หนานกงเยวี่ยบ้าไปแล้วหรือ
ไม่ นางในยามนี้มีสติเต็มเปี่ยม นางรู้ตัวอย่างแน่นอนว่าตนเองกำลังทำอะไร
ดูเหมือนว่าความอัปยศอดสูที่นางได้รับในเวลานี้จะะเิออกมาแล้ว หนานกงเยวี่ยจับข้อเท้าจ้าวอิ้งเสวี่ยแน่น นางรู้อาการาเ็ของจ้าวอิ้งเสวี่ยดี นาง้าทำให้จ้าวอิ้งเสวี่ยเ็ป ทุกวันนี้เหนียนเฉิง บุตรชายของนางต้องทุกข์ทรมานเพียงใด นางก็จะทำให้จ้าวอิ้งเสวี่ยได้ลิ้มรสเช่นกัน
เพราะเช่นนั้น ยามที่หนานกงเยวี่ยจับเท้าจ้าวอิ้งเสวี่ย นางจึงออกแรงสุดชีวิต
ความเ็ปแผ่ซ่านจากข้อเท้าไปยังทุกส่วนของร่างกาย จ้าวอิ้งเสวี่ยไม่เคยคิดเลยว่าหนานกงเยวี่ยจะกล้าทำกับนางเช่นนี้ต่อหน้าผู้คนมากมาย!
นางมั่นใจว่าหนานกงเยวี่ยตั้งใจ!
"หนานกงเยวี่ย!" จิ้นหวางเฟยก้าวเข้าไปดึงหนานกงเยวี่ยให้ปล่อยมือจากจ้าวอิ้งเสวี่ย ทว่านางก็กังวลว่าตนเองจะไปโดนาแของอิ้งเสวี่ยเข้า ภายใต้ความกังวล ระหว่างดึงหนานกงเยวี่ยให้ออกห่างจากจ้าวอิ้งเสวี่ยนั้น กลับยิ่งทำให้อิ้งเสวี่ยเป็ทุกข์ยิ่งกว่าเดิม ดังนั้น...
เมื่อเล็งตัวหนานกงเยวี่ยได้แล้ว จิ้นหวางเฟยจึงเตะเข้าไปที่ตัวหนานกงเยวี่ยอย่างรุนแรงไร้ความปรานี
ลูกเตะนั้น เตะเข้าที่หน้าอกของหนานกงเยวี่ยอย่างจัง ความเ็ปแล่นเข้ามาในชั่ววินาทีนั้น หนานกงเยวี่ยรู้สึกเหมือนมีเืไหลทะลักออกมาจากปาก กลิ่นคาวเืคละคลุ้งกระจายไปทั่วปากนาง
เกิดความโกลาหลไปทั่วห้องโถง มิรู้ว่าเมื่อใดที่สุดท้ายแล้วหนานกงเยวี่ยปล่อยมือจากจ้าวอิ้งเสวี่ย
เพียงชั่วพริบตาหลังจากหนานกงเยวี่ยปล่อยมือ นางก็ถูกเหนียนเย่าดึงตัวออกมา และตบลงบนใบหน้านาง ความเ็ปแสบร้อนที่แผ่ซ่านทั่วใบหน้า ทำให้หนานกงเยวี่ยปราดตาถลึงมองเหนียนเย่าอย่างดุร้าย ทว่าในยามนี้ ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่คิดจะสนใจหนานกงเยวี่ยที่โดนตบหน้า
ในห้องโถง ยกเว้นเสียงร้องอันเ็ปของจ้าวอิ้งเสวี่ย และเสียงปลอบโยนของจิ้นหวางเฟยแล้ว ทุกสิ่งอย่างแทบจะสงบเงียบ ความสงบเงียบนั้นเรียกได้ว่าแทบจะดูแปลกประหลาด
บรรดาอนุทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์...ลู่ซิวหรง...สวีหว่านเอ๋อร์...เซวียอวี่โหรว ล้วนจับจ้องมองสตรีบนพื้นที่อิงซบในอ้อมอกของจิ้นหวางเฟย ความรู้สึกคลื่นเหียนปนหวาดกลัวในจิตใจพวกนาง ไม่ว่าทำอย่างไรก็มิอาจจางหาย พวกนางแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง...
พวกนางต่างรู้ดีว่าท่านหญิงจ้าวอิ้งเสวี่ยต้องเสียโฉมจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ ทว่าจะมีผู้ใดเคยได้ยลโฉมหน้าที่ถูกทำลาย
ทุกคนจำได้ว่าท่านหญิงจ้าวอิ้งเสวี่ยนั้นเกิดมางดงามเพียงใด แต่ในยามนี้...
ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยแผลเป็สีชมพู กระจัดกระจายน่ารังเกียจ รอยแผลเป็บนใบหน้าขยายใหญ่หดรั้งเข้าหากัน จนเรียกได้ว่าแทบจะไม่มีส่วนผิวที่ยังดีหลงเหลือให้เห็นอยู่เลย
ไม่น่าแปลกใจ...
ไม่น่าแปลกใจเลยที่วันนั้นฮูหยินผู้เฒ่าใจนเป็ลมล้มพับไป!
ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเหนียนเฉิงที่เห็นจ้าวอิ้งเสวี่ยทุกวัน ถึงบอกว่าเหมือนเห็นผี
และไม่น่าแปลกใจเลยที่ท่านหญิงจ้าวอิ้งเสวี่ยจะโกรธเกลียดตระกูลเหนียน ทั้งยังเคียดแค้นเหนียนเฉิงมากถึงเพียงนี้ ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ ไม่ว่าผู้ใดก็ตาม หากต้องประสบเื่เลวร้ายขมขื่นเยี่ยงนี้ ก็คงไม่มีทางยอมอภัยให้ง่ายๆ เช่นกัน!
"อุ๊บ..."
ท่ามกลางความเงียบ เสียงคลื่นเหียนที่ดังขึ้นกะทันหัน ทำให้ผู้คนรอบข้างชะงักงัน แม้ใบหน้าที่ทุกคนเห็นจะดูน่าคลื่นเหียนและหวาดกลัว ทว่าพวกนางต่างพยายามอดทนอย่างเต็มที่ แล้วผู้ใด...
ทุกคนในเหตุการณ์หันมองฮูหยินโจวที่ได้รับเชิญมาในวันนี้ ครั้นฮูหยินโจวตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง นางรีบลุกขึ้นคุกเข่าลงบนพื้นทันที พลางเอ่ยออกมาอย่างลนลานว่า “ข้าน้อยผิดไปแล้ว ข้าน้อย...”
ฮูหยินโจวเต็มไปด้วยความรู้สึกตื่นตระหนก ภาพใบหน้าของจ้าวอิ้งเสวี่ยวนเวียนอยู่ในหัวนางไม่หยุด ทำให้นางพูดจาสับสน ไม่ปะติดปะต่อ ไม่รู้ว่าตนเองควรจะอธิบายอย่างไร
ทว่าเสียงคลื่นไส้เมื่อครู่นี้นั้น ทำให้สมาธิของจ้าวอิ้งเสวี่ยกลับมา
ความเ็ปยังคงกระจายไปทั่วร่างกายของนาง ทว่าจ้าวอิ้งเสวี่ยกลับมามีสติ นางกวาดสายตามองทุกคน...
สายตาทุกคู่ที่จ้องมาที่นาง ทั้งรังเกียจ สงสารและหวาดกลัว...
ผิงเอ๋อร์ตอบสนองเป็คนแรก นางรีบเข้ามายืนตรงหน้าจ้าวอิ้งเสวี่ย บดบังสายตาของทุกคนที่มองมา
แต่การกระทำของผิงเอ๋อร์ ทำให้มุมปากของหนานกงเยวี่ยยกยิ้มเบาบางอย่างรังเกียจ
บังหรือ?
ทุกคนล้วนเห็นกันหมดแล้ว มาบังตอนนี้ คิดว่าจะบังได้อีกหรือ?
ใบหน้านั่น...
แม้เป็หนานกงเยวี่ย ทว่านี่ก็เป็ครั้งแรกที่นางได้เห็น
ช่างอัปลักษณ์เสียจริง น่าสะอิดสะเอียนเสียขนาดนั้น ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดเหนียนเฉิงของนางถึงรังเกียจใบหน้านางเสียขนาดนั้น ใบหน้าเช่นนี้จะมาคู่ควรกับเหนียนเฉิงของนางได้อย่างไร
นางจะต้องทำให้จ้าวอิ้งเสวี่ยผู้นี้ยอมหย่ากับเฉิงเอ๋อร์ของนางให้ได้
ส่วนวันนี้...
ภายใต้สายตาของหนานกงเยวี่ย เื่น่าสนใจที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ได้จบลงไปแล้ว หนานกงเยวี่ยคิดถึงแผนการของตัวเองพลางกลืนเืในปากลงไป ในใจนางทวีความตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อยๆ
“หึ ฮ่าๆ” จ้าวอิ้งเสวี่ยราวกับลืมความเ็ป สายตาของคนพวกนั้นที่มองมาที่นาง แม้ยามนี้ผิงเอ๋อร์จะเข้ามายืนบังให้ ทว่ามันก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว สายตารังเกียจ สงสาร และหวาดกลัวฝังรากลึกลงไปในหัวนางแล้ว
นางคอยสวมผ้าคลุมหน้ามาโดยตลอด มิใช่เพราะไม่อยากเผชิญหน้ากับสายตาเช่นนี้ของผู้คนเหล่านี้หรือ?
แต่แล้ววันนี้...
หนานกงเยวี่ย!
"ท่านหญิง..." ผิงเอ๋อร์รีบหยิบผ้าคลุมหน้าที่ตกอยู่ด้านข้างขึ้นมาอย่างเร่งรีบ ้าจะใส่ผ้าคลุมให้จ้าวอิ้งเสวี่ย ทว่าจ้าวอิ้งเสวี่ยกลับปัดมันทิ้งอย่างรุนแรง
“อิ้งเสวี่ย ลูก...” จิ้นหวางเฟยรู้สึกได้ถึงความเ็ปที่ฉายออกมาจากดวงตาจ้าวอิ้งเสวี่ย ในใจนางเองก็รู้สึกเ็ปจนมิอาจบรรยายได้เช่นกัน นางคิดถึงเื่ที่เกิดขึ้น นางมั่นใจว่าหนานกงเยวี่ยจงใจลงมือ นาง้าทำให้ผ้าคลุมหน้าของอิ้งเสวี่ยหลุดตอนที่ต่อรองกัน และเผยใบหน้าที่ได้รับาเ็นั่น
และาแพวกนี้คงต้องขอบคุณลูกชายของนาง เหนียนเฉิง!
จิ้นหวางเฟยสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง นางรีบลุกขึ้นและก้าวเท้ายาวๆ ไปหาหนานกงเยวี่ย คว้าข้อมือของนาง ลากตัวหนานกงเยวี่ยมาตรงหน้าของจ้าวอิ้งเสวี่ย
"จิ้นหวางเฟย เ้าทำอะไร ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้!" หนานกงเยวี่ยร้องลั่น ในน้ำเสียงของหนานกงเยวี่ยเต็มไปด้วยความไร้เดียงสา ราวกับว่าเื่ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ มิใช่สิ่งที่นางทำ
น้ำเสียงเช่นนี้ยิ่งกระตุ้นจิ้นหวางเฟยขึ้นไปอีก
ทำอะไรงั้นหรือ?
เหนียนเฉิงพรากความบริสุทธิ์ของลูกสาวนาง ทำลายรูปโฉมของลูกสาวนาง หนานกงเยวี่ย นางยังจงใจเปิดเผยใบหน้าของอิ้งเสวี่ยเยี่ยงนี้อีก ความอัปยศเช่นนี้ วันนี้นางจะยอมปล่อยหนานกงเยวี่ยไปได้เยี่ยงไร
จิ้นหวางเฟยไม่สนใจท่าทีดิ้นรนขัดขืนของหนานกงเยวี่ย และไม่แม้แต่จะสนใจสายตาของผู้คนรอบข้าง เดิมทีนางจับมือของหนานกงเยวี่ย ทว่ายามนี้นางกำลังกดคอของหนานกงเยวี่ยลงไปอย่างหนักหน่วง
"จิ้นหวางเฟย เ้า..."
“อิ้งเสวี่ย ลูกดูสตรีนางนี้ไว้ให้ดี วันนี้แม่จะกดนางลงต่อหน้าลูก หากลูกอยากฆ่านางก็ย่อมทำได้ ผู้ใดไต่สวน แม่จะรับผิดชอบเอง ข้าจิ้นหวางเฟยจะรับผิดเอง!” จิ้นหวางเฟยกัดฟันด้วยความโมโห และเอ่ยขัดคำร้องอ้อนวอนขอให้ยกโทษให้อย่างใสซื่อของหนานกงเยวี่ย
ทุกคำพูด ทุกถ้อยคำของจิ้นหวางเฟย เต็มไปด้วยความเกลียดชังและโเี้
ไม่ใช่เพียงแค่ผู้คนรอบข้าง ทว่าแม้แต่หนานกงเยวี่ยที่ได้ยินกับหูตัวเอง ยังอดที่จะรู้สึกเย็นเยียบในใจไม่ได้
นางรู้ว่าตนเองบีบคั้นแม่ลูกคู่นี้เกินไปอีกขั้นเสียแล้ว
หนานกงเยวี่ยจ้องมองจ้าวอิ้งเสวี่ยด้วยสายตาอันว่างเปล่า สีหน้าแข็งทื่อรับกับใบหน้าที่ถูกทำลายจนอัปลักษณ์ของจ้าวอิ้งเสวี่ย เพียงแวบแรกก็ทำให้จิตใจผู้คนสั่นสะท้าน
ทว่าทุกสิ่งอย่างตรงหน้านี้ มิใช่สิ่งที่นาง้าหรอกหรือไร?
จ้าวอิ้งเสวี่ย...
หึ นางจ้าวอิ้งเสวี่ย คิดจริงหรือว่าจะเหยียบย่ำใบหน้าของนาง ‘หนานกงเยวี่ย’ ได้?
เป็แค่นางเด็กไร้เดียงสา แต่กลับคิดทำให้นางอับอายหรือ?
ตอนนี้นางน่าจะได้รู้แล้วว่า ผู้ใดกันแน่ที่เป็คนต้องอับอาย!
"ฆ่านางหรือ?" จ้าวอิ้งเสวี่ยพึมพำ และค่อยๆ เบนสายตามองหนานกงเยวี่ย มิรู้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่
ผู้คนทั้งหมดที่เฝ้ามองอยู่ด้านข้าง แต่ละคนต่างกลั้นหายใจ
การเผยาแของจ้าวอิ้งเสวี่ย เป็สิ่งที่บีบคั้นจิ้นหวางเฟยอย่างถึงที่สุด ฆ่าหนานกงเยวี่ยหรือ หากหนานกงเยวี่ยตาย ตระกูลหนานกงจะยอมวางมือง่ายๆ ได้อย่างไร
ทว่าในดวงตาของลู่ซิวหรง สวีหว่านเอ๋อร์ เซวียอวี่โหรว กลับมีแสงส่องประกายอย่างมิอาจห้ามได้
ฆ่าหนานกงเยวี่ย...หากหนานกงเยวี่ยตาย เช่นนั้นสถานการณ์ในจวนเหนียนคงจำต้องแปรเปลี่ยน ไร้ซึ่งหนานกงเยวี่ยแล้ว นั่นหมายความว่าในพวกนางคนใดคนหนึ่งอาจได้เลื่อนตัวเองขึ้นไป
แต่จ้าวอิ้งเสวี่ย...