เสวียนเทียนขมวดคิ้วระหว่างชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามกับชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นห้าแตกต่างกันไกลไม่ใช่แค่ความต่างเื่หนึ่งมือหรือสองมือแล้ว
ใช้แค่มือเดียวไม่ใช่ว่าพลังจะลดลงมาครึ่งหนึ่งเสียเมื่อไรพลังของชั้นผู้ฝึกยุทธ์ไม่ได้ลดลงแค่น้อยไปมือหนึ่งก็ใช้เพลงยุทธ์ได้น้อยลงก็เท่านั้น สำหรับผู้ฝึกยุทธ์ที่ใช้กระบี่แล้วแค่กระบี่เล่มเดียวอยู่ในมือมือเดียวก็พอแล้วที่จะแสดงแปดถึงเก้าในสิบส่วนของความสามารถทั้งหมดออกมา
หวงสือไม่ใช่คู่ประมือของจางหู่แม้แต่น้อย
เสวียนเทียนฟังแล้วก็เข้าใจญาติผู้น้องหวงสือถูกจางหู่ยั่วยุชักนำ ตั้งใจที่จะล่อให้เขาขึ้นต่อสู้บนลานประลองถ้าขึ้นลานประลองแล้ว ในสายตาของผู้คนที่มองก็คิดว่าเราและเขาต่างสมัครใจขอแค่ไม่สู้จนตาย หรือสู้แล้วาเ็สาหัส ก็ได้แต่โทษว่าฝีมือไม่พอเอง
คิดถึงตรงนี้ เสวียนเทียนก็โกรธจัดกลัวว่าญาติผู้น้องหวงสือจะเสียเปรียบหนัก จึงปล่อยมือหลินตง แล้วบอกว่า “ศิษย์น้องหลินค่อยตามมาศิษย์พี่จะล่วงหน้าไปก่อน”
พลังภายในของเสวียนเทียนอัดแน่นไปทั้งร่างเขาใช้พลังตัวเบา ร่างเบาดุจนกนางแอ่น หนึ่งก้าวไปได้ไกลกว่าสามจั้งรีบมุ่งหน้าไปยังลานประลองที่ลานศิษย์นอก
....
สำนักกระบี่์ ลานศิษย์นอก
ตอนนี้บนลานมีศิษย์นอกมารวมตัวกันเกือบร้อยคนการต่อสู้ของศิษย์ชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นห้ากับศิษย์ระดับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามช่องว่างความแตกต่างระหว่างพลังมีมากนัก แม้ว่าผลลัพธ์ไม่ต้องคิดก็พอจะรู้อยู่แต่แน่นอนว่าเป็เื่หายากยิ่ง จึงดึงดูดสายตาของคนไม่น้อย
แน่นอนว่าดึงดูดเพียงผู้ชมที่เพิ่งเข้าสำนักมาได้ไม่กี่ปีหรือพวกที่พลังวัตรต่ำกว่าระดับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกเท่านั้น
ศิษย์ชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเจ็ดขึ้นไปเป็บุคคลที่อยู่ชั้นสูงขึ้นไปในหมู่ศิษย์นอกสำนักไม่สนใจจะดูการต่อสู้ที่น่าเบื่อเช่นนี้
บนลานประลองหวงสือกับจางหู่กำลัง ‘ต่อสู้’ กันที่จริงจะเรียกว่า ‘ต่อสู้’ ก็ไม่ถูกนักเรียกว่าหยอกเล่นจะเหมาะเสียมากกว่า
จางหู่เป็เด็กหนุ่มอายุสิบสี่เข้าสำนักมาปีเดียวกันกับเสวียนเทียน พร์เมื่อเทียบกับรุ่นเดียวกันนับว่าโดดเด่นกว่าผู้อื่นเข้าสำนักได้สามปีครึ่งพลังวัตรก็ลุชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นห้าสูงกว่าเสวียนเทียนก่อนที่จะได้พบเหตุการณ์ประหลาดอยู่หนึ่งขั้น
จางหู่มีร่างกายแข็งแกร่งกำยำโดยกำเนิดอายุเพียงสิบสี่ปีร่างก็สูงเมตรแปดสิบได้แล้ว ร่างสูงดั่งวัวใหญ่ดั่งม้าขณะเดียวกันทั้งร่างยังเต็มไปด้วยพละกำลังในบรรดาลูกศิษย์ที่บรรลุระดับชั้นเดียวกันนั้นเขาถือเป็บุคคลที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุด
แม้จะใช้เพียงมือเดียวแต่กระบี่ในมือก็วาดออกไปกระแทกหวงสือจนทำให้ทั้งร่างกระเด็นถอยไปได้ง่ามนิ้วระหว่างนิ้วชี้กับนิ้วโป้งชาหนึบปวดแปลบ
วิถีกระบี่ของจางหู่เปลี่ยนครั้งหนึ่งหวงสือยังไม่ได้ทันตอบสนองบนแขนก็มีแผลเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งที่
ตอนนี้าแบนแขนของหวงสือมีไม่น้อยกว่าสิบแห่งทั้งบนลำตัว บนแผ่นหลัง ต้นขาต่างก็มีาแไปทุกที่ เืสดไหลรินมุมปากมีรอยเื เห็นได้ชัดว่าถูกแรงโจมตีหนักหน่วงจากกระบี่ของจางหู่ทำให้ได้รับาเ็ภายใน
จางหู่เล่นงานอีกฝ่ายได้อีกหนึ่งกระบี่ เขาก็หัวเราะลั่นพลางเอ่ยว่า “หวงสือเ้ายังจะบอกว่าเ้าไม่ใช่ขยะ ตัวข้าใช้แค่มือเดียว ก็เล่นงานเ้าได้เหมือนฆ่าหมาฆ่าเ้าก็เหมือนฆ่าหมู วันนี้ถ้าเ้ายอมรับผิด ยอมรับว่าหวงเทียนเป็ขยะตัวเ้าเป็ขยะในหมู่ขยะ ข้าจะยอมปล่อยเ้าไป”
“ฮ่าๆๆๆ...”
ลูกศิษย์ด้านล่างลานประลองจำนวนหนึ่งหัวเราะลั่นขึ้นมาบางส่วนถึงกับพากันวิจารณ์ ได้ยินแว่วๆ ว่า “ที่แท้ก็เป็ขยะจริงๆ” “ศิษย์พี่จางหู่สุดยอดจริง”เป็ต้น
ลูกศิษย์ที่รายล้อมอยู่ล่างลานประลองส่วนใหญ่เป็พวกพลังวัตรต่ำเตี้ย เป็ลูกศิษย์ชั้นล่างที่สุดของศิษย์นอกปกติพวกเขาถูกคนอื่นรังแก ในใจรู้สึกไม่พอใจที่ตนไม่มีอะไรให้ระบายตอนนี้เห็นหวงสือย่ำแย่กว่าพวกเขา ก็ลืมสภาพน่าอดสูยามที่ตนเองโดนคนอื่นรังแกไปเสียสิ้น
คนบางคนก็เป็เช่นนี้ทั้งที่ตนเองอยู่ชั้นล่างสุดของวงสังคมหนึ่ง ถูกคนที่อยู่สูงกว่ากดขี่หมดสิ้นแต่พวกเขาก็ยังมีความสุขที่จะได้เย้ยหยันคนที่อยู่ชั้นล่างเหมือนกันกับพวกเขา
“อย่าหวัง” หวงสือถ่มเืออกจากปากดวงตาทั้งคู่แดงก่ำเหมือนบ้าคลั่ง ะโเสียงดังด้วยความโกรธ “จางหู่ เ้าสิเป็ขยะ ช้าเร็วสักวัน พี่เทียนจะอัดเ้าจนหมอบแน่”
“เ้าขยะคนนี้ยังกล้าปากดีอีกหรือ ดูแล้วเ้ามันอวดดีจองหองจริงๆ ไม่ให้เ้าได้เห็นความเก่งของจริงเ้าคงไม่เข้าใจความเก่งกาจของข้าสินะ”
จางหู่โกรธจัด คำรามเสียงดัง
ในใจเขาคิดว่า ‘ขอแค่ไม่ฆ่าเ้าขยะนี่ตายในการประลองต่อให้ข้าทำให้ร่างกายของเ้าขยะนี่าเ็สาหัสอย่างมากผู้าุโก็เพียงลงโทษข้าที่ประลองไม่รู้จักหนักเบาเก็บตัวสำนึกความผิดประมาณเดือนหนึ่งเท่านั้น ดี! ข้าจะแทงเข้าอกของเ้าขยะสักกระบี่ แทงให้เป็รูใหญ่เอาให้เ้าขยะลุกจากเตียงไม่ขึ้นสักสามเดือน’
เมื่อจางหู่มีความคิดชั่วร้ายเกิดขึ้นมาได้ก็พลันลงมือทำทันที แต่เสียงคำพูดยังไม่จางก็มีกระบี่อีกเล่มมาปัดกระบี่ของหวงสือออก กระบี่ยาวแทงเข้าไปตรงหน้าอกของหวงสือ
การลงมือโเี้นี้ ลูกศิษย์ที่รุมล้อมอยู่ด้านล่างเวทีล้วนคาดไม่ถึงต่างคนอุทานอย่างใ ส่งเสียงดังขึ้นมา
“จางหู่...หยุดมือเดี๋ยวนี้”
ตอนนี้เองเสียงตวาดลั่นก็ดังขึ้นมาจากนอกขอบด้านข้างของลานกว้างเสวียนเทียนทะยานทีเดียวร่างก็ร่อนลงมาที่กลางลานกว้าง ห่างจากเวทีประลองยี่สิบกว่าจั้ง
เสียงของเสวียนเทียนทำให้จางหู่ชะงักไปวูบหนึ่ง จากนั้นใบหน้าของเขาก็ปรากฏรอยยิ้มเหี้ยมเกรียม กระบี่ยาวในมือไม่ลดความเร็วแต่กลับยิ่งเพิ่ม เสือกแทงไปยังกลางอกของหวงสือ
ฟึบ...
ลำแสงสว่างบาดตาสายหนึ่งพุ่งออกจากมือของเสวียนเทียนพริบตาก็วาดผ่านอากาศว่างเปล่าระยะยี่สิบจั้งทะยานขึ้นไปบนลานประลอง
ชิ้ง...
เสียงดังลั่นขึ้นในตอนที่ปลายกระบี่ของจางหู่กำลังแตะโดนเสื้อของหวงสือลำแสงสว่างบาดตาก็ปะทะเข้ากับตัวกระบี่ของจางหู่
แรงปะทะหนักหน่วงสายหนึ่งส่งผ่านมาจากตัวกระบี่มือของจางหู่สะท้าน กระบี่ยาวพลันหลุดจากมือตกไปอีกทาง
เส้นแสงสว่างสายนั้นโจมตีกระบี่ของจางหู่แล้วก็เปลี่ยนทิศไปอีกทาง ปลายด้านหนึ่งปักลงบนเวทีห่างออกไปสามจั้ง
เสียง ‘วิ้ง...’ ดังขึ้น เมื่อเส้นแสงสีขาวหยุดเลื่อนไหวและนิ่งสนิทลงก็กลายเป็กระบี่เล่มหนึ่งปักอยู่บนเวทีประลอง กระบี่ครึ่งหนึ่งปักลงไปบนลานประลานที่เป็พื้นแข็ง
ตอนที่สายตาของทุกคนมุ่งไปที่กระบี่เล่มนั้นตัวเสวียนเทียนก็กระโจนขึ้นมาบนเวทีประลอง เข้ามายืนข้างหวงสือ
จางหู่ตกตะลึงกับกระบี่เมื่อครู่ของเสวียนเทียน อยู่ๆ เสวียนเทียนก็มาปรากฏตรงหน้า ร่างของเขาขยับถอยห่างออกไปสามจั้งขณะเดียวกันก็เก็บกระบี่ยาวของตนที่ตกพื้นขึ้นมา
เสวียนเทียนสกัดจุดหลายจุดบนร่างของหวงสือบริเวณที่ยังมีเืไหลอยู่เพื่อห้ามเื เห็นาแบนร่างของเขาแม้จะมากแต่ก็ไม่ลึก เป็เพียงาแภายนอกในใจก็สงบลงบ้าง ถ้าหากหวงสือเป็อะไรไปเขาจะชดใช้อย่างไรต่อคำฝากฝังของท่านลุงสามกัน
แต่ว่ายังดีที่เสวียนเทียนมาถึงทันเวลา หากกระบี่นั้นของจางหู่แทงเข้าไปคงแทงทะลุอกของหวงสือเป็แน่ ต่อให้หวงสือไม่ตายก็ต้องได้รับาเ็สาหัสอาจถึงขั้นที่ชีวิตนี้พลังวัตรไม่อาจก้าวหน้าได้อีกแล้ว
คิดมาถึงตรงนี้ดวงตาของเสวียนเทียนก็ยิ่งฉายแววเย็นเยียบเพิ่มขึ้น ศัตรูแค้นในใจ เสวียนจีและอินจีตอนนี้ยังแข็งแกร่งเกินไปห่างไกลจากเขาเกินไป ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือกำจัดศัตรูที่ขวางทางตรงหน้า
จากวันนี้ไป ใครก็ตามที่ทำร้ายทำอันตรายแก่ชีวิตหรือทำลายผลประโยชน์ของครอบครัวเขา ศัตรูที่ขวางอยู่หน้าเขาล้วนต้องกำจัดเสีย มีเพียงทลายอุปสรรคที่ขวางหน้าอยู่ไปเรื่อยๆ เดินหน้าไปไม่มีหยุดถึงจะมีคุณสมบัติพอที่จะตัดสินแพ้ชนะกับเสวียนจีและอินจีที่เป็ศัตรูตัวฉกาจได้
เมื่อสกัดจุดแล้วเืจากาแของหวงสือก็หยุดไหล ร่างกายอ่อนแรงแต่ไม่ได้เป็อะไรมากพักผ่อนสองสามวันก็พอให้ฟื้นร่างกายกลับมาได้ เสวียนเทียนบอกเขา “เ้าลงไปรอข้างๆ ปล่อยเ้านั่นให้พี่จัดการเถิด”