ที่ร้อนใจยิ่งกว่านางยังมีใต้เท้ามหาเสนาบดีเฟิ่ง บิดาบังเกิดเกล้าของนาง เฟิ่งชังกุมขมับราวกับปวดศีรษะอย่างรุนแรง เขาเกลี้ยกล่อมนางแต่แรกแล้ว ให้นางถอนตัวจากการแข่งขันรอบนี้ ครานี้ดีละ ได้ขายหน้ากันใหญ่โตกระมัง
บนที่ประทับ เซวียนหยวนเช่อลอบร้อนใจแทนนางเช่นกัน ดูท่าทางของนางแล้วมากกว่าครึ่งคือวาดไม่ได้ เขาต้องหาทางลงให้นางจึงจะถูกต้อง
“ฮองเฮา สีหน้าของเ้าไม่ใคร่ดีนัก เป็เพราะแผลเก่ากำเริบหรือไม่ ้าให้เจิ้นเชิญหมอหลวงมาดูสักหน่อยหรือไม่”
เมื่อเซวียนหยวนเช่อกล่าวประโยคนี้ออกไป คนทั้งหมดในท้องพระโรงต่างมองไปทางเฟิ่งเฉี่ยนโดยพร้อมเพรียงกัน ทุกคนต่างรู้แก่ใจดีว่า นี่เป็ทางลงที่ฮ่องเต้เสนอให้นาง ขอเพียงนางพยักหน้า การแข่งขันรอบนี้ก็ถือว่าแล้วกันไป
ในใจเฟิ่งเฉี่ยนกระจ่างแจ้งดีเช่นกัน นี่เป็ความปรารถนาดีของเขา ทว่าเมื่อนางคิดถึงเื่ที่เขาแต่งตั้งพระชายาในใจของนางคล้ายมีไฟกองหนึ่งสุมอยู่ นางไม่้ารับน้ำใจจากเขา นางคิดแต่จะเป็ปรปักษ์กับเขา!
นางปฏิเสธความปรารถนาดีของเขาโดยตอบกลับไปว่า “ข้าไม่เป็ไร! ข้าสบายดีอย่างยิ่ง!”
เฟิ่งชังกำลังประหลาดใจอย่างที่สุดกับทางลงที่ฝ่าาทรงประทานให้นาง ใครเลยจะรู้ว่าเ้าเด็กคนนี้กลับดื้อรั้นเช่นนี้ อยากตายจนถึงที่สุด เขาปวดศีรษะอีกคำรบหนึ่ง
มุมปากของเซวียนหยวนเช่อกระตุกเข้าด้านในเล็กน้อย ปรากฏให้เห็นรอยยิ้มจนใจ ด้วยรู้ว่านางกำลังโมโหและงัดข้อกับเขา
ซือคงจวินเย่เห็นเช่นนั้นจึงแค่นเสียงฮึ “ท่านพี่เซวียนหยวน ฮองเฮาและหลานเฟยเหนียงเหนียงล้วนเป็สตรีของท่าน เหตุใดท่านจึงลำเอียงเข้าข้างฮองเฮา จะเป็การกระทำที่ไม่ยุติธรรมเกินไปกระมัง”
แววตาของเซวียนหยวนเช่อเยียบเย็นเอ่ยเสียงหนัก “นี่เป็เื่ภายในครอบครัวของเจิ้น เจิ้นคิดจะโปรดปรานใครก็โปรดปรานคนนั้น เจิ้นคิดจะลำเอียงเข้าข้างใครก็เข้าข้างคนนั้น ท่านพี่ซือคงจะก้าวก่ายเกินไปหรือไม่!”
“ท่าน...” ซือคงจวินเย่มีโทสะ แต่ไม่อาจบันดาลโทสะ ได้แต่ปิดปากไม่พูดไม่จา
องค์หญิงหลานซินที่กำลังวาดภาพอยู่นั้น พู่กันในมือหยุดชะงักชั่วครู่ นางกัดริมฝีปากกดข่มไฟริษยาในใจแล้ววาดภาพต่อไป
ได้ยินคำพูดนี้ของเซวียนหยวนเช่อ เฟิ่งเฉี่ยนสะท้านไปทั่วทั้งร่าง จิตใจที่ตึงเครียดถูกมืออันอบอุ่นคู่หนึ่งััเบาๆ นางพยายามต่อสู้กับความรู้สึกอันรุนแรงนั้น
บุรุษผู้นี้ไม่รักคือไม่รัก แต่ถ้าให้ความรักแล้วก็จะเร่าร้อนรุนแรงเข้มข้น เผด็จการ เอาแต่ใจปานนั้น แต่ความรักของเขามักจะมีสิ่งอื่นติดตามมาด้วยเสมอ ทำให้นางไม่อาจยอมรับได้ นางควรจะทำอย่างไรกับเขาดีนะ
นางหันไปมองเขาอย่างอดไม่ได้ สายตานั้นค่อยๆ มองขึ้นไปหยุดอยู่ที่คางของเขาและหยุดอยู่ที่นั่น นางไม่กล้ามองขึ้นไปอีก
สายตาของนางหยุดอยู่บนเสื้อคลุมับนร่างของเขา บนหน้าอกใช้เส้นไหมสีทองปักลวดลายเป็ก้อนเมฆบน์และักำลังอ้าปากกางกรงเล็บให้ความรู้สึกทรงพลังและเปี่ยมไปด้วยอำนาจบารมี ส่งผลให้คนไม่กล้าเข้าใกล้โดยง่าย
ถูกต้องแล้ว ผ้าปัก!
ใครบอกว่าวาดภาพจะต้องใช้พู่กันวาดเท่านั้นเล่า? ใครบอกว่าการวาดภาพต้องวาดลงบนกระดาษเท่านั้น
การใช้สีน้ำมันวาดภาพลงบนไม้กระดานก็ถือเป็ภาพวาด เรียก ภาพสีน้ำมัน!
ใช้เม็ดทรายวาดภาพออกมา ก็เรียก ภาพวาดทราย!
ใช้การปักผ่านผืนผ้าเรียกว่า ภาพปัก!
นางมิใช่ยังมี ตำรา《ทักษะเย็บปักถักร้อย》อยู่อีกหนึ่งเล่มหรอกหรือ เหตุใดจึงไม่ใช้วิธีการปักผ้ามาทำภาพวาดเล่า
ั์ตาดำขลับนั้นเปล่งประกายเจิดจ้า ในสมองของนางพลันปรากฏแสงสว่างวาบ นางคิดออกแล้ว!
นางกวักมือให้จ้าวกงกง รอกระทั่งเขาเดินเข้ามาใกล้จึงกระซิบข้างหูเขาหลายประโยค จ้าวกงกงมีสีหน้าประหลาดใจแล้วพูดเพื่อตอกย้ำความแน่ใจอีกครั้ง “เหนียงเหนียง พระองค์ตัดสินใจแน่นอนแล้วใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
เฟิ่งเฉี่ยนพยักหน้ายืนยัน “ข้าแน่ใจอย่างยิ่ง! เ้ารีบไปเตรียมเถิด!”
จ้าวกงกงหันไปมองเซวียนหยวนเช่อที่อยู่บนที่ประทับอีกครั้งอย่างลังเลใจ เขามีท่าทีตัดสินใจไม่ได้
เซวียนหยวนเช่อไม่รู้ว่านางพูดอะไรกับจ้าวกงกง แต่เขาโบกมืออย่างไม่ลังเลใจ “พระเสาวณีย์ของฮองเฮาก็คือพระราชโองการของเจิ้น เ้าทำตามก็พอ!”
แววตาของจ้าวกงกงเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เขาไม่กล้าอิดออด รีบหมุนกายไปรับพระบัญชาแล้วถอยออกไป
ขุนนางทั้งหมดได้ยินเช่นนั้นจึงมองกันไปมาด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ
จากคำพูดประโยคนี้ของฝ่าา ได้แฝงความหมายและสื่อสารรายละเอียดต่างๆ ไว้มากมาย นี่เท่ากับเขาได้ประกาศต่อหน้าทุกคนว่า ต่อให้องค์หญิงหลานซินได้รับการแต่งตั้งเป็พระชายาก็ไม่อาจสั่นคลอนตำแหน่งฮองเฮาภายในตำหนักในได้ และในคำพูดประโยคเดียวกันนี้ได้สื่อสารความนัยบางอย่างที่้าบอกว่าความสัมพันธ์ระหว่างฮ่องเต้และฮองเฮากำลังมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เห็นได้ว่าฮ่องเต้ให้ความสำคัญกับฮองเฮาเพียงใด!
มือที่กำลังวาดภาพขององค์หญิงหลานซินหยุดชะงักไปครู่ใหญ่ น้ำหมึกหยดใหญ่ได้เปื้อนกระดาษวาดภาพเป็ดวงใหญ่ ทำลายความงดงามของภาพวาด
คิ้วของนางขมวดเล็กน้อย นางหยุดพู่กันแล้วม้วนภาพวาดที่วาดเสร็จแล้วทิ้งไว้ด้านข้าง ดึงกระดาษแผ่นใหม่ออกมา สูดลมหายใจลึกๆ เข้าปอดแล้วพูดกับตนเองว่า จะให้คนอื่นมีผลกระทบต่อตนเองไม่ได้เด็ดขาด ขอเพียงแค่นางชนะการแข่งขันรอบนี้ นาง้าสิ่งใดย่อมได้สิ่งนั้น!
เมื่อรวบรวมสมาธิแล้ว นางเริ่มวาดภาพใหม่อีกครั้ง!
เฟิ่งเฉี่ยนสังเกตเห็นอากัปกิริยาทุกอย่างของนาง นางลอบนับถือสตรีนางนี้ ไม่ง่ายดายจริงๆ สติปัญญาและสภาวะจิตใจอยู่ในขั้นสูงทั้งคู่ อีกทั้งเื้ัยังมีการสนับสนุนของแคว้นหนานเยียน ต่อกรไม่ง่ายเลย!
ระหว่างที่รออุปกรณ์ เฟิ่งเฉี่ยนลอบหยิบตำรา《ทักษะเย็บปักถักร้อย》ออกมาศึกษา ในสมองของนางได้เรียนรู้เทคนิคและเคล็ดลับในการปักผ้าไม่น้อยทีเดียว นางหลับตาลงเงียบๆ และพยายามตกผลึกความรู้ที่เพิ่งจะได้มานี้...
ในขณะที่คนอื่นๆ ไม่รู้ว่านางกำลังทำอะไรอยู่ ได้แต่คิดว่านางไร้ความสามารถ จึงพากันลอบปาดเหงื่อแทนนางเงียบๆ
ไม่นานนัก จ้าวกงกงเดินนำขันทีน้อยหลายคนที่แบกกรอบปักผ้าขนาดมหึมาตัวหนึ่งเข้ามาด้วย และที่ติดตามมาด้านหลังพวกเขา ยังมีนางกำนัลอีกสองคน
ทุกคนได้แต่ประหลาดใจ
มิใช่กำลังแข่งขันวาดภาพหรือ ยกกรอบปักผ้าเข้ามาทำอันใดกัน
องค์หญิงหลานซินที่กำลังวาดภาพอยู่เงยหน้าขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ ไม่รู้ว่านางกำลังจะมาไม้ไหน!
จ้าวกงกงชี้ไปที่นางกำนัลสองคนนั้นแล้วกล่าวว่า “ฮองเฮาเหนียงเหนียง พวกนางสองคนเป็นางกำนัลเย็บปักของห้องเย็บปัก ท่านมีสิ่งใดให้ช่วยเหลือก็สั่งพวกนางได้เลยพ่ะย่ะค่ะ!”
เฟิ่งเฉี่ยนพยักหน้าอย่างพอใจ นางพูดกับนางกำนัลทั้งสองว่า “พวกเ้าช่วยข้าเตรียมเข็มและด้าย สีของด้ายที่ข้า้ามีสีเหล่านี้...”
ได้ยินเฟิ่งเฉี่ยนสั่งการให้นางกำนัลเย็บปักเตรียมเข็มและด้าย คนทั้งหมดได้แต่มองหน้ากันไปมา ในสมองของทุกคนล้วนปรากฏให้เห็นคำว่า ไม่อยากเชื่อ!
หรือฮองเฮาคิดจะใช้เข็มปักผ้าปักออกมาเป็ภาพๆ หนึ่ง
นางเสียสติไปแล้วกระมัง
แม้จะกล่าวว่าการปักผ้าก็เป็ภาพชนิดหนึ่ง ทว่าสีสันของภาพปักนั้นค่อนข้างน้อยและถูกกำหนดแน่นอน สู้ภาพสีน้ำมันที่มีหลากหลายสีสันไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นก็คือการวาดภาพโดยการปักผ้านั้นต้องปักลงบนผืนผ้า ้าเวลาค่อนข้างยาวนาน ต้องใช้สมาธิอย่างสูงและความตั้งใจเป็อย่างมาก การวาดภาพสีน้ำมันเพียงตวัดพู่กันเพียงไม่กี่ครั้ง แต่การปักผ้านั้นต้องปักลงบนผืนผ้านับร้อยนับพันเข็มจึงจะทำสำเร็จออกมาภาพหนึ่ง!
เมื่อเปรียบเทียบเช่นนี้แล้ว การที่ฮองเฮาเลือกที่จะปักผ้าแข่งขันกับหลานเฟยเหนียงเหนียง นางตกเป็ฝ่ายเสียเปรียบั้แ่เริ่มต้น คิดจะเอาชนะเป็เื่ยากยิ่งกว่ายาก!
และยังมีประเด็นสำคัญอีกประการหนึ่งที่สำคัญอย่างยิ่งยวด...
ฮองเฮาปักผ้าเป็หรือ
ทุกคนล้วนกังขา
มีเพียงเฟิ่งชังที่จิตใจกระจ่างแจ้งราวกับกระจก ฝีมือการปักผ้าของบุตรสาวนั้นแม้แต่ภูติผียังต้องร่ำไห้เลย...!
ทักษะการวาดภาพนั้นว่าขายหน้าแล้ว ยังจะแสดงความสามารถในการปักผ้าที่ย่ำแย่กว่าทักษะการวาดภาพอีก เฟิ่งชังนวดหน้าอกตนเองเบาๆ เกรงว่าอีกประเดี๋ยวตนเองจะยืนไม่อยู่และหมดสติไปตรงนั้น!
ดวงตาของเซวียนหยวนเช่อเป็ประกาย เขามองสีหน้าจริงจังของเฟิ่งเฉี่ยน แม้จะประหลาดใจว่าเหตุใดนางจึงเลือกที่จะใช้การปักผ้ามาแข่งขัน ทว่าความมั่นอกมั่นใจที่สะท้อนออกมาจากดวงตาทอประกายเจิดจ้าของนาง ทำให้เขาเชื่อและศรัทธาอย่างปราศจากเหตุผล หรือนางอาจจะสร้างความมหัศจรรย์ได้จริง!
ซือคงเซิ่งเจี๋ยมองเฟิ่งเฉี่ยนด้วยสายตาประเมินอย่างสนอกสนใจ นางยังคงทำอะไรแหกกฎเหมือนเดิม มักจะทำเื่ที่ผู้อื่นคาดไม่ถึงอยู่เสมอ เขารอดูอยู่เช่นกันว่านางจะสร้างความมหัศจรรย์ พลิกสถานการณ์จากแพ้มาเป็ชนะอีกครั้งได้หรือไม่
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้