ชายชู้เก็บมีดสั้นที่หล่นบนพื้น ก่อนทำท่าจะแทงเข้าข้างหลังนาง ชั่วเสี้ยวปานสายฟ้าแลบนั้น เสิ่นม่านพลันคว้าเข้าที่หลังมือของเขาไว้แล้วบิดอย่างแรง
“โอ๊ย!” ชายชู้เกือบเป็ลมหมดสติไป
เสียงที่เยือกเย็นของเสิ่นม่านดังขึ้นตรงเหนือศีรษะ “อยู่เฉยๆ มิเช่นนั้นเ้าได้เละเป็โจ๊กแน่”
เขาจ้องนางด้วยสายตาถมึงทึง ท่ามกลางความืด ชายชู้มองเห็นเพียงรูปร่างอวบใหญ่ของนาง ชั่วขณะนั้นเขาเืขึ้นหน้าจึงพ่นคำด่าออกมา
“นาง หมู อ้วน!”
“เพียะ!” เสิ่นม่านตบหน้าอย่างแรงจนเขารู้สึกวิงเวียนตาลาย
“รู้หรือไม่ว่ากระบวนท่าเมื่อครู่มีชื่อว่าอะไร? นี่คือไม้ตายป้องกันหมาป่า” เสิ่นม่านนั่งยองๆ ลงข้างเขา มือข้างหนึ่งคว้าคอเสื้อและเค้นถาม
“ค่ำมืดดึกดื่นมาทำอะไรที่บ้านข้ากันแน่? คิดจะฉวยโอกาส่ที่ข้าหลับขโมยต้าเป่าไปใช่หรือไม่?”
ชายชู้เ็ปจนได้แต่ร้องโอดโอย เขานึกไม่ถึงจริงๆ ว่าสาวชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่งจะสามารถต่อสู้จนชายร่างใหญ่เช่นเขาต้องยอมศิโรราบ
บนเตียงคั่ง ต้าเป่าตื่นขึ้นเพราะได้ยินเสียงดัง เด็กน้อยรีบปีนลงจากเตียงและมองเสิ่นม่านด้วยสีหน้าหวาดกลัว
“ท่านแม่ ท่านไม่เป็ไรใช่ไหมขอรับ?”
เสิ่นม่านโบกมือและเช็ดเืบนฝ่ามือ ดีที่มีดไม่ได้บาดลึกมาก เพียงแค่มีอาการเจ็บเล็กน้อย “แม่ไม่เป็ไร ต้าเป่า เ้าไปเรียกคนในหมู่บ้านมาที บอกว่าบ้านเรามีโจรลักเด็ก ให้พวกเขารีบมาจับโจรเร็วเข้า!”
ต้าเป่าพยักหน้าตอบรับพลันคว้ารองเท้าหญ้าฟางเปื่อยยุ่ยมาสวม จากนั้นวิ่งออกไปทางประตูอย่างเร็วรี่
เมื่อได้ยินว่าจะเรียกชาวบ้าน ชายชู้เริ่มกระวนกระวายทั้งยังดิ้นรนหมายจะหลบหนี แต่กลับถูกเสิ่นม่านตบกะโหลกศีรษะเข้าเต็มเหนี่ยว จนเขาไม่อาจแยกแยะทิศเหนือใต้ออกตกได้
“อยู่นิ่งๆ มิเช่นนั้นข้าจะเด็ดศีรษะเ้าลงมาเสีย!”
คนที่ถูกทับอยู่ด้านข้างได้แต่ส่งเสียงฮึดฮัด ทว่าเพราะคำขู่ของเสิ่นม่าน เขาจึงยอมแต่โดยดี
ต้าเป่าเรียกคนมาอย่างรวดเร็วในเวลาไม่ถึงยี่สิบนาที เสิ่นม่านเห็นแสงไฟสว่างไสวจากด้านนอกกำแพงแล้ว
ในไม่ช้า กลุ่มคนก็เดินตามต้าเป่าเข้ามาในประตู จากนั้นก็แออัดกันอยู่ในบ้านทรุดโทรมแห่งนี้
เมื่อมีคนมา เสิ่นม่านรีบเปลี่ยนท่าทีเป็คนที่ได้รับความตื่นใและหวาดกลัว รีบพุ่งออกจากห้องไปด้านนอก จากนั้นร้องห่มร้องไห้ต่อหน้าประชาชีทันที
“ผู้ใหญ่บ้าน พวกท่านมาได้เสียที! บ้านข้ามีโจรลักเด็ก เขาคิดจะฉวยโอกาส่ที่ข้าหลับมาขโมยลูกของข้าไป!” พอพูดจบ เสิ่นม่านก็โอบต้าเป่าไว้ในอ้อมกอดและส่งเสียงร่ำไห้สะอึกสะอื้น
โชคดีที่ก่อนหน้านี้ระบบเคยแสดงใบหน้าคนสำคัญในหมู่บ้านให้นางดูแล้ว นางจึงพอแยกแยะได้อย่างไม่ลำบากนักว่าคนใดคือผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งผู้าุโที่เป็ที่นับหน้าถือตาในหมู่บ้านอีกหลายคน
ทันทีที่ผู้ใหญ่บ้านเข้ามาก็ให้คนบุกเข้าห้องเพื่อจับตัวโจร
ครู่ต่อมาชายร่างใหญ่หลายคนก็ผลักตัวชายหนุ่มที่ถูกทุบตีจนใบหน้าบวมช้ำออกมา
ทุกคน “...”
นี่น่ะหรือที่บอกว่าเป็โจรลักเด็ก? ไฉนจึงถูกทุบตีจนน่วมเช่นนี้?
มุมปากของผู้ใหญ่บ้านกระตุกเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองเสิ่นม่านที่อยู่ด้านข้าง
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
เสิ่นม่านตอบตามความจริง “เขาแอบเข้าบ้านมาตอนดึกเพื่อขโมยลูกของข้า แล้วจะไม่ให้ข้าตอบโต้เลยหรือ? ยังดีที่ข้าตื่นตัวและใช้ท่อนไม้ต่อสู้กับเขา พวกท่านดูสิ นี่คือหลักฐานที่เขาทำร้ายข้า” พูดจบ นางยื่นมือขวาของตนออกมา
ผู้ร่วมเหตุการณ์ถือคบไฟส่องมองเห็นมืออวบอ้วนของนางมีาแเืไหล ชั่วขณะนั้นจึงเชื่อสนิทใจ
ทว่า พวกเขาล้วนเคยได้ยินข่าวลือมาว่าเสิ่นม่านคือพวกไม่เป็โล้เป็พาย เหตุใดวันนี้จึงดูผิดแปลกไปสักหน่อยเล่า?
ก่อนหน้านี้เวลาสองแม่ลูกคู่นี้ออกไปข้างนอก ก็มักจะมีโคลนเปื้อนหน้าลูกชายประจำ ทว่ายามนี้ผมเผ้าของทั้งสองกลับหวีเก็บเรียบแปล้ สีหน้าก็ดูแข็งแรงกระปรี้กระเปร่ากว่าเดิมมาก
ผู้ใหญ่บ้านไม่ได้คิดมาก เพราะจุดสนใจของเขาเบนไปที่ตัวโจรลักเด็กซึ่งเป็หนึ่งในบรรดาคนที่เขารู้จัก จึงอดไม่ได้ที่จะโพล่งคำถามสงสัยออกมา
“หืม? นี่มันหวังเอ้อร์โก่วที่อยู่หมู่บ้านข้างๆ มิใช่หรือ? ดึกดื่นค่อนคืนมาปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไรกัน?” เสียงของเขาดึงดูดความสนใจของทุกคน
คนละแวกนี้ต่างก็รู้ดีว่าในหมู่บ้านสุ่ยหนิวมีนักเลงคนหนึ่งชื่อหวังเอ้อร์โก่ว ขึ้นชื่อเื่ความเ้าเล่ห์คดโกง อายุสามสิบกว่าแต่ยังไม่ได้แต่งงานมีครอบครัว กลางดึกเช่นนี้ เหตุใดจึงวิ่งโร่มาขโมยเด็กในบ้านเสิ่นม่านได้?
ส่วนอีกด้าน หวังเอ้อร์โก่วกำลังถูกคนจับมัดตัว สองมือถูกมัดไว้อย่างแ่า ดวงตาเขียวช้ำของเขากลอกไปมา หวังเอ้อร์โก่วชำเลืองมองไปทางบ้านข้างๆ ไฟด้านนั้นสว่างแล้ว
ดูท่าว่านางโจวเองก็ตื่นแล้ว ตอนนี้คงกำลังแอบฟังอยู่ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เขาไม่อาจลากนางโจวเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยได้ ถึงอย่างไรตอนนี้นางโจวยังถือว่าเป็สะใภ้สกุลเสิ่น การยั่วยวนหญิงที่มีสามี หากถูกรู้เข้า เขาคงถูกจับไปแห่ประจานรอบเมืองเป็แน่
เขาเงยหน้าขึ้นเถียงคอเป็เอ็น “โจรลักเด็กอะไรกัน? ข้าไม่ใช่โจรลักเด็กนะ! เสิ่นม่านเหนียง เ้าต่างหากที่ยั่วยวนข้าก่อน ตอนนี้กลับมาเป็ฝ่ายฟ้องข้าเช่นนั้นหรือ?”
“หืม? เ้าพูดจาเพ้อเจ้ออะไรกัน?” เสิ่นม่านไม่ตอบสนอง สมองพลันสับสนอยู่ครู่หนึ่ง
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของนาง หวังเอ้อร์โก่วก็รีบจู่โจมซ้ำ “พวกท่านอย่าไปฟังนางพูดไร้สาระ! ข้าไม่ได้คิดจะขโมยลูกชายของนาง!”
“นางต่างหากที่นัดให้ข้าแอบลอบมาหาเอง!”
“ใครจะรู้ว่าจู่ๆ นางกลับมาขอเงินข้าดื้อๆ! พอข้าไม่มี นางก็ทุบตีทำร้ายข้า แล้วยังบอกว่าข้าคือโจรลักเด็ก! พวกท่านให้ความเป็ธรรมกับข้าด้วยเถิด ข้าถูกปรักปรำ!”
ผู้ใหญ่บ้านขมวดคิ้วและรับรู้ได้ทันทีว่าเื่นี้ไม่ง่ายดายอย่างที่เห็น ชื่อเสียงของเสิ่นม่านเป็เช่นไร เกรงว่าทั่วทั้งหมู่บ้านต่างก็รู้ดีอยู่แก่ใจ
เป็สาวเป็นางแต่กลับท้องก่อนแต่ง สตรีเช่นนี้เดิมทีล้วนต้องถูกขับออกนอกหมู่บ้านไปแล้ว ตอนนั้นหากไม่ใช่เพราะพ่อแม่ของนางพูดจาหว่านล้อมโดยชักแม่น้ำทั้งห้า ผู้ใหญ่บ้านคงไม่ใจอ่อนและปล่อยให้สองแม่ลูกอยู่ต่อ
หลายปีที่ผ่านมา หลี่เถี่ยโถวจึงถูกผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านอื่นหัวเราะเยาะเพราะเสิ่นม่านมาไม่น้อย
หลี่เถี่ยโถวสีหน้าบึ้งตึงเอ่ยถามเสิ่นม่าน “ที่เขาพูดคือความจริงหรือ?”
มารดามันสิ นี่ใส่ร้ายป้ายสีกันชัดๆ! นางรีบส่ายหน้าและอดกลั้นความวู่วามที่จะเข้าไปชกหน้าหวังเอ้อร์โก่วเอาไว้ จากนั้นปฏิเสธทันใด
“ไม่! ข้าไม่ได้ทำเช่นนั้น! อย่าพูดจามั่วซั่วนะ!”
“พวกท่านไม่ลองมองดูสภาพของเขาก่อนว่าเป็เช่นไร? บอกว่าข้ายั่วยวนเขา นี่เท่ากับเป็การดูิ่สายตาในการมองชายรูปงามของข้าอย่างร้ายแรง!”
ชายผู้นี้ท่าทางกักขฬะแถมยังตัวเตี้ยม่อต้อ แม้ว่าตอนนี้เสิ่นม่านจะดูเหมือนหมู แต่หากชายบนโลกตายสูญพันธุ์ไปหมด นางก็ยินดีโกนผมบวชชีบนเขา ไม่มีทางไปขลุกกับเ้านี่เด็ดขาด!
ล้อเล่นอะไรกัน! รสนิยมของนางไม่ได้ดุเด็ดเท่านางโจวสักหน่อย!
ทว่าคำพูดนี้ของนางกลับนำมาซึ่งความดูแคลนของทุกคน สตรีที่ไม่รักนวลสงวนตัว คนในหมู่บ้านไหนเลยจะให้เกียรติ แล้วนี่นางยังกล้ารังเกียจหวังเอ้อร์โก่วอีกหรือ?
มีคนมาชอบก็ถือว่าบุญโขแล้ว!
เห็นได้ชัดว่าผู้ใหญ่บ้านเองก็ไม่ได้ให้น้ำหนักกับคำพูดของนางเช่นกัน “คืนนี้ข้าจะขังเ้าสองคนไว้ในหอบรรพชนก่อน ส่วนที่ว่าพวกเ้าสองคนล่วงประเวณีกันหรือไม่ รอพรุ่งนี้เช้าส่งไปยังที่ว่าการ มอบให้นายอำเภอเป็ผู้ไต่สวนเอง”
หลี่เถี่ยโถวปรายตามองเสิ่นม่านอย่างเ็า จากนั้นส่งสัญญาณผ่านทางสายตาให้หลายคนในนั้น ชายสองสามคนที่อยู่หมู่บ้านเดียวกันเดินหน้าเข้ามาและคุมตัวทั้งสองไปทางหอบรรพชน
เสิ่นม่านใจแป้ว ดูจากสภาพการณ์ในยามนี้ ผู้ใหญ่บ้านคงจะถอดใจกับนางแล้วเป็แน่
สตรีที่ชื่อเสียงย่ำแย่ การปล่อยไว้ในหมู่บ้านก็รังแต่จะเป็หนามทิ่มมือเปล่าๆ ผู้ใหญ่บ้าน้าโยนนางไปที่อำเภอ หากว่านางเจอกับนายอำเภอที่ไม่แยกแยะผิดชอบชั่วดี เดาว่าชีวิตของนางคงจบเห่ที่ที่ว่าการแน่
เสิ่นม่านบังคับให้ตนเองสงบสติ ต้าเป่ากอดคอของนางจากด้านข้างไม่ยอมปล่อย เขาร้องไห้สะอึกสะอื้น
“ท่านแม่! ท่านแม่ของข้าไม่ได้ล่วงประเวณี! นางไม่ได้ทำ!”
เด็กอายุยังน้อย แต่กลับแผดเสียงดังลั่น เสิ่นม่านเงยหน้าขึ้นมองเห็นไฟจากบ้านนางโจวสว่างโร่ จึงฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้
-----