เซี่ยเสี่ยวหลานบอกเื่ราวกับโจวเฉิง แต่ไม่ได้แปลว่าเธอจะไม่ทำอะไรเลย
ตอนกลางวันเธอถามเื่ของฝานเจิ้นชวนจากปากเหลียงฮวน เวลา่บ่ายยาวนานขนาดนั้น ไม่ได้ทำแค่ลับมีดเล่มเดียว เธอส่งโทรเลขไปยังหยางเฉิง บอกให้หลี่ต้งเหลียงและเก่อเจี้ยนออกเดินทางมาซางตูทันที ถ้ามีคนคอยปกป้องอยู่ข้างกาย เซี่ยเสี่ยวหลานจะสบายใจมากยิ่งขึ้น
เดิมทีเธอจะให้สองคนนี้มาก่อนการสอบคัดเลือกรอบแรก นี่เลื่อนเวลาล่วงหน้าถึงสิบกว่าวัน
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่เสียดายเงินแม้แต้น้อย เนื่องจากเหลียงปิ่งอันทิ้งกระเป๋าถือไว้ เซี่ยเสี่ยวหลานหยิบหนึ่งหมื่นหยวนออกมา
เธอจะคืนเงินส่วนนี้ให้เหลียงปิ่งอัน?
เธอมิใช่นักเรียนคนดีผู้เก็บของมีค่าได้แล้วจะไม่ทึกทักว่าเป็ของตน เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว บ้านเหลียงเกือบจับเธอใส่ห่อขายแก่ฝานเจิ้นชวน แค่สาดเศษอาหารกับข่มขู่ เซี่ยเสี่ยวหลานไม่มีทางปล่อยไปโดยง่ายดายแน่นอน
ค่าทำขวัญคือสิ่งที่ต้องเรียก เทียบกับความวุ่นวายที่บ้านเหลียงนำมาให้เธอแล้วนั้น เงินชดเชยหนึ่งหมื่นหยวนยังไม่ถือว่ามากมายอะไรเลยด้วยซ้ำ เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้ขัดสนเงินจำนวนหนึ่งหมื่นหยวนนี้ ทว่าเซี่ยเสี่ยวหลานสามารถใช้เงินก้อนนี้โดยไม่รู้สึกเครียดแม้แต่น้อย ยังไม่กล่าวถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ การเรียกหลี่ต้งเหลียงและเก่อเจี้ยนมาจากหยางเฉิงล่วงหน้า ทุกๆ วันย่อมต้องคิดค่าแรง จ่ายจากเงินสมทบหนึ่งหมื่นหยวนนี้ทั้งหมดก็แล้วกัน!
เหลียงปิ่งอันจะมาหาเพื่อทวงคืนหรือไม่ เซี่ยเสี่ยวหลานไม่สนใจสักนิดเดียว
วันนี้ิญญานักแสดงเข้าสิงสู่เธอ หลอกได้ทั้งหลี่เฟิ่งเหมยและหลิวเฟิน
ถ้าเซี่ยเสี่ยวหลานจะทำอะไรอีก ทุกคนย่อมไม่คัดค้าน พอเธอคุยโทรศัพท์กับโจวเฉิงจบก็กลับบ้านไปดูก็ดีอกดีใจอย่างยิ่ง ย่าอวี๋ช่างหลักแหลมสมกับอายุจริงๆ อย่าดูถูกว่าหญิงชรามีโรคเบาหวานเชียว ร่างกายที่คล่องแคล่วว่องไวซึ่งฝึกฝนจากการกวาดถนน นี่เพิ่งผ่านมาเพียงครู่เดียว ย่าอวี๋ก็เก็บกวาดสถานที่เกิดเหตุในสวนเสร็จสิ้นแล้ว
เมื่อครู่ยังมีเืไก่กระจัดกระจายเต็มพื้นอยู่เลย ตอนนี้ไม่เห็นร่องรอยโดยสิ้นเชิง
ด้วยกระบวนการสืบสวนของปี 84 เป็เื่ยากมากที่จะคืนสภาพจากเหตุการณ์เมื่อครู่ได้อย่างรวดเร็ว
ย่าอวี๋ทำลายหมดสิ้นไม่เหลือซาก กระทั่งร่องรอยเศษอาหารที่หลิวฟางนำเข้ามาถึงในสวน ย่าอวี๋ก็ใช้น้ำราดจนหมดเกลี้ยง
กระเป๋าถือของเหลียงปิ่งอันถูกย่าอวี๋เก็บขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะ
เซี่ยเสี่ยวหลานชูนิ้วโป้งให้ย่าอวี๋
“คุณสุดยอดเหลือเกิน!”
ย่าอวี๋รับการชมเชยนี้ไว้อย่างไม่กระดาก ใช้เืไก่ปลอมเป็เืคนหลอกคน ความคิดนี้เสนอโดยย่าอวี๋นั่นเอง อย่างไรเสียเซี่ยเสี่ยวหลานก็ทำไปเพื่อระบายความโกรธ เมื่อเหลียงปิ่งอันและหลิวฟางเห็นเหลียงฮวนถูก ‘แทง’ เป็ไปไม่ได้ที่จะรู้ความจริงในชั่วพริบตา เซี่ยเสี่ยวหลานแค่จะให้พวกเขาลิ้มลองรสชาติของความเ็ปหัวใจดูบ้าง
พวกเขาจะเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่ เซี่ยเสี่ยวหลานไม่สนใจ
เธอมิใช่พระแม่มารีเสียหน่อย ที่จะรับผิดชอบการเปลี่ยนแปลงคนอื่นให้ดีขึ้น
เซี่ยเสี่ยวหลานหยิบเงินในกระเป๋าถือออกมา ด้านในยังมีบัตรประจำตัวพนักงานของเหลียงปิ่งอันด้วย ดูท่ากระเป๋านี้คือของที่เหลียงปิ่งอันใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่แปลกใจที่คุณภาพหนังจะไม่เลว เซี่ยเสี่ยวหลานจุดเตาไฟสว่างเจิดจ้า และโยนกระเป๋าถือเข้าไปในกองไฟทันที
ไม่มีใครคิดเสียดายของ กระเป๋าของเหลียงปิ่งอัน จะเก็บเอาไว้ให้ใครใช้กันเล่า?
กระเป๋านั้นมีเ้าของ ทว่าเงินไม่มี
เซี่ยเสี่ยวหลานให้เงินหนึ่งหมื่นหยวนแก่หลี่เฟิ่งเหมย “ป้า พรุ่งนี้ป้าเอาไปฝากในธนาคารสองแห่งนะ จากนั้นค่อยถอนเงินห้าพันหยวนของป้าให้ฉัน”
ระบบธนาคารในปัจจุบันไม่ได้เชื่อมต่อเครือข่ายอินเตอร์เน็ต และไม่มีกล้องวงจรปิดด้วยซ้ำ ค้นหาไม่พบว่าใครเป็ผู้ฝากเงินเข้าไป ยืนยันเพียงสมุดบัญชีและรหัสถอนเงินเท่านั้น ขนาดชื่อจริงยังไม่จำเป็... แน่นอนว่าไม่มีทางใช้ระบบชื่อจริงได้ หลังปี 86 เป็ต้นไป ถึงจะดำเนินการทำบัตรประจำตัวประชาชนในทุกหนแห่งทั่วประเทศตามลำดับ ไม่มีกระทั่งบัตรประชาชน นับประสาอะไรกับระบบฝากเงินด้วยชื่อจริง
อีกอย่างหนึ่ง ต่อให้เงินจำนวนนี้ของเหลียงปิ่งอันมีสัญลักษณ์ เขาก็ไม่ได้คัดลอกชุดตัวเลขทั้งหมดไว้อยู่ดี
การฝากเข้าถอนออกก็คือการ ‘ฟอกเงิน’ อันแสนง่ายดายที่สุด หากเหลียงปิ่งอันพาเ้าหน้าที่ตำรวจมาหา เซี่ยเสี่ยวหลานจะไม่ยอมรับก็ย่อมได้ คุณบอกว่าเอาเงินของคุณไป? จับโจรย่อมต้องมีหลักฐาน คุณหาเงินส่วนนั้นได้ค่อยว่ากันอีกที จะพิสูจน์อย่างไรว่าเป็เงินของคุณ!
เดิมทีก็เป็เ้าของธุรกิจค้าขายอยู่แล้ว ค้นเจอเงินเป็หมื่นหยวนจากเซี่ยเสี่ยวหลานแล้วจะแปลกอะไร ขอแค่ชุดหมายเลขไม่ตรงกัน เหลียงปิ่งอันไม่มีทางพิสูจน์ได้ว่าเงินเป็ของเขา
เซี่ยเสี่ยวหลาน้าให้เหลียงปิ่งอันเจ็บใจ
เงินนี่ใช้จ่ายได้อย่างสบายใจเหลือเกิน อย่างไรเสียก็ได้มาโดยเปล่า เธอจึงแบ่งให้หลี่เฟิ่งเหมย 5000 หยวนเสียเลย อีก 5000 หยวนที่เหลืออยู่ เธอเตรียมไว้แบ่งครึ่งกับย่าอวี๋ ลาภลอยร่วงจากฟากฟ้า คนเจอย่อมมีส่วนร่วม เธอเก็บไว้เอง 2500 หยวน ก็เพียงพอจ่ายค่าตอบแทนที่หลี่ต้งเหลียงกับเก่อเจี้ยนจะมาซางตูล่วงหน้าแล้ว
หลี่เฟิ่งเหมยถามอีกทีว่าทำไมถอนเงินเพียงห้าพันหยวน?
“ให้ป้าน่ะสิ”
“ป้าไม่เอาหรอก!”
หลี่เฟิ่งเหมยไม่้ามีส่วนเกี่ยวข้องแม้แต่เพียงเงินเล็กน้อยกับครอบครัวหลิวฟาง เธอรู้สึกไวเป็พิเศษตอนอยู่ต่อหน้าหลิวฟาง กลัวว่าหากใช้เงินของหลิวฟางแล้ว ต่อไปเวลาปะทะฝีปากกับหลิวฟางจะแสดงจุดยืนไม่แน่วแน่พอ
สรุปทั้งหมดทั้งมวล หลี่เฟิ่งเหมยยังซื่อตรงเกินไป หน้าด้านใจดำสู้เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้
เซี่ยเสี่ยวหลานกล่อมเธอไม่ได้ จึงถามย่าอวี๋แทน “ถ้าอย่างนั้นพวกเราคนละครึ่ง คุณย่ากล้ารับหรือเปล่า?”
ย่าอวี๋หยิบเงินห้าพันบนโต๊ะโดยพลัน “ไม่กล้ารับหรือ? เธอใจกว้างเสียขนาดนี้ ฉันก็รับไว้สิ ไม่ต้องให้ป้าเธอฝากแล้วถอนอีก ฉันอายุเยอะปูนนี้ กล้าใช้เงินส่วนนี้อยู่แล้ว”
ย่าอวี๋คิดว่าตนเองได้ออกแรงเล็กน้อย ทำไมเธอจะไม่กล้ารับเงินที่เหลียงปิ่งอันทิ้งไว้เล่า! พอย่าอวี๋นึกถึงว่ายอดเงินฝากของตนเองจะเพิ่มขึ้นอีก 5000 หยวน ใบหน้าเคร่งขรึมเต็มไปด้วยริ้วรอยของเธอก็อ่อนลงไปไม่น้อยในชั่วพริบตา ทำไมจะไม่เอา เงินของเธอเก็บหอมรอมริบไว้เพื่อครอบครัวทั้งนั้น
หลิวเฟินและหลี่เฟิ่งเหมยตกตะลึง
รู้สึกว่าในค่ำคืนนี้ ระหว่างหนึ่งหญิงชราและหนึ่งหญิงสาวสื่อสารเข้าขากันขึ้นมาก!
เซี่ยเสี่ยวหลานแจ้งสถานการณ์ต่อแฟนหนุ่มของตนอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส อีกทั้งยังแบ่งเงินหนึ่งหมื่นหยวนของเหลียงปิ่งอันด้วยความเบิกบาน
----------------------------------------
เหลียงปิ่งอันขับรถมุ่งหน้ากลับเขตเหอตง ครอบครัวสามคนโดนทรมานทรกรรมจนร่อแร่ เหลียงฮวนเหนื่อยล้าทั้งกายใจ ส่วนหลิวฟางและเหลียงปิ่งอันเหนื่อยใจ สภาพน่าอนาถขนาดนี้ ไม่อาจไปรับเหลียงอวี่ที่บ้านพ่อแม่ได้ หลิวฟางจะไม่ยอมให้พ่อแม่สามีหัวเราะเยาะเด็ดขาด
ทั้งสามคนหลบๆ ซ่อน ๆ กลับบ้าน กลัวจะทำบ้านใกล้เรือนเคียงตื่น และคนอื่นจะเห็นสภาพที่น่าอับอายของพวกเขา
หลิวฟางให้เหลียงฮวนทำความสะอาดร่างกายก่อน ร่างกายเหลียงฮวนมีกลิ่นทุกประเภท ทั้งกลิ่นเศษอาหารที่ติดจากมารดา กลิ่นปัสสาวะที่เธอถูกเซี่ยเสี่ยวหลานข่มขวัญจนปัสสาวะราดกางเกง และกลิ่นเหงื่อไคลโทรมกายที่เกิดจากการกระเสือกกระสนร้องไห้โวยวาย กลิ่นอันหลากหลายปะปนเข้าด้วยกัน ไม่ต้องพูดถึงว่าเปรี้ยวเตะจมูกขนาดไหน
“ลูกรีบไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวแม่เอาชุดนอนมาให้”
หลิวฟางมีกลิ่นเศษอาหารทั้งตัวเช่นกัน กระนั้นก็ยินยอมให้เหลียงฮวนใช้ห้องน้ำก่อน
เหลียงฮวนล้างตนเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ใช้สบู่หอมหมดไปมากกว่าครึ่ง รู้สึกว่าตนเองเหม็นอยู่ดี สุดท้ายหลิวฟางกลัวเธอจะไม่สบาย จึงไม่อนุญาตให้เธออาบน้ำต่อ หลิวฟางส่งเสื้อผ้าให้เหลียงฮวน เหลียงฮวนกำลังหยิบผ้าขนหนูมาห่อตัว แต่หลิวฟางกลับตาไว พบว่าบริเวณเอวของเหลียงฮวนมีรอยฟกช้ำอยู่หนึ่งจุด
“นังเด็กนั่นตีลูกหรือ?!”
เหลียงฮวนลูบเอวไปมา “ก่อนหน้านี้พี่จับฉันขังไว้ในห้องเก็บของที่ร้านเสื้อผ้า ต่อมาพอประตูเปิดออก ฉันนึกว่าพี่จะปล่อยฉันออกไปเสียอีก ปรากฏว่าเอวด้านหลังทั้งชาทั้งเจ็บ และฉันก็สลบไปเลย!”
เมื่อตื่นขึ้นอีกครั้ง เธอก็อยู่ในสวนบ้านย่าอวี๋ โดนมัดแ่า เห็นเซี่ยเสี่ยวหลานลับมีด หวาดกลัวเสียจนปัสสาวะราด
เหลียงฮวนรู้สึกว่าที่เอวในตอนนั้นไม่เหมือนถูกตี ถ้าด้านหลังเอวโดนตี ทำไมเธอถึงสลบไปได้เล่า?
เหลียงฮวนและหลิวฟางย่อมไม่เข้าใจเป็ธรรมดา เครื่องช็อตไฟฟ้าที่โจวเฉิงให้เซี่ยเสี่ยวหลานนั้น ไม่ได้ใช้แม้แต่กับอันธพาลในหยางเฉิงด้วยซ้ำ เหลียงฮวนลิ้มลองเป็รายแรก เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ช็อตคอ เนื่องจากเกรงว่าจะไม่สามารถควบคุมระดับความแรงได้ และช็อตเหลียงฮวนเสียชีวิตจริง นี่คือข้อเสียของเครื่องช็อตไฟฟ้า สามารถทำให้คนสูญเสียกำลังเคลื่อนไหวทันที ทว่ามีความเป็ไปได้อันน้อยนิดที่จะก่อให้เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้น เ้าหน้าที่ตำรวจในต่างประเทศจะได้รับปืนช็อตไฟฟ้ายามปฏิบัติหน้าที่ ทว่าในประเทศจีนสั่งห้ามใช้มาโดยตลอด
ความน่ากลัวที่เหลียงฮวนได้รับวันนี้นั้นหนักหนา หลิวฟางอาบน้ำเสร็จ จึงไปนอนเป็เพื่อนลูกสาว
ถึงเวลาเหลียงฮวนหลับอย่างรวดเร็ว เธอไม่สามารถต้านทานความเหนื่อยล้าของร่างกายได้ เพียงแต่นอนหลับไม่สนิท สะดุ้งตื่นอยู่ตลอดเวลา หลิวฟางนอนไม่หลับ จนกระทั่งตีสี่ เหลียงฮวนหลับสนิทแล้ว หลิวฟางจึงออกมาจากห้องของเธอ
เหลียงปิ่งอันก็ไม่ได้หลับเช่นกัน
เขานอนไม่หลับโดยสิ้นเชิง นั่งสูบบุหรี่มวนแล้วมวนเล่าอยู่ในห้องรับแขก ในถาดเขี่ยบุหรี่ใส่ก้นบุหรี่ที่ดับของเขาไม่ได้แล้ว
เมื่อเห็นหลิวฟางออกมา เหลียงปิ่งอันก็มีสีหน้าเคร่งเครียด
“จะปล่อยเซี่ยเสี่ยวหลานแต่งงานไปไม่ได้ ฉันคิดไปคิดมา เธอคือลูกหมาป่าที่เลี้ยงไม่เชื่องตัวหนึ่ง พอกลายเป็ภรรยาฝานเจิ้นชวน อาจแว้งกัดพวกเราได้”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้