ภายในห้อง คนสองคนบนเตียงใยิ่งกว่า พริบตาเดียวคนกลุ่มใหญ่ก็กรูกันเข้ามา จินเซียงอวี้อับอายจนเกิดความคิดอยากฆ่าตัวตาย
“เกิด เกิดอะไรขึ้น?” ซูฮุ่ยหยาถามด้วยเสียงติดขัด
เมื่อนางเห็นร่างของชายที่อยู่ในห้องชัดเจน ก็มีเพียงความคิดเดียวที่แล่นเข้ามาในหัวคือ อยากหันหลังหนี!
ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเป็เช่นนั้น!
ซูฮุ่ยหยากลัวพี่ชายคนโตมาก นางรู้สึกว่าอาจถูกเขาเล่นงานจนตายได้ทุกเมื่อ
เขาไม่เคยเห็นแก่ความสัมพันธ์ทางสายเืแม้แต่น้อย เป็คนที่หากไม่ถึงจุดหมายก็จะไม่ยอมลดละ
นางรู้ว่าเสด็จแม่ของตนกำลังวางใจหว่านล้อมรองเสนาบดีกรมคลังเพื่อสู่ขอบุตรสาวของเขา
นางเสียใจที่ไม่ควรชักชวนให้ทุกคนตามมาดู หากว่ามีเพียงนางที่ ‘บังเอิญ’ มาเจอ พี่ชายใหญ่อาจจะเหลือทางรอดให้นางบ้าง
เพียงแต่ตอนนี้ท่ามกลางสายตาที่ตื่นใของทุกคน เสื้อผ้าของจินเซียงอวี้กับซูจื่อหงนั้นอยู่ในสภาพไม่เรียบร้อย...
“ข้าจะฆ่าเ้า” จินเซียงอวี้จับผ้าห่มไว้แน่น แล้วกัดฟันกรอดจนแทบหัก
ซูจื่อหงเหลือบมองไปยังกลุ่มคนที่ประตูอย่างเ็า “จะให้ข้าถอดเสื้อผ้าออกจนหมด พวกเ้าจึงจะเห็นชัดเจนหรือ?”
หญิงสาวหน้าแดงและรีบวิ่งออกไป ส่วนชายหนุ่มที่เหลือก็ก้มหน้าเขินอายและรีบจากไป
“เมื่อครู่คือจินเซียงอวี้จริงหรือ?” องค์หญิงสิบเอ็ดกล่าว
องค์หญิงแปดของจักรพรรดิตอบว่า “ใช่ แต่อูอวิ๋นกับอูหลันหายไปไหน?”
ขณะนี้ทุกคนเพิ่งรู้ว่า สาวใช้ติดตามสองคนของจินเซียงอวี้หายไป
องค์ชายหกกล่าวว่า “อูอวิ๋นและอูหลันล้วนเป็ยอดฝีมือ ทั่วไปแล้วไม่มีใครล้มได้”
พวกเขาได้ยินดังนั้นก็มองไปที่ซูฮุ่ยหยาด้วยแววตาที่เป็ประกาย
ซูฮุ่ยหยาจุกในอกอย่างรุนแรง ขณะนี้กำลังคิดเพียงว่า เหตุใดจึงไม่ใช่ซูจื่อเยี่ย เหตุใดจึงกลายเป็พี่ชายใหญ่แท้ๆ ของนางเอง?
“อวี่ม่าน รีบพาคนออกไปตามหาให้ทั่ว นอกจากนี้ อวี่ซิน เ้าไปรายงานเสด็จแม่ บอกว่าในจวนมีผู้ร้ายลอบเข้ามา พี่เซียงอวี้กับพี่ชายข้าติดกับดัก”
ซูฮุ่ยหยาไม่ใช่ดอกบัวสีขาวตัวเล็กๆ แต่เป็ผู้หญิงที่เ้าเล่ห์เพทุบาย
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ได้หายใจ ก็รีบดึงความสนใจของทุกคนไปที่ตัวผู้ร้ายล่องหนคนนั้น
“เสด็จพี่หก อย่าพูดได้หรือไม่ เดี๋ยวเสด็จพ่อก็ลงโทษพวกข้าคัดตำราอีก” องค์หญิงเก้าหวาดกลัว
“ข้างในเป็จินเซียงอวี้นะ” องค์ชายหกคือคนที่โตที่สุดในบรรดาพี่น้อง เวลาอ่านสถานการณ์จึงค่อนข้างทะลุปรุโปร่ง
ทันทีที่เขาพูดเช่นนี้ ทุกคนก็นึกอยากกลับวังให้เร็ว
เสด็จแม่ โลกภายนอกมีคนที่กินคนได้จริงๆ ลูกกลัวยิ่งนัก!
“ข้าจะรับผิดชอบเอง” ร่างของซูจื่อหงปรากฏขึ้นที่หน้าประตูห้อง
ก่อนหน้านี้เขาถูกกลุ่มคนห้อมล้อม ในใจจึงเกิดความหงุดหงิดอย่างหนัก แต่เมื่อเห็นทุกคนแยกย้าย และตัวเขามีหญิงรับใช้คอยช่วยแต่งกายให้ จึงเอ่ยกับจินเซียงอวี้ที่ร้องโอดครวญว่าจะเข่นฆ่า “เื่เป็แบบนี้แล้ว เ้าร้องไห้ไปก็ไม่มีประโยชน์ ชัดเจนว่าเราตกหลุมพรางคนอื่น”
จินเซียงอวี้หยุดร้องไห้ นางไม่ได้โง่เขลาจึงพูดขึ้นว่า “น้องสาวเ้าเป็คนพาข้ามาที่นี่”
ซูจื่อหงชะงักเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองจินเซียงอวี้ที่กำลังจ้องเขาด้วยดวงตาแดงก่ำ จึงได้สติ นางกำลังรอให้เขาเอ่ยปาก
“ทันทีที่ข้ากลับมาที่จวนก็มีสาวใช้เรียกมา ข้าไม่ปิดบัง ข้านั้นชื่นชอบคุณหนูตัวเป่าแห่งรองเสนาบดีกรมคลัง สาวใช้บอกว่าน้องสาวข้าเชิญคุณหนูตัวเป่ามาด้วย และนัดกับข้าว่าเจอกันที่พลับหลา บอกว่ามีเื่อยากเจรจา”
จินเซียงอวี้เคียดแค้นซูฮุ่ยหยาในใจว่าไร้ประโยชน์ ตอนนี้ข้าวสารได้กลายเป็ข้าวสุกไปกลัว
“ถ้าเ้ากล้าพูดจาเพ้อเจ้อ ข้าจะเชือดคอเ้าเอง”
เมื่อคุยกันไม่รู้เื่ ก็ต้องใช้วิธีเข่นฆ่า
ซูจื่อหงระงับความรำคาญในใจ ขณะนี้บรรดาสาวใช้ได้เปิดหน้าต่างพลับพลาแล้ว ลมเย็นสดชื่นได้พัดเข้ามาดับความร้อนรุ่มในใจของเขา
เมื่อใจเย็นลง จมูกของเขาก็กระตุกเล็กน้อย สายตากวาดมองไปทั่วห้อง จากนั้นสาวเท้าออกไปด้านนอกแล้วเอ่ย “ข้าจะให้สาวใช้มาช่วยเ้าทำความสะอาดและแต่งตัว น้องสาวข้าความคิดตื้นเขินจึงทำเื่โง่เช่นนี้ ไม่ว่าจะกับข้าหรือเ้าล้วนไม่ใช่เื่ดี”
จินเซียงอวี้เชื่อเื่นี้
ในอดีตองค์หญิงต่างแดนล้วนแต่งเข้าบ้านขุนนาง หรือไม่ก็เข้าไปอยู่วังหลัง ไม่เคยแต่งกับขุนนางสูงศักดิ์หรือเชื้อพระวงศ์มาก่อน
เพราะองค์ที่นั่งบัลลังก์คอยระแวดระวังและป้องกันเสมอ!
“ให้ตาย ใครเป็คนลงมือกันนะ”
ปลายคิ้วของซูจื่อหงกระตุก แววตาเผยความชิงชัง กล้าเล่นงานเขาหรือ?
คนที่รับรู้ว่าเขากลับมาเป็คนแรก อีกทั้งยังสามารถสั่งงานสาวใช้ในจวนได้ คนผู้นี้ต้องเป็คนที่คุ้นเคยกับเขาอย่างมาก จึงรู้เห็นความเคลื่อนไหวของเขาและเข้าใจเื่ที่เขาทำเป็อย่างดี
เมื่อคิดได้เช่นนี้ หัวใจของซูจื่อหงก็มีความเยือกเย็นแผ่ซ่านออกมา ข้างกายของเขามีคนแบบนี้หลบซ่อนอยู่ แต่เขากลับไม่รู้
“ข้าจะตรวจสอบเอง อีกอย่างเ้าพักที่จวนก่อน เช้าวันรุ่งขึ้นข้าจะพาเ้าไปพบฝ่าา”
นี่คือคำตอบที่ให้กับจินเซียงอวี้
“อูอวิ๋นกับอูหลันหายไป”
จินเซียงอวี้จำได้ว่า ก่อนหน้านี้นางสนองพระโอษฐ์สองคนเฝ้าหน้าประตูอยู่ด้วยกันกับคนใช้สองคนของซูฮุ่ยหยา
ซูจื่อหงก้มศีรษะลงและหมุนแหวนบนนิ้วโป้งข้างซ้าย จากนั้นพยักหน้าแล้วเอ่ย “ข้าจะให้คนสืบถามเอง เื่นี้เกรงว่าคงบานปลาย มีคน้าให้ข้ากับเ้าอยู่ด้วยกัน”
เขาได้คาดการณ์เื่นี้อยู่บ้าง เมื่อก้าวเท้าออกจากพลับพลา จึงได้พูดออกมาเช่นนั้น
เมื่อบรรดาองค์ชายองค์หญิงเห็นเขากล้าผิดรับชอบ จึงอดไม่ได้ที่จะชื่นชม
หลังจากที่ส่งทุกคนกลับไป ซูจื่อหงจึงหันมายิ้มแล้วเอ่ยกับน้องสาวตนเอง “หยาเอ๋อร์นับวันก็มีแผนการใช้ได้ทีเดียว”
“เสด็จพี่ นี่คือความผิดของข้า” ซูฮุ่ยหยาเข้าไปโอบแขนของเขา แล้วเอ่ยเสียงค่อย “ข้ายอมรับว่า เหอฮวานซ่าน [1] ในเตาหอมเป็ฝีมือข้าเอง”
ซูจื่อหงตอบว่า “ข้ารู้แล้ว เ้า้าวางแผนกับเ้าซูจื่อเยี่ยสารเลวนั่นสินะ แต่กลับถูกคนตลบหลังเข้าให้”
ซูฮุ่ยหยาเอื้อมมือไปตบศีรษะของตนเองเบาๆ แล้วเอ่ยอีก “เดิมทีข้าอยากอาศัยการที่เขาไม่อาจมีกำลังเสริมจากภายนอก ใครเล่าจะรู้ว่า... เขาเ้าเล่ห์ปานนั้น เหตุใดจึงรู้ว่าข้าวางกับดักให้เขา? วันปีใหม่นี้ ข้าเองก็มีแผนการแต่ก็ไม่มีใจจะทำ แต่ลูกพี่ลูกน้องมากันกะทันหัน ข้าจึงไม่รู้ว่าเขาคาดคะเนได้ถึงขั้นนี้”
รอยยิ้มของซูจื่อหงนั้นเ็ามาก “ก็แค่มีคนยืมเขาเป็มีดก็เท่านั้น”
“ทุกอย่างเป็ความผิดข้าเองที่ทำให้พี่ใหญ่เสียแผน โอ๊ย เกิดเสด็จแม่รู้เข้าคงต้องถลกหนังข้าแน่” ซูฮุ่ยหยาออดอ้อนและแอบมองเขา
“ข้าจะบอกกับเสด็จแม่เอง อันที่จริงเป็เช่นนี้ก็ไม่เลว” ซูจื่อหงเผยความชั่วช้าในแววตา
สิ่งที่เขาให้ความสำคัญที่สุดก็คือ ใครเป็คนส่งข้อความถึงซูจื่อเยี่ย
“ใช่สิ หาอูอวิ๋นกับอูหลันเจอหรือยัง?”
“ยัง!” ถึงอย่างไรซูฮุ่ยหยาก็ยังเจ็บใจ “เสด็จพี่ เราไปดูพี่รองกันหน่อยเถิด ข้าไม่วางใจ ก่อนหน้านี้เขาดื่มเหล้าล้มลาไปไม่น้อย”
“อ๋อ? วันนี้พวกเ้าอารมณ์ดีกันนักเชียว กล้าดื่มเหล้าล้มลา เกิดเื่ก็ไม่แปลก” ซูจื่อหงไม่ได้กระวนกระวายใจกับความผิดพลาดนี้แม้แต่น้อย
ซูฮุ่ยหยาได้ยินดังนั้นก็เล่าเื่ราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดั้แ่ต้นจนจบให้ซูจื่อหงฟัง เมื่อเขาไม่ได้กล่าวโทษนางจึงแอบโล่งอก คิดเพียงว่ารอจนถึงวัยที่ตนเองต้องรีบออกเรือนไปจึงจะดี
ทั้งสองไปที่เรือนของซูจื่อเยี่ย และได้ยินบ่าวรับใช้บอกว่าเขากลับมานานแล้ว ซูฮุ่ยหยาจึงขมวดคิ้วสวยไว้แน่น แล้วเอ่ยอย่างโกรธเคือง “จะมีบ่าวรับใช้สุนัขอย่างพวกเ้าไปทำไมกัน เ้านายเมาเหล้าไปไหนก็ยังไม่รู้ ยังไม่รีบไปตามหาอีก อากาศหนาวหิมะตกเช่นนี้ไม่กลัวเขาป่วยหรือ แล้วก็ไปสั่งให้สาวใช้ในโรงครัวใหญ่ต้มน้ำขิงร้อนๆ มาด้วย อวี่ม่าน ข้าไม่ไว้ใจ เ้าไปที่โรงครัวเองดีกว่า”
นี่คือภาพลักษณ์ที่ดีของน้องสาวที่เป็ห่วงเป็ใยพี่ชาย
เมื่อมีคนพบซูจื่อเยี่ยอีกที เขาอยู่ในพลับพลาเล็กด้านหน้าดงดอกเหมย ตอนที่บ่าวรับใช้ตามตัวเจอ เขากำลังหลับสนิท
“พี่รอง เ้ามานอนหลับที่นี่ได้อย่างไรกัน?” สองพี่น้องเมื่อได้รับข่าวก็รีบไปหาโดยทันที
นางไม่เข้าใจ ทั้งที่สาวใช้บอกว่าเห็นซูจื่อเยี่ยเข้าไปในห้องพลับพลาหลังนั้นกับตา
“มีอะไร?” บารมีของบุปผาบนเทือกเขาสูงช่างแรงกล้า
แม้ว่าเขาจะเมาและง่วงนอน แต่ยังคงเต็มไปด้วยความเยือกเย็นดุจสายลมท่ามกลางหิมะ
ซูจื่อหงคำรามอย่างเ็า “เ้าช่างคิดได้ มาแอบหลบอยู่เงียบๆ ที่นี่ กลับไม่รู้ว่าคนในจวนตามหาเ้ากันให้ควั่ก จนแทบพลิกจวนหาแล้ว”
“อย่างนั้นหรือ?” ซูจื่อเยี่ยเหลือบมองเขาอย่างเ็า
“พี่รอง ท่านพี่มาลงเอยที่นี่ได้อย่างไร?” ซูฮุ่ยหยาสับสนมาตลอดว่าเหตุใดซูจื่อเยี่ยถึงวิ่งมาด้านหน้าได้
ซูจื่อเยี่ยลูบศีรษะที่ปวดตุบๆ แล้วหันไปมองคนทั้งหมด คนกลุ่มด้านหลังที่เห็นคือจิ้นเซี่ยวกำลังเขย่งเท้าไปมา “จิ้นเซี่ยว!”
เขย่งอะไร ทำเอาเขาตาพร่ามัวไปหมด
“นายน้อย” ฝูงชนด้านหน้าพร้อมกันหลีกทางให้จิ้นเซี่ยว ซึ่งไม่ง่ายเลยจริงๆ
“ข้ารอเ้าอยู่”
ฝูงชนตกตะลึงก่อนแล้วจึงโล่งใจ นี่อธิบายได้ว่าเหตุใดเขาถึงมาที่นี่
จิ้นเซี่ยวรู้ว่าหากเ้านายไม่บอกเหตุผล ซูฮุ่ยหยาคงตามรังควานและถามจนรู้ ดังนั้นเขาจึงเอ่ยถาม “นายน้อย ก่อนหน้านี้กระหม่อมให้สาวใช้พาท่านไปพักที่พลับพลาด้านในสุดของดงดอกเหมยไม่ใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ”
ซูจื่อเยี่ยลืมตาขึ้นด้วยความยากลําบากและตอบว่า “อาเจียนน่ะ!”
เขาใช้โอกาสอาเจียน ซึ่งเป็ข้ออ้างที่กลบเกลื่อนได้อย่างแเี
สาวใช้ที่น่าสงสาร เดาว่าตอนนี้นางคงร้องไห้จนเป็ลมไปแล้ว
กล้าร่วมมือวางหลุมพรางให้เขา ย่อมต้องได้รับการลงโทษอย่างสาสม
จิ้นเซี่ยวรู้สึกว่าท้องไส้ปั่นป่วนทันใด เขาอดไม่ได้และอยากอาเจียนตาม
ด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว เขาพยายามพยุงซูจื่อเยี่ยลุกขึ้นแล้วเอ่ย “นายน้อย กระหม่อมจะพยุงท่านกลับไปพักที่ห้อง”
“ดี!” ซูจื่อเยี่ยพิงเขาและผล็อยหลับไป
ช่างสบายใจเหลือเกิน!
ความแข็งแกร่งของเหล้าล้มลานั้นมากเกินไป และในความเป็จริงก็คือ เขาคออ่อน!
แม้ว่าเขาจะพยายามใช้พลังถ่ายฤทธิ์เหล้าออกมา แต่ก็ทนไม่ไหวและเมาจนหมดสติ
หลังจากที่เห็นเงาของจิ้นเซี่ยว ในที่สุดเขาก็ยกยิ้มอย่างสบายใจ
......
หลิวเต้าเซียงมองไปที่บุปผาบนเขาสูงชันด้วยสายตาที่ไม่รู้จะเอ่ยอะไร
ดังนั้นเ้ากําลังอวดความมีเสน่ห์อยู่สินะ?
อวดว่าใครเห็นใครก็รัก ดอกไม้เจอดอกไม้ผลิบานอย่างนั้นหรือ?
ซูจื่อเยี่ยเลิกคิ้วอย่างภูมิใจ ข้าฉลาดเสียอย่าง เมื่อนึกถึงเื่นี้ เขาก็เอื้อมมือลูบศีรษะตนเอง โชคดีที่ไม่ได้หัวล้าน
เราไม่อ้อนวอนขอความฉลาดล้ำลึก!
หลิวเต้าเซียงยังคงพูดไม่ออก อย่าหลงตัวเองแบบนี้จะได้ไหม!
“ข้าว่าจินเซียงอวี้คนนั้นคงไม่ได้ร้ายอะไรนัก”
สีหน้าของซูจื่อเยี่ยเ็า “หมากตัวหนึ่งในสายตาของทุกคน”
จินเซียงอวี้ไม่ได้น่าสงสาร อย่างน้อยเขาก็ช่วยมอบวาสนาการมีคู่ครองที่ดีให้นาง
ส่วนจิตใจฝักใฝ่ของซูจื่อหง คนข้างทางคงรับรู้
มิฉะนั้นรองเสนาบดีคงไม่แอบมาหาเขาเพื่อขอร้องให้ช่วยทำลายแผนการของพระชายาอ๋องผิงหรอก
อนึ่งเขายังได้รับน้ำใจจากรองเสนาบดีเป็ค่าออกโรงถึงห้าพันตำลึง
นั่นคือกําจัดปัญหาและทำกําไรเล็กน้อยไปในคราวเดียว
-----
เชิงอรรถ
[1] เหอฮวานซ่าน 合欢散 ยาปลุกกำหนัดที่ส่งผลต่อการกระตุ้นความใคร่ในสมัยโบราณ