ชายสวมชุดขาวคนนั้นดูอายุราวๆ สามสิบสี่ปี เขามีชื่อว่าหยางเยวี่ย ด้วยมีวุฒิภาวะมากพอและเขาก็ไม่อยากไปจากสำนักเทพอัคคี จึงผ่านเกณฑ์ในการเป็ผู้ดูแล เขาดูแลพื้นที่รอบรัศมีห้าสิบลี้ตรงนี้ เมื่อครู่ซุนอี้กับิอวี่ต่อสู้กันจนเกิดเสียงสนั่นหวั่นไหว หยางเยวี่ยก็เลยรีบมาดูและชักกระบี่ขัดขวางการโจมตีที่รุนแรงของซุนอี้เอาไว้
ิอวี่ยืนอยู่ด้านหลังของหยางเยวี่ย สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เขาััมันได้ทุกอย่าง
ถึงแม้หยางเยวี่ยจะตวัดกระบี่แบบธรรมดาและเรียบง่าย ไม่ได้มีลมปราณอะไรภายใน แต่กระบี่นั้นกลับต้านหอกที่ดุดันของซุนอี้เอาไว้ได้
ซุนอี้เป็ผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่สาม หยางเยวี่ยสามารถขวางกระบวนท่าสังหารของซุนอี้เอาไว้ได้ นั่นหมายความว่าหยางเยวี่ยนั้นแข็งแกร่งกว่า
ิอวี่เปิดััิญญาขึ้นแล้วก็จ้องไปที่หยางเยวี่ย เขาพบว่า ที่หัวใจ ตับ ม้าม และปอดทั้งสองข้างต่างมีแสงเทวะกะพริบอยู่
ิอวี่รู้ดีว่ามันยังไม่ใช่เทวะสองดวงที่แยกออกจากกัน ปอดมีสองข้างและเทวะแยกเป็สองส่วน แต่ละส่วนอยู่บริเวณกลีบปอดทั้งสองข้าง เรียกรวมกันว่าปอดเทวะ
นั่นก็หมายความว่า ผู้กล้าที่ชื่อหยางเยวี่ยนั้น มีขอบเขตอมฤตขั้นที่สี่!
ั้แ่เข้ามาที่สายเลี่ยนเหยียน ิอวี่ได้เจอสุดยอดผู้กล้าจำนวนมาก พวกเขาแต่ละคนล้วนแต่มีอาณาจักรพลังที่น่าทึ่งอย่างมาก ต่อให้เป็ิอวี่ก็ยังทำได้แค่เงยหน้ามอง
“เ้ากำลังถามว่าข้ากำลังทำอะไรอยู่อย่างนั้นหรือ?”
ในเวลานี้ซุนอี้ก็ค่อยๆ เดินมาหาหยางเยวี่ยพร้อมกับจ้องไปที่ิอวี่ จากนั้นก็ชี้ไปที่ิอวี่แล้วพูดว่า “เ้าบ้านี่มันทำร้ายน้องชายข้า ตามกฎของสำนักเทพอัคคี ศิษย์ห้ามเข่นฆ่ากันเอง แต่ิอวี่ไม่เห็นกฎอยู่ในสายตา วันนี้ข้าจะสั่งสอนเขา เ้าหลีกไป”
ถึงแม้หยางเยวี่ยจะมีพลังฝีมือเหนือกว่าซุนอี้ แต่ซุนอี้ก็ไม่ได้กลัวหยางเยวี่ยเลย เพราะอาจารย์ของเขานั้นเป็หนึ่งในสามผู้าุโใหญ่ที่แข็งแกร่งที่สุด ซุนอี้ไม่จำเป็ต้องไว้อีกฝ่ายเลย
หยางเยวี่ยขมวดคิ้ว เขาหันไปมองิอวี่ และสายตาก็มองไปที่ซุนเหิงที่กำลังคลานขึ้นมาจากแม่น้ำด้านหลังิอวี่ เขากำลังนั่งหายใจหอบและสีหน้าซีดเซียวอยู่
ซุนเหิงเป็คนกลัวเสียหน้ามาก ถึงแม้รู้ว่าตัวเองาเ็หนักแต่ก็ยังกัดฟันลุกขึ้นมา แล้วทำท่าเหมือนไม่เป็ไร เขายื่นมือขวาออกมาแล้วชี้ไปที่ิอวี่แล้วพูดประชดว่า
“ ... ถึงแม้พลังความสามารถของข้าจะสู้เ้าไม่ได้ ... แต่ก็ไม่ใช่คนที่เ้าจะมารังแกได้ ... การโจมตีเมื่อครู่มันก็แค่ ... พรวด! … ”
พูดยังไม่ทันจบ ซุนเหิงก็กระอักเืออกมาจนเปื้อนเสื้อผ้าไปหมด ...
เมื่อครู่เขาพยายามคุมตัวเองไม่ให้กระอักเืออกมา แต่ยิ่งต้องกดแล้วยังต้องพูด พอซุนเหิงพูดได้ไม่เท่าไร ก้อนเืที่สะสมอยู่ภายในก็ถูกกระตุ้นจนอ้วกออกมาทั้งหมด
เป็ภาพที่แย่มากถึงมากที่สุด สภาพดูไม่ได้เลย
เดิมทุกคนคิดว่าคงไม่ได้แย่มากเท่าไร แต่ซุนเหิงกระอักเืออกมาแบบนี้ มันทำให้เขาขายหน้ากว่าเดิมอีก!
“อ้วกเืออกมาให้หมด แล้วพูดจาให้มันดีๆ ” ิอวี่เหลือบมองไปที่ซุนเหิงด้วยความดูถูก
“เ้า! … ข้า ... อ๊า!”
ซุนเหิงโกรธจนหน้าดำหน้าแดง อีกทั้งเขายังรู้สึกเ็ปออกมาจากภายในร่างกาย สายตาของเขาดำมืดก่อนจะสลบไป โดยนอนกองกับพื้นเหมือนกับหมาตัวหนึ่งที่ตายอยู่ในแม่น้ำ
ิอวี่มองไปที่ซุนเหิงแล้วก็ส่ายหน้า เ้าบ้านี่าเ็หนักขนาดนี้แล้วยังจะมาตบหน้าตัวเองอีก สุดท้ายต้องมีสภาพแบบนี้ น่าขำชะมัดเลย
ซุนอี้เห็นซุนเหิงสภาพอนาถมากก็ยิ่งโกรธกว่าเดิม เขาหันไปพูดเสียงเข้มกับหยางเยวี่ยว่า “เ้าเองก็เห็นว่าิอวี่โเี้แค่ไหน เพื่อน้องชายข้า เพื่อไม่ให้คนแบบนี้ไปทำกับคนร่วมสำนักคนอื่นอีก วันนี้ข้าจะตัดแขนของเ้าเดรฉานนี่”
หยางเยวี่ยได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้ว แล้วมองไปที่ิอวี่แล้วถามด้วยเสียงเข้มว่า “จริงหรือเปล่า?”
“เหอะๆ ”
ิอวี่หันกลับมายิ้มประชดแล้วพูดว่า “หากไม่นับว่าพวกเขาสองคนทำอะไรที่น่าขยะแขยงกับข้าก่อน ก็มีเื่นี้จริง”
“หือ?” หยางเยวี่ยรู้สึกแปลกใจ ิอวี่เหมือนมีลับลมคมนัย คำพูดเต็มไปด้วยการประชดประชัน
“เ้าหมายความว่าอย่างไร?” ซุนอี้ปล่อยพลังขอบเขตอมฤตขั้นที่สามข่มิอวี่ แล้วชี้หน้า “ทำร้ายน้องชายข้าขนาดนี้แล้วยังกล้าแก้ตัวอีก ข้าจะฉีกปากเ้าเดี๋ยวนี้เลย”
“เ้ามันคนเลว ฟ้องก่อนยังมีหน้ามาพูดถึงคุณธรรมอีก เ้าไม่อายบ้างเลยหรือไง!”
ซุนอี้ถูกด่าแล้วด่าเล่า ต่อให้เป็ก้อนหินก็ยังต้องโกรธ อีกทั้งยังเป็ผู้น้อยที่พลังฝีมืออ่อนกว่า ทำให้ความโกรธของเข้ามันเพิ่มจนถึงขีดสุด
“เขาเป็ศิษย์พี่ของเ้านะ พูดจาให้มันดีๆ ”
หยางเยวี่ยไม่อยากเห็นทั้งสองคนโต้เถียงกัน เขาเหลือบไปตำหนิิอวี่เล็กน้อย
มีอะไร พูดกันดีๆ อย่างนั้นหรือ?
เมื่อครู่ิอวี่ถูกซุนอี้ต่อว่า หยางเยวี่ยไม่พูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียว แต่ตอนนี้กลับต่อว่าเขาให้เขาพูดจาดีๆ ? ความยุติธรรมอยู่ที่ไหนกัน
“ได้ จะให้ข้าพูดจาดีๆ ก็ได้ อย่างนั้นฟังให้ดีนะ”
ิอวี่ไม่โกรธแต่กลับยิ้ม แล้วพูดอย่างเ็าว่า “ก่อนหน้านี้ซุนเหิงบุกเข้าไปที่หอจิ้งโม่ของข้า ให้ข้าออกมา จากนั้นก็ให้ศิษย์ขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่งหกคนที่เขาพามาด้วย ไม่พูดไม่จาก็ลงมือกับข้าเลย ดังนั้นข้าก็เลยลงมือกับพวกเขา”
“จากนั้นซุนอี้ก็ปรากฏตัวขึ้น อ้างเหตุผลว่าข้าทำร้ายน้องชายของเขา ลงมือเล่นงานข้า จะตัดแขนขวาของข้า และเริ่มลงมือกับข้าก่อนอีกครั้ง ตอนนี้ข้าถึงได้รู้ว่าที่จริงการโจมตีของซุนเหิงมันก็เป็แค่กลลวง เขาก็แค่อยากใช้เหตุการณ์ที่ข้าลงมือทำร้ายเขาเป็ข้ออ้าง เพื่อซุนอี้จะได้ลงมือกับข้าอย่างมีเหตุมีผล”
ซุนอี้พูดแทรกิอวี่ขึ้นมา เขาตะคอกกลับมาว่า “เ้าทำร้ายน้องชายข้า เื่นี้คือเื่จริง เ้ายังกล้ากลับกลอกอีกเหรอเ้าสวะ!”
“ข้าว่าสมองเ้านี่คงมีปัญหา”
ิอวี่จ้องไปที่ซุนอี้ด้วยสายตาที่ดุดัน แล้วพูดไปอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า “ซุนเหิงพาคนมาเล่นงานข้าก่อนชัดๆ ถ้าเปลี่ยนเป็ตอนนั้นซุนเหิงทำให้ข้าาเ็ เ้าจะว่าอย่างไร? หรือว่าข้าสมควรที่จะถูกเ้าเล่นงานจนาเ็ ถูกด่าถูกกระทืบจนตอบโต้ไม่ได้ ถึงจะเป็คุณธรรมที่เ้าหวังจะได้เห็นกัน?”
“เ้า!”
ซุนอี้จ้องิอวี่ตาเขม็ง แต่ก็เถียงไม่ออกแม้แต่คำเดียว
เขานับถือเ้าสวะคนนี้จริงๆ ความสามารถอ่อนกว่าเขาตั้งแสนแปดหมื่นเท่า แต่กลับปากคอเราะร้าย อาศัยที่ตัวเองก็มีความสามารถพอประมาณ มีความฉลาด ก็อวดดีไม่มีใครเกินได้!
หยางเยวี่ยได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม เดิมเขาคิดว่าอยากจะแก้ไขเื่นี้ให้จบไปง่ายๆ แต่คิดไม่ถึงว่าจะทะเลาะกันเดือดขนาดนี้
“ที่เ้าพูดมาทั้งหมดมีหลักฐานหรือเปล่า?” หยางเยวี่ยถาม
ิอวี่ขมวดคิ้ว เขาเล่าความจริงออกไปจนหมดแล้ว หยางเยวี่ยเองก็เห็นทุกอย่างชัดแล้ว แต่ยังถามคำถามแบบนี้ออกมาอีก นั่นก็หมายความว่า หยางเยวี่ยไม่คิดจะช่วยเขาเลย
เห็นิอวี่มองมาที่เขาแล้วไม่ได้พูดอะไรหยางเยวี่ยก็ตวัดมือ ลมปราณพุ่งไปที่ตัวของิอวี่ จากนั้นก็ดึงเอาบัตรแก้วแห่งเปลวเพลิงออกมาจากเกราะแขนเฮยจินของิอวี่แล้วโยนให้กับซุนอี้
“เื่นี้มันไม่มีอะไรพิสูจน์ได้ แต่จากผลที่เกิดขึ้น ิอวี่ทำให้ซุนเหิงาเ็หนักจริง ลงโทษปรับค่าผลงานสองร้อยแต้มถือเป็ค่าชดเชย หลังจากนี้ถ้าเกิดเื่แบบนี้อีก จะลงโทษสถานหนัก”
หยางเยวี่ยพูดอย่างจริงจังว่า “ซุนอี้ โอนค่าผลงานสองร้อยแต้มเข้าบัตรแก้วแห่งเปลวเพลิงของเ้าซะ แล้วจบแค่นี้”
“คิดจะใช้ค่าผลงานแค่สองร้อยแต้มไล่ข้าไปอย่างนั้นหรือ?” ซุนอี้จ้องไปที่หยางเยวี่ย
“ไป”
ท่าทางของหยางเยวี่ยนิ่งลง เขาพูดแค่คำเดียว จากนั้นก็เดินลมปราณและปล่อยออกมา น้ำในแม่น้ำใต้เท้าของเขานั้นเริ่มอยู่ไม่นิ่งแล้ว
ซุนอี้พองแก้มของเขาออก เขารู้ดีว่าหากหยางเยวี่ยยังอยู่ตรงนี้ วันนี้เขาไม่มีทางแตะต้องิอวี่ได้แน่
ถึงแม้ฐานะและตำแหน่งของเขานั้นสูง แต่ก็ยังไม่ถึงระดับที่จะทำอะไรตามใจได้ทั้งหมดอย่างไม่เกรงกลัวอะไร
จากนั้นเขาก็ทำการโอนค่าผลงานสองร้อยแต้มจากบัตรของิอวี่มา แล้วก็โยนบัตรแก้วแห่งเปลวเพลิงคืนให้ิอวี่ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเ็าว่า “ข้าขอเตือนเ้า ระวังตัวให้ดี อย่าให้ข้าเจอเ้าอีกนะ ไม่อย่างนั้นข้าจะตัดเอ็นแขนของเ้า แล้วให้เ้าคุกเข่ายอมรับผิดต่อหน้าข้าแน่!”
พูดจบ ซุนอี้ก็จ้องมาทีหนึ่งแล้วก็หายไปหาซุนเหิงก่อนจะแบกเขาหายไปจากแม่น้ำ ศิษย์ที่าเ็ห้าหกคนก่อนหน้านี้ก็ไปด้วยเหมือนกัน
ในเวลานี้ บนแม่น้ำก็เหลือแค่ิอวี่กับหยางเยวี่ยสองคนเท่านั้น
เมื่อครู่ิอวี่มองดูหยางเยวี่ยทำทุกสิ่งทุกอย่างโดยไม่ได้ขัดขวาง แล้วก็ไม่ได้คัดค้าน
เพราะเขารู้ดีว่าต่อให้ขัดขวางไป ก็ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงอะไรได้
“ข้าหวังว่า เ้าจะเข้าใจความหวังดีของข้านะ”
หยางเยวี่ยมองมาที่ิอวี่แล้วพูดเสียงเข้มว่า “ถึงแม้เื่นี้ซุนเหิงจะมาหาเื่ก่อนจริง แต่ว่าอาจารย์ของเขากับซ่งหยวนหยวนอยู่ในระดับเดียวกัน ด้วยความสามารถขอบเขตอมฤตขั้นที่สามของซุนอี้ทำให้เ้าาเ็ ถึงเวลาเขาเองก็แก้ต่างอะไรไปไม่ได้อยู่ดี”
ิอวี่กลับหลับตาลง ขมวดคิ้วหนักมาก กำหมัดแน่น แต่ไม่ได้พูดอะไร
เห็นิอวี่ยังไม่ยอม หยางเยวี่ยก็พูดต่ออีกว่า “การที่ข้าจัดการไปแบบนั้น ถึงแม้จะทำให้เ้าเสียค่าผลงานไปสองร้อยแต้ม แต่ก็รักษาแขนของเ้าเอาไว้ได้นะ บางครั้ง อย่าเป็คนตรงเกินไป อย่าใช้อารมณ์ให้มาก เพราะสุดท้ายคนที่จะเจ็บหนักอาจจะเป็ตัวเ้าเองก็ได้”
“เ้ายังเด็ก เส้นทางในสายเลี่ยนเหยียนของเ้ามันยังอีกยาวนาน วันนี้สิ่งที่ข้าพูดกับเ้า ข้าไม่หวังให้เ้าเข้าใจมันทั้งหมด แต่หวังว่าเ้าจะคิดได้นะ”
“ข้าเข้าใจ”
ิอวี่ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา สายตาของเขาเต็มไปด้วยการเยาะเย้ย “ทำไมข้าจะไม่เข้าใจล่ะ?”
เพราะคนพวกนั้นแข็งแกร่ง ต่อให้พวกเขาจะทำผิดหลักคุณธรรมก็สามารถเหยียบมาบนหัวของเขาได้ ต่อให้พวกเขาทำผิดก็มีคนหาวิธีการจัดการให้กับพวกเขา ต่อให้พวกเขาอวดดี โอหัง ก็มีคนบอกว่าพวกเขานั้นสง่างาม!
เขารู้ว่าต่อให้เขากลายเป็ผู้แข็งแกร่งก็ไม่มีทางไปทำเื่ที่ผิดคุณธรรมแบบนั้นแน่ แต่หากเขาไม่กลายเป็ผู้แข็งแกร่งเขาจะพูดความยุติธรรมในใจของเขาออกมาได้อย่างไร และจะปกป้องความยุติธรรมในใจของเขาได้อย่างไรในตอนที่เขาถูกคุกคามและได้รับความอัปยศกันล่ะ?
ซุนอี้แข็งแกร่งมาก ิอวี่ใช้กระบวนท่าสังหารที่แข็งแกร่งที่สุดไปแล้วแต่ก็ทำอะไรซุนอี้ไม่ได้เลย ได้ยินว่าอาจารย์ของเขาอยู่ในระดับเดียวกับซ่งหยวนหยวน คิดว่าซุนอี้น่าจะยังมีทักษะการต่อสู้กับพลังสังหารอื่นอีกแน่ หากตอนนี้ิอวี่เจอซุนอี้อีก เขาจะต้องาเ็สาหัสไม่มีชิ้นดีแน่ และเขาก็ตอบโต้อะไรไม่ได้ด้วย
พูดได้เลยว่า ิอวี่กับซุนอี้นั้นห่างชั้นกันมาก แต่ิอวี่กลับรู้สึกมีความมั่นใจในการรับมือกับเส้นทางการเดินทางที่อันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้น!
บางสิ่งบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในความทรงจำของเขานั้น เขาจำเป็ต้องเข้าใจมันจริงๆ แล้ว!
