ท่ามกลางความมืดมิดเมิ่งอู่ลืมตาขึ้นฉับพลัน จัดๆ เสื้อผ้าผูกเสื้อคลุมไปพลาง ลุกจากเตียงแล้วสวมรองเท้าอย่างเบามือเบาเท้าไปพลาง
อินเหิงที่อยู่อีกด้านของม่านก็ลืมตาโดยไม่พูด ไม่เคลื่อนไหว
เมิ่งอู่แง้มประตูออกครึ่งหนึ่ง ก่อนชะโงกออกไปมองเงียบๆ
เห็นเพียงท่ามกลางแสงจันทร์สลัวราง เงาร่างหนึ่งย่องมายืนอยู่นอกรั้ว ก่อนยืดคอมองเข้ามาข้างใน เนื่องจากเมิ่งอู่ปูหญ้าแห้งไว้ที่ลานเรือนริมรั้ว เมื่อเท้าของเขาเหยียบย่ำไปบนหญ้าแห้งจึงเกิดเสียงดัง
ในเมื่อไม่ใช่ผู้ที่จัดการยากแต่อย่างใด อินเหิงจึงค่อยๆ หลับตาลงพักผ่อนต่อ
เมิ่งอู่หรี่ตา เฝ้ามองเงียบๆ ขณะที่ชายผู้นั้นเริ่มถอนเสาไม้ที่ล้อมรั้วออก หมายจะปีนข้ามเข้ามา
ทันใดนั้นในลานเรือนก็มีเสียงร้อง "กุ๊กๆ" ทำให้เขาใ เขาลองมองดูใกล้ๆ คาดไม่ถึงว่าจะเห็นไก่ป่าตัวหนึ่งถูกล่ามไว้ที่มุมลานเรือน
ดังนั้นเขาจึงยิ่งถอนเสาไม้ออกอย่างกระตือรือร้น สร้างช่องลอดระหว่างรั้วไม้ไผ่
เมิ่งอู่จุปากอย่างเ็า
คนทั่วหมู่บ้านต่างรู้ดีว่าครอบครัวของนางอัตคัดขัดสน แต่ยังมีขโมยแอบย่องมาตอนกลางคืน แค่ใช้นิ้วเท้าตรองก็รู้ว่าเป็ใคร
เมิ่งอู่ไม่ตื่นตระหนก นางยืนพิงประตูเรือนเฝ้าดูราวกับกำลังชมงิ้ว นับในใจตามจังหวะเคลื่อนไหวเท้าของชายผู้นั้น สาม สอง หนึ่ง
เพิ่งนับครบ เงาร่างนั้นก็เหยียบลงบนบางสิ่งบางอย่าง ก่อนยืนปักหลักไม่เคลื่อนไหว
จากนั้นเขาค่อยๆ ก้มตัวลงไปกุมเท้าของตนเองไว้พลางส่งเสียงครางด้วยความเ็ป
ไม้ไผ่แหลมคมพวกนั้นไม่ใช่ไว้เล่นสนุก หากมองไม่เห็น แล้วเหยียบลงไปเต็มแรง ปลายแหลมคมก็จะแทงทะลุฝ่าเท้าได้อย่างง่ายดาย
เมิ่งอู่มิได้ใจอ่อนเช่นนางเซี่ย หากมีโจรมาขโมยของในเรือนของนาง นางยังต้องเตือนเขาว่าอย่าเหยียบกับดักอีกหรือ?
นางเหมือนนักล่าที่วางกับดัก แล้วเพียงคอยเฝ้ามองเหยื่อค่อยๆ ก้าวเข้าใกล้กับดักของนางเงียบๆ
จากนั้นเมิ่งอู่ก็หยิบกระบอกไม้ไผ่ข้างๆ ขึ้นมาเคาะประตูอย่างไม่หนักไม่เบา
ขโมยผู้นั้นสะดุ้งใ สั่นไปทั้งตัว
เสียงนี้ปลุกนางเซี่ยให้ตื่นขึ้นมา นางเอ่ยถามอย่างสะลึมสะลือ "อาอู่ เป็เ้าหรือ?"
เมิ่งอู่ขานรับเสียงไม่ดังไม่เบา "ท่านแม่ ข้าเอง ข้าเพิ่งตื่นขึ้นมาเข้าห้องน้ำเ้าค่ะ"
นางเซี่ยที่พลิกตัวไปมาบนเตียงแล้วนอนต่อพึมพำว่า "รีบขึ้นเตียงเร็ว"
ขโมยที่อยู่ด้านนอกเกรงว่าจะถูกพบเห็น จึงรีบดึงเท้าออกทั้งที่เ็ป ก่อนวิ่งกะโผลกกะเผลกหนีไป
เมิ่งอู่หัวเราะเยาะเบาๆ แล้วเดินออกไปซ่อมรั้วไม้ให้เรียบร้อย จากนั้นตบมือแล้วกลับเข้าห้อง
นางเงยหน้ามองอินเหิง ยามนี้อินเหิงลืมตาแล้ว และกำลังมองนางอยู่เช่นกัน
ท่ามกลางความมืด ั์ตาของเขาใสกระจ่าง สงบเยือกเย็น เต็มไปด้วยความระแวดระวังไม่น้อยไปกว่าเมิ่งอู่
แต่เมื่อเมิ่งอู่เดินเข้ามาใกล้เขา แววตาเขาค่อยๆ อ่อนโยนลง
เมิ่งอู่กระซิบกับเขาราวกับละเมอ "คนที่โดนกับดักหนูหนีบเท้าวันนี้เป็ใคร?"
อินเหิงตอบ "เป็ท่านป้าสะใภ้ใหญ่ของเ้า"
เมิ่งอู่กระซิบ "ตอนกลางวันพวกเขาทำอะไรท่านแม่ของข้า?"
อินเหิงเล่าเื่ราวที่เกิดขึ้นตอนกลางวันให้นางฟังคร่าวๆ
ถ้อยคำของนางเย่นั้นหยาบคายไม่น่าฟังยิ่งนัก พลังทำลายล้างของคำพูดไม่ด้อยไปกว่านางเหอเลย โชคดีที่ในที่สุดนางเซี่ยไม่หลงกลนางเย่ คอยเฝ้าประตูลานเรือนไว้ ไม่ยอมเปิดประตูให้
คนทั้งครอบครัวนั้นมีเจตนาชั่วร้ายไม่เปลี่ยนจริงๆ แต่กลับเปลี่ยนรูปแบบการตายสารพัด
วันต่อมานางเซี่ยทำอาหารเช้าอยู่ในครัว เมิ่งอู่หยิบชามใส่ธัญพืชหยาบมาเลี้ยงไก่ป่าที่นางจับกลับมาเมื่อวานที่ลานเรือน
นั่นเป็แม่ไก่ป่า
แม้ไม่มีหางหลากสีสวยงามเช่นไก่ป่าตัวผู้ แต่เมื่ออยู่ท่ามกลางแสงเจิดจ้าตอนกลางวัน ขนเงางามของแม่ไก่ป่าเรียกได้ว่าเรียบลื่น งดงาม สีขนที่ปีกยังทอประกายวิบวับสีฟ้าอมเขียว
เพียงแต่ไก่ตัวนี้ดูเหมือนจะยังไม่คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมใหม่ ดูหงอยเหงาซึมเซา
เมิ่งอู่ให้ธัญพืชหยาบ แต่มันดื้อรั้นไม่ยอมกิน
เมิ่งอู่จึงวิ่งไล่ตามโน้มน้าวให้มันกินไปทั่วลานเรือน "กุ๊กๆ กุ๊กๆ อร่อยมาก ไม่เชื่อก็ลองสักคำสิ"
สุดท้ายไก่ป่าตัวนี้ก็หงุดหงิด ส่งเสียงร้องกะต้ากๆ สองที ขนไก่สองสามเส้นก็ปลิวใส่หน้าของเมิ่งอู่
อินเหิงเห็นภาพทั้งหมดขณะอยู่ในห้อง ดวงตาสีอ่อนคู่นั้นพลันสั่นไหว
เมิ่งอู่โมโหแล้ว นางวางชามธัญพืชไว้ข้างๆ ก่อนกล่าว "ไม่กินก็ช่าง! อดตายไปซะ! พอเ้าอดตาย ข้าก็จะกินเ้า!"
ทว่าโมโหได้เพียงชั่วครู่ เมื่อคิดย้อนกลับไปก็ตระหนักได้ว่า หากปล่อยให้แม่ไก่ป่าอดตายจริงๆ มันต้องอดอาหารและผอมโซก่อนถึงค่อยตาย แบบนั้นไม่ขาดทุนมากหรอกหรือ
เมิ่งอู่จึงไปหาไส้เดือนกับหนอนตัวอ้วนๆ สองสามตัวที่ซ่อนตัวอยู่ตามซอกหินในลานเรือน แล้วเอามาวางเรียงรายไว้ตรงหน้าแม่ไก่ป่าก่อนปล่อยให้มันเลือกกิน
แม่ไก่ป่าจึงยอมลดตัวลงมาจิกกินหนอนไปสองสามคำ
เมื่อวานยามเมิ่งอู่จับมันได้ทำให้เท้าของมันาเ็ ครานี้จึงถือโอกาสทำแผลให้มันด้วย
จังหวะนี้เองนอกลานเรือนมีดังเสียงโหวกเหวกลั่น
พลันนั้นก็มีเสียงคนทุบประตูเรือน พร้อมกล่าว "เมิ่งอู่ เ้าอยู่ในเรือนหรือไม่? หากอยู่ในเรือนก็เปิดประตูหน่อย!"
เมิ่งอู่เลิกคิ้ว มือค่อยๆ พันผ้าพันแผลที่เท้าให้แม่ไก่ป่า เสร็จแล้วค่อยวางลงบนพื้น จากนั้นก็ปัดชายเสื้อแล้วลุกขึ้นยืน
ก่อนอื่นนางปิดประตูห้อง แล้วหันหลังกลับไปที่ประตูลานเรือน ดึงเปิดมันออก
สิ่งแรกที่ปรากฏต่อหน้านางเป็สองสาวพี่น้องสกุลเมิ่ง ด้านหลังมีชายฉกรรจ์ในหมู่บ้านสองคนยืนอยู่ ดูแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อคอยสนับสนุน
เมิ่งอู่มีความทรงจำเกี่ยวกับชายฉกรรจ์ในหมู่บ้านสองคนนี้ไม่มาก แต่ก็พอจะรู้ว่าพวกเขาเป็ลุงสองคนของสองสาวพี่น้องสกุลเมิ่ง
บ้านเดิมของนางเย่มีพี่ชายหลายคน ด้วยเหตุนี้นางเย่จึงมีความมั่นใจมากขนาดนั้นในบ้านสกุลเมิ่ง
ทันทีที่เมิ่งอู่เปิดประตู เมิ่งซวี่ซวีก็อยากจะพุ่งเข้าไปข้างในโดยพลัน แต่ในชั่วพริบตาเมื่อเห็นเมิ่งอู่ดึงท่อนไม้ไผ่ออกจากสลักประตูมาถือไว้ในมือ นางก็หยุดฝีเท้า
แต่ชายฉกรรจ์สองคนนั้นไม่กลัว หนึ่งในนั้นพลันก้าวขึ้นหน้ามาจับท่อนไม้ไผ่ในมือเมิ่งอู่ สีหน้าเ็า ตำหนิว่า "ทำไม เ้ายังอยากจะตีคนอีกหรือ?"
ขณะกล่าวเขาก็หมายจะแย่งท่อนไม้ไผ่ในมือเมิ่งอู่ ส่วนชายฉกรรจ์อีกคนหนึ่งกลับสาวเท้าเข้ามาอย่างไม่เกรงกลัวราวกับเป็เรือนของตนเอง
ทว่าชายฉกรรจ์ที่พยายามแย่งท่อนไม้ไผ่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าเมิ่งอู่ที่ดูผอมบาง แต่แท้จริงแล้วกลับแข็งแกร่งมาก เมื่อเป็เช่นนั้น ทันทีที่นางพลิกข้อมือ ไม้ไผ่ก็หมุนวนอยู่ในมือ สลัดข้อมือของชายฉกรรจ์ผู้นั้นออกไป ในเวลาเดียวกันปลายไม้ไผ่ด้านหนึ่งก็ฟาดไปโดนขาของชายฉกรรจ์อีกคนหนึ่งทันควัน กวาดคนจนล้มกลิ้งออกไปนอกประตูเรือนตรงๆ
"ท่านลุง!" เมิ่งเจียนเจียอุทาน เมิ่งซวี่ซวีกับลุงอีกคนหนึ่งรีบเข้าไปช่วยประคองเขา
การกระทำทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเวลาเพียงชั่วพริบตา ราบรื่นเหลือประมาณ
เมิ่งซวี่ซวีโกรธสุดขีด นางเหลือบมองและเห็นเมิ่งอู่โยนท่อนไม้ไผ่ทิ้งไว้ในลานเรือน จึงคิดว่าบัดนี้อีกฝ่ายไม่มีอาวุธ นี่เป็โอกาสอันดีเยี่ยม นางหันหลังกลับทันควันแล้วรีบพุ่งเข้าไปในลานเรือนพลางด่าทอ “เมิ่งอู่! เ้ากล้าดีอย่างไรถึงมาตีคน! ดูซะ ถ้าข้าไม่…”
ทว่าเมิ่งอู่มิใช่คนที่จะยอมวางอาวุธก่อนและปล่อยให้ผู้อื่นรังแกนางง่ายๆ นางหันหลังกลับ แล้วเดินไปหยิบคันธนูไม้ไผ่ ดึงลูกศรไม้ไผ่ออกมาสามดอก ขึ้นสายธนู ก่อนเหนี่ยวเต็มแรง
นางเคลื่อนไหวรวดเร็วยิ่งยวด ดวงตาเ็าเหลือคณา รูม่านตาสีดำคู่โตเปล่งประกายเย็นะเืประหนึ่งสิ่งที่ปลายลูกศรของนางเล็งอยู่นั้นเป็เพียงแค่เหยื่อของนาง
ในขณะที่เมิ่งซวี่ซวีเพิ่งก้าวเข้ามา เมิ่งอู่ก็ปล่อยนิ้ว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้