การโจมตีของคนเป่ยตี้รุนแรงมากกว่าปกติ แต่กลับอยู่ในการคาดเดาของทุกคน
คนเป่ยตี้ครั้งนี้ไม่ได้มาโจมตีจากด่านเยี่ยนเหมินที่เป็ทางด่านทางเข้า แต่มาจากทางทิศใต้ ซึ่งยืมเส้นทางของแคว้นเยี่ยนทางจากทิศตะวันตกของต้าเหลียง
ถึงแม้จะคาดการณ์เอาไว้หลายแบบ แต่ผู้ใดก็คิดไม่ถึงว่าเป่ยตี้จะไปยืมเส้นทางของแคว้นเยี่ยน
แคว้นเยี่ยนอยู่ทางทิศตะวันตกของแคว้นต้าเหลียง เป็แคว้นที่ไม่ใหญ่มาก ั้แ่อดีตมามีนโยบายเป็พันธมิตรกับต้าเหลียงและเป่ยตี้ และก็เพราะว่าแคว้นเยี่ยนใช้เส้นทางการค้าไปทางตะวันตก อิทธิพลแข็งแกร่ง การป้องกันแคว้นนั้นเป็รูปแบบปกป้องได้ง่ายโจมตีได้ยาก ถึงแม้แคว้นจะเล็ก แต่อยากจะโจมตีละก็กลับเป็เื่ที่ไม่ง่ายเลย
ผ่านการวิเคราะห์มามากมายหลายอย่าง สวี่เหราคิดไม่ถึงว่าได้ผลสรุปออกมาหนึ่งเดียวเช่นนี้ ยืนอยู่ด้านนอกประตูเมือง มองคนเป่ยตี้ขี่ม้าศึกอยู่ไม่ไกลจากประตูเมืองเขาก็ปวดหัวอยู่นิดหน่อย
ด้านนอกด่านเยี่ยนเหมินเองก็มีคนเป่ยตี้ พวกเขาเตรียมตัวที่จะโจมตีจากสองทาง แล้วจัดการถล่มด่านเยี่ยนเหมินทิ้งเสีย ถ้าหากจัดการกับด่านเยี่ยนเหมินได้แล้ว ถึงแม้ตอนนี้จะไม่เข้ามาโจมตีด้านในด่าน ขอแค่คว้าด่านเยี่ยนเหมินเอาไว้ในมือ พื้นที่กว้างใหญ่พันลี้ด้านในเขตของต้าเหลียงสำหรับคนเป่ยตี้แล้วก็เป็แค่เนื้อบนเขียง ต้าเหลียงสร้างแคว้นมานานหลายปีเช่นนี้ แล้วค่อยๆ เปลี่ยนมาให้ความสำคัญกับตำรามากกว่าการต่อสู้ ที่สามารถมั่นคงขนาดนี้ได้ ไม่ถูกเป่ยตี้มาโจมตีก็เพราะว่ามีด่านเยี่ยนเหมินนั่นเอง
สวี่ตี้ไม่รู้ว่าขึ้นมาบนกำแพงเมืองั้แ่เมื่อไหร่ มองทหารเป่ยตี้ที่นั่งอยู่บนม้าตัวโตแล้วก็ถอนหายใจ “คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าพวกเขาจะสามารถทำเื่เช่นนี้ออกมาได้ ไม่รู้ว่าใครให้ค่าตอบแทนมากเท่าไหร่ แล้วก็ไม่รู้ว่าพวกเขาให้ผลประโยชน์อะไรแคว้นเยี่ยนบ้าง”
สวี่เหราเอ่ย “เื่นี้ยังจะต้องพูดอีกหรือ จะต้องให้ม้าศึกไปไม่น้อยแน่ ม้าศึกของเป่ยตี้นั้นหายากมาก”
สวี่ตี้ลูบคาง “ท่านว่า พวกเราจะสามารถต้านไว้ได้หรือไม่ขอรับ?”
สวี่เหราตอบ “จะปกป้องได้หรือไม่ได้ก็ต้องปกป้อง ข้าคาดว่าแคว้นเยี่ยนให้คนเป่ยตี้พวกนี้ยืมเส้นทาง แต่ก็ไม่กล้าให้พวกเขามาเยอะเกินไป”
สวี่ตี้เอ่ย “ถ้าหากคนพวกนี้ตายไป และไม่มีคนอื่นมาเพิ่มอีกละก็ พวกเราก็น่าจะสามารถคิดหาวิธีที่แก้ปัญหาออกมาได้ขอรับ”
สวี่เหราเอ่ย “เอาล่ะ วิธีการรับมือก็ให้เ้าค่อยๆ คิด ข้าถามเ้าหน่อย ทางลับจากในเมืองไปด้านนอกเมืองเ้าขุดเสร็จหรือยัง?”
สวี่ตี้เข้าไปยืนอยู่ตรงหน้าของสวี่เหรา ก่อนจะพูดเสียงเบา “ขุดนานแล้ว ปากทางนอกเมืองเป็ความลับมาก แต่จะต้องหาคนที่เชื่อถือได้ไป ไม่เช่นนั้นพวกเราทั้งเมืองจะต้องกลายเป็เนื้อบนเขียงให้กับคนเป่ยตี้แน่นอนขอรับ”
สวี่เหราพยักหน้าเอ่ย “เช่นนั้นข้าก็จะไม่ส่งคนจากสำนักงานว่าการเขตไปแล้วกัน ข้าจะส่งองครักษ์หลี่ไปพร้อมกับเอาลายมือของข้าไปส่งให้กับทางก่านโจวแล้วก็เมืองที่อยู่ใกล้ๆ จะต้องให้พวกเขาเตรียมตัวรับมือให้ดี ไม่ใช่พวกเราไม่เป็อะไร แต่ทางด้านพวกเขากลับถูกปล้นสะดมนะ”
องครักษ์หลี่เป็หนึ่งในสองขององครักษ์ที่ตามมาจากจวนหย่งหนิงโหว ความสามารถสูงส่ง ตอนนี้สวี่ตี้ หลี่เจียเหลียง แล้วก็พี่น้องสกุลหลี่รวมถึงสวี่จือก็มาเรียนวิชาการต่อสู้กับองครักษ์หลี่ เด็กผู้ชายจะต้องตั้งใจเรียน เด็กหญิงสามคนทำเพียงแค่้าให้ร่างกายของพวกนางแข็งแรงก็พอแล้ว
สวี่เหรามองคนเป่ยตี้ที่เริ่มตั้งกระโจมอยู่ไม่ไกลจากด้านนอกเมืองพวกนั้นอีกครั้ง สั่งคนบนกำแพงไม่กี่ประโยคก็กลับไปที่เมือง
เขียนจดหมายด้วยลายมือตนเองแล้วก็ประทับลายนิ้วมือลงไป ก่อนที่สวี่เหราจะเอาไปที่ด้านหลังสำนักงานเขต
หลังจากสั่งองครักษ์หลี่เสร็จแล้ว สวี่ตี้ก็พาองครักษ์หลี่เข้าไปทางใต้ดินจากทางโต๊ะปาเซียนที่อยู่ในห้องของตน
การเตรียมความพร้อมรับภัยที่จะมาถึงกลายเป็ความเคยชินที่คนมากมายจะต้องทำ สวี่ตี้เองก็เป็คนเช่นนี้ เพื่อสามารถเหลือทางรอดให้ตนเอง สวี่ตี้ถึงกับรีดเค้นความคิดในสมองมาออกแบบเส้นทางใต้ดินเช่นนี้ ทั้งยังไม่กล้าที่จะจ้างคนไม่คุ้นเคยมาขุด หลังจากการเก็บเกี่ยวฤดูใบไม้ร่วงจบไป ก็แอบพาพวกคนที่อยู่ในไร่มาที่เรือนหลัง ขุดเส้นทางใต้ดินสามกะงาน ก็ขุดกันจนมาถึงด้านนอกเมืองได้สำเร็จ
กำลังคนมากก็ลงมือได้ง่ายและรวดเร็ว แต่ที่จัดการยากที่สุดกลับเป็พวกดินที่ขุดออกมา เพื่อจัดการดินพวกนี้ เขาก็ใช้ความคิดไปไม่น้อย สุดท้ายสวี่ตี้ก็ใช้ช่องทางใต้ดินนำดินออกมาตามเส้นทางเพื่อเอาไปขายหรือไม่ก็เอาไปสร้างเรือนอีกหลายหลัง
สวี่ตี้พาองครักษ์หลี่มาส่งจนถึงด้านนอก ทางออกของเส้นทางใต้ดินเป็สถานที่ลึกลับมาก สร้างหลอกเอาไว้อย่างมิดชิด ถ้าหากไม่มีคนพาไปก็คงหาสถานที่นี้ไม่เจอ
เขาให้องครักษ์หลี่ไปที่บ้านสวนโดยใช้เส้นทางเล็กๆ บนูเา ที่นั่นเลี้ยงม้าเอาไว้หลายตัว ให้องครักษ์หลี่ไปหาหัวหน้าผู้ดูแลสวนสกุลจ้าวเพื่อเอาม้าขี่ไปส่งจดหมาย เช่นนี้จะไวกว่า
หลังจากส่งองครักษ์หลี่ไปแล้ว ตอนที่กำลังจะกลับไป ในจุดไกลออกไปสวี่ตี้ก็เห็นคนเป่ยตี้กลุ่มหนึ่งเดินทางมาที่นี่ จำนวนคนมีประมาณยี่สิบกว่าคนและไม่ได้ขี่ม้า
คาดว่าจะแอบเข้ามาลองเคาะประตูเมืองทางเหนือ สวี่ตี้รู้สึกว่าถ้าหากตนเองไม่ทำอะไรสักอย่าง ก็คงจะรู้สึกละอายใจตัวเอง
เขาหาเชือกออกมาหลายเส้นจากในกระเป๋าที่ตัวเองพก แล้วทำเป็กับดักง่ายๆ หลายอัน ก่อนที่เขาจะทำหน้าไม้ที่สามารถมัดเข้ากับข้อมือของเขาได้ เข้าคู่กับลูกดอกที่ทำขึ้นเอง บนลูกดอกก็แช่ด้วยยาที่จางจ้าวฉือทำขึ้นมา ซึ่งตัวยาที่ทำนั้นมาจากต้นศรพิษ ทันทีที่ลูกดอกยิงถูกตัว ตัวยา้าก็จะเข้าสู่กระแสเืในร่างกาย สามารถทำให้ทั้งตัวของคนชาไปหนึ่งถึงสองวัน ซึ่งสวี่ตี้ได้ทำการทดลองมาแล้ว
นับจำนวนลูกดอกที่พกมา มีอยู่ยี่สิบกว่าดอก สวี่ตี้ตัดสินใจที่จะเสี่ยงดูสักครั้ง
สวี่ตี้ใส่ชุดสีเหลืองหม่นทั้งยังใช้สีย้อมผ้ามาย้อม สวมหมวกที่ทำจากผ้าชนิดเดียวกัน ถ้าหากสวี่ตี้นอนอยู่ในป่าไม่ขยับเขยื้อน ถึงแม้จะมองอย่างละเอียดก็มองไม่ออกว่าเป็คน นี่เป็สิ่งที่สวี่ตี้ภูมิใจ
สูดหายใจเข้าลึกๆ ให้อารมณ์ของตัวเองค่อยๆ มั่นคง สวี่ตี้รู้สึกได้ว่าสภาวะของร่างกายและจิตใจอยู่ในจุดที่ดีที่สุดแล้วก็เริ่มลงมือ
ค่อยๆ เข้าใกล้กลุ่มคนเป่ยตี้แม้แต่เสียงเดินยังไม่มี สวี่ตี้อ้อมไปอยู่ด้านหลังของพวกเขา รอจนกระทั่งพวกคนที่อยู่ด้านหน้าเหยียบกับดักเข้า หลังจากถูกมัดเท้าลากขึ้นไปห้อยหัวอยู่บนต้นไม้ คนเป่ยตี้ก็เริ่มจะหวาดหวั่น สวี่ตี้ถึงได้เริ่มลงมือ หน้าไม้ทุกครั้งสามารถยิงได้ห้าดอก ขอแค่สามารถยิงโดนตัวคนก็พอ แต่ว่าทุกครั้งที่จะใส่ลูกดอกลงไปจำเป็ต้องใช้เวลา ใน่เวลานี้สำหรับสวี่ตี้แล้วเป็่ที่เสี่ยงอันตรายที่สุด
สิ่งที่สวี่ตี้คิดไม่ถึงก็คือ คนพวกนี้ต่างเป็ทหารฝึกพิเศษของเป่ยตี้ จึงมีฝีมือในการจัดการการลอบโจมตีระดับสูง
ในตอนเริ่มต้นไม่ได้ระวังตัว จนกระทั่งล้มไปได้สิบกว่าคน หลังจากหวาดหวั่นใน่เวลาสั้นๆ พวกเขาก็ได้สติกลับมาจากนั้นก็เริ่มโจมตีกลับมาอย่างรุนแรง
สวี่ตี้รับมือไม่ไหวอีกต่อไป จึงใช้ความคุ้นเคยกับพื้นที่ ล่อคนพวกนี้มาทางทิศตะวันตก เขารู้ว่าหม่าิตั้งฐานทัพลับเอาไว้ทางด้านทิศตะวันตกของูเา เพื่อเป็การฝึกหน่วยรบพิเศษเ่าั้ สองวันก่อนสวี่ตี้เคยมาวางแผนฝึกกับหม่าิที่นี่
เรี่ยวแรงของสวี่ตี้ลดลงมาก ยามเล็งหน้าไม้ก็ไม่ค่อยจะแม่นยำสักเท่าไหร่ รอจนกระทั่งในมือเหลือลูกดอกอยู่สามอัน ด้านหลังยังมีคนวิ่งตามมาห้าคน สวี่ตี้รู้สึกว่าความแม่นยำของลูกดอกไม่เหมือนในตอนแรก
วิ่งไปข้างหน้า ก็ยังต้องคอยหลบลูกธนูที่ยิงมาจากด้านหลัง ทันใดนั้นก็รู้สึกถึงแรงโจมตีเข้าที่บ่าซ้ายของตนเอง ก่อนที่ความรู้สึกเจ็บแปลบแล่นเข้ามาวูบหนึ่ง สวี่ตี้รู้ว่าตัวเองถูกยิงเข้าแล้ว กล่าวกันตามความจริง ในตอนนี้สวี่ตี้รู้สึกเสียใจภายหลังอยู่หน่อยๆ แล้ว เขาประมาทมากเกินไป
แต่ยังไม่ถึงวินาทีสุดท้ายจะยอมแพ้ไม่ได้ สวี่ตี้กัดฟันอดทนเจ็บ หยิบะเิควันออกมาจากในกระเป๋า เ้านี่เป็สิ่งที่สวี่ตี้ทำขึ้นมาเอง แล้วโยนไปทางด้านหลังของตัวเองจนเกิดควันขึ้นมาที่ด้านหลัง อีกทั้งด้านในควันสวี่ตี้ยังเพิ่มผงพริกลงไปด้วย จึงได้ยินเสียงไอรุนแรงดังมา่หนึ่ง เขาอาศัยจังหวะนี้หยิบนกหวีดออกมาเป่า
นี่คือสัญญาณที่สวี่ตี้กับหม่าินัดแนะกันไว้ ขอแค่ได้ยินสัญญาณนี้ เช่นนั้นก็หมายความว่าข้างกายตนเองมีสหายกำลังตกอยู่ในอันตราย จะต้องรีบไปช่วย
เป็อย่างที่คิดไว้ สวี่ตี้ได้ยินเสียงสวบสาบ ก่อนจะตามมาด้วยเสียงะโ “ไท่ซาน” สวี่ตี้ก็รีบตอบกลับไปทันทีว่า “หวงเหอ” เมื่อเสร็จแล้ว วินาทีต่อมาสวี่ตี้ก็ล้มลงไปนั่งกับพื้น
ข้างกายมีคนที่ใช้ต้นไม้ใบไม้มาพรางตัวปรากฏตัวออกมา พอเห็นสวี่ตี้ คนหนึ่งก็รีบเข้ามา “คุณชายสวี่เหตุใดถึงเป็เ้าได้?”
สวี่ตี้มองไปก็เห็นโจวิเต๋อที่ทั้งหน้าทาไปด้วยขี้เถ้า เขารีบบอก “เร็วเข้า ทางนั้นมีคนเป่ยตี้ห้าคน พวกเ้าใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปากเอาไว้ ในควันนั้นใส่ยาลงไป”
แต่ละคนได้ยินก็รีบหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมาทำเป็ผ้าปิดปากง่ายๆ หลังจากใส่เสร็จแล้วก็เข้าไปด้านในควันนั้น
เพียงเวลาแค่ครู่เดียวพวกโจวิเต๋อพาสามคนที่ถูกมัดเอาไว้กลับมา สวี่ตี้เห็นแล้วก็รีบะโ “ไม่ใช่สิ มีห้าคน รีบไปค้นหาต่อเร็ว”
โจวิเต๋อหยิบะเิส่งสัญญาณออกมา หลังจากวางเอาไว้เรียบร้อย ก็พูดกับสวี่ตี้ “คุณชาย ข้าทิ้งสองคนเอาไว้อยู่กับเ้าที่นี่ เดี๋ยวข้าจะพาสหายไปค้นหาอีก”
สวี่ตี้พยักหน้า “ได้ พวกเ้าจะต้องระวังความปลอดภัย ทางทิศตะวันตกของประตูเมืองได้มีคนเป่ยตี้เดินทางมาแล้ว ข้ากลัวว่าตอนนี้ทางนั้นจะไม่ปลอดภัย”
โจวิเต๋อจะไปแล้ว สวี่ตี้ก็กวักมือเรียกเขา โจวิเต๋อยื่นหน้าเข้ามาใกล้ สวี่ตี้เอ่ย “มีกันทั้งหมดยี่สิบคน นอกจากสามคนนี้กับอีกสองคนหนีที่ไปแล้ว ก็มีอีกสิบห้าคนถูกข้าใช้ลูกดอกยิงได้รับาเ็ บนลูกดอกของข้าได้อาบยาเอาไว้ หลังจากถูกยิงทั้งตัวจะชาจนขยับตัวไม่ได้ ถ้าหากพวกเ้าเจอไม่ต้องสนใจ ถ้าหากไม่เจอก็พิสูจน์ว่าพวกเขาถูกคนช่วยไปแล้ว พวกเ้าไม่ต้องตามไปแล้วรีบกลับมา เข้าใจหรือไม่?”
โจวิเต๋อพยักหน้า สวี่ตี้เอ่ยต่อ “พวกเ้าเป็คนที่เก่งกาจในหมู่คนเก่งกาจ จะต้องรักษาความปลอดภัยของตัวเองให้ดีที่สุด”
คนที่รับผิดชอบกลุ่มทหารหน่วยรบพิเศษในตอนนี้คือหม่าิ สองคนนั้นจึงอยู่เป็เพื่อนพูดคุยกับสวี่ตี้ ส่วนหม่าิถูกซื่อจื่อเรียกไปที่กองทัพตั้งนานแล้วแต่ยังไม่กลับมา ตอนนี้คนที่อยู่ในกองทัพจึงมีจำกัด
บนบ่าของสวี่ตี้ยังมีลูกธนูปักอยู่ ทั้งบ่าซ้ายเจ็บจนชาไปหมดแล้ว เขารู้สึกว่าเหงื่อเย็นๆ บนหลังของตัวเองทำเอาเสื้อผ้าเปียกชื้นไปหมด
สวี่ตี้เอ่ย “ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่จะอยู่ได้นาน ไปพาคนมา พวกเราจะกลับไปที่กองทัพกันก่อน จากนั้นก็ค่อยตัดสินใจกันอีกที พวกเ้าไปหาคนที่เข้าใจภาษาเป่ยตี้มา แล้วให้ตรวจสอบสามคนนี้ดีๆ”
ทั้งสามคนพาคนเป่ยตี้ที่ถูกมัดเอาไว้สามคนเดินทางไปยังกองทัพที่อยู่ไม่ไกล
พูดว่าเป็กองทัพ ความจริงแล้วก็เป็กระโจมง่ายๆ หลายหลัง เว่ยหลางหลังจากพิจารณาถึงประโยชน์ของการฝึกพิเศษ หนึ่งปีทั้งสี่ฤดูก็จะพาคนมาฝึกในูเานี้ หลังจากอากาศหนาวแล้วเพื่อป้องกันบริเวณชายแดน เว่ยหลางจึงมอบเื่การฝึกพิเศษให้กับหม่าิ
คนที่อยู่เฝ้าในฐานทัพเห็นสวี่ตี้ถูกคนพยุงมา ก็รีบเข้ามาหา พอเห็นบนบ่าของสวี่ตี้มีลูกธนูอยู่ก็ใ
แพทย์ทหารที่ตามมาด้วยยังอยู่ หลังจากตรวจสอบเสร็จแล้ว ก็ดึงลูกธนูออกให้ก่อนจะพันแผลให้เรียบร้อย “คุณชาย ลูกธนูนี้เป็เพียงลูกธนูธรรมดา ้าไม่ได้ใส่ยาอะไรไว้ ท่านกลับไปแล้วก็ให้หมอจางจ่ายยาให้ท่านกินก็ไม่มีปัญหาแล้วขอรับ”
หลังจากสวี่ตี้ขอบคุณเสร็จแล้ว ด้านนอกก็มีทหารคนหนึ่งรีบร้อนวิ่งเข้ามาพร้อมพูดกับสวี่ตี้ว่า “คุณชาย คุณชายขอรับ คนเป่ยตี้สามคนนั้นบอกว่า สองคนที่หนีไป คนหนึ่งเป็องค์ชายห้าของเป่ยตี้ แล้วก็มีราชองครักษ์ข้างกายขององค์ชายห้าขอรับ”
สวี่ตี้ได้ยินก็ใช้มือขวาตบลงไปที่โต๊ะอย่างแรง “เหตุใดถึงปล่อยให้เขาหนีไปได้ง่ายๆ ล่ะ”
ทหารคนนั้นตอบ “พวกเขายังพูดอีกว่า ที่องค์ชายห้าพามาล้วนเป็ราชองครักษ์ในวังเป่ยตี้ของพวกเขา ทั้งยังเป็องครักษ์ฝีมือดีที่สุดในวัง คุณชายขอรับ ท่านเก่งมากจริงๆ ที่สามารถรับมือคนเก่งๆ มากมายขนาดนี้เพียงคนเดียว”
สวี่ตี้เอ่ย “ข้าเก่งที่ไหนกันเล่า ข้าถือโอกาสลงมือก่อนต่างหาก หากสู้ตัวต่อตัวอย่าพูดว่าคนเดียวเลย มีข้ายี่สิบคนข้าก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา ความสามารถของข้าเป็อย่างไรพวกเ้าเองก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้”
สวี่ตี้่นี้เพิ่งจะเริ่มเรียนศิลปะการต่อสู้ อีกทั้งเพราะว่าในครอบครัวมีเื่ให้ทำมากมาย เวลาฝึกจึงไม่เยอะเท่ากับที่คนในกองทัพ จึงพึ่งวิชาา หากจะต้องฝึกกับทหารตัวต่อตัว ร้อยกว่าคนนี้ต่างสามารถจัดการให้เขาล้มลงไปนอนได้
เดินหน้าไปอีกหน่อยก็เป็ป้อมปราการแล้ว ตอนนี้สวี่ตี้กำลังครุ่นคิด คาดว่าองค์ชายห้าพาคนมาเป้าหมายก็คงจะเป็แนวป้องกันของที่นี่ ไม่ใช่ประตูทิศเหนือของเหอซี อย่างไรประตูนั้นตอนหน้าร้อนที่ผ่านมาไม่เพียงแต่จะเพิ่มความมั่นคงแล้ว ยังเพิ่มความสูงจนเท่ากับประตูเมืองทิศตะวันออก ้ายังมีทหารคอยเฝ้าอยู่มากมาย ยี่สิบคนนี้ความสามารถแข็งแกร่ง อยากจะยึดประตูเมืองตอนกลางวันนั้นไม่ยาก
สวี่ตี้ถาม “พวกเ้าได้ถามพวกเขาหรือไม่ว่ามาทำอะไรที่นี่?”
คนในกองทัพคนนั้นเอ่ย “ถามแล้วขอรับ พวกเขาเคยพูดว่ามาตรวจสภาพพื้นที่ องค์ชายห้ามาดูพื้นที่ พวกเขาก็รับผิดชอบคุ้มกัน ผู้ใดจะไปรู้ว่าลอบเข้ามา ก็เหลือแต่องครักษ์ข้างกายองค์ชายห้าที่พาคนหนีไปแล้วขอรับ”
เพียงครู่เดียวโจวิเต๋อก็กลับมา ก่อนจะเอ่ย “คุณชาย คนพวกนั้นถูกช่วยออกไปแล้ว พวกเราไปดูที่นั่นมาแล้ว พวกเขาคงจะถูกช่วยไปแล้วจริงๆ”
สวี่ตี้พยักหน้า “คงจะเป็เช่นนั้น ยาของข้า หากไม่ใช่วันสองวันก็อย่าคิดว่าจะฟื้นฟูกลับมาได้”
โจวิเต๋อฟังแล้วดวงตาก็วาวขึ้น สวี่ตี้เอ่ย “เ้านี่ไม่สามารถให้พวกเ้าใช้ได้ มันแรงเกินไป หากใช้ไม่ดีตัวเองก็อาจจะโดนไปด้วย พวกเขาตรวจสอบมาแล้ว เ้ารีบกลับไปรายงานซื่อจื่อ แล้วส่งคนมาส่งข้ากลับไปสองคน”
โจวิเต๋อรับคำ ตัวเขากลับไปรายงานเว่ยหลางที่ด่านเยี่ยนเหมิน พร้อมกับสั่งสองคนให้พาสวี่ตี้กลับไปส่งที่เหอซี
ลงเขาจากทางนี้ จากนั้นก็เลาะชายขอบเหอซีผ่านเส้นทางไปทิศตะวันออกของด่านเยี่ยนเหมิน เดินทางไปไม่กี่ลี้ก็เป็ประตูเมืองทิศตะวันตกของเมืองเหอซีแล้ว เดิมทีประตูทิศตะวันตกของเหอซีไม่ได้อยู่ที่นี่ เป็หลังจากที่ขยายเมืองเหอซีในเวลาต่อมาก็สร้างประตูเมืองที่นี่ใหม่
ถึงแม้ประชากรจะไม่ได้มาก แต่จากการพัฒนา ในเมืองจำเป็ต้องใช้พื้นที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ต่อมาสวี่เหราได้สร้างคลังเก็บข้าวเอาไว้ใต้ดินซึ่งเดิมทีอยู่ด้านนอกประตูเมือง ฤดูร้อนปีนี้เพิ่งจะสร้างกำแพงล้อมเข้ามาด้านใน เพื่อสร้างกำแพงเมือง สวี่เหราได้ใช้เงินที่หามาจากการขายขนแกะ เสื้อขนแกะไปจนหมดแล้ว
เหอซีพอพัฒนาก็พบร่องรอยของคนเป่ยตี้ จึงส่งสัญญาณไปให้ด่านเยี่ยนเหมิน จากนั้นก็ส่งคนไปหาสาเหตุให้ชัดเจน ด่านเยี่ยนเหมินได้ส่งคนมาก่อนแล้ว ตอนนี้คนที่เฝ้าประตูทิศตะวันตกก็เป็คนของด่านเยี่ยนเหมิน พอเห็นสวี่ตี้กับทหารพิเศษสองคนก็รีบเปิดประตูเมืองให้เข้ามา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้