หากคิดจะถอนพิษในร่างของถังจงเวย จะต้องปรุงยาแก้พิษเม็ดหนึ่ง แต่จากพลังระดับผู้ทรงยุทธ์ขั้นที่สี่ของถังจงเวย อาจจะต้องปรุงยาถอนพิษระดับสองเห็นจะได้
สำหรับถังเหล่ยในชาติที่แล้ว การปรุงยาถอนพิษระดับสองเรียกได้ว่าง่ายดุจพลิกฝ่ามือ แต่ตอนนี้เขาไม่เพียงพลังถดถอย แค่หาวัตถุดิบปรุงยาก็ทำได้หรือไม่ยังไม่รู้
ถึงเช่นนั้นเมืองอวิ๋นหลิวก็เป็เมืองเล็กที่ห่างไกลและแร้นแค้น
นี่ถือเป็เื่เร่งด่วนยิ่ง ถังเหล่ยออกจากจวนตระกูลถังทันที เขาเตรียมไปค้นหาวัตถุดิบปรุงยาในเมืองดูสักหน่อย
“คุณชาย คุณชาย...”
หลังจากถังเหล่ยออกไป จื่อเจวียนก็พาถังเฟยมาที่หน้าประตู แต่ถังเหล่ยไม่อยู่ในห้อง
ทั้งสองคนมาหาถังเหล่ย เพราะท่านปู่เรียกให้พวกเขาทั้งสองคนไปหา แต่ถังเหล่ยกลับไม่อยู่เสียเเล้ว
เมื่อหาถังเหล่ยไม่พบ ทั้งสองคนก็ทำได้เพียงไปหาถังจงเวย
“อะไรนะ หาเหล่ยเอ๋อร์ไม่เจอหรือ? เหล่ยเอ๋อร์ไม่ได้อยู่ในจวนตระกูลถัง?”
เมื่อถังจงเวยได้ยินว่าถังเหล่ยไม่อยู่ก็รีบลุกขึ้นนั่งบนเตียงทันที ถังเฟยรีบเข้าไปพยุงถังจงเวย
“ข้ากับเจวียนเอ๋อร์ได้ยินคนบอกว่าพี่ถังเหล่ยออกไปด้านนอกคนเดียว”
เมื่อครู่ทั้งสองคนหาถังเหล่ยไม่พบ แต่ระหว่างทางกลับได้ยินศิษย์คนอื่นบอกเช่นนั้น
ถึงอย่างไรถังเหล่ยก็คือหลานของถังจงเวย ต่อให้สามปีมานี้ถังเหล่ยจะเป็เหมือนคนพิการ แต่ก็ค่อนข้างมีสถานะในตระกูลถัง
“เหล่ยเอ๋อร์เพิ่งล่วงเกินตระกูลตงฟาง ทำไมถึงออกไปคนเดียวกัน? นี่ไม่เรียกว่าหาเื่หรอกหรือ? ผู้าุโใหญ่ ท่านส่งคนไปรับเหล่ยเอ๋อร์กลับมาเดี๋ยวนี้!”
เมื่อได้ยินว่าถังเหล่ยออกไปแล้ว ถังจงเวยหัวเสียจนแทบจะกระอักเืออกมา
ตระกูลถังในตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ศิษย์ตระกูลถังในตอนนั้นสามารถเดินไปมาไหนในเมืองอวิ๋นหลิวได้ ยังไงอีกสามตระกูลก็ไม่กล้าลงมือกับคนของตระกูลถัง
แต่ตอนนี้ตระกูลถังตกต่ำ ตระกูลอื่นต้องหาโอกาสลงมือกับศิษย์ตระกูลถังเป็แน่ ที่ถังเหล่ยออกไปยามนี้ก็ไม่ต่างจากแกะที่วิ่งเข้าปากเสือหรอกหรือ?
แต่ถังเหล่ยไม่คิดว่าตัวเองเป็แกะ
หลังจากออกจวนตระกูลถังไปแล้ว ถังเหล่ยก็เดินอยู่บนถนนในเมืองอวิ๋นหลิว ผู้คนบนถนนเดินไปเดินมากันพลุกพล่าน
จากความทรงจำในหัวของเขา เขาจึงมุ่งหน้าไปยังโรงประมูลที่ใหญ่ที่สุดเพียงหนึ่งเดียวในเมือง
โรงประมูลนี้ค้าขายทรัพยากรต่างๆ ที่ผู้ฝึกตน้า บางครั้งยังประมูลวิชายุทธ์อันล้ำค่าด้วย
โรงประมูลนั้นไม่นับเป็ของตระกูลใดทั้งสิ้น ผู้ที่อยู่เื้ัคือเ้าเมืองอวิ๋นหลิว ‘เย่วมู่จือ’
เมื่อเดินมาได้ครึ่งชั่วยาม ในที่สุดโรงประมูลขนาดใหญ่ก็ปรากฏในสายตาของถังเหล่ย โรงประมูลนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอวิ๋นหลิว รอบด้านมีพื้นที่โล่งเกือบสามสิบจั้ง แสดงให้เห็นถึงสถานะพิเศษของโรงประมูล หรือกล่าวได้ว่าเป็สิทธิพิเศษของเ้าเมืองในเมืองอวิ๋นหลิว
ประตูที่สลักลวดลายัหงส์ทั้งสองฝั่งมีทหารสองคนยืนอยู่ราวกับเป็รูปปั้นอย่างไรอย่างนั้น
พลังของทั้งสองคนเกรงว่าจะเป็ระดับผู้ชำนาญยุทธ์แล้ว ด้วยเหตุนี้จึงย้ำได้ว่าโรงประมูลนี้สำคัญจริงๆ
ถังเหล่ยยังมีท่าทางเหมือนเด็ก หลังจากเขาเข้าไปในโรงประมูลแล้ว จึงไม่ได้ดึงดูดความสนใจของคนอื่นมากนัก
ถ้าเป็สามปีก่อนบางทีอาจจะมีคนจำถังเหล่ยได้ แต่อัจฉริยะเมื่อตอนนั้นร่วงหล่นไปแล้ว ผู้คนต่างลืมใบหน้าของเขากันหมด
ถังเหล่ยเดินวนอยู่รอบสองรอบก็มีหญิงสาวผู้หนึ่งเดินเข้ามาจากทางด้านข้าง
“น้องชาย เ้ามาทำอะไรที่นี่หรือ?”
เสียงของหญิงสาวคนนั้นแฝงด้วยเสน่ห์ ทำให้เขาอดหันหน้าไปมองอีกฝ่ายไม่ได้
หญิงสาวนั้นสวมผ้าแพรทั้งตัว ใบหน้านางเป็รูปไข่ และมีขอบตาที่มองเห็นร่องรอยของอายุ แต่กลับขับเน้นเสน่ห์ของสาวใหญ่ให้เพิ่มขึ้นหลายส่วน
‘คนคนนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่!’ ถังเหล่ยกล่าวพึมพำในใจ
อีกฝ่ายถึงกับเรียกเขาว่าน้องชาย ในใจถังเหล่ยคิดว่าอายุของเขาเป็ปู่ของนางก็ยังได้ แต่สิ่งที่ทำให้ถังเหล่ยสนใจก็คือพลังเสน่ห์ในคำพูดของหญิงสาว หากเขาเดาไม่ผิด นี่น่าจะเป็ความสามารถพิเศษจากิญญายุทธ์ของนาง
“ข้ามาซื้อวัตถุดิบบางอย่าง ไม่ทราบว่าพี่สาวพอจะช่วยข้าหน่อยได้หรือไม่?”
ใบหน้าของถังเหล่ยเผยรอยยิ้มใสซื่อ โดยเฉพาะตอนที่เรียกนางว่า “พี่สาว” เรียกได้ว่าหากนางฟังแล้วก็ต้องมีใจสั่นกันบ้าง
“น้องชายเป็คนของตระกูลถังกระมัง มาซื้อวัตถุดิบอะไรหรือ? พี่สาวลดราคาให้เ้าได้แน่!”
หญิงสาวตบที่อก ทำท่าเหมือนไม่ว่าเื่อะไรก็จัดการได้ทั้งนั้น
“โอ้ ข้าอยากได้ของที่เขียนอยู่ในนี้” ถังเหล่ยเขียนสิ่งที่ตัวเอง้าลงบนกระดาษ แล้วยื่นให้อีกฝ่าย
มือยาวราวกับหยกนั้นรับกระดาษไป นางหันมองเล็กน้อยก่อนขมวดคิ้วขึ้นมาทันที
หญ้าพันใบ ดอกหัวพยัคฆ์ ผลเหมันต์ิญญา...
วัตถุดิบทุกชิ้นที่เขียนบนกระดาษแผ่นเล็กๆ นี้ล้วนหายาก เมื่อนางมองไปยังรายการสุดท้าย ั์ตาเรียวเล็กของนางถึงกับตกตะลึง!
แก่นอสูรระดับสอง!
เ้าเด็กนี่กำลังล้อนางเล่นอยู่หรือ?
แก่นอสูรคือสมบัติที่หายากยิ่ง มีเพียงสัตว์อสูรที่มีพลังปราณแท้เหมือนกับมนุษย์เท่านั้นถึงจะสร้างแก่นอสูรออกมาได้ แล้วแก่นอสูรระดับสองที่อยู่ในร่างของสัตว์อสูรระดับสองนั้นมีน้อยมาก
พลังของสัตว์อสูรระดับสองเทียบเท่ากับผู้ชำนาญยุทธ์ของมนุษย์ แต่ที่สำคัญที่สุดคือ ใช่ว่าในร่างของสัตว์อสูรระดับสองทุกตัวจะมีแก่นอสูร!
โดยปกติแล้วต้องสังหารสัตว์อสูรระดับสองสิบกว่าตัว หรือหลายสิบตัวจึงจะหาแก่นอสูรระดับสองได้เม็ดหนึ่ง
“อย่าล้อพี่เล่นแบบนี้เลย รายการยานี่ เ้าไปคัดลอกมาจากไหนหรือ?”
หญิงสาวไม่เชื่อว่าถังเหล่ย้าซื้อวัตถุดิบเหล่านี้จริงๆ และนางก็ไม่เชื่อด้วยว่าเขาจะจ่ายเงินมากขนาดนี้ไหว
“ข้าไม่ได้ล้อเล่น พี่สาวบอกแค่ว่าหาวัตถุดิบเหล่านี้ได้หรือไม่?”
ใบหน้าของถังเหล่ยหามีแววหยอกล้อไม่ สายตาของเขามั่นคงมาก
“คือว่า...นอกจากแก่นอสูรระดับสองแล้ว ข้าล้วนหามาได้ แต่วัตถุดิบเหล่านี้อย่างน้อยก็ราคาหนึ่งหมื่นเหรียญทอง เ้าจ่ายไหวหรือ?”
ใบหน้าของหญิงสาวเผยรอยยิ้มล้อหยอก
“เอิ่ม...”
ครั้งนี้กลายเป็ถังเหล่ยที่รู้สึกประดักประเดิด ในตัวของเขาตอนนี้มีแค่สามร้อยเหรียญทองเท่านั้น
หนึ่งหมื่นเหรียญทอง ต่อให้สำหรับตระกูลถังในปัจจุบันก็นับว่าเป็เงินจำนวนไม่น้อยเลย
“เหอะๆ น้องชายอย่ามาเดินเล่นที่นี่ดีกว่า ตอนนี้ตระกูลถังไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว คนตระกูลอื่นล้วนจ้องเ้าตาเป็มัน!”
หญิงสาวเห็นท่าทางของถังเหล่ย ก็รู้ทันทีว่าอีกฝ่ายไม่มีเงินมากขนาดนั้น
ถังเหล่ยคิดจะพูดต่อ แต่อยู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นจากด้านข้าง
“มารดามันเถอะ! เ้าลูกสุนัขยังกล้าออกมาอีก วันนี้ไม่มีคนให้ท้ายเ้าแล้ว เ้าเตรียมตัวตายเสียเถอะ!”
เมื่อถังเหล่ยหันหน้าไปมอง ก็เห็นตงฟางอวิ๋นเฟยที่ตอนเช้าเพิ่งพบกัน เขากำลังพาลูกน้องสองคนเดินมาทางถังเหล่ย ใบหน้านั้นแฝงด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย
เมื่อเช้าตงฟางอวิ๋นเฟยเสียหน้าที่ตระกูลถัง หลังจากกลับไป เขาก็ถูกบิดาสั่งสอนเสียยกใหญ่ เขาจึงพาลูกน้องสองคนมาเดินเล่นระบายอารมณ์
เเต่เพิ่งเข้ามาในโรงประมูลก็เห็นถังเหล่ย เจอศัตรูเช่นนี้ เขาจึงโกรธจนลูกตาแดงก่ำ!
เมื่อหญิงสาวเห็นตงฟางอวิ๋นเฟย ใบหน้าของนางก็เคร่งขรึมเล็กน้อย ชื่อเสียงของตงฟางอวิ๋นเฟยในเมืองอวิ๋นหลิวเหม็นโฉ่จนกลบไว้ไม่อยู่ เป็แค่ขยะที่ยังปลุกิญญายุทธ์ไม่ได้ แต่ไยกลับมาใช้อำนาจของตระกูลตงฟางมารังแกชาวบ้าน และทำร้ายหญิงสาวเช่นนี้
เมื่อถังเหล่ยเห็นตงฟางอวิ๋นเฟยที่กำลังเดินมาทางเขา ใบหน้าเขากลับเปื้อนรอยยิ้มประหลาด ในสายตาของถังเหล่ย ตงฟางอวิ๋นเฟยกลายเป็ถุงเงินเคลื่อนที่ไปแล้ว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้