“นายน้อยตระกูลเย่ตีกันกับนายน้อยหลง?” เยว่จีบ่นอุบอิบลอบยิ้มออกมาอย่างปวดหัว คนตระกูลเย่สงสัยจะแกะสลักออกมาจากแม่พิมพ์เดียวกัน แก่ยังไม่ลงมือตี แต่เด็กนี่ตีกันเสียแล้ว
สาวรับใช้ที่มารายงานข่าวถูกพลังกดดันจากเย่ชิงหนิวจนแทบไม่กล้าหายใจออกมา เยว่จีมองไปทางเย่ชิงหนิวคราหนึ่งก่อนจะเอ่ยถามสาวรับใช้ขึ้น “ตกลงมันเกิดเื่อะไรขึ้นเ้าพูดมาให้ละเอียดทีสิ”
เย่ชิงหนิวเห็นสายตาที่เยว่จีมองมาจึงเข้าใจได้ทันทีรีบสลายพลังกดดันที่แผ่ออกมา จากนั้นรีบพูดขึ้น “จงเล่ามาให้ละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้น ปกติแล้วคนตระกูลเย่ไม่ใช่คนชอบหาเื่ใครก่อน”
สาวรับใช้ได้ยินเย่ชิงหนิวพูดขึ้นทั่วทั้งร่างพลันผ่อนคลายขึ้นในทันที จากนั้นจึงรีบพูดอธิบายออกมา “เื่เป็อย่างนี้...นายน้อยตระกูลเย่ที่เพิ่งมาถึง พอมองเห็นนายน้อยเสว่ก็ราวกับเจอศัตรูคู่แค้นฉันนั้น...ต่อมานายน้อยเสว่เงียบยังไม่ทันได้ปริปากพูดจาสิ่งใด แต่นายน้อยหลงสุ่ยหลิวกลับพูดว่าจะสั่งสอนนายน้อยเย่สักหน่อย ดังนั้นทั้งสองจึงเตรียมที่จะต่อสู้กันที่ภายนอกหอสี่ทิศ”
“พวกเ้าดู คนตระกูลเย่ล้วนมีเหตุผล เด็กผู้หญิงร่างหยกิญญานั้นก็คือน้องสาวของเ้าหนูเย่ชิงหานนายน้อยตระกูลเย่ ก่อนที่จะมาข้าบอกกับเขาว่าเื่ของน้องสาวทางตระกูลจะเป็ธุระให้เอง กำชับเขาด้วยว่าห้ามลงมือกับเสว่อู๋เหิน พวกเ้าดูเขาก็อดกลั้นไม่ได้ลงมือจริงๆ แต่หลงสุ่ยหลิวเ้าเด็กโง่กลับแส่หาเื่เจ็บตัวอยากจะโดนตบเอง เขาหมดทางเลือกก็เลยต้องลงมือ ข้าว่าเื่นี้ถ้าเจรจากันไม่ลงตัวข้าคงต้องปล่อยให้เขาจัดการเองแล้ว!”
ทุกคนที่ได้ฟังล้วนหมดคำที่จะพูดกับเย่ชิงหนิวเลยจริงๆ จะคุยโม้ก็โม้เสียเกินความเป็จริง เขาคิดว่าเ้าเด็กเย่ชิงหานเป็เย่เตาหรืออย่างไร? เสว่อู๋เหินพลังฝีมือระดับไหน? อันดับสิบของทำเนียบผู้มีพลังฝีมือระดับชั้นปฐี พวกกิ๊กก๊อกธรรมดาทั่วไปกล้าลงมือกับเขารึ? แม้ว่าหลงสุ่ยหลิวจะเป็หนุ่มเ้าสำราญไปหน่อย แต่พลังฝีมือระดับขั้นที่สองขอบเขตเยี่ยมยุทธ์ก็ล้วนได้มาจากการฝึกฝนที่ยากลำบากเช่นกัน งานนี้ใครจะตบใครยังไม่รู้เลย? นางไม่กังวลว่าหลงสุ่ยหลิวจะถูกตบลงไปนอนกองกับพื้น แม้จะถูกตบไปนอนกองกับพื้นจริงท่านหลงจ้าวแห่งเขตปกครองก็คงไม่เข้ามายุ่งกับเื่เล็กน้อยเพียงนี้อย่างแน่นอน เพียงแต่นางกลัวว่าเมื่อเย่ชิงหานถูกตบไปนอนกองกับพื้น เย่ชิงหนิวจะใช้เหตุนี้เป็ข้ออ้างะเิโทสะขึ้นมาอีก เดี๋ยวบรรยากาศภายในหอจันทราของนางจะกลายเป็อึมครึมน่าอึดอัดขึ้นมาอีก
.................................
“แหะๆ ทุกคนออกไปดูกันเถอะ!” เย่ชิงหนิวหัวเราะแหะๆ ออกมาลอบยิ้มอยู่ภายในใจ เ้าเด็กคนนี้ขนาดเย่ชิงขวงที่มีพลังฝีมือระดับขั้นที่สามขอบเขตเยี่ยมยุทธ์ยังถูกเขาทำลายวรยุทธ์มาแล้ว ยังจะต้องพูดถึงหลงสุ่ยหลิวไอ้เด็กกระจอกนี่อีกรึ? โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้ยินว่าพลังฝีมือของเย่ชิงหานเพิ่งเลื่อนขึ้นอีกนี่?
“เ้าโจมตีมาได้เลย อายุเ้าน้อยกว่าข้า ข้าต่อให้เ้าสามกระบวนท่า!”
หลงสุ่ยหลิวยืนด้วยท่วงท่าสบายๆ อยู่ภายนอกหอสี่ทิศ มือซ้ายถือกระบี่เล่มหนึ่งที่ยังไม่ได้ชักออกจากฝัก มือขวาไขว้ไปด้านหลังใบหน้าแหงนมองขึ้นฟ้า ทำท่าทางราวกับยอดคนผู้สูงส่งอย่างไรอย่างนั้น
“เป็ไอ้คนที่โง่เขลาเหลือรับจริงๆ สาวงามแถวนี้ก็ไม่ได้มีแม้สักคนยังจะวางมาดอวดเสน่ห์อยู่อีก” นายน้อยที่ทั่วร่างเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อกำยำล่ำสันแห่งตระกูลเฟิง ยอดฝีมือหนุ่มสาวหน้าใหม่ที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลเฟิง...เฟิงจื่อ ชื่อแม้จะฟังดูคล้ายกับชื่ออิสตรีแต่กลับเป็ชายแท้ทั้งแท่ง ตอนนี้เขายืนอยู่ด้วยกันกับนายน้อยที่มีใบหน้างดงามท่าทางอ่อนช้อยแล้วพูดออกมาด้วยเสียงแ่เบา “คิดว่าสามกระบวนท่าคงจัดการได้” นายน้อยที่มีใบหน้างดงามท่าทางอ่อนช้อยคือนายน้อยแห่งตระกูลฮวา...ฮวาเฉ่า เขาส่ายหน้าแล้วพูดออกมาประโยคหนึ่ง แต่ไม่รู้ที่พูดว่าสามกระบวนท่าสามารถจัดการกับหลงสุ่ยหลิวได้ เขาพูดถึงตัวเองหรือพูดถึงเย่ชิงหานกันแน่?
อืม!
เฟิงจื่อเข้าใจได้อย่างชัดเจนถึงความหมายในคำพูดของฮวาเฉ่าว่าหมายถึงตัวเขาด้วยและหมายถึงเย่ชิงหานด้วย สำหรับเพื่อนที่คล้ายกับกะเทยคนนี้ เขารู้เป็อย่างดีว่าั้แ่เด็กจนกระทั่งถึงปัจจุบันฮวาเฉ่าเติบโตขึ้นมาท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยการฆ่าฟัน สายตาและประสบการณ์ในการสู้รบล้วนอยู่ในระดับสุดยอด สายตาในการมองคนของเขาเฟิงจื่อเชื่ออย่างไม่มีข้อสงสัยใดๆ แต่เมื่อเขามองไปเห็นสายตาของเย่ชิงหาน ดวงตาของเฟิงจื่อเปลี่ยนเป็ร้อนผ่าวขึ้นมาทันที
เย่ชิงหานดวงตาหรี่ตาลง ก่อนที่จะมาเย่ชิงหนิวได้สั่งกำชับไว้และบวกกับน้องสาวที่ยังนอนอยูู่เาด้านหลังรอคอยความช่วยเหลือจากเขา ทำให้เขารู้สึกเกรงอยู่บ้าง ดังนั้นภายในใจจึงมีไฟโทสะที่รอการะเิอยู่กองหนึ่ง หลงสุ่ยหลิวกลับมาเติมเชื้อไฟกองนี้ให้ลุกโชนมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เขามองดูหลงสุ่ยหลิวที่วางมาดโอหังอวดดีที่อยู่เบื้องหน้า เย่ชิงหานหรี่ตาลงมองพร้อมกับครุ่นคิดอยู่ภายในใจว่าจะตบไอ้ตัวโง่งมนี่ให้าเ็สาหัสไปภายในฝ่ามือเดียวเลยดีหรือไม่?
“เ้าหนูน้อยหาน อย่าซ้อมมันจนพิการเล่า และอย่าเปิดเผยวิชาต่อสู้ร่างอสูรออกมา อย่างอื่นเล่นสนุกได้เต็มที่”
ในตอนนี้เอง เสียงที่คุ้นหูดังขึ้นที่ข้างหูของเย่ชิงหาน คิ้วของเขากระตุกขึ้นทีหนึ่ง หันมองออกไปดูทางด้านซ้าย เขารู้ว่าเป็เสียงของเย่ชิงหนิวที่ส่งกระแสเสียงมา ในเมื่อมีตาแก่อยู่ด้วยและอนุญาตแล้ว เขาไม่ต้องพะวงอะไรอีกต่อไป จากนั้นจึงร้องคำรามออกมา
“รวมร่างสัตว์อสูร!”
เงาสีดำเลือนรางสายหนึ่งปรากฏขึ้นมาตรงบริเวณตำแหน่งหน้าอกของเย่ชิงหาน ชั่วพริบตาเดียวจากนั้นมันก็มุดหายกลับเข้าไปภายในร่างของเขาดังเดิม เมื่อรอยสักสีดำรูปอสูรกลืนิญญาขนาดเล็กปรากฏขึ้นมาบริเวณตำแหน่งหางตาของเขา ทันใดนั้นพลังอำนาจมหาศาลที่แสดงออกมาได้ปกคลุมไปทั่วทั้งหอสี่ทิศ อากาศในที่แห่งนี้ราวกับถูกแช่แข็งไปด้วยอย่างไรอย่างนั้น
“เอ่ออ...!”
หลงสุ่ยหลิวมองดูเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าอย่างประหลาดใจ ทำไมเด็กหนุ่มคนนี้เมื่อรวมร่างกับสัตว์อสูรแล้วพลังอำนาจที่ปลดปล่อยออกมาถึงได้รุนแรงน่ากลัวขนาดนี้ เขาไม่กล้าประมาทอวดเก่งอีกต่อไปรีบเร่งโคจรพลังปราณรบขึ้น จากนั้นปล่อยพลังปราณรบสีเหลืองออกมาห่อหุ้มร่างกายเอาไว้
“สัตว์อสูรคุณภาพระดับแปด?”
เฟิงจื่อและฮวาเฉ่าต่างมองตากัน ทั้งคู่เห็นได้ถึงอาการตื่นตะลึงที่ปรากฏอยู่ภายในดวงตาของอีกฝ่าย ตระกูลเย่เก็บซ่อนได้มิดชิดเสียจริง แค่มองดูพลังอำนาจที่แผ่ออกมาหลังจากรวมร่างก็พอคาดเดาได้ว่าเป็สัตว์อสูรคุณภาพระดับแปด ส่วนอสูรศักดิ์สิทธิ์พวกเขาไม่คิดไปไกลถึงขนาดนั้น เพราะระยะเวลาผ่านมาเป็พันปีเพิ่งจะมีปรากฏมาแค่เพียงตัวเดียว อีกไม่นานตระกูลเย่คงได้มียอดฝีมือที่แข็งแกร่งเพิ่มขึ้นมาอีกคนเป็แน่แท้
“ตาแก่หนิว! พวกเ้านี่ช่างเก็บซ่อนได้อย่างมิดชิดเสียจริงๆ เด็กหนุ่มอายุยังน้อยที่มีทั้งสัตว์อสูรคุณภาพระดับแปดและพลังฝีมือระดับขั้นแรกขอบเขตเยี่ยมยุทธ์ อนาคตภายภาคหน้าไม่อาจจะคาดเดาได้เลยจริงๆ!” ปากประตูทางเข้าหอสามทิศที่อยู่ไม่ไกลออกไป หนึ่งในชายแก่สองคนแห่งตระกูลเฟิงและตระกูลฮวาที่เอาแต่หลับตาเงียบๆ อยู่ตลอด ในที่สุดก็เปิดปากพูดขึ้น ภายในดวงตาเต็มไปด้วยความตื่นตะลึงและความอิจฉา สัตว์อสูรคุณภาพระดับแปดกับพร์ที่ไม่เลวของเด็กหนุ่มคนนี้ สามารถทำนายได้เลยว่า ต่อไปตระกูลเย่จะต้องมียอดฝีมือที่แข็งแกร่งเพิ่มขึ้นมาอีกคนเป็แน่
“แหะๆ!” เย่ชิงหนิวหัวเราะแหะๆ ขึ้นสองครั้ง ลอบพูดออกมาภายในใจ เป็พวกข้าที่เก็บซ่อนมิดชิดที่ไหนกันเล่า เป็เ้าเด็กน้อยคนนี้ที่เก็บซ่อนได้มิดชิดเองต่างหาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งโคตรจะมิดชิด ไม่เจอกันแค่เดือนเดียวกลับบรรลุถึงระดับขอบเขตเยี่ยมยุทธ์แล้ว ดูท่าท่านหัวหน้าตระกูลจะพูดไม่ผิด เ้าเด็กคนนี้มีความลับที่เก็บซ่อนเอาไว้อย่างมากมาย
เสว่เฟยที่ยืนเงียบๆ ข้างๆ ใบหน้ายิ่งดำคล้ำขึ้นไปอีกหลายส่วน กำลังครุ่นคิดว่าเื่ราวในวันนี้จะทำให้จบลงด้วยดีได้อย่างไร? ดูท่าทางของทั้งตาแก่หนิวและเ้าเด็กนั่นแล้วคิดว่าคงต้องควักจ่ายเพิ่มอย่างหนักเป็แน่
เย่ชิงหานไม่สามารถรู้ได้ว่าในที่ที่ไม่ห่างไกลออกไปจะมีตาแก่สี่คนแอบมองสังเกตการณ์เขาอยู่ เขารู้แค่เพียงว่าจะต้องตบนายน้อยหลงที่อยู่ตรงหน้าให้ลงไปนอนกองกับพื้นอย่างสาสมให้ได้ ถึงจะทำให้ไฟโทสะที่สุมอยู่ในอกบรรเทาลงได้
ครั้นแล้วเขาจึงลงมือ รู้สึกได้ถึงพลังมหาศาลจากภายในร่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ความมั่นใจเพิ่มขึ้นอย่างเต็มเปี่ยม เขาปล่อยหมัดโจมตีออกไปยังหลงสุ่ยหลิวที่ตอนนี้ร่างห่อหุ้มด้วยพลังปราณรบสีเหลือง ไม่มีกระบวนท่าพิเศษใดๆ และไม่เหมือนผู้มีพลังฝีมือในระดับขอบเขตเยี่ยมยุทธ์คนอื่นๆ ที่ปลดปล่อยพลังปราณรบออกมาภายนอกเปลี่ยนเป็ศาสตราชนิดต่างๆ เนื่องจากว่าเขาเพิ่งจะเหยียบย่างเข้ามาสู่ระดับขอบเขตเยี่ยมยุทธ์จึงยังไม่รู้วิธีการเ่าั้ เขาทำได้เพียงแค่โคจรพลังปราณรบทั่วทั้งร่างขึ้น จากนั้นปล่อยหมัดพุ่งตรงออกไปยังด้านหน้าราวกับแรดนอเดียวที่กำลังติดสัตว์ ทุบลงไปยังพลังปราณรบสีเหลืองนั้นอย่างป่าเถื่อน
ท่าร่างเย่ชิงหานที่รวดเร็วดุจสายลมบวกกับพลังปราณรบมหาศาลที่อัดแน่อยู่ภายในหมัดซ้าย ทำให้อุณหภูมิในอากาศร้อนผ่าวขึ้นมาในทันที หมัดซ้ายสีทองของเย่ชิงหานทุบลงไปยังพลังปราณรบสีเหลืองที่ห่อหุ้มร่างของหลงสุ่ยหลิวบังเกิดเสียงะเิขึ้นอย่างรุนแรง เกือบจะทำให้อากาศลุกไหม้ขึ้น
ปัง!
ไม่มีอะไรนอกเหนือจากที่คาดคิดไว้ พลังปราณรบสีเหลืองที่ห่อหุ้มอยู่แหลกละเอียดไปในทันที หลงสุ่ยหลิวราวกับะุปืนใหญ่ที่ถูกยิงออกไป ถูกโจมตีกระเด็นลอยปลิวไปกระแทกเข้ากับกำแพงแข็งหนาที่อยู่ด้านหลังอย่างรุนแรง จากนั้นสะท้อนกระเด็นกลับมา กลิ้งไปบนพื้นอยู่หลายตลบแล้วแน่นิ่งไปโดยที่ไม่มีใครรู้ว่าเขาสลบหมดสติไปั้แ่เมื่อไหร่
เย่ชิงหานภายนอกแม้จะมีพลังฝีมือเพียงแค่ระดับแรกขอบเขตเยี่ยมยุทธ์ แต่เนื่องจากตันเถียนที่พิเศษสุดยอดทำให้พลังปราณรบที่มีนั้นมากกว่าผู้ที่อยู่ในระดับขั้นที่สองขอบเขตเยี่ยมยุทธ์เสียอีก หลังจากที่รวมร่างกับสัตว์อสูรพลังฝีมือก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างน่ากลัวจนบรรลุถึงระดับขอบเขตนักรบ หลงสุ่ยหลิวที่ใช้พลังปราณรบแค่ระดับที่สองขอบเขตเยี่ยมยุทธ์ห่อหุ้มกาย เมื่อถูกหมัดของเย่ชิงหานััถูกก็แหลกละเอียดไปในทันที ถ้าหากไม่ใช่ว่าเย่ชิงหานดึงพลังกลับมาครึ่งหนึ่ง หลงสุ่ยหลิวป่านนี้คงถูกทุบจนกลายเป็กองเนื้อบดไปแล้ว
เอ่ออ! อ่าาา! ฮะ!
หลังจากเสียงทั้งสามดังขึ้น ที่ตามมาก็คือความเงียบงัน เฟิงจื่อที่ร่างกายกำยำราวกับขุนเขาอ้าปากค้าง สีหน้าอาการเกินจะบรรยาย แต่ไฟปรารถนาการต่อสู้ภายในดวงตานั้นลุกโชนมากยิ่งขึ้นเป็พิเศษ ฮวาเฉ่าที่งดงามราวกับกะเทยก้มหน้าลงเล็กน้อย ภายใต้ขนตางอนยาวสวยนั้นดวงตาของเขาขยับสั่นไปมาปกปิดความตื่นตะลึงที่เผยออกมา ส่วนเสว่อู๋เหินใบหน้ายังคงดำคล้ำเช่นเดิม แต่ดวงตาหยินหยางที่ข้างหนึ่งดำข้างหนึ่งเทาของเขานั้นกลับเต็มไปด้วยความหวาดผวาและความสงสัย เขาไม่เข้าใจว่าไอ้ขยะไม่กี่เดือนก่อนที่แค่สะบัดมือก็สามารถซัดให้ลอยปลิวออกไปได้ ทำไมถึงได้ก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับนี้ได้?
ส่วนเยว่เหนียงคิ้วขมวดขึ้นมาแทน มองดูนายน้อยของตระกูลเย่ที่ยืนอยู่ด้านหน้า และผู้คุ้มกันที่กำลังเดินเข้าไปหาหลงสุ่ยหลิว นางเป็กังวลเล็กน้อย หลงสุ่ยหลิวไม่ได้พาผู้คุ้มกันมามาก พามาเพียงแค่คนเดียว ผู้คุมกันของเขาเป็ชายวัยกลางคนใบหน้าค่อนข้างดำและหัวล้านนั่งอยู่เงียบๆ ไม่พูดจาใดๆ ั้แ่ที่เย่ชิงหานเดินเข้ามาชายวัยกลางคนผู้นี้ก็ยังไม่ได้ปริปากพูดสิ่งใดออกมาสักคำ ถึงขนาดว่าเมื่อสักครู่ที่เย่ชิงหานเกือบจะฆ่าหลงสุ่ยหลิวเขาก็ไม่ได้ส่งเสียงใดๆ ออกมา และไม่ได้คิดที่จะห้ามปราม เพียงแต่ตอนนี้ที่หลงสุ่ยหลิวนอนสลบหมดสติอยู่บนพื้นเขาถึงเดินออกมาอุ้มหลงสุ่ยหลิวขึ้น จากนั้นหันหน้าไปพูดกับเย่ชิงหานขึ้นประโยคหนึ่ง “ขอบคุณนายน้อยเย่ที่ยั้งมือ หลงอู่ขอตัวก่อน”
เยว่เหนียงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก นางรู้ว่าหลงอู่พูดออกมาแบบนี้คงจะไม่หาเื่อีกแน่ และนางยังรู้อีกว่าผู้คุ้มกันหัวล้านหน้าดำผู้นี้เป็ยอดฝีมือที่มีพลังฝีมืออยู่ในระดับขั้นที่สองขอบเขตาาจักรพรรดิ ถ้าหากจะหาเื่คงต้องยุ่งวุ่นวายเป็อย่างมากแน่นอน ดังนั้นนางจึงยิ้มออกมาแล้วจัดแจงให้คนพาหลงอู่ออกไปเพื่อรักษาหลงสุ่ยหลิว
“ตาแก่หนิว เด็กตระกูลเ้านี่ดุดันไม่เบาเลยนี่นา พลังเมื่อสักครู่อย่างน้อยก็ต้องเทียบได้กับระดับขอบเขตนักรบแล้ว พวกเ้าได้ของดีมาอีกแล้ว นี่มันเย่เตาคนที่สองเลยก็ว่าได้” ผู้าุโสูงสุดของตระกูลเฟิงพยักหน้าพูดออกมาพร้อมกับมองไปที่เย่ชิงหนิวอย่างอิจฉา คนระดับพวกเขามองออกว่าจังหวะสุดท้ายนั้นเย่ชิงหานยั้งมือให้
“ตาแก่หนิวเด็กคนนี้ไม่เลวจริงๆ ไอ้หนูเฉ่าตระกูลข้าไม่ใช่คู่มืออย่างแน่นอน” ชายแก่แห่งตระกูลฮวาพยักหน้าพูดออกมาอย่างเคร่งขรึม
เยว่จีพูดขึ้นด้วยหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส “พี่หนิว ขอแสดงความยินดีด้วย!”
“ไม่หรอก ไม่หรอก เด็กคนนี้จะไปเทียบกับเฟิงจื่อและฮวาเฉ่าทั้งสองคนนั้นได้อย่างไร ยังห่างไกลกันนัก” เย่ชิงหนิวส่ายหัวพูดออกมาอย่างถ่อมตัว แต่ทันใดนั้นคล้ายกับนึกอะไรขึ้นได้ จึงหันหน้ามาพูดกับเสว่เฟย “แต่ข้าคิดว่าแค่บดขยี้เสว่อู๋เหินคงไม่ยากเท่าไร เอาอย่างนี้ไหมเล่า? ให้พวกเขาสู้กันสักรอบแบบเดิมพันชีวิต สู้เสร็จไม่ว่าแพ้หรือชนะของสำหรับให้ขอทานที่เ้าเอามาข้าไม่เอาสักชิ้น แบบนี้ตกลงไหม?”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้