เพื่อเสวี่ยปิงหนิง เขาไม่ลังเลที่จะแทงตัวเอง
การตอบรับของหลัวเลี่ยทำให้คนรอบข้างเงียบลงทันที แต่หลายคนไม่ว่าจะเป็คนกลาง หรือแม้แต่คนที่เอนเอียงไปทางชงโหวหู่ ต่างก็เริ่มสนับสนุนหลัวเลี่ย
ในโลกที่ยึดถือวิชายุทธ์เป็สำคัญ ศักดิ์ศรีของผู้มีวรยุทธ์เป็สิ่งที่น่ายกย่องมากที่สุด
“เพื่อให้แน่ใจว่าเ้าจะไม่โกงในการแทงตัวเอง” ชงโหวหู่หยิบมีดสั้นสีมรกตที่มีไอเย็นแผ่ออกมาจากตัวมีดออกมาจากกระเป๋าเฉียนคุณของเขา และโยนมันไปด้านหน้าหลัวเลี่ย “ใช้ได้แค่มีดมรกตเหมันต์นี้เท่านั้น”
ฝูงชนที่เงียบลงเมื่อครู่ก็ส่งเสียงดังขึ้นอีกครั้ง
“น่ารังเกียจ! ไร้ยางอาย! สวะ!”
“ชงโหวหู่ เ้าไม่คู่ควรกับการเป็ผู้ฝึกวรยุทธ์”
“แคว้นเป่ยสุ่ยที่มีอ๋องชวนหลงเช่นนี้ นับว่าเป็โศกนาฏกรรมของแคว้นอย่างยิ่ง!”
เหตุการณ์ดุเดือดขึ้นทันที
มีดมรกตเหมันต์เป็อาวุธวิเศษที่หายากมากในแคว้นเป่ยสุ่ย
หากถูกอาวุธชนิดนี้เสียบแทงร่างกาย ดูเผินๆ เหมือนมีดทั่วไปปักลงบนส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายเท่านั้น แต่แท้จริงแล้วมันสามารถก่อให้เกิดาแจากภายในได้ เนื่องจากมีดมรกตเหมันต์นี้มีคุณสมบัติ ‘เยือกแข็ง‘ คือเมื่อแทงเข้าไปในร่างกายแล้ว มันจะปล่อยไอเย็นออกมาแช่แข็งและทำลายอวัยวะภายในอย่างรุนแรง
เมื่ออวัยวะภายในได้รับาเ็แล้ว จะมีแรงสู้ได้อย่างไร?
เกรงว่าคงจะเหลือพละกำลังไม่ถึงครึ่ง
ในตอนนี้ แม้แต่หลิวจื่ออั๋งก็ยังประหลาดใจกับความโเี้ของชงโหวหู่
เขาโเี้จนไร้ยางอาย เขาไม่สนใจชื่อเสียง สนใจเพียงผลลัพธ์เท่านั้น เขาช่างน่ากลัวและร้ายกาจที่สุด
“ข้าไม่ยอม” ในที่สุดหลิวหงเหยียนก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป
หลัวเลี่ยหยิบมีดมรกตเหมันต์ขึ้นมา ก่อนจะลูบใบมีดที่เย็นเยียบ
ในความเป็จริง หากเป็อาวุธธรรมดา จะไม่สามารถแทงเข้าิัของเขาได้
ในระดับผู้ฝึกตนระดับที่ห้ามีความพิเศษ คืออาวุธธรรมดาไม่สามารถทำอันตรายได้ แล้วนับประสาอะไรกับตอนนี้ที่เขาอยู่ในระดับฝึกตนระดับที่หกแล้ว
“ข้ายอมรับ”
หลังจากหลัวเลี่ยพูดจบ เขาก็แทงตัวเองทันที
ฉึก!
มีดแทงเข้าที่ไหล่ซ้ายของหลัวเลี่ย ปลายมีดทะลุด้านหลัง
ไอเย็นะเืจากใบมีดส่งเข้าไปในร่างกายของหลัวเลี่ยทันที
อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้กระทบกับเขาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เนื่องจากภายในร่างกายของหลัวเลี่ยได้รับการปกป้องจากการชำระล้างด้วยเืัแล้ว ส่งผลให้พลังป้องกันภายในร่างกายของเขาแข็งแกร่งจนน่าทึ่ง
แน่นอนว่าสิ่งนี้ไม่เป็ที่ล่วงรู้
ด้วยเป็ความสามารถพิเศษที่เกิดจากการรวมกันของเืัและการฝึกเคล็ดวิชาั์เท่านั้น
“คุ้มค่าหรือ” หลิวหงเหยียนเหมือนจะถาม แต่คล้ายพูดกับตัวเองด้วย
“คุ้มค่า!”
หลัวเลี่ยดูสงบนิ่ง ไม่ได้แสดงความเ็ปเลยสักนิด “นางสามารถสละชีวิตเพื่อช่วยข้าได้ ข้าเองก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน ใน่ชีวิตของคนเราก็ต้องมีความจริงใจอยู่ในส่วนลึกของจิตใจใช่หรือไม่”
หลิวหงเหยียนตัวแข็งทื่อราวกับถูกฟ้าผ่า
มีความจริงใจ?
ไม่มีใครสนใจว่าทำไมหลิวหงเหยียนจึงเป็เช่นนี้ เพราะชงโหวหู่ได้เริ่มพูดอีกครั้ง
คราวนี้ชงโหวหู่หยิบตราัทองเซียวเหยาของเขาออกมา และพูดว่า “คำขอสุดท้ายสำหรับตราัทองเซียวเหยาของข้า ข้าขอร้องผู้าุโเจ็ดให้ดูแลการต่อสู้ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะไม่ถูกแทรกแซงโดยบุคคลภายนอก”
โเี้!
ผู้คนต่างตราหน้าว่าชงโหวหู่เป็คนเลวทรามอีกครั้ง
นี่คือการปิดโอกาสรอดชีวิตของหลัวเลี่ยโดยสิ้นเชิง
ในการประลองด้วยชีวิต หากหลัวเลี่ยอดทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ก็เป็ไปได้ที่หลิวหงเหยียนและคนอื่นๆ จะเข้ามาขัดขวาง
แต่หากมีหลิวจื่ออั๋งคุมการประลองนี้อยู่ ใครเล่าจะกล้าขัดขวาง?
และถ้าหลิวจื่ออั๋งเป็ผู้ดูแลการประลองนี้ด้วยตนเองแล้ว แม้ว่าเขาจะ้าฝ่าฝืนกฎ เขาก็ต้องละอายใจ ที่สำคัญคือเขาไม่สามารถทำเช่นนั้นต่อหน้าผู้อื่นได้แน่
“ได้ ข้าตกลง”
หลิวจื่ออั๋งสะบัดปลายนิ้วของเขา
เพล้ง!
ตราัทองเซียวเหยาแตกเป็เสี่ยงๆ คำขอทั้งสามจบลงอย่างสมบูรณ์
ชงโหวหู่ยิ้ม ก่อนจะพูดว่า “ขอบคุณ ผู้าุโเจ็ด”
“ท่านพ่อ ลูกออกไปประลองได้แล้วใช่หรือไม่” ชงจ้านหยวนถามขึ้น
“ใช่” ชงโหวหู่กล่าว “จ้านหยวน จำไว้ให้ดี แม้ว่าเ้าจะมีพลังแกร่งกล้าอยู่ในระดับการฝึกตนขั้นที่หกแล้วก็ตาม แต่อย่าได้มองข้ามกลยุทธ์ไป ศัตรูที่กำลังาเ็นี้ เ้าสามารถโจมตีในระยะไกลได้ เ้าไม่จำเป็ต้องสู้ในระยะประชิด อย่าได้เปิดโอกาสให้มันรีบจบการต่อสู้ เพราะยิ่งเ้าถ่วงเวลาเอาไว้ทำให้มันเสียเืได้มากเท่าไร เ้าก็ยิ่งเข้าใกล้ชัยชนะมากขึ้นเท่านั้น”
ชงจ้านหยวนตอบ “ลูกก็คิดเช่นนั้น”
ชงโหวหู่กล่าว “ไปเถอะ”
ผู้คนยิ่งเดือดดาลมากขึ้น เมื่อได้ยินบทสนทนาไร้ยางอายระหว่างสองพ่อลูก
นี่มันโหดร้ายเกินไปแล้ว!
ร้ายกาจเกินไปแล้ว!
แม้จะถูกประณามเช่นนั้น แต่พวกเขาก็ยังคงใช้กลยุทธ์ที่ไร้ยางอายและน่ารังเกียจนี้ต่อไป
ชงจ้านหยวนเมินเฉยต่อคำด่าและการเหน็บแนมจากผู้อื่น เขายืนอย่างโอ้อวดต่อหน้าหลัวเลี่ยที่อยู่ไกลออกไปราวสามจั้ง
ในฐานะผู้ตัดสินชั่วคราว หลิวจื่ออั๋งกล่าวว่า “เริ่มได้”
เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น ชงจ้านหยวนก็ถอยหลังทันที เขาควบม้าออกห่างไปไกล และหัวเราะเสียงดัง “ไม่มีการกำหนดขอบเขตสำหรับการประลอง ดังนั้นข้าจะกลับไปที่วังก่อน หลัวเลี่ย เ้าอย่าได้เืไหลหมดตัวจนตายไปก่อนนะ รีบตามข้ามาล่ะ”
กลยุทธ์ที่ไร้ยางอายถูกนำมาใช้
มีคำด่านับครั้งไม่ถ้วนออกมาจากฝูงชน พวกเขาทนความชั่วร้ายของสองพ่อลูกตระกูลชงไม่ได้อีกต่อไป
เท่าที่รู้เกี่ยวกับชงจ้านหยวน เขาเป็อัจฉริยะในหมู่ผู้ฝึกวรยุทธ์อย่างแท้จริง ภายใต้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ของชงโหวหู่ ศิลปะการต่อสู้ที่เขาเชี่ยวชาญนั้นไม่ธรรมดา และการเคลื่อนไหวในการต่อสู้ก็เป็ไปด้วยความรวดเร็วอย่างน่าทึ่ง
ทั้งหมดตกอยู่ในสายตาของหลัวเลี่ย แต่เขาไม่ได้เครียดกับมันเลย
วิชาก้าวั!
วิชานี้สร้างขึ้นโดยฉินจื้อและเหยาเฟิง สองบุคคลที่มีพลังอยู่ในระดับวังชะตา มันถูกหลัวเลี่ยนำมาปรับใช้ให้เข้ากับพลังของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งการผสมผสานนี้ทำให้วิชานี้พัฒนาขึ้นไปอีก
ทันทีที่หลัวเลี่ยใช้มัน ก็เกิดเสียงัคำรามดังลั่น ดั่งัคลั่งที่กำลังเดินบนคลื่นและบินขึ้นไปบนท้องฟ้า
เพียงพริบตาเดียวก็สามารถะโมาได้เกือบสิบจั้ง
นี่คือความแข็งแกร่งในระดับผู้ฝึกตนระดับที่หก
หลังจากะโติดต่อกันสามครั้ง เขาก็ไล่ตามชงจ้านหยวนทัน นอกจากนี้ระหว่างที่เขากำลังะโก็เกิดลมปั่นป่วน หมอกม้วนตัวเหมือนภาพักำลังเคลื่อนที่ ซึ่งน่าทึ่งมาก
“เป็วิชาที่ไม่เลวเลย และไม่ง่ายเลยที่จะไปถึงระดับถ่องแท้ได้” หลิวจื่ออั๋งกล่าว
นกฟินิกซ์์กล่าวว่า “ตอนนี้แค่รอดูว่าเขาเป็ ‘มีัอยู่ในเป้า’ หรือไม่ ถ้าเขาสามารถใช้หมัดผู้พิชิตและเคล็ดวิชามหาสรรพฟ้าดินด้านูเาได้ เช่นนั้นก็มั่นใจได้ว่าเขาเป็ ‘มีัอยู่ในเป้า’ จริงๆ”
หลิวจื่ออั๋งพูดด้วยรอยยิ้ม “ควรจะเป็เขา ข้าทำเพื่อเขาตั้งมากมาย แม้แต่เกา่ก็ถูกตบเป็ร้อยครั้งในที่สาธารณะ แล้วจะไม่ใช่เขาได้อย่างไร”
ในระหว่างที่พวกเขาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกันนั้น หลัวเลี่ยก็ได้ปิดกั้นทางของชงจ้านหยวนแล้ว
“เ้าเพิ่งฝึกวรยุทธ์ได้เพียงสองเดือน แต่กลับก้าวหน้าได้ถึงขนาดนี้ ไม่เลว” ชงจ้านหยวนไม่ได้ใมากนัก “แต่เ้าอาจใช้เวลาสองเดือนนี้ฝึกฝนแค่การเคลื่อนไหว เพราะความแข็งแกร่งของพลังภายในของเ้าดูเหมือนจะไม่ดีขึ้น เช่นนั้นลองมาลิ้มรสพลังหมัดของผู้ฝึกตนระดับหกหน่อยเป็ไร”
พรึ่บ!
ชงจ้านหยวนะโขึ้นชกเขา
นี่คือหมัดัทมิฬที่มีพลังมาก สร้างขึ้นโดยชงโหวหู่
ใช้กำลังจากแขนเป็หลัก และออกแรงไปที่หมัด
แขนและกำปั้นเหวี่ยงออกไปราวกับัที่เคลื่อนไหวอย่างเอาแต่ใจ
“ผู้ฝึกตนระดับที่หกนั้นแข็งแกร่งมากหรือ” ร่างกายของหลัวเลี่ยสั่นเล็กน้อย และไอพลังที่แข็งแกร่งของเขาก็ะเิออกมา “ข้าก็อยู่ในระดับผู้ฝึกตนระดับที่หกเช่นกัน เ้าเองก็มาลิ้มรสพลังของหมัดแห่งผู้พิชิต ซึ่งเป็วิชาที่ทรงพลังมากในแคว้นเป่ยสุ่ยเถิด”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้