เวลาล่วงเลยไปไวดุจสายน้ำ ในที่สุดเหมันต์ฤดูก็มาถึง วันนี้ท่านโหวแห่งแดนเหนือนั้นมีกำหนดที่ต้องออกลาดตระเวนชายแดน ซึ่งกินเวลาหลายสัปดาห์
หลังจากที่ได้รู้ได้อ่านตำราเกี่ยวกับสมุนไพรที่ซื้อมาจากตลาด และได้คิดค้นสูตรเครื่องดื่มและชาหลากหลายชนิด ไป๋ลู่จึงวางแผนที่อยากจะออกไปเดินชมร้านค้านอกจวนเนื่องจากอยากศึกษาระบบการค้าในราชวงศ์ิแห่งนี้อย่างจริงจัง
เพื่อสานฝันที่นางจะได้หย่ากับท่านโหวและออกเดินทางไปยังดินแดนใต้ ไป๋ลู่จึงรอจังหวะที่ท่านโหวไม่อยู่ในจวน แอบออกไปข้างนอกโดยแอบปีนออกทางด้านประตูหลังของจวน
“ในที่สุดวันนี้ข้าก็แอบหนีออกมาได้ หากท่านโหวรู้ว่าข้านั้นแบบหนีออกมา เขาจะว่าข้าหรือเปล่า หรือว่าบางทีเขาอาจจะไม่สนใจก็ได้”
หลังจากพึมพำคนเดียวอยู่นานไป๋ลู่ก็ตัดสินใจเดินตรงไปยังทางเดินข้างหน้า และมุ่งตรงไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับโรงน้ำชา
โรงน้ำชาแห่งนี้ตั้งอยู่กลางตรอกเล็กๆ ในย่านที่มีผู้คนมากมายเดินสวนกันไปมาอย่างคึกคักด้านหน้ามีป้ายไม้แกะสลักชื่อโรงน้ำชา “ไป๋เหอ” ติดไว้้า โดยมีอักษรสีทองที่ถูกบรรจงเขียนอย่างประณีตด้วยพู่กัน
ด้านในประดับไปด้วยชั้นไม้ที่เรียงรายไปด้วยโหลใส่ใบชาหลากชนิด มีั้แ่ชาดำ ชาเขียว ไปจนถึงชาหายากที่มาจากต่างเมือง ด้านในสุดของโรงน้ำชามีพื้นที่ยกระดับเล็กน้อยสำหรับการแสดงดนตรี บรรยากาศในดูเงียบสงบเหมาะสำหรับผู้ที่้าหนีมาพักผ่อนจากความวุ่นวายของตัวเมือง
“แม่นาง ท่าน้าดื่มชาหรือ”
ชายหนุ่มผิวพรรณดีคนหนึ่งเดินออกมาต้อนรับไป๋ลู่ ดูแล้วน่าจะเป็หลงจู๊ของที่นี่ เขาแต่งกายด้วยอาภรณ์สีเขียวอ่อนเจือด้วยสีฟ้ามองแล้วดูสบายตา มองแล้วเหมือนจะเป็คนที่รักความสะอาดมาก
“เ้าค่ะ”
หลังจากนั้นคุณผู้นั้นก็ได้แนะนำตัวกลับไป๋ลู่ว่าเขาชื่อ “หงเจ๋อหยวน” ทำงานเป็หลงจู๊ของโรงน้ำชาแห่งนี้
“แม่นาง...” ชายหนุ่มเ้าของร้านน้ำชาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสุภาพพลางยิ้มต้อนรับ
“ไม่ทราบว่าท่านชื่นชอบชาชนิดใดเป็พิเศษหรือไม่?”
“ตัวข้านั้นไม่มีชาชนิดใดที่ชื่นชอบเป็พิเศษ ไม่ทราบว่าท่านพอจะแนะนำได้ไหม ว่า่นี้ชาชนิดไหนขายดีบ้าง”
“ได้เลยแม่นาง! หากพูดถึง่นี้แล้ว ชาขาวถือเป็สินค้าที่ขายดียิ่งนัก ทั้งหอม ทั้งละมุน เหมาะกับทุกโอกาสเลยทีเดียว”
หลังจากที่ไป๋ลู่ได้ดื่มชาชนิดนี้เข้าไป นางก็รู้สึกสนใจในศาสตร์ของการชงชาเป็อย่างมาก ด้วยอยากหาสูตรเครื่องดื่มใหม่
ด้วยความที่อีกฝ่ายเป็คนเปิดเผยและอารมณ์ดี ทำให้บทสนทนาดำเนินไปอย่างราบรื่น ไม่นานทั้งคู่ก็สนิทสนมกันอย่างน่าประหลาดใจ
“หลงจู๊ ข้าสนใจวัตถุดิบที่ท่านใช้ในโรงน้ำชานี้มาก ดูเหมือนมันจะมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่อื่น ท่านพอจะบอกข้าได้หรือไม่ ว่าพวกท่านหาใบชาพวกนี้มาจากที่ใด?”
“ฮูหยิน ช่างสายตาแหลมคมจริงๆ วัตถุดิบส่วนใหญ่ของข้านั้นมาจากแถบูเาตอนเหนือ มีสมุนไพรและพืชที่หาได้ยาก หลายชนิด ข้าต้องเดินทางไปสั่งของจากชาวบ้านที่เก็บมาได้จากป่าลึก”
ทั้งคู่พูดคุยกันอย่างออกรสชาติ ไป๋ลู่ได้ทั้งความรู้และแรงบันดาลใจจากหลงจู๊เป็อย่างมาก หลังจากที่รู้ตัวว่าคุยกันอยู่นานจนพระอาทิตย์ใกล้จะตกดิน ไป๋ลู่จึงกล่าวเพื่อขอตัวลาหลงจู๊ที่มีนามว่า ”หงเจ๋อหยวน” คนนี้กลับจวนโหว
“คุณชายเจ๋อหยวน ข้าต้องขอตัวกลับจวนก่อน หากมีโอกาส ไว้ข้าจะมาอุดหนุนน้ำชาของท่าน”
“ขอบคุณขอรับ ฮูหยิน วันนี้ข้ารู้สึกสนุกมาก นานๆ ทีข้าจะมีโอกาสเพบเจอกับคนที่มีความชอบคล้ายกัน”
จากนั้นไป๋ลู่จึงรีบวิ่งออกจากตรอกเล็กและตรงไปยังถนนสายหลักเพื่อกลับจวนให้ทันเวลาตะวันตกดิน เพราะในยุคสมัยนี้สตรีที่ดีจะต้องไม่อยู่นอกจวนในเวลาตกดิน โดยเฉพาะสตรีที่ออกเรือนแล้วอย่างนาง
อีกฟากหนึ่งของถนนสายหลัก สถานที่โอ่อ่าหรูหราแห่งหนึ่งประดับประดาไปด้วยโคมแดงระยิบระยับ ดึงดูดสายตาของผู้ผ่านไปมา ภายในเป็หอคณิกาที่เลื่องชื่อในเขตเมือง
เอกบุรุษผู้หนึ่งก้าวออกมาจากประตูใหญ่ ร่างสูงสง่าแต่ท่าทางดูหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด กลิ่นน้ำอบฉุนลอยคลุ้งจากเสื้อผ้าของเขา ยิ่งทำให้เ้าตัวรู้สึกไม่สบอารมณ์เข้าไปใหญ่
ขณะก้าวเท้าออกมาบนถนน เขากลับชะงักไปทันที เมื่อสายตาคมกริบของเขาสบเข้ากับดวงตากลมโตคู่งาม
ท่านโหว?” เสียงที่เต็มไปด้วยความใดังขึ้น
“ไหนท่านบอกว่าจะออกไปตระเวนชายแดน?”
ไป๋ลู่หน้าเผือดลงทันที ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความใ ริมฝีปากสั่นเล็กน้อย
“ตายแน่... เขาจับได้ว่านางลอบหนีออกมาจากจวน!”
ความตื่นตระหนกทำให้ไป๋ลู่ไม่คิดสิ่งใดอีกต่อไป นางหมุนตัวและรีบวิ่งออกไปจากบริเวณนั้นทันที ทิ้งให้หวังจิ่นหรงยืนนิ่งอยู่ตรงทางเข้าหอคณิกา สายตาสีทองของเขาจับจ้องไปยังแผ่นหลังเล็กๆ ที่ค่อยๆ หายลับไป
“ลูเอ๋อร์...มันไม่ใช่อย่างที่เ้าคิด”
หวังจิ่นหรงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแ่เบา ในตอนแรกเขาตั้งใจจะตามนางไปเพื่ออธิบายเื่ราวทั้งหมดด้วยกลัวว่าไป๋ลู่จะน้อยใจเขาเหมือนเช่นวันนั้น
แต่อีกใจหนึ่ง หวังจิ่นหรงก็ชั่งใจว่าควรปล่อยให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับนางคงอยู่ในสภาพเช่นนี้ต่อไปดีหรือไม่
ทันใดนั้น ทหารส่วนพระองค์คนหนึ่งเดินออกมาจากหอคณิกา พร้อมทั้งเรียกเขากลับเข้าไปเพื่อสะสางราชการลับต่อ
หวังจิ่นหรงถอนหายใจยาว ก่อนจะหันหลังกลับเข้าไปในหอคณิกา เพียงเพื่อสะสางงานที่ยังคั่งค้าง ทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่าที่พัดผ่าน ความรู้สึกอึดอัดทั้งหมดของเขา ความลับในใจของเขาที่ยังไม่เคยได้เอื้อนเอ่ยออกไป
เมื่อกลับมาถึงเขตจวน ไป๋ลู่ที่ยังคงโกรธจัดจู่ๆ ก็นึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ นางเดินตรงไปยังโรงครัว และเริ่มระบายโทสะกับวัตถุดิบเกือบทุกอย่างที่มีอยู่ตรงหน้า
“คนเลว คนโกหก! ถ้าจะไปเสเพลอยู่นอกจวน ทำไมมิสู้บอกข้าออกมาตามตรง ทำไมต้องโกหกว่าออกไปลาดตระเวนด้วย!”
เนื้อสัตว์ ผักต่างๆ ถูกนางใช้มีดสับละเอียดจนแทบป่นเป็ผง คนในโรงครัวได้แต่มองฮูหยินของตนด้วยความหวั่นเกรง
นานวันเข้า ฮูหยินของพวกเรายิ่งอารมณ์ร้ายเหมือนท่านโหวเข้าไปทุกที!
“ฮูหยินใจเย็นก่อนนะเ้าคะ เื่ที่ท่านโหวต้องเดินทางไปชายแดนทุกปีนั้นเป็ความจริง บ่าวทุกคนในจวนต่างรู้ดี ส่วนเื่หอคณิกานั้น สามีของบ่าวซึ่งเป็ทหารคนสนิทของท่านโหวเคยเล่าให้ฟังว่า บรรดาทหารส่วนพระองค์และรองแม่ทัพมักใช้ที่นั่นเป็สถานที่หารือเื่ราชการลับ เห็นว่าเป็หนึ่งในหอคณิกาของแม่นางลี่อิน ซึ่งมีศักดิ์เป็ภรรยาของแม่ทัพตงแห่งแดนตะวันออก สหายสนิทของท่านโหวเ้าค่ะ”
“งั้นหรือ พวกเ้าไม่ได้ปดเพื่อทำให้ข้าสบายใจใช่ไหม?”
ไป๋ลู่ถามกลับด้วยน้ำเสียงที่ยังไม่คลายความสงสัย ดวงตาสีเทาของนางฉายแววครุ่นคิดและไม่วางใจ
“ลี่อิน...” นางพึมพำเบาๆ
นางจำได้ดีว่า ลี่อินคือสตรีคนเดียวกันที่หวังจิ่นหรงนั่งคุยด้วยในห้องรับรองเมื่อครั้งก่อน ภาพเหตุการณ์นั้นยังคงตามหลอกหลอนนางจนถึงตอนนี้ และมันเป็ชนวนเหตุที่ทำให้เขาบริภาษนางอย่างรุนแรง
ยิ่งนึกก็ยิ่งโมโห จนเผลอปามีดที่อยู่ในมือออกไป เหล่าแม่ครัวรู้สึกโล่งใจเป็อย่างมาก ที่พวกตนตัดสินใจไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยฮูหยินทำครัว ไม่เช่นนั้นอาจจะถูกลูกหลงไปด้วย
หญิงสาวที่ได้สติก็เริ่มฉุกคิด เมื่อเห็นว่าเหล่าบ่าวในจวนทั้งหมดต่างพูดเป็เสียงเดียวกันว่าหวังจิ่นหรงคงจะมีเหตุผลของเขา
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับข้ากันแน่? ข้าทำอะไรลงไป… เหตุใดเพียงแค่คิดถึงเขา ข้าก็ไม่อาจควบคุมอารมณ์ของตนเองได้เช่นนี้? แต่ก่อนข้าไม่เคยแสดงอารมณ์ฉุนเฉียวหรือพาลใส่ใครมาก่อนเลย…
“เ้าค่ะ บ่าวไม่กล้าปดฮูหยินหรอกเ้าค่ะ”
สาวใช้กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น พลางก้มศีรษะด้วยความยำเกรง หากมองดูนิสัยใจคอระหว่างเ้านายทั้งสองแล้ว ก็คงไม่แปลกที่จะมีผู้เปรียบว่าทั้งสองเป็ดั่งเนื้อคู่กัน จะบอกว่า์สรรค์สร้างหรือนรกสรรหามาคู่กันก็ไม่อาจพูดได้อย่างเต็มปาก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้