บทที่ 10 ใคร? เทพเ้าชั่วร้าย??
อาหารบำรุง สามชุดถูกนำมาเสิร์ฟอย่างรวดเร็ว
จางฝูเซิง มองดูน้ำซุปในจาน ใช้ช้อนตักขึ้นมา มีสมุนไพรนานาชนิดเต็มไปหมด ส่วน เนื้อ...
เขาพยายามอยู่นานกว่าจะตัก ชิ้นเนื้อ ที่บางราวกับ ปีกจักจั่น ขึ้นมาได้
มันเกือบจะ โปร่งใส เลยทีเดียว
“เนื้อสัตว์ดารา มีมูลค่าสูงมาก ราคาต่อกรัม สูงกว่าทองคำถึง ร้อยเท่า” โจวเฉวียน อธิบายพร้อมรอยยิ้ม “อาหารบำรุงพิเศษ หนึ่งชุดราคา เก้าหมื่นหยวน อย่างน้อยแปดสิบเปอร์เซ็นต์ของราคานั้นอยู่ที่ชิ้นเนื้อนี้”
โลกนี้มี ทองคำสำรอง มากมาย—มีมากใน อวกาศดวงดาว
แต่บรรดาพ่อค้าต่าง ควบคุมปริมาณ ในตลาดอย่างเคร่งครัด ดังนั้น ราคาทองคำ จึงยังไม่ต่ำนัก อยู่ที่ประมาณ หนึ่งร้อยเหรียญสหพันธ์ ต่อหนึ่งกรัม
ดังนั้น เนื้อสัตว์ดารา ที่ถูกที่สุด หนึ่งกรัม จึงมีราคาสูงถึง หนึ่งหมื่นหยวน อย่างนั้นหรือ??
แม้ว่าเมืองเจียงโจวจะเป็เมืองเล็ก ๆ แต่ ค่าเฉลี่ยเงินเดือน ก็ถือว่าสูงเมื่อเทียบกับทั้งสหพันธ์
ถึงกระนั้น คนธรรมดาในเขตที่สามและเขตที่เจ็ดก็ยังมีเงินเดือนประมาณสามถึงสี่พันหยวน
ยกตัวอย่างเช่น แม่ของเขา ซึ่งเป็ครูโรงเรียนประถม มีรายได้เบ็ดเสร็จ สามพันหกร้อยหยวน ต่อเดือน นั่นหมายความว่า เงินเดือนสามเดือน จึงจะซื้อ เนื้อสัตว์ดารา ได้ หนึ่งกรัม!
จางฝูเซิง ตกตะลึงเล็กน้อย เขาค่อย ๆ จิบน้ำซุปและเคี้ยวสมุนไพรบางส่วนลงไป
เมื่อสมุนไพรผสมกับน้ำซุปแล้วไหลลงสู่ท้อง มันก็ หลั่งปัจจัยลึกลับ ออกมามากมาย แม้ว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์จะ สูญเสีย ไป แต่ส่วนที่เหลือก็ยังถูกเขา กักเก็บ ไว้ได้สำเร็จ!
“นี่คือ อาหารบำรุง อย่างนั้นหรือ??”
เขาเริ่มดื่ม อาหารบำรุง ชุดนี้อย่างดุดัน ซึ่งเกือบจะเทียบเท่ากับ ค่าเล่าเรียนหนึ่งงวด
ปัจจัยลึกลับ จำนวนมากเติมเต็มทั่วร่างกาย และภายใต้ฤทธิ์ของสมุนไพร เืลม ก็เริ่ม พลุ่งพล่าน อย่างรวดเร็ว นำพา ปัจจัยลึกลับ ไปทั่วร่างกายอย่างสม่ำเสมอ
หลังจากดื่มน้ำซุปหมดชาม และกินสมุนไพรทั้งหมด จางฝูเซิง ก็ใส่ เนื้อสัตว์ดารา ที่บางราวกับ ปีกจักจั่น เข้าไปในปากเป็อย่างสุดท้าย
“เจ็ดหมื่นหยวน ต่อหนึ่งคำเชียวเหรอ...”
เนื้อสัตว์ดารา เองไม่มีรสชาติพิเศษ แต่หลังจากกลืนลงไป มันกลับ ปลดปล่อยปัจจัยลึกลับ ที่ เข้มข้นกว่า น้ำซุปทั้งชามถึง สิบเท่า!
เืลม พลุ่งพล่าน ิั ของ จางฝูเซิง แดงขึ้น อย่างเห็นได้ชัด แม้แต่ลมหายใจที่พ่นออกมาก็ยัง ร้อนระอุ!
“เนื้อสัตว์ดารา...” เขาหอบหายใจ ดวงตาแดงก่ำ
เขารู้สึกเหมือน อวัยวะภายใน ถูก เตารีด รีดจนเรียบ ไม่มีอะไรที่ไม่สงบ รูขุมขน สามหมื่นหกพัน ทั่วร่างกายรู้สึก ปลอดโปร่ง ราวกับได้กิน ผลไม้อิสระ!
และที่สำคัญที่สุด
จางฝูเซิง พบว่า พันธสัญญา ที่มืดมัวใน รอยแยกหว่างคิ้ว กำลัง เปล่งแสง อย่างรวดเร็ว
เดิมทีต้องรออีกเกือบหนึ่งเดือนจึงจะสามารถใช้ได้อีกครั้ง แต่ตอนนี้ความคืบหน้ากลับ เร่งขึ้น กว่า สิบวัน!
ในอีก ครึ่งเดือน ก็จะสามารถ [แลกเปลี่ยน] ได้อีกครั้งแล้ว
“อาหารบำรุงระดับพิเศษ ชุดนี้เป็ยังไงบ้าง?” โจวเฉวียน เคลื่อนเข้ามาใกล้และถามด้วยรอยยิ้ม
จางฝูเซิง เท้าแขนบนโต๊ะ ััถึงความ โล่งสบาย ที่ไม่เคยมีมาก่อน และรับรู้ถึง แสงเรืองรอง บน พันธสัญญา
เขายกนิ้วโป้งขึ้น
“ของดี!!”
“อีกชามไหม?” รอยยิ้มของ โจวเฉวียน สดใส ยิ่งขึ้น หวังเซี่ยงหนาน ที่อยู่ข้าง ๆ ถอนหายใจเบา ๆ
คนที่ฝึกยุทธ์ โดยเฉพาะคนที่ หมกมุ่น ในการฝึกยุทธ์ เมื่อได้ลิ้มรส เนื้อสัตว์ดารา แล้ว ก็จะ หวนกลับไม่ได้
เช่นเดียวกับตัวเขาในตอนนั้น
“ผมขอได้ไหม?” จางฝูเซิง กำหมัด ััถึง พละกำลัง ที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเล็กน้อย
“แน่นอน!”
โจวเฉวียน ดีดนิ้ว เรียกพนักงานทำความสะอาดของโรงอาหาร แล้วยื่น บัตรนักเรียน ให้
“น่าจะเหลือ อาหารบำรุงพิเศษ อีกชุด”
ไม่นาน น้ำซุปสีแดงก่ำอีกชามก็ถูกนำมาเสิร์ฟ จางฝูเซิง ไม่พูดอะไร คว้าชามมา กระดก ทันที
เนื้อสัตว์ดารา ที่บางราวกับ ปีกจักจั่น ถูกกลืนลงไปในท้อง
แขนขาและกระดูก ทั่วร่างกายดูเหมือนจะ ถูกเปิดใช้งาน เขา หมุนเวียนวิชาสายฟ้าฤดูใบไม้ผลิ โดยไม่รู้ตัว กระดูกและเส้นเอ็น สั่นะเืตามจังหวะการหายใจ เปล่งเสียงฟ้าผ่าเล็ก ๆ ิัและเยื่อบุ ก็แข็งแกร่งขึ้นทีละน้อย
พละกำลัง... พละกำลังที่เกิดขึ้นใหม่ไม่หยุดหย่อน
และ...
พันธสัญญา ที่กลับมา เปล่งแสงสว่างจ้า อีกครั้งใน รอยแยกหว่างคิ้ว
พันธสัญญา สามารถใช้งานได้อีกครั้งแล้ว
“อยากจะกิน อาหารบำรุงพิเศษ กิน เนื้อสัตว์ดารา ได้ทุกวันในอนาคตหรือไม่?” โจวเฉวียน กระซิบเบา ๆ ราวกับ แม่เล้า ที่กำลังหลอกล่อเด็กสาวที่ไร้เดียงสาให้เซ็น สัญญาทาส
จางฝูเซิง ดึงกระดาษทิชชู่มาเช็ดปาก เรอ ออกมาเบา ๆ
“พ่อของผมเป็หมอ เขาบอกว่าของบำรุงที่ มากเกินไป ไม่ควรกินบ่อย ๆ มัน เป็อันตราย มากกว่าเป็ประโยชน์”
“ดังนั้น ไม่ค่อยอยากเท่าไหร่”
เขายิ้มอย่างสดใส รอยยิ้มของ โจวเฉวียน กลับ แข็งค้าง ทันที
กว่า โจวเฉวียน จะตอบสนอง จางฝูเซิง ก็ตบก้นแล้วเดินออกไปแล้ว
“พี่โจว ผมกลับบ้านไปก่อนนะครับ เดี๋ยวเอา ของฝาก มาให้ตอนกลับมา”
“พี่โจว นี่เป็คนดีจริง ๆ!”
เงาของเด็กหนุ่มหายไปจากประตูโรงอาหารราวกับสายลม
โจวเฉวียน นั่งอยู่ที่โต๊ะ เงียบงัน
เนิ่นนาน
“ฮ่า” หวังเซี่ยงหนาน หัวเราะเยาะออกมา “ถ้าตอนนั้นฉันทำอย่างนี้ได้บ้างก็คงจะดี...”
โจวเฉวียน เปลี่ยนจากท่าทางคนดีที่ยิ้มให้ทุกคนมาเป็คนเ็า จ้องมอง หวังเซี่ยงหนาน
คนหลังเงียบทันที
เนิ่นนาน
โจวเฉวียน ลุกขึ้นยืนและกล่าวอย่างราบเรียบ
“อาหารบำรุง สองชาม หนึ่งแสนแปดหมื่นหยวน ไม่ใช่ของที่กินง่าย ๆ จางฝูเซิง น่าสนใจจริง ๆ”
“เซี่ยงหนาน ฉันมีงานให้เธอทำ”
เขาตบไหล่ หวังเซี่ยงหนาน และกลับไปเป็ท่าทางยิ้มแย้มอีกครั้ง
“ลูกพี่ลูกน้องของเธอไม่ได้ทำงานเป็ พนักงานต้อนรับ ที่สำนักยุทธ์เหรอ? เธอไปหาเขา ขอ ข้อมูล ของ น้องฝูเซิง มาให้หน่อย มีปัญหาไหม?”
หวังเซี่ยงหนาน ขยับริมฝีปาก แต่สุดท้ายก็ไม่พูดอะไร เพียง พยักหน้า เบา ๆ
...
“ลูกชาย การฝึกยุทธ์ที่สำนักเป็ยังไงบ้าง?”
“ดีมากครับ หอพัก เป็ห้องสามคน ใหญ่กว่าห้องนั่งเล่นที่บ้านเราอีก เพื่อนร่วมห้อง ก็ดีมาก วันนี้ยังเลี้ยง อาหารบำรุง ที่แพงสุด ๆ ให้ผมด้วย”
จางฝูเซิง พูดคุยกับโทรศัพท์มือถือด้วยรอยยิ้ม
“พ่อกับแม่ใส่เสื้อผ้าหนา ๆ ด้วยนะ อย่าให้เป็หวัดที่ ูเาหิมะตงหลิ่ง ล่ะ ระวังกลับมาแล้วเข้า ด่านตรวจโรค ไม่ผ่าน”
ที่ปลายสาย อาจาง ดึงโทรศัพท์มือถือออกไปไกล เพื่อแสดง เสื้อกันหนาว หนา ๆ ที่เขาสวมอยู่
“เตรียมไว้พร้อมแล้ว! พ่อเพิ่งเล่นสกีกับแม่เสร็จ เดี๋ยวต้องนั่งเคเบิลคาร์ขึ้นไปยอดเขาอีก ลูกไม่เห็นหรอก ครูโจว เล่นสกีครึ่งชั่วโมง ล้มไปไม่ต่ำกว่าสิบครั้ง!”
แม่ ของเขาเบียดเข้ามาในกล้อง หยิกหมอจางอย่างแรง จากนั้นก็เริ่ม ห่วงใย จางฝูเซิง อย่างไม่ขาดสาย ั้แ่เสื้อผ้า อาหาร ที่อยู่อาศัย ไปจนถึงครีมกันแดดและความชุ่มชื้น
“แม่!”
จางฝูเซิง จนใจ
“แม่เพิ่งไปได้แค่วันเดียวเอง ผมไม่ใช่เด็กเล็ก ๆ ซะหน่อย”
“ได้ ๆ ๆ ตอนนี้โตแล้ว รำคาญ แม่พูดมากแล้วสินะ!” ครูโจว ถอนหายใจ
อาจาง ยิ้มและช่วย จางฝูเซิง แยก ครูโจว ออกไป
หลังจาก โจวกุ้ยฟาง เดินออกไปไกลแล้ว
ในวิดีโอคอล อาจาง ก็มีสีหน้า เคร่งขรึม และพูดเสียงต่ำเล็กน้อย
“ลูกชาย คืนนี้ลูกมีธุระอะไรไหม?”
จางฝูเซิง ส่ายหน้า
“ไม่ครับ ชั้นเรียน ของวันนี้จบแล้ว ชั้นเรียน ครั้งต่อไปคือบ่ายวันพรุ่งนี้ เป็ ชั้นเรียนกลยุทธ์การต่อสู้”
อาจาง อืม แล้วกำชับ
“รีบออกจากบ้านไปหน่อย เลยลืม ธุระสำคัญ คลินิก ต้องจ่าย ค่าธรรมเนียมรายเดือน ตอนเที่ยงคืนของวันที่หนึ่งทุกเดือน คืนนี้ลูกไปที่ คลินิก หน่อย จะมีคนมารับเงิน”
จางฝูเซิง พยักหน้าตอบรับ ก่อนหน้านี้หลายครั้งที่พ่อมีธุระ เขาก็ช่วยจ่าย ค่าธรรมเนียมรายเดือน
ที่เรียกว่า ค่าธรรมเนียมรายเดือน แท้จริงแล้วคือ ‘ค่าคุ้มครอง’
“ใช่แล้ว ่สองสามวันนี้ยังพอไหว แต่หลังจากนี้อีกไม่กี่วัน อย่ากลับบ้าน และอย่าไป เขตที่แปด หรือ เขตที่เก้า ให้ อยู่แต่ในสำนักยุทธ์ ก็พอ”
จางฝูเซิง หัวใจเต้นแรง มองไปรอบ ๆ แล้วจึงถาม
“พ่อครับ จะเกิดอะไรขึ้นใน เขตล่าง เหรอครับ?”
ในวิดีโอ อาจาง ขมวดคิ้ว ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงกล่าว
“รายละเอียดไม่ชัดเจน เป็ข่าวที่เพื่อนเก่าคนหนึ่งบอกมา พวก สาวกนอกรีต กำลังจะจัด การรวมตัว ใน เขตล่าง เขาบอกว่าไม่มีผลกระทบใหญ่โตอะไร แต่เพื่อความปลอดภัย... จำไว้ว่า ต้องเก็บข่าวนี้เป็ความลับ การรั่วไหลอาจนำมาซึ่งปัญหา”
“สาวกนอกรีต” จางฝูเซิง ครุ่นคิด สหพันธ์ มีมาตรการ ปราบปรามลัทธินอกรีต ที่เข้มงวดมาก แต่ในขณะเดียวกันก็ ปกปิด ข้อมูล พวกเขาต่อต้านลัทธินอกรีตอย่างเปิดเผย แต่ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับ ลัทธิ เ่าั้แก่สาธารณะ
เขาใช้ชีวิตมาสิบแปดปี ยังไม่เคยได้ยินแม้แต่ ชื่อ ของ ลัทธินอกรีต เ่าั้เลย
“ผมจะจำไว้ในใจครับ... ว่าแต่พ่อรู้ไหมว่า ลัทธินอกรีต นั้นชื่ออะไร? ถ้าผมเจอจะได้หลีกเลี่ยง”
จางเหวินเทา ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเตือนอีกครั้ง
“ย้ำอีกครั้งนะ กลืนมันลงไปในท้อง ห้ามพูดถึงเื่นี้กับใครเด็ดขาด”
เขานึกทบทวนอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวต่อ
“เพื่อนเก่าของพ่อบอกว่ามันเป็ ลัทธินอกรีต ที่ชื่อว่า ‘เต๋า’ สิ่งที่พวกเขาบูชาน่าจะเป็... ซานชิง?”
“ใช่แล้ว มันชื่อ เทพเ้าชั่วร้ายซานชิง”
จางฝูเซิง เกือบจะ หายใจไม่ออก
ใคร?
ซานชิง? เทพเ้าชั่วร้าย?
ฉัน้าเป็สาวกนอกรีต!
