เ้าหน้าที่หน่วย OCTB สอบปากคำชย่าลิ่วอีตลอดทั้งคืน เ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายผลัดกันเข้ามาในห้อง แอร์ถูกปรับให้อยู่ในระดับต่ำสุด มีกาแฟเย็นและขนมปังเหม็นอับวางอยู่ อย่างไรก็ตาม ชย่าลิ่วอีไม่ปริปากพูดอะไรเลยจนกระทั่งทนายความของเขามาถึง หลังจากนั้นเขาก็ได้รับการปกป้องอย่างไม่มีช่องโหว่ เขามีหลักฐานว่าไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ มีบันทึกการแจ้งรถหาย เขาหาวออกมาและเล่นกับเ้าหน้าที่ตำรวจด้วยท่าทีผ่อนคลายและสงบนิ่ง
หลังจากการสอบสวนแบบขบวนรถไฟ[44]เป็เวลาสองวัน พวกเขาก็ยังไม่ได้อะไรเลย
นายตำรวจหญิงสาวคนนั้นผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของเซี่ยเจียหัว กำลังดูภาพจากกล้องวงจรปิดในห้องข้างๆ และพูดด้วยความโกรธว่า "มันเหลือเชื่อจริงๆ! พวกเราพยายามอย่างหนักเพื่อจับเขา แล้วเราจะปล่อยเขาไปหลังจาก 48 ชั่วโมงงั้นเหรอ? มันไม่ถูกต้อง!"
"ฮ่องกงในตอนนี้ไม่ใช่ว่าแก๊งมาเฟียมีอำนาจไปหมดเลยหรือไง?" ตำรวจชายที่ยืนกอดอกพูดอย่างไม่ใส่ใจ "เขาก็แค่มาเที่ยวสถานีตำรวจ! ยังไงก็เสียแรงเปล่า ผมว่าเรากลับบ้านไปนอนดีกว่า"
เซี่ยเจียหัวซึ่งกำลังดูภาพจากกล้องวงจรปิดอยู่นั้น เงยหน้าขึ้นมองด้วยสายตาเ็า ตำรวจชายจึงรีบหุบปากทันที
"ถ้าการแสวงหาความยุติธรรมมันง่ายขนาดนั้น แล้วเราจะมีตำรวจไว้ทำไม?" เซี่ยเจียหัวพูดด้วยสีหน้าเ็า
“เข้าใจครับท่าน
หลังจากสั่งสอนลูกน้องเสร็จ เซี่ยเจียหัวก็ผลักประตูเข้าไปในห้องสอบสวน ชย่าลิ่วอีเอนหลังพิงเก้าอี้ ประสานนิ้วมือเข้าด้วยกัน มีหนวดเคราขึ้นเล็กน้อยบนคาง ดูเหนื่อยล้าเล็กน้อยแต่ก็ผ่อนคลาย ทนายความข้างๆ เขาก็ไม่ได้นอนมาสองคืนเช่นกัน ผมมันเยิ้มและมีรอยคล้ำใต้ตา
เซี่ยเจียหัวแต่งตัวสะอาดเรียบร้อยและดูภูมิฐาน นั่งลงตรงข้ามพวกเขา
"ชย่าลิ่วอี" เขาพูดอย่างไม่แสดงอารมณ์ใดๆ
"คุณเซี่ย" ชย่าลิ่วอีตอบกลับอย่างเกียจคร้าน
"คนที่เล่นกับไฟจะถูกเผาตัวเอง ระวังตัวด้วย"
ชย่าลิ่วอียกมุมปากยิ้ม "ขอบคุณคุณเซี่ยที่เป็ห่วงครับ"
มีคนเคาะประตูจากข้างนอก แล้วชะโงกหน้าเข้ามา "ท่านครับ มีสายเรียกเข้าครับ"
เซี่ยเจียหัวมองชย่าลิ่วอีแวบหนึ่ง แล้วลุกขึ้นออกไป เมื่อเดินไปถึงห้องด้านนอก เขารับโทรศัพท์มือถือรุ่นเก่าที่ลูกน้องยื่นให้ "ฮัลโหลครับ"
"คุณเซี่ย ผมรอคุณอยู่ที่ร้านถานเต่ามาหนึ่งชั่วโมงครึ่งแล้ว ชานมไข่มุกก็กินไปแล้วสองรอบคุณจะมาหรือไม่มาครับ?"
เซี่ยเจียหัวดูเวลาแล้วพูดอย่างเ็า "รออีกสิบห้านาที" จากนั้นก็วางสายไป
เขาสั่งการลูกน้องเล็กน้อย กำชับให้พวกเขาจับตาดูชย่าลิ่วอี จากนั้นก็ออกจากสถานีตำรวจ เดินไปที่ร้านถานเต่า ซึ่งอยู่ห่างออกไปสอง่ตึก ลู่กวงิกำลังเล่นเกมไขปริศนาอักษรไขว้บนหนังสือพิมพ์ โดยจงใจวางแก้วชานมไข่มุกเปล่าสองแก้วไว้บนโต๊ะ
"เฮีย ขอชานมไข่มุกอีกแก้ว" เขาเหลือบไปเห็นเซี่ยเจียหัวเดินเข้ามา จึงทักทาย "คุณเซี่ย คุณจะดื่มอะไรดีครับ?"
"น้ำร้อนหนึ่งแก้ว" เซี่ยเจียหัวบอกกับพนักงานเสิร์ฟ
"ดื่มแต่น้ำเปล่าหรือ?" ลู่กวงิหัวเราะ "อยากทานอะไรหน่อยไหม?"
"ว่ามาสิ" เซี่ยเจียหัวพูด
ลู่กวงิยิ้มตาหยี อย่างรู้จังหวะว่าไม่ควรเสียเวลาทักทาย เขาหยิบแฟ้มเอกสารออกมาจากกระเป๋าเอกสาร แล้วเลื่อนไปให้เซี่ยเจียหัว "นี่คือรายชื่อสารวัตรที่เคยติดต่อกับชย่าลิ่วอีและเฝยชีรวมถึงเอกสารที่เกี่ยวข้องบางส่วน"
เซี่ยเจียหัวปิดดูคร่าวๆ แล้วปิดแฟ้ม "นายอยากรู้อะไร?"
"เื่ที่เราคุยกันครั้งก่อน เกี่ยวกับ 'คนผู้นั้น'"
เซี่ยเจียหัวไม่มีสีหน้า "นายคิดว่าฉันจะช่วยนายสืบเื่ญาติตัวเองด้วยเหตุผลอะไร?"
ลู่กวงิหัวเราะเบาๆ แล้วพูด "ถ้าคุณไม่ลงมือทำร้ายผม แล้วยังอุตส่าห์มานั่งดื่มชาไข่มุกกับผมอีกล่ะก็ คุณคงไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ ใช่ไหมล่ะ? จริงๆ แล้วคุณก็เคยสงสัยเขาเหมือนกันใช่ไหม? ่นี้ข้างบนมีใครมาบอกให้คุณเลิกยุ่งเื่พวกนี้บ้างหรือเปล่า?"
เซี่ยเจียหัวเงียบไปครู่หนึ่ง "คุณไม่สงสัยหรือว่าผมมีส่วนร่วมด้วย?"
ลู่กวงิยักไหล่ "ไม่เลย"
ตอนนั้นพนักงานเสิร์ฟก็ยกชานมและน้ำร้อนมาเสิร์ฟพอดี ลู่กวงิเอนหลังพิงโซฟา หลับตาลงเล็กน้อย จิบชานมหนึ่งอึกแล้วเม้มปาก "ผมเชื่อคุณ เพราะมีคนเคยพูดถึงคุณกับผม"
"ถังเจียฉี" เขาพูดชื่อออกมา "หัวหน้าฝ่ายสืบสวนของคณะกรรมการปราบปรามการทุจริต เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่เมื่อแปดปีก่อน เขาเป็รุ่นพี่ของผม...และก็เป็ลูกพี่ลูกน้องของผมด้วย"
น้ำร้อนในถ้วยในมือของเซี่ยเจียหัวกระเพื่อมเป็ระลอกคลื่นเล็กๆ แทบจะสังเกตไม่เห็น
……
เวลาสองทุ่มตรง ภายในสำนักงานที่ไฟสว่างจ้า ยังมีพนักงานที่ตั้งใจทำงานอยู่ครึ่งหนึ่ง เหอชูซาน อยู่ท่ามกลางพวกเขา ก้มหน้าอ่านเอกสารเป็ตั้งๆ
หลังจากแก้ไขข้อมูลสองจุดบนคอมพิวเตอร์แล้ว เขาก็เหม่อมองไปที่โทรศัพท์มือถือรุ่นเก่าบนโต๊ะ
สองวันมานี้เขาแทบจะไม่ได้แตะต้องอาหารเลย แต่ความรู้สึกว่างเปล่าไม่ได้อยู่ที่ท้อง แต่อยู่ที่ใจ
เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา กดหมายเลขสองสามตัว ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็วางลงอย่างมีสติ
หลังจากนั่งเหม่ออยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ฝืนตัวเองให้กลับมามองที่หน้าจอคอมพิวเตอร์อีกครั้ง ขณะที่กำลังคลำแป้นพิมพ์อยู่นั้น โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นพร้อมกับเพลงเรียกเข้า
เขาคว้ามันขึ้นมาทันที! "ฮัลโหล?"
"เ้าหนูเสี่ยวซาน?" ชุยตงตงพูดจากทางนั้น "เขากลับมาแล้ว อยู่ที่บ้าน นายมาอีกสองชั่วโมงนะ จะมีคนอื่นด้วย"
เหอชูซานวางโทรศัพท์ลงเหม่อไปครู่หนึ่ง แล้วก็ะโลุกขึ้นคว้ากระเป๋าเอกสารแล้ววิ่ง! "ริกกี้! ช่วยปิดคอมพิวเตอร์ให้ผมที"
"อาแซม รีบร้อนขนาดนี้ จะรีบไปแต่งงานหรือไง?" เพื่อนร่วมงานพูดแซวจากข้างหลัง
เหอชูซานวิ่งกลับไปที่ห้องเช่าด้วยความเร็วแสง แม้แต่ขั้นตอนการไขกุญแจก็ยังข้ามไป ——ประตูห้องของเขาถูกตำรวจพังเมื่อสองวันก่อน และยังไม่ได้ซ่อมจนถึงตอนนี้ เพียงแค่ผลักเบาๆ ก็สามารถเปิดได้ โชคดีที่อยู่ในทำเลห่างไกล จึงไม่มีขโมยมาสนใจ
เขาต้มโจ๊กเนื้อไม่ติดมันหนึ่งหม้อ ใส่กระติกเก็บความร้อนให้เรียบร้อย แล้วรีบร้อนไปยังจิ่งหลงถัง รออยู่ใกล้ๆ บ้านของชย่าลิ่วอีเกือบชั่วโมง จนกระทั่งเห็นเสี่ยวหม่าและคนอื่นๆ ที่ดูเหมือนจะเป็ลูกน้องออกมาจากบ้าน แยกย้ายกันขึ้นรถหลายคันแล้วขับออกไป เขาจึงอุ้มกระติกเก็บความร้อนวิ่งเข้าไปในบ้าน
บอดี้การ์ดที่หน้าประตูรู้จักเขาดี จึงปล่อยเขาเข้าไปโดยไม่ถามอะไร เหอชูซานรีบวิ่งเข้าไปในห้องนั่งเล่น ชย่าลิ่วอีนั่งอยู่บนโซฟา ห่มผ้าห่มผืนบาง กำลังคุยอะไรเบาๆ กับชุยตงตง
เหอชูซานหายใจหอบอย่างหนักขณะวิ่งพรวดเข้ามา เมื่อสายตาของเขาสบเข้ากับสายตาของชย่าลิ่วอีที่หันกลับมามองอย่างกะทันหัน ดวงตาของชย่าลิ่วอีก็พลันเบิกกว้างด้วยความใทันที
ลูกพี่ใหญ่ชย่าหันไปมองตาขวางกับชุยตงตง ตงตงยักไหล่ "มองฉันทำไม? พอนายออกมา สิ่งแรกที่นายถามไม่ใช่ว่าเขาเป็ยังไงหรือ? สบายดี ไม่ได้เป็อะไร ฉันเลยเรียกเขามาให้นายดูเองเลย!"
ชย่าลิ่วอีถึงกับพูดไม่ออก หันไปมองเหอเสี่ยวเปี๋ยซาน ——เ้าเด็กนี่พอได้ฟังคำพูดของชุยตงตง เืลมสูบฉีด หน้าแดงก่ำเลย!
เหอชูซานหน้าแดงก่ำ ก้าวไปข้างหน้าอย่างร้อนใจ "พี่ลิ่วอี..."
"แม่งเอ้ย อย่าเข้ามา! คุกเข่าตรงนั้นแหละ!" พี่ใหญ่ยังโมโหอยู่ เดี๋ยวค่อยจัดการแก!
เหอชูซานชะงักไปครู่หนึ่ง ก้มหน้าลง อุ้มกระติกเก็บความร้อนไว้ แล้วคุกเข่าลงอย่างว่าง่าย
แต่แล้วชย่าลิ่วอีก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่าเข่าของเขายังมีแผลอยู่ จึงรีบะโว่า "หยุด หยุด! ไปยืนที่หน้าประตูโน่น! เห็นแล้วหงุดหงิด!"
เหอชูซานยืดตัวขึ้น แล้วก็เดินไปที่ประตูอย่างว่าง่าย ยืนตัวลีบติดกำแพง ลูกพี่ใหญ่ชย่าและชุยตงตงก็ยังคงวางแผนกันต่อ หลังจากนั้น ชุยตงตงก็ลุกขึ้นอย่างสง่างามเพื่อบอกลา เมื่อเดินผ่านหน้าเหอชูซาน ก็ตบบ่าเขาอย่างมีความหมาย "ฝากด้วยนะ เ้าเสี่ยวซาน"
"เธอไปพูดไร้สาระกับมันทำไม?" ชย่าลิ่วอีะโด่าจากข้างใน "พามันไสหัวไปด้วยเลย!"
ชุยตงตงขยิบตาให้เหอชูซาน ยกนิ้วชี้ขวาขึ้นมาแตะปากเบาๆ เป็เชิงให้เงียบ แล้วสะบัดมือไปทางห้อง เหอชูซานก็เหมือนหนูตัวน้อยๆ กระดึ๊บไปตามกำแพงเข้าไปในห้องตามที่เธอสั่ง
เชิงอรรถ
[44] มหายถึง สอบสวนต่อเนื่องโดยเปลี่ยนผู้สอบสวนไปเรื่อยๆ
