ตอนที่ 3
ข้าขอท้าดวลกับท่านแม่ทัพหลงเยี่ยน
เสียงของทหารผู้นั้นดังกังวานไปทั่วสนามฝึก ทหารทุกคนต่างมองไปยังหลงเยี่ยนที่ยืนอยู่บนเวทีประลอง เขายืนตรงและมองไปรอบ ๆ อย่างไม่สะทกสะท้าน เสียงฮือฮาเริ่มดังขึ้นเป็ระยะ บางคนมองหน้ากันด้วยความท้าทาย ขณะที่บางคนยิ้มอย่างมั่นใจราวกับว่าเขารอเวลานี้มานาน บางคนที่ดูร่างกายแข็งแกร่งและดูจะมีฝีมือก็เริ่มขยับตัวหมายจะขึ้นไปท้าทายแม่ทัพ
ลี่เซียนยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับชายที่ขึ้นชื่อว่าสามีเริ่มมีมากขึ้น เธอรู้สึกได้ถึงพลังของเหล่าทหารที่ฮึกเหิมแผ่กระจายอยู่รอบตัวเขา แม้จะไม่ได้รู้จักเขาเป็การส่วนตัวแต่การประกาศท้าดวลในลักษณะนี้ก็ดูเหมือนจะเป็ธรรมเนียมของที่นี่กระมัง
สองเท้าเล็กเดินเข้าไปใกล้อีกนิด แหวกกลุ่มทหารเข้าไปใกล้สนามฝึกเพื่อดูการท้าดวลนี้ให้เห็นด้วยตาของตัวเอง เธอก็อยากรู้นักว่าฝีมือระดับแม่ทัพที่ผู้คนต่างเกรงกลัวจะสักแค่ไหน ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่เธอสนใจก็เห็นจะเป็ของรางวัลที่เขาเอามาหลอกล่อเหล่าทหารนั้น
“เหล้าฟรีสามเดือนงั้นเหรอ หรือในสมัยนี้เหล้ามันหายากขนาดนั้นเลยเหรอ”
เธอพึมพำเบา ๆ ด้วยความสงสัย แต่พอพูดถึงเื่เหล้าแล้วความรู้สึกเปรี้ยวปากอยากแอลกอฮอล์ก็ทำให้เธอเผลอกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ถึงแม้ในสมองจะโต้แย้งว่าความจริงแล้วจะมีใครกันที่จะเอาชนะแม่ทัพอย่างเขาได้ หรือว่านี่ก็แค่การที่เขาอยากจะข่มขวัญทหาร แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังอยากให้ใครสักคนชนะเขาได้อยู่ดี
"เพื่อเหล้าฟรี หากมีคนชนะข้าจะขอไปแจมสักหน่อยคงไม่เป็ไรหรอกมั้ง"
เธอเดินเข้าไปยังบริเวณพื้นที่สำหรับเหล่าทหารที่กำลังทยอยขึ้นไปท้าดวล ท่ามกลางความตื่นเต้นและเสียงโห่ร้องจากด้านล่างที่สนุกสนาน ลี่เซียนพยายามบังคับตัวเองให้ใจเย็นและเข้าไปใกล้ขอบสนามมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ไม่พลาดที่จะจับตาดูการต่อสู้ของหลงเยี่ยนเพื่อเก็บรายละเอียดไปด้วย ท่วงท่าและการตวัดดาบของเขาช่างสง่างามและรวดเร็ว แม้ว่าบนเวทีนั้นเขาจะดูออมมือเอาไว้หลายส่วนแต่ก็ถือว่าเขาฝีมือเป็เลิศจริง ๆ
สนามฝึกทหารเงียบลงในชั่วขณะ เมื่อหลงเยี่ยนยืนอยู่กลางเวทีประลองพร้อมท่าทางที่เยือกเย็น เขามองไปที่ทหารที่ขึ้นมาท้าดวลและแพ้พ่ายไปทีละคน จนถึงคนสุดท้ายที่ขึ้นไปก็ยังไม่สามารถตวัดอาวุธโดนตัวเขาได้แม้แต่ครั้งเดียว
ชายผู้นั้นยืนนิ่งท่ามกลางสนามฝึก ท่าทางเขายังคงสง่างามแม้ว่าความร้อนของอากาศจะทำให้เหงื่อซึมออกมาบ้าง แต่ดูเหมือนว่าเขาก็ไม่ได้แสดงท่าทีว่ากำลังเหน็ดเหนื่อยหรือว่าร้อนอยู่เลยแม้แต่น้อย ทุกการเคลื่อนไหวดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความมั่นใจและความแข็งแกร่ง
'นี่สินะมาดของท่านแม่ทัพ ปากหมาไปหน่อยแต่ก็หล่อใช้ได้ มาดแมนแฮนด์ซั่มสุด ๆ'
และในขณะที่ทหารคนสุดท้ายกำลังพยายามจู่โจมเขาด้วยดาบ เธอพยายามจับท่าทางและการเคลื่อนไหวของเขาตาไม่กะพริบ การเคลื่อนไหวนั้นรวดเร็วและแม่นยำ เขาหลบและปัดการโจมตีได้อย่างง่ายดายราวกับปัดนุ่น จนในที่สุดทหารคนสุดท้ายก็ลงมือไม่สำเร็จ เขาล้มตัวลงไปนอนที่เวทีพร้อมกับมีปลายอาวุธจ่อที่คอ
“ขอบคุณสำหรับการชี้แนะขอรับท่านแม่ทัพ”
ทหารคนนั้นลุกขึ้นขอบคุณและเดินลงไปด้วยใบหน้าหงอยเหงา หญิงสาวยืนมองอยู่ใกล้ ๆ พลางครุ่นคิดหาวิธีที่จะเอาชนะชายผู้นี้ เธอหันมองเหล่าทหารคนอื่น ๆ ว่ายังเหลือใครพอที่จะขึ้นไปประลองหรือไม่
'ไม่มีใครอีกแล้วเหรอ เหล้าฟรีแบบบุฟเฟ่ต์ตั้งสามเดือนเลยนะ ไม่มีใครชนะเขาได้จริงดิ รุมได้ไหมนะไม่มีในกติกาด้วยดิ ฮื่อ.. เหล้าจ๋า~'
ไป๋ลี่เซียนที่ยืนอยู่ข้างเวทีประลองมองชายหนุ่มอย่างนึกหาวิธี แม้เธอจะผ่านการเรียนและการแสดงฉากต่อสู้มาเยอะมาก แต่มันก็แตกต่างจากประสบการณ์จริงที่นี่ ยังไม่ทันที่เธอจะได้คิดหากลโกงใด ๆ มาเพื่อล้มเขา เสียงจากแม่ทัพหลงเยี่ยนก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“ข้าคิดวิธีใหม่แล้ว.. พวกเ้าไม่ต้องเอาชนะข้า”
เขาประกาศเสียงดังให้ทหารทุกคนได้ยิน เหล่าทหารด้านล่างลานประลองต่างหูผึ่งอย่างตื่นเต้น
“ข้าแค่ขอมีใครสักคนที่สามารถเข้ามาถึงตัวข้าได้.. แค่ครั้งเดียวแค่ครั้งเดียว!”
เขาเงียบไปชั่วขณะก่อนจะยกยิ้มเล็กน้อยแล้วเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงของคนที่ปลุกขวัญเหล่าทหาร
“ข้าจะเลี้ยงสุราฮวาจื่อที่ขึ้นชื่อของเมืองนี้ฟรีสามเดือน!”
คำพูดของเขานั้นเหมือนกับการปลุกไฟในสนามรบ ทหารทุกคนเริ่มมีความหวังขึ้นใหม่ เสียงฮือฮานั้นดังขึ้นอย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างพร้อมใจกันปลุกขวัญและกำลังใจอีกครั้ง เสียงของเหล่าทหารดังกว่าครั้งแรกที่เธอได้ยิน ทำให้ลี่เซียนนึกสงสัย เพียงแค่ได้ยินคำว่าสุราฮวาจื่อที่หากินได้แค่จากหอบุปผาและราคานั้น ทุกคนต่างมีกำลังใจที่ชื้นขึ้นเช่นนี้ หรือว่าสุราฮวาจงฮวาจื่ออะไรนั่นจะรสเลิศจริงงั้นเหรอ
"น่าสนใจจริง ๆ"
ไป๋ลี่เซียนยกยิ้มที่มุมปาก เพียงแค่นึกถึงรสชาติที่ห่างหายไปหลายวันก็ทำให้เธอนั้นอยากที่จะลองขึ้นไปต่อสู้กับเขาสักครั้ง เสียงอาวุธที่กระทบกันบนลานประลองยังคงดังต่อเนื่อง คนแล้วคนเล่าที่เข้าไปและถูกหลงเยี่ยนจัดการตกลงมา เธอแทรกตัวเข้าไปใกล้อีกนิดเพื่อประเมินสถานการณ์ สีหน้าของเหล่าทหารที่แพ้พ่ายดูหดหู่ บางคนก็ดูเหมือนอยากจะสู้แต่พอเห็นฝีมือแม่ทัพแล้วก็ได้แต่หน้าถอดสี
เธอมองทหารที่เริ่มไม่มีใครขึ้นไปบนลานประลองอย่างชั่งใจ หลงเยี่ยนยกดาบขึ้นก่อนจะจัดการกับทหารคนสุดท้ายที่ขึ้นไปลานประลองนั้น ก่อนจะใช้ด้ามจับกระแทกทหารคนนั้นจนกระเด็นลงไปจากลานประลอง
"มีอีกไหม! พวกเ้าไม่อยากชิมรสชาติของเหล้าฮวาจื่อกันงั้นหรือ!"
เขาประกาศกร้าวเสียงดัง พร้อมทั้งเดินวนรอผู้กล้าคนต่อไปที่จะขึ้นมาบนลานประลอง
“ทหารท่านนี้ข้าขอยืมดาบท่านสักครู่”
เสียงเสียดสีของเหล็กดังขึ้นกะทันหัน เมื่อลี่เซียนดึงดาบออกจากฝักของทหารที่อยู่ใกล้ที่สุด แววตาของเธอแน่วแน่ไร้ซึ่งความลังเลแม้แต่น้อย ร่างอรชรพุ่งทะยานขึ้นไปยังลานประลอง ท่ามกลางสายตาของเหล่าทหารที่ยืนมองด้วยความตกตะลึง
ผ้าคลุมสีดำสนิทที่โอบรอบกายเธอปลิวไปตามแรงลมก่อนจะหล่นสู่พื้น เผยให้เห็นร่างของสตรีในชุดสีชมพูหวาน ในมือเรียวนั้นจับดาบแน่น ดวงตาทอประกายอย่างคนที่มั่นใจว่าจะชนะ
"พระชายา!"
ทหารที่ยืนข้างหลงเยี่ยนเอ่ยขึ้นด้วยความใ เมื่อเธอดูจากรูปการณ์แล้วคนนี้น่าจะเป็องครักษ์ข้างกายของหลงเยี่ยนเป็แน่
เสียงกระซิบดังขึ้นจากเหล่าทหารด้านล่าง ไม่ใช่เพราะความตื่นตะลึงที่เห็นสตรีก้าวขึ้นมายืนบนลานประลอง แต่เป็เพราะหญิงสาวผู้นี้คือพระชายาของแม่ทัพปีศาจต่างหาก
"ท่านแม่ทัพ.. หากข้าชนะท่านจะเลี้ยงสุราฮวาจื่อสามเดือนใช่หรือไม่"
เสียงใสเอื้อนเอ่ยท้าทายก้องไปทั่วลานประลอง หลงเยี่ยนมองเธอด้วยแววตาลึกล้ำก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปากและก้าวเข้ามาประจันหน้า
"เดิมทีข้าก็แค่เปิดประลองกับทหารของข้า ไม่ได้เปิดดวลกับคนนอก พระชายาเข้าใจอะไรผิดหรือไม่"
"แต่ท่านก็ไม่ได้มีกฎที่บอกว่าคนนอกห้ามประลองไม่ใช่หรือ เ้าได้ยินไหม.. เ้าล่ะ.. หรือว่าเ้าได้ยิน"
ลี่เซียนหันหน้าไปกวาดสายตาถามทหารด้านล่างที่มีท่าทีอึกอัก แต่ก็ไม่มีใครเอ่ยอะไรตอบกลับมา
"ข้ามั่นใจว่าตลอดระยะเวลาที่ท่านท้าดวลนั้น ไม่มีคำว่าเปิดให้ท้าเฉพาะเหล่าทหารผู้ใต้บัญชาเลยนะ แล้วเหตุใดข้าถึงประลองไม่ได้"
หลงเยี่ยนยืนนิ่งมองสตรีผู้นี้อย่างไม่เข้าใจ สตรีไร้ประโยชน์ที่วัน ๆ เอาแต่แต่งตัว อ่อนแอทำอะไรก็ไม่เป็ หากไม่ใช่ว่าต้องรับนางมาเป็ภรรยาเพราะการเชื่อมสัมพันธ์แล้วละก็ ยากนักที่จะคิดว่าคุณชายบ้านไหนจะรับนางไปเป็ภรรยาได้อีก และที่น่าแปลกก็คือั้แ่นางฟื้นมาจากความตายนั้นทุกอย่างของนางก็เปลี่ยนไปราวกับเป็คนละคน หากโลกนี้ปีศาจอยู่จริงคงคิดว่านางนั้นถูกปีศาจสิงร่างเสียแล้ว ก็อยากรู้นักว่านางจะทำอย่างไรต่อไป เช่นนั้นเล่นด้วยสักหน่อยก็ได้
"ได้! หากเ้ามีฝีมือพอข้าย่อมไม่ปฏิเสธ สุราฮวาจื่อสามเดือนไม่มีขาดแม้แต่วันเดียวจะเป็ของเ้า!"
ทหารที่ยืนอยู่ถูกความกล้าและบ้าบิ่นของเธอทำให้ใ ไป๋ลี่เซียนยิ้มให้แม่ทัพเล็กน้อย มือเล็กนั้นกำกระบี่เอาไว้แน่น ก่อนจะตั้งท่าแล้วเอ่ยกลางลานประลองด้วยเสียงดังฟังชัด
“ข้ามีนามว่าไป๋ลี่เซียน.. ขอท้าดวลกับท่านแม่ทัพหลงเยี่ยน!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้