับร่างได้เพียงเล็กน้อย หมดสิ้นพลังยุทธ์ไปแล้ว
“แม้พวกเ้าจะพ่ายแพ้ไปในวันนี้ แต่ต้องจำไว้ว่าเหตุใดถึงพ่ายแพ้ กำจัดจุดอ่อนเ่าั้ให้หมดสิ้น แล้วพวกเ้าจะแข็งแกร่งไร้เทียมทาน”
เสิ่นเสวียนเดินไปตรงหน้าทั้งสองคน จากนั้นเขาก้มตัวลง โคจรพลังส่งเข้าไปในร่างของทั้งสอง ทำให้อีกฝ่ายกลับมาขยับร่างกายได้
“นายน้อย! ขอบคุณมาก”
เสิ่นหลงมองเสิ่นเสวียนด้วยสายตาสับสน ก่อนหน้านี้เสิ่นเหวินเทาเรียกพวกเขาทั้งสองไปหา บอกพวกเขาว่าเสิ่นเสวียนปลอมตัวมาเป็นายน้อย อีกทั้งพลังยังธรรมดาๆ แต่ตอนนี้สิ่งที่เห็นกลับไม่เหมือนที่เสิ่นเหวินเทาบอกสักนิด
“หากพวกเ้า้าใช้พลังผสมผสานอีก จำไว้ว่าต้องแสดงพลังเพียงครึ่งเดียว พลังที่เหลือใช้เพื่อป้องกันตัว แล้วค่อยแสดงพลังทั้งหมดออกมาตอนที่โจมตี”
เสิ่นเสวียนกล่าวเบาๆ กับทั้งคู่ บอกถึงวิธีการแสดงพลังผสมผสานให้พวกเขา
เมื่อได้ยินคำของเสิ่นเสวียน สองพี่น้องหลงหู่ก็มีสีหน้าตื่นเต้นระคนใ เพราะตามที่เสิ่นเสวียนกล่าวมาช่วยแก้ไขจุดอ่อนนี้ได้จริงๆ
“นายน้อย พวกข้าน้อมรับความพ่ายแพ้”
เสิ่นหลงและเสิ่นหู่โค้งกายคารวะเสิ่นเสวียน จากนั้นจึงถอยออกมาจากลานประลอง
เสิ่นเหวินเทาที่กำลังโกรธจัดนั่งอยู่บนเก้าอี้ เขามิอาจระบายความโกรธแค้นออกมาได้ ทำให้ดวงตาของเขาวาวโรจน์ขึ้นมา
หลังจากสองพี่น้องเสิ่นหลงและเสิ่นหู่ลงไปจากลานประลองแล้ว ทุกอย่างก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้ง
ได้รับคำท้าจากคนตระกูลเสิ่นสามคนติดต่อกัน ทั้งยังเอาชนะได้อย่างหมดจด นี่คือข้อกำหนดของพิธีแต่งตั้งผู้นำตระกูล หากกล่าวถึงขั้นตอนตามพิธีการ เสิ่นเสวียนก็คือผู้นำตระกูลเสิ่นคนใหม่อย่างเป็ทางการแล้ว
ผู้าุโสี่กังวลว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนไป เขาลุกขึ้นทันที กล่าวเสียงดังก้อง “นายน้อยผ่านการทดสอบอย่างสมบูรณ์ จากนี้ไปเป็การเข้ารับตำแหน่งผู้นำตระกูล”
“ช้าก่อน”
ขณะนั้นเอง หานเฟิงที่นั่งอยู่ในที่รับรองแขกพลันกล่าวตัดบทผู้าุโสี่
“คุณชายหาน นี่คือเื่ในตระกูลเสิ่นของข้า หวังว่าคุณชายหานจะไม่เข้าแทรกแซง”
ผู้าุโสี่มองหานเฟิงด้วยสีหน้าลำบากใจเล็กน้อย เขาโดนเด็กคนนี้ตัดบทมาสองครั้งแล้ว ทำให้เขาไม่พอใจมาก
“ทำไมล่ะ ผู้าุโสี่คิดกลับคำอย่างนั้นหรือ ท่านถามผู้ดูแลใหญ่และนายน้อยของท่านดูก็ได้ ว่าเมื่อสามวันก่อนเขารับปากข้าไว้อย่างไร”
หานเฟิงนั่งอยู่ที่เดิม ทว่าเสียงดังก้องไปทั่วบริเวณ
ผู้าุโส่วนใหญ่ต่างรู้ว่าหานเฟิงไม่ได้มาดี หากเป็คนดีไม่มีทางทำเช่นนี้ เพียงแต่ไม่รู้ว่าเสิ่นเสวียนจะยังรับมือไหวหรือไม่
แต่เมื่อคิดได้ว่าเสิ่นเสวียนสามารถเอาชนะสองพี่น้องหลงหู่ได้ เขาอยากเอาชนะหานเฟิงก็คงไม่มีปัญหา
“และเขายังทำร้ายน้องชายของข้าจนาเ็ บัญชีแค้นนี้จะจัดการอย่างไร”
หานเฟิง้าเรียกร้องความเป็ธรรมให้แก่ตนเอง เขาจึงโบกมือให้คนสี่คนแบกเกี้ยวเดินเข้ามา และคนที่นั่งอยู่บนนั้นคือหานเตา
เพียงแต่ว่า หานเตาในตอนนี้ไม่เหมือนกับแต่ก่อนเลย
รูม่านตาขยาย แววตาเหม่อลอย ทั้งยังมีน้ำลายไหลออกจากมุมปากอีกด้วย ชายหนุ่มรูปงามจากตระกูลหานแห่งเมืองอวี่ฮว่ากลายเป็คนสติไม่สมประกอบเสียแล้ว
เมื่อเห็นดังนั้น เสิ่นล่างที่ไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับเื่ทางโลกพลันลุกนั่งตัวตรง แววตาทอประกายความหวังออกมา พลางครุ่นคิดอยู่ในใจ “เด็กนี่ใช้ได้เลย! คิดไม่ถึงว่าจะจัดการไปแล้วคนหนึ่ง”
เสิ่นเหวินเทามีสีหน้าตื่นใ เขาไม่รู้เื่นี้เลย
“เฮ้ย เลิกพล่ามได้แล้ว อยากสู้ก็ขึ้นมาเลย อย่าชักช้าให้เสียเวลา”
เสิ่นเสวียนยืนอยู่บนลานประลอง กล่าวท้าทายหานเฟิงออกไปโดยตรง
“ได้ เ้าเชิญข้าเองนะ”
หานเฟิงได้ยินคำของเสิ่นเสวียนก็ะโขึ้นไปบนลานประลองทันที เขาอยู่ห่างจากเสิ่นเสวียนประมาณสามจั้ง เป็ระยะที่ค่อนข้างไกล
“ในเมื่อเป็เช่นนี้ คำกล่าวน่ารังเกียจก่อนหน้านี้ เ้าน่าจะยังจำได้ใช่ไหม!”
หานเฟิงมองเสิ่นเสวียน กล่าวยั่วยุเล็กน้อย
“ชีวิตและความตายถูกลิขิตเอาไว้แล้ว”
เสิ่นเสวียนกล่าวขึ้นเบาๆ
“ดี กล้าดี”
หานเฟิงยิ้มอย่างกระหายเื ในที่สุดเขาก็กระชากอีกฝ่ายให้ตกหลุมพรางของตนได้สำเร็จแล้ว เดิมทีเขาคิดว่าอยู่ในตระกูลเสิ่น คนเ่าั้ต้องไม่เห็นด้วยกับวิธีการของเขาอย่างแน่นอน คิดไม่ถึงเลยว่าเ้าโง่นี่จะะโลงหลุมมาเอง
เช่นนั้น หลังจากนี้อย่ามาโทษข้าว่าไร้ปรานีก็แล้วกัน
ซือหม่าหว่านเอ๋อร์กำลังมองไปบนลานประลอง การกระทำของเสิ่นเสวียนก่อนหน้านี้เหนือความคาดหมายของนางมากจริงๆ และที่ตอนนี้นางให้ความสนใจขึ้นมา เพราะอยากเห็นว่าหานเฟิงจะจัดการเขาอย่างไร
ตอนเด็กๆ แค่เล่นด้วยกันเท่านั้น และอีกฝ่ายยังแอบเข้ามาในห้องของตนกลางดึกด้วย เขาไม่ส่องกระจกดูเลยหรือว่าเขาคู่ควรไหม
คู่ควรที่จะเป็นายน้อยแห่งตระกูลเสิ่นอย่างนั้นหรือ!
“น้องหว่านเอ๋อร์ เ้าคิดว่าระหว่างพวกเขา ใครจะชนะ”
เจี้ยนอู๋เฉินหันมองซือหม่าหว่านเอ๋อร์ที่นั่งอยู่ข้างๆ พลางกล่าวด้วยรอยยิ้มน่าเกลียด
“หานเฟิง”
ซือหม่าหว่านเอ๋อร์กล่าวเสียงเรียบ หากไม่ใช่ว่าเกรงกลัวฐานะของเจี้ยนอู๋เฉิน นางคงไม่มาที่นี่ในวันนี้
ผู้คนรอบๆ ต่างจับจ้องไปยังลานประลอง แม้เสิ่นเสวียนจะเอาชนะผู้ท้าสู้จากตระกูลเสิ่นได้แล้ว มีคุณสมบัติสืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูล แต่ถ้าต้องพ่ายแพ้ให้กับหานเฟิงในครั้งนี้ และจากที่พวกเขารู้จักหานเฟิงมา มีโอกาสมากที่เสิ่นเสวียนจะตาย
ในตอนนี้ มีเพียงเส้นทางเดียวอยู่ตรงหน้าของเสิ่นเสวียน นั่นก็คือชัยชนะ
หรือไม่ก็ตาย!
“ข้ารู้สึกแปลกใจยิ่งนัก เ้ามีพลังขั้นไหนกันแน่”
หานเฟิงถามเสิ่นเสวียนบนลานประลอง
“เ้าอยากรู้อย่างนั้นหรือ”
“บอกเ้าไปก็คงไม่เป็ไร ขั้นปรมาจารย์ระดับสูง”
เสิ่นเสวียนยืนอยู่ที่เดิม กล่าวขึ้นเสียงเบา
“อะไรนะ!”
เสียงสูดลมหายใจเข้าดังขึ้นทั่วลานประลอง ยากจะเชื่อว่าเสิ่นเสวียนมีพลังขั้นปรมาจารย์ระดับสูงจริงๆ ต้องรู้ว่าเขาเอาชนะสองพี่น้องหลงหู่ได้! แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาไม่เข้าใจที่สุดก็คือ พวกเขาดูพลังยุทธ์ของเสิ่นเสวียนไม่ออกเลยจริงๆ
“เหอๆ ไม่เลวเลยนี่ แต่เ้าคงจบสิ้นลงในวันนี้”
หลังจากที่หานเฟิงกล่าวจบ ไอพลังบนร่างพลันหนาวเย็นขึ้นกว่าเดิมมาก
จากนั้น เห็นเพียงไอพลังเย็นเฉียบแผ่ซ่านออกมารอบๆ ร่างของเขา ทำให้อุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็ว
ไอพลังต่อสู้แผ่ซ่านออกมาภายนอก ร่างกายของเขาคือธาตุน้ำแข็ง ฝึกฝนเคล็ดวิชาน้ำแข็ง ธาตุน้ำแข็งคือธาตุที่หายากมาก มีต้นกำเนิดเดียวกับธาตุน้ำ ทว่าเหนือกว่าน้ำ
“ระวังให้ดี”
หานเฟิงยืนอยู่ที่เดิม มุมปากกระตุกยิ้มอย่างโเี้
เสิ่นเสวียนยืนอยู่ที่เดิม เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นก็เบนกายไปด้านข้าง เห็นเพียงแท่งน้ำแข็งแหลมๆ ปรากฏขึ้นตรงหน้า นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น หลังจากนั้นแท่งน้ำแข็งอีกมากมายก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ พุ่งเข้าใส่เสิ่นเสวียนไม่หยุดหย่อน
ในขณะเดียวกัน หานเฟิงเริ่มผนึกน้ำแข็งขึ้นที่พื้นลานประลองโดยมีตัวเขาเป็จุดศูนย์กลาง ทำให้น้ำแข็งเ่าั้แผ่ขยายไปทางเสิ่นเสวียนอย่างบ้าคลั่ง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้