อาหารเช้ามีขนมสุ่ยจิง [1] เกี๊ยวนึ่ง ซาลาเปาไส้น้ำแกง [2] โจ๊กกระดูกหมู น้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋ ขนมซูโหยวปิ่ง [3]
แม้ว่าแต่ละอย่างจะจัดใส่จานเล็ก แต่ก็ตั้งจนเต็มโต๊ะ
"ใครจะกินมากมายขนาดนั้น" เซวียเสี่ยวหรั่นจุปากอย่างตกตะลึง
ชะรอยคงต้องคุยกับแม่ครัวสักหน่อยแล้ว ของมากมายกินไม่หมดก็สิ้นเปลืองแย่
เซวียเสี่ยวหรั่นคีบเกี๊ยวนึ่งสองสามชิ้นกับขนมสุ่ยจิงหนึ่งชิ้นใส่ชามอาเหลย
ปาท่องโก๋กับซูโหยวปิ่งไม่สมควรให้มันกิน
เคราะห์ดีที่เซวียเสี่ยวเหล่ยค่อนข้างเจริญอาหาร อาหารเช้าที่เหลือจึงไม่มากเท่าไร สาวใช้ยกอาหารส่วนที่เหลือออกไป เซวียเสี่ยวหรั่นให้คนไปตามแม่ครัวฟางมาอธิบายให้เข้าใจ ในบ้านมีแค่พวกเขาไม่กี่คน อาหารให้ทำในปริมาณเหมาะสมอย่ามากเกินไปนัก
แม่ครัวฟางรับคำ และให้ความร่วมมืออย่างดี
หลังจากแม่ครัวฟางออกไปแล้ว เซวียเสี่ยวหรั่นก็มานั่งคิด ก่อนตามหลินเหนียงจื่อหญิงปักผ้ากับผู้ดูแลหม่ามาสอบถาม
คนเหล่านี้ล้วนแต่ได้รับการฝึกอบรมเป็อย่างดีจากจวนของเหลียนเซวียนก่อนส่งมา กิริยามารยาทนอบน้อมอย่างมาก กระบวนการสัมภาษณ์ย่อมราบรื่นไร้อุปสรรค
หลังจากเรียกบ่าวทั้งเรือนมาสอบถามครบหมดแล้ว ดวงตะวันก็ลอยสูงโด่ง
"พวกเราไปชมสวนดอกไม้กันเถอะ" เซวียเสี่ยวหรั่นชวนเซวียเสี่ยวเหล่ยไปเดินเล่นในสวนดอกไม้ที่เรือนหลัง
แม้จะเป็สวนขนาดเล็กเพราะพื้นที่ไม่กว้างมาก แต่ต้นไม้ใบหญ้าและบุปผากลับไม่น้อย มีูเาหินจำลองและสวนไผ่ครบครัน ศาลาพักร้อนสี่เหลี่ยมข้างูเาจำลองก็งามวิจิตร
ถนนสายเล็กสองฝั่งล้วนลาดด้วยหินกรวดเป็รูปต่างๆ ต้นไม้สีเขียวสองฝั่งแลดูร่มรื่น ในแปลงดอกไม้อุดมไปด้วยมวลผกานานาพรรณขึ้นสูงๆ ต่ำๆ เซวียเสี่ยวหรั่นรู้จักแต่ดอกเยว่จี้ [4] ดอกจือจื่อ [5] และดอกเฟิ่งเซียน [6]
อาเหลยสนุกสนานกับการปีนป่ายต้นไม้ไปทั่วสวน ราวกับมัจฉาแหวกว่ายกลางวารี
"ที่นี่เหมือนเตรียมมาให้อาเหลยโดยเฉพาะเลยนะ ฮ่าๆ" เซวียเสี่ยวหรั่นหัวเราะ
"คุณหนู ท่านดูสิ ทางนั้นคือสวนดอกไม้ด้านหลังของเรือนคุณชายผูหยางใช่หรือไม่" อูหลันฮวามองไปที่ต้นไม้ใหญ่อีกฟากกำแพงที่อยู่ติดกัน
"คงจะใช่ เรือนของพวกเขาใหญ่มาก สวนดอกไม้ก็คงจะกว้างเช่นกัน" เซวียเสี่ยวหรั่นก็มองเห็น
"พี่สาว อวี๋เฟิงหยางไปเรียนหนังสือหรือไม่" เซวียเสี่ยวเหล่ยเอ่ยถาม
การเดินทางครั้งนี้ทำให้เซวียเสี่ยวเหล่ยกับอวี๋เฟิงหยางกลายเป็สหายกัน
อวี๋เฟิงหยางเป็ศิษย์ของผูหยางชิงหลัน พวกเขาคือลูกพี่ลูกน้องที่ผูหยางชิงหลันยอมรับ นับเป็ญาติกัน แต่ต่างฝ่ายต่างไม่ถือตัว ใครจะคบหาใครเป็สหายย่อมไม่มีคนว่าอะไร
"ไม่รู้เหมือนกัน แต่เขาติดตามอาจารย์พเนจรอยู่ข้างนอกมาหลายปี คงไม่แล่นไปเรียนหรอกกระมัง"
เซวียเสี่ยวหรั่นคิดว่าอวี๋เฟิงหยางไม่น่าจะได้ไปสถานศึกษา
"อ้อ" เซวียเสี่ยวเหล่ยรู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง
"ไม่เป็ไร ต่อไปเ้าไปสถานศึกษาย่อมสามารถคบหาสหายใหม่ๆ เฟิงหยางศึกษาการแพทย์ คนละเส้นทางกับเ้า" เซวียเสี่ยวหรั่นปลอบโยนเขา
"พี่สาว ข้าทราบแล้วขอรับ" เซวียเสี่ยวเหล่ยพยักหน้า
พวกเขาเดินเล่นในสวนสักพัก ไม่นานนักก็วนกลับมาเรือนหน้า
บ่าวชาย สารถี และผู้ดูแลล้วนพักอยู่ในเรือนหน้า
เรือนแบบสามทางเข้ามีบ่าวรับใช้มากมาย จึงดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาก
ใกล้ยามอู่ เซวียเสี่ยวหรั่นกับอูหลันฮวาอยู่ว่างๆ จึงเข้าไปในครัว
แม่ครัวฟางกำลังยุ่งอยู่ เห็นพวกนางเข้ามาก็รีบเข้ามาคารวะ
"ฟางเหนียงจื่อ ทำงานของเ้าไปเถอะ พวกเราแค่เข้ามาดูเท่านั้น" เซวียเสี่ยวหรั่นยิ้มให้อย่างเป็มิตร
"คุณหนูมีสิ่งใดที่อยากกินเป็พิเศษ บอกบ่าวมาล่วงหน้าได้เลย อาหารเหนือใต้บ่าวล้วนทำเป็ทุกอย่างเ้าค่ะ" เหตุผลที่แม่ครัวฟางได้รับเลือกให้มาที่นี่ก็เพราะรู้จักอาหารทางใต้จำนวนไม่น้อย
"แล้วเ้ารู้จักวิธีทำเส้นแป้งหรือไม่" เซวียเสี่ยวหรั่นคิดถึงรสชาติของก๋วยเตี๋ยวสามเซียน
ดวงตาของอูหลันฮวาสว่างวาบ นางก็อยากกิน
"เอ้อ..." แม่ครัวฟางอ้ำอึ้งเล็กน้อย อาหารที่นางเรียนรู้ล้วนแต่เป็อาหารจานหลักที่ขึ้นโต๊ะ "เส้นแป้งน่าจะเป็ของว่างพื้นเมืองกระมัง บ่าวยังไม่เคยเรียนรู้มาก่อนเ้าค่ะ"
"ฮิๆ ไม่เป็ไร อันนี้ข้าทำเป็ เอาไว้วันหลังจะทำให้พวกเ้าลองชิมกัน" เซวียเสี่ยวหรั่นไม่ทำให้คนลำบากใจ อาหารท้องถิ่นยังมีมากมาย นับประสาอันใดของว่างพื้นบ้าน ซึ่งไม่ใช่อาหารจานหลักที่ขึ้นโต๊ะ
"คุณหนูทำอาหารเป็ด้วยหรือเ้าคะ" แม่ครัวฟางแปลกใจอยู่บ้าง
"เป็นิดหน่อย" เซวียเสี่ยวหรั่นยิ้มพราย
"นิดหน่อยเสียที่ไหน ฝีมือคุณหนูของพวกเราดียิ่ง ครั้งแรกที่ข้ากินอาหารที่คุณหนูทำ อร่อยจนแทบกลืนลิ้นของตนเองเข้าไปเชียวล่ะ"
นางได้ชิมอาหารของคุณหนูครั้งแรกที่ขู่หลิ่งถุน อูหลันฮวารู้สึกว่าเป็รสชาติที่นางไม่อาจลืมเลือนชั่วชีวิต
"ฮ่าๆ หลันฮวา เ้าคุยโวเกินไปแล้ว เ้ารู้หรือไม่เพราะเหตุใดถึงรู้สึกอร่อยมาก นั่นก็เพราะแต่ไรมาเ้าก็แทบไม่ได้กินเนื้อเลย พอได้ชิมรสเนื้อมากหน่อย จะไม่รู้สึกว่าอร่อยได้หรือ"
เซวียเสี่ยวหรั่นพูดแต่ความจริงทั้งนั้น ฝีมือของเธอก็แค่งูๆ ปลาๆ เทียบกับพ่อครัวใหญ่ที่มีประสบการณ์ไม่ได้อยู่แล้ว
"แหะๆ ถึงอย่างไรอาหารฝีมือคุณหนูก็อร่อยเ้าค่ะ" อูหลันฮวากลับยืนกรานคำเดิม
เซวียเสี่ยวหรั่นจนปัญญาได้แต่ยิ้มพลางสั่นศีรษะ
แม้แม่ครัวฟางจะทำเส้นแป้งไม่เป็ แต่อาหารจำพวกบะหมี่กลับทำได้ดีเยี่ยม อาหารจำพวกบะหมี่ทุกอย่าง ซาลาเปา หม่านโถว เกี๊ยวทอด เซาปิ่ง เกี๊ยวน้ำ ล้วนทำเป็ทั้งหมด
เที่ยงวัน เซวียเสี่ยวหรั่นกับเซวียเสี่ยวเหล่ยกินบะหมี่เนื้อวัวรสเผ็ดร้อนอย่างสาแก่ใจยิ่ง
เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ หลังกินอิ่ม เซวียเสี่ยวหรั่นก็เริ่มง่วง แต่นึกถึงท่านหญิงหย่งเจียบอกไว้ว่าวันนี้จะมาเยี่ยมเยือน
ในห้องไม่มีเก้าอี้นอน แต่ยังดีที่มีเตียงหลัวฮั่น เซวียเสี่ยวหรั่นนอนลงบนเตียงหลัวฮั่นพลางโบกพัดกลมจนกระทั่งผล็อยหลับไป
ยามตื่นขึ้นมาอีกครั้ง แสงจากนอกหน้าต่างเปลี่ยนเป็สีเหลืองทองอ่อนๆ
นางผุดลุกขึ้นนั่ง เดินไปจัดแต่งทรงผมที่หน้าคันฉ่องให้เรียบร้อย ก่อนเปิดประตูห้องออกมา
ชิงเยว่เดินออกมาจากห้องซึ่งอยู่ปีกข้าง นั่นเป็ห้องพักผ่อนของพวกนางยามกลางวัน
"คุณหนู ท่านหญิงส่งคนมาแจ้งว่าวันนี้ไม่ว่างมาเ้าค่ะ วันหน้าค่อยส่งเทียบก่อนมาเยี่ยมเยือน"
เซวียเสี่ยวหรั่นพยักหน้าอย่างเข้าใจได้ เพิ่งกลับมาถึงเมืองหลวงจะต้องยุ่งมากเป็แน่
ถึงยามเย็น เรือนของผูหยางชิงหลันที่อยู่ติดกันยังเงียบเชียบ เซวียเสี่ยวหรั่นรู้สึกประหลาดใจ
หลังกินมื้อเย็นแล้ว พวกเขาก็ไปเดินเล่นในสวนย่อยอาหาร แต่กลับมีเสียงเคาะจากประตูใหญ่ บ่าวชายที่เฝ้าประตูถามถึงผู้มาจนรู้แจ้งแล้ว ก็รีบเปิดประตู
เหลียนเซวียนสวมอาภรณ์ตัวยาวสีขาวนวลแบบเรียบๆ เหยียบรองเท้าทรงสูงสีดำค่อยๆ ก้าวเข้ามาในท่วงท่าสง่างาม ทั่วร่างแฝงกลิ่นอายเ็าและห่างเหิน
"องค์ชายเจ็ด" อูหลันฮวากับเซวียเสี่ยวเหล่ยรีบทำความเคารพ
อาเหลยะโลงจากต้นไม้วิ่งเข้ามาหมายกระโจนเข้าหาด้านข้าง แต่ยังไม่ทันถึงตัว ก็ถูกเขายื่นมือออกมาดันไว้ ก่อนหลุบสายตาลงมากวาดมองมันแบบเรียบๆ ลิงตัวนี้เริ่มสนิทกับเขาั้แ่เมื่อไร พบกันทีไรเป็ต้องโผเข้าหา เสียนิสัยจริงๆ
อาเหลยกลับไม่กลัวเขา ยังคงยื่นอุ้งมือมากอดข้อมือเขาพลางร้องเรียก "เจี๊ยกๆ"
เซวียเสี่ยวเหล่ยรีบเข้ามาอุ้มมันไป อาเหลยยังหันมามองเหลียนเซวียนหลายครั้งอย่างไม่เต็มใจนัก
"ท่านทำเช่นนี้ทำร้ายจิตใจอาเหลย ต่อไปมันจะไม่ดีกับท่านแล้ว" เซวียเสี่ยวหรั่นยืนเอามือไพล่หลัง มองพลางหัวเราะคิกคัก
เหลียนเซวียนมองมาที่นาง ดวงตาที่ค่อนข้างอิดโรยฉายแววยิ้มบางๆ
...
[1] ขนมสุ่ยจิง คือขนมแบบเดียวกับขนมกุ้ยฮวา แต่เนื้อจะมีความใสเหมือนคริสทัล มีความเหนียวหนึบนุ่มรสหวานหอม วัตถุดิบหลักทำจากแป้งสาคู น้ำตาล น้ำเปล่า อาจใส่ไส้เช่นไส้มันม่วง
[2] ซาลาเปาไส้น้ำแกง หรือกว้านทังเปา ลักษณะคล้ายกับเสี่ยวหลงเปา คือซาลาเปานึ่งแต่ข้างในแทนที่จะเป็ไส้หมู กลับเป็ไส้น้ำซุปล้วนๆ จึงได้ชื่อว่าซาลาเปาไส้น้ำแกง สามารถเจาะดูดน้ำแกงข้างในได้
[3] ซูโหยวปิ่ง หรือแป้งทอดก้นหอย ลักษณะและวิธีการทำคล้ายกับโรตี เพียงแต่จะขดแป้งเป็รูปก้นหอย และแผ่นจะหนากว่า ก่อนนำไปทอดกับน้ำมันในกระทะ สามารถกินกับอาหารได้
[4] ดอกเยว่จี้ หรือดอกกุหลาบจีน มีมากในแถวกุ้ยโจว เหอเป่ย และเสฉวน
[5] ดอกจือจื่อ หรือดอกพุดซ้อน เป็ไม้พุ่มขนาดเล็กดอกมีสีขาวและมีกลิ่นหอม
[6] ดอกเฟิ่งเซียน หรือดอกเทียนบ้าน ลำต้นอวบคล้ายลำเทียน กลีบดอกคล้ายกลีบกุหลาบซ้อนกัน มีสีขาว ชมพู ส้ม ม่วง แดง
