พีชสูดลมหายใจเข้าลึก ขณะปลายเท้าชิดปลายเท้าเขา เธอรู้สึกถึงแรงดันที่ต้นแขน เวลาที่อาร์ตโน้มตัวมาด้านหน้า มือเธอรั้งข้อมือเขาไว้แน่น เสียงหัวใจทั้งสองเต้นสอดประสานกัน ราวกับจังหวะโยคะของพวกเขาได้กลายเป็บทสนทนาเงียบๆ ที่ไม่ต้องมีถ้อยคำไปแล้ว อาร์ตเลื่อนตัวมาอยู่ใกล้กว่าเดิม เสียงกระซิบข้างหู “ผ่อนลมหายใจออกช้าๆ พร้อมๆ กันนะครับ”
พีชชะงัก แต่ก็ผ่อนลมหายใจออกดังๆ ราวกับปลดปล่อยความตึงที่สะสมมานาน “ดีมาก…ตรงนี้จะช่วยเปิดอกให้กว้างขึ้น” มือของเขาพาดท่อนแขนเหนือสะบักเธอเบาๆ ความร้อนจากผิวัักระจายไปทั่วร่างกาย
เมื่อเปลี่ยนท่าสู่ double boat pose ทั้งคู่ต้องนั่งเผชิญหน้า งอเข่าชูขึ้นสองข้าง แล้วเอามือกุมกันไว้อย่างแแ่ ชั่วขณะหนึ่ง พีชมองหน้าอาร์ต เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นตามรอยตีนผม
“อยู่อย่างนี้…อย่าเพิ่งขยับนะครับ” เขาพูดเสียงอ่อน เส้นผมเปียกเหงื่อทิ้งตัวไล่สายตา เธอได้แต่พยักหน้า มือทั้งสองไม่ปล่อย
หลังจบคลาสในค่ำวันศุกร์ ห้องฝึกโยคะเงียบสงัด มีเพียงเสียงลมหายใจสลับกับเสียงผ้าขนหนูผืนเล็กที่อาร์ตใช้เช็ดเหงื่อให้พีช พลางยื่นผ้าผืนอุ่นๆ วางเบาๆ บนหัวไหล่เธอ “พีช…คุณฝึกได้ดีเสมอมา แต่ผมอยากรู้จักคุณให้ลึกกว่านั้น”
หยิงสาวสะดุ้งเล็กน้อย พลิกตัวหันมาสบตาเขา สายตาอาร์ตสั่นคลอนเล็กน้อย แต่มั่นคงกว่าทุกครั้ง
“ลึกกว่า…ร่างกายฉันงั้นเหรอ?”
ครูฝึกหนุ่มยิ้มบางๆ ก่อนจะวางผ้าขนหนูลงบนโต๊ะ แล้วก้าวเข้าไปใกล้กว่าเดิม มือค่อยๆ ประคองกรอบหน้าหวานของเธอ รอยยิ้มของเขาอบอุ่น แต่ดวงตากลับสื่อถึงอะไรที่ลึกซึ้งกว่า “ผมอยากรู้ว่า เสียงหัวใจคุณเต้นเป็อย่างไร อยากฟังเื่ที่อยู่ในใจ…ไม่ใช่แค่เสียงลมหายใจ”
พีชรวบรวมความกล้า ก่อนจะถามเสียงสั่นๆ “อาร์ต…เอ่อ...นี่คือบทเรียนโยคะ หรือบทเรียนชีวิตกันแน่คะ”
เขาไม่ตอบทันที เพียงโน้มหน้าลงช้าๆ กลิ่นน้ำมันหอมระเหยและเหงื่ออ่อนๆ ลอยเข้าจมูกเธอ
ความใกล้ชิดกดทับทั้งกายและใจ อาร์ต กระซิบเบาๆ “ผมสอนโยคะ…แต่คืนนี้ ผมจะสอนใจตัวเองให้รู้จักคุณให้มากขึ้นครับ”
ริมฝีปากอุ่นร้อนของเขาแตะเบาๆ ที่ข้างใบหูเธอ ทำให้พีชรู้สึกเหมือนโลกหยุดหมุน ในวินาทีนั้น คำว่า “ของสงวน” หรือ “บทเรียน” ถูกลบเลือน เหลือเพียงสองดวงตาที่สบกัน ท่ามกลางหัวใจที่เต้นแรงราวจะะเิ
บรรยากาศเงียบงันในห้องฝึกโยคะ กลับเต็มไปด้วยไฟปะทุใต้ผิวัั ไม่ต้องมีถ้อยคำมากมาย เพราะสายตาและการเคลื่อนไหวเพียงเสี้ยววินาทีก็เล่าเื่ราวได้ยิ่งกว่าเสียงใดๆ
ทั้งห้องมีเพียงเสียงลมหายใจที่หนักหน่วง เสียงเสียดสี และกระทบกันของเนื้อนุ่ม ก่อนที่ทุกสิ่งจะกลับเข้าสู่ความเงียบสงบของยามค่ำคืนอีกครั้ง
แสงเช้าค่อยๆ สาดเข้ามาทางหน้าต่างบานใหญ่ของห้องฝึกโยคะที่ถูกปรับเป็ห้องพักชั่วคราวเมื่อคืนนี้ พีชนั่งนิ่งอยู่ริมที่นอน หัวใจยังคงอ่อนนุ่มจากคืนที่ผ่านมา บนที่นอน อาร์ตนอนหลับสนิท มือหนึ่งโอบรอบเอวเธอไว้เบาๆ หญิงสาวค่อยๆ นอนซบไหล่เขา ร่างอุ่นๆ ของเขากระจายความอบอุ่นทั่วแผ่นหลัง เสียงหัวใจสองดวงเต้นสอดประสานกัน ไม่ใช่คำพูดใดๆ แต่เป็ภาษาของความผูกพันลึกซึ้ง
ลมหายใจของเขายังสม่ำเสมอ แต่สำหรับเธอ…ทุกลมหายใจคือบทเพลงที่บอกว่า ไม่ได้ตกหลุมรัก แต่กำลังหลอมรวมหัวใจเข้าด้วยกัน สาวสวยค่อยๆ ยกมือแตะต้นคออาร์ต แ่เบาราวสำรวจว่าเมื่อคืนนี้เกิดสิ่งใด
สุดสายตาของเธอคือความสงบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
อาร์ตกระดิกตัวเล็กน้อย ก่อนจะอ้าปากยิ้มน้อยๆ ลมหายใจของเขาเปลี่ยน จังหวะเต้นของหัวใจดังชัดขึ้น พีชก้มลงจูบที่หน้าผากเขาเงียบๆ เป็คำขอบคุณและคำสัญญาโดยไม่ต้องมีถ้อยคำ ในห้องที่ทั้งสองใช้เวลาเรียนรู้กันคืนหนึ่ง ไม่มีใครต้องถามว่า “รักไหม” เพราะหัวใจของพวกเขาได้ตอบแล้ว ผ่านการหลอมรวมที่ทั้งอ่อนโยนและเร่าร้อน
อาร์ต กระซิบ “ตื่นแล้วหรือครับ... ยังอยากอยู่ตรงนี้กับผมไหม”
สาวสวยพยักหน้า ส่งยิ้มละไม ดวงตาของเธอยังไม่เต็มตื่น แต่เต็มไปด้วยความสุข เสียงออดอ้อนยั่วเย้า “พรุ่งนี้เช้าก็ยังอยากอยู่กับคุณแบบนี้… ไม่อยากลุกเลย”
ทั้งสองเงียบอยู่ในมวลความอบอุ่นนั้น จนประตูห้องเปิดเบาๆ มารตีก้าวเข้ามาโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะไม่คาดคิดว่าจะมีใครอยู่ แสงแดดยามเช้าสาดผ่านตัวเธอพอดี พลันสายตาก็สบเข้ากับภาพสองคนเปลือยเปล่าที่เปิดเผยเกือบทั้งตัวบนที่นอน
อาร์ตและพีชใ พีชลุกขึ้นนั่งอย่างว่องไว หัวใจเต้นระรัว อาร์ตรีบหยิบผ้าคลุมโยคะขึ้นมาคลุมร่างทั้งสอง ก่อนก้มหน้าหลบตาผู้มาเยือนโดยไม่คาดหมาย
มารตียืนหน้าเครียด แต่สายตากลับอ่อนโยน เธอไม่พูดอะไร เพียงแค่ก้าวเข้ามาใกล้ และเงยหน้ามองอาร์ตกับพีชสลับกัน มารตี เสียงอ่อน “ตอนเช้ามักมีอะไรพิเศษเสมอ...”
ทั้งสามคนสบตากันในแสงรุ่งอรุณ ไม่ต้องมีคำอธิบายอะไรมากมาย เพียงแต่รู้ว่า...พรุ่งนี้เช้าก็ยังอยากอยู่ด้วยกัน แบบนี้อีกครั้ง
คลาสพิเศษเมื่อคืนนี้ไม่ใช่การฝึกโยคะ แต่คือบทเรียนการ “อ่านใจ” ผ่านัั ไม่มีคำว่า “เื่แฟน” ไม่มีบทสนทนาเื่อนาคต มีเพียงร่างกายของสองคนที่เล่าเื่ให้กันฟัง กับลมหายใจที่ผสานเป็หนึ่งเดียว
แสงแดดสายเอื่อยส่องผ่านกระจกสำนักงานจนเป็ลำสวย พอจัดโต๊ะทำงานเสร็จเรียบร้อย มารตีก็นั่งไขว่ห้างอยู่หลังจอคอมพิวเตอร์ เสียงแป้นพิมพ์คลิกเป็จังหวะ แต่สายตาของเธอกลับไม่ได้จดจ่อกับเอกสารตรงหน้า กลับล่องลอยไปยังมุมห้องที่นัทพงษ์กำลังจัดแฟ้มงานอย่างตั้งใจ ใบหน้าเขาจริงจัง พอก้มมองนาทีถัดมา ริมฝีปากบางของเขาก็ขยับพูดอะไรเบาๆ กับเลขาอีกคน
ผู้จัดการสาวสูดลมหายใจเข้าลึก รู้สึกได้ถึงความอุ่นแผ่ซ่านในอก เหมือนดวงใจถูกปลุกให้ตื่น มันไม่ใช่แค่ความรู้สึกถูกใจเด็กฝึกงานทั่วไป แต่เป็ความปรารถนาทางใจ...ที่บอกให้เธอรู้ว่า แม้ไม่เคยกอด ไม่เคยแตะต้อง ไม่เคยจูบ แต่ นัทพงษ์ กลับเป็คนแรกในรอบหลายปีที่ทำให้หัวใจเธอเต้นแรงเมื่อได้สบตาเขา
มารตีไล่สายตามองเส้นผมเปียกเหงื่อเล็กน้อยที่ระต้นคอของเขา เห็นกล้ามเนื้อไหล่ลู่เล็กๆ ขณะก้มทำงาน เธอรู้สึกเหมือนถูกดึงดูดโดยแรงแม่เหล็กที่นุ่มนวล แต่ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า อยากรู้จักเขาให้มากขึ้น
ความเงียบในสำนักงานตอนบ่ายชวนให้ใจของเธอกระซิบว่ามันถึงเวลาต้อง “เชื่อมใจ” กับนัทพงษ์ให้ลึกกว่านี้ แม้ยังไม่มีการัักันทางกายภาพ ก็ยังดี…ที่จะเริ่มต้นผูกพันโดยไม่ต้องใช้คำพูดใดเพิ่มเติม
วันหยุดนี้มารตีและปพนต์ นัดไปเที่ยวพักผ่อนกับ วรเมธและจิรภา ณ วิลล่าริมทะเล พวกเขาเดินมาถึง
ใน่บ่ายจัดๆ และเลือกพักห้องพิเศษขนาดใหญ่ที่กว้างขวางพอสำหรับพวกเขาทั้งสี่คน
เมื่อค่ำคืนที่สวยงามมาถึง เสียงคลื่นทะเลยามค่ำคืนซัดกระทบฝั่งเป็จังหวะช้าๆ ละมุนเหมือนบทนำของเพลงบรรเลงยามค่ำ วิลล่าริมทะเลในคืนนี้หรูหราและเงียบสงบ แต่อุณหภูมิในห้องนอนขนาดใหญ่กลับค่อยๆ พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ราวกับมีไฟลามมาจากเตียงผ้าขาวสะอาดตรงกลาง
มารตีเดินตามปพนต์เข้ามาในห้อง เธอใส่เดรสผ้าลื่นสีไข่มุกที่แนบเนื้อโดยปราศจากชุดชั้นในเช่นเคย เส้นผมปล่อยยาวสยายลงมาตามแผ่นหลัง โอบล้อมใบหน้าที่มีทั้งความลังเลและความปรารถนาแทรกอยู่ในดวงตาคู่สวย
สาวสวยสูดลมหายใจลึกหนึ่งครั้ง ก่อนจะยิ้มให้จิรภาและวรเมธที่เดินตามหลังเข้ามาช้าๆ พวกเขาทั้งคู่ดูสบายๆ แต่ก็มีประกายความตื่นเต้นปะปนอยู่ในสายตา ปพนต์เป็ฝ่ายเปิดเกม เขาหยิบไวน์ขึ้นมา เทใส่แก้วคริสตัล แล้วส่งให้แต่ละคน “เพื่อค่ำคืนแห่งการเปิดใจ” เขาเอ่ยพร้อมยิ้มอ่อนๆ
มารตีเงยหน้ารับแก้วจากมือสามี แก้วสั่นน้อยๆ ในมือเธอ เธอกระพริบตาถี่ ริมฝีปากยกยิ้มกลบความสับสนที่เริ่มแทรกซึมในใจอย่างเงียบเชียบ... นัทพงษ์...เด็กหนุ่มคนนั้น คนที่ไม่เคยได้แตะต้องกันเลยสักครั้ง แต่กลับฝังตัวอยู่ในความคิดเธอทุกวันใน่นี้
เธอไม่รู้ว่าั้แ่เมื่อไหร่ ที่รอยยิ้มขี้เล่นของเขา ได้เริ่มเข้ามาจุดประกายบางอย่างในใจของเธอ แต่คืนนี้...เธอไม่ควรคิดถึงเขาเลย...คืนนี้ควรเป็เื่ของร่างกาย เื่ของความพึงพอใจ และความไว้ใจกันระหว่างเธอ ปพนต์ จิรภา และวรเมธ