ในโลกของหมากล้อม
กู่ไห่อุ้มหลงหว่านชิงเอาไว้ ก่อนจะะโขึ้นไปบนก้อนหิน ซึ่งถูกปกคลุมไปด้วยหมอกหนา
“ฮึ่ม!” เพียงครู่หนึ่ง ทั้งสองก็มาถึงขอบทะเลแล้ว
“อะไรกัน? ทำไมเราจึงมาถึงขอบได้ไวขนาดนี้” หญิงสาวถามด้วยความประหลาดใจ
เพราะหากประเมินด้วยสายตา บริเวณซึ่งพวกเขายืนอยู่เมื่อครู่ คงจะห่างจากที่นี่นับร้อยลี้
“นี่คือโลกของหมากล้อม ดังนั้นท่านสามารถมองให้มันเป็เช่นกระดานหมาก เมื่อข้าเดินไปตรงไหน ก็เท่ากับว่าวางเม็ดหมากลงบนกระดาน ที่เห็นเหมือนไกล แต่ที่จริงแล้วใกล้เท่านี้เอง” ชายหนุ่มอธิบาย
หลงหว่านชิงอึ้ง
ถึงอย่างไร ก็ไม่เข้าใจอยู่ดี!
ฟึ่บ!
กู่ไห่ก้าวอีกครั้ง คราวนี้ไปยังพื้นที่ที่มีหมอกหนา เพียงพริบตา ตอนนี้พวกเขาก็ออกห่างจากชีพจรัมาไกลหลายร้อยลี้
ฟึ่บๆๆ!
ะโครั้งแล้วครั้งเล่า ชายหนุ่มค่อยๆ ก้าวขึ้นไปบนท้องฟ้าและพุ่งทะยานไปยังทะเลหมอก ราวกับทะลุผ่านห้วงเวหา
แต่ในความคิดของนาง กลไกของมิติแห่งนี้ ช่างซับซ้อนนัก... นี่คือโลกของหมากล้อมอย่างนั้นหรือ?
“เ้าฝึกเล่นหมากล้อมมาั้แ่เมื่อใด?” หลงหว่านชิงมองดูอีกฝ่ายด้วยความสงสัย
กู่ไห่อายุเพียงเจ็ดสิบปีใช่หรือไม่? แต่ทักษะหมากล้อมของเขาช่างน่าครั่นคร้ามจริงๆ
ชายหนุ่มมิได้สนใจต่อคำถามของหญิงสาว ยังคงะโต่อไปเรื่อยๆ อย่างระมัดระวัง ก่อนจะทะยานร่างขึ้นฟ้าทันที ตอนนี้โลกแห่งหมากล้อมกำลังจะดับสูญ
“ออกไปกันเถอะ!” กู่ไห่เอ่ย
ตูม!
ทั้งสองะโออกมาอยู่บนเกาะลอยแล้ว
ขณะนี้ทั่วทุกพื้นที่ ไม่เว้นแม้แต่เกาะลอยฟ้า ยังคงสั่นะเือย่างรุนแรง ประหนึ่งแผ่นดินกำลังจะะเิเป็จุณ
หญิงสาวกลั้นหายใจมองภาพตรงหน้า ในรัศมีหนึ่งพันลี้จากสำนักติงหลง ทุกสิ่งพังทลายจนกลายเป็ซากปรักหักพัง และการสั่นไหวของแผ่นดินนั้น ดูเหมือนไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงแต่อย่างใด หนำซ้ำกลับดูรุนแรงยิ่งขึ้น
ราวกับวันสิ้นโลก ทั้งแผ่นดินและูเาสั่นะเืจนน่ากลัว เศษอิฐเศษหินจำนวนมากปลิวว่อน ก่อนจะตกลงมาสร้างความวุ่นวายไปทั่วบริเวณ ผู้ฝึกตนมากมายต่างหนีตาย บ้างก็พยายามหาที่กำบังตนด้วยความหวาดผวา
“ติงรุ่ย!” กู่ไห่ะโ
ติงรุ่ยในตอนนี้ไม่อาจหนีไปไหนได้ เพราะในจุดที่ไกลออกไป มีเรือเหาะของกองกำลังเฉินจีหยิงพร้อมพลธนู กำลังเล็งปลายศรมายังหญิงชรา
บนหัวเรือ ชายผู้สวมชุดเกราะสีทอง กำลังจับจ้องติงรุ่ยด้วยสายตาเย็นะเื
ทั้งกู่ไห่และหลงหว่านชิง จึงรอดูสถานการณ์อย่างเงียบๆ
“หลงหว่านชิง เ้าไม่อาจผสานชีพจรัได้ แม้ว่าจะมีหยกัอย่างนั้นหรือ?” หญิงชรากล่าวเสียงต่ำ
“หยกั?” หลี่ฮ่าวหรานเหลือบมองวัตถุทรงกลมในมือของหญิงสาว พลางหรี่ตาลง
“ผู้บัญชาการหลี่?” หลงหว่านชิงมองชายสวมชุดเกราะ ดวงตาเป็ประกายสุกใสอย่างมีความสุข
“ผู้บัญชาการหลี่ จับตัวติงรุ่ยมาให้ข้า นางรู้ความจริงเกี่ยวกับการตายของท่านแม่... จับกุมนางเดี๋ยวนี้!” หญิงสาวบอก
“หืม?” หลี่ฮ่าวหรานเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย พลางมองหญิงชราที่อยู่ห่างออกไป
“ผู้บัญชาการแห่งเฉินจีหยิง หลี่ฮ่าวหราน?” กู่ไห่มองชายสวมชุดเกราะด้วยความแปลกใจ
เมื่อมองเห็นสายตาของหลงหว่านชิง เขาก็รับรู้ได้ถึงความชื่นชมของหญิงสาวที่มีต่ออีกฝ่าย เพราะดวงตาคู่นั้น ไม่อาจซ่อนความรู้สึกได้
“ปล่อยธนู!” หลี่ฮ่าวหรานเอ่ยอย่างเืเย็น
ตูม!
ได้ยินเช่นนั้น พลธนูของกองกำลังเฉินจีหยิง ก็ยิงฝนธนูเข้าใส่ติงรุ่ยทันที
หญิงชรานิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วโบกไม้เท้าของตนขึ้น
ฟึ่บ!
ทันใดนั้น กำแพงไฟก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า ปิดกั้นฝนธนูของกองกำลังเฉินจีหยิงโดยพลัน
ตูม!
เสียงปะทะดังสนั่น เมื่อลูกธนูกระทบกับกำแพงอัคคีของติงรุ่ย
“หลี่ฮ่าวหราน! นี่เ้าจะยิงข้าจริงๆ หรือ?” หญิงชราแผดเสียง
“ยิงอีก!” ชายสวมชุดเกราะสั่ง
ตูม!
ฝนลูกธนูจำนวนมากพุ่งตรงไปข้างหน้าอีกครั้ง คราวนี้ พลังการโจมตียิ่งมากกว่าครั้งก่อนๆ
ตูม!
เสียงะเิดังขึ้น และแล้วกำแพงเพลิงก็พังทลาย
“ติงรุ่ย ยอมจำนนเสียเถอะ มิเช่นนั้น เ้าจะต้องตายด้วยลูกธนูเหล่านี้!” หลี่ฮ่าวหรานขู่อย่างเ็า
“ยอมจำนนหรือ? ฮ่าๆๆๆๆๆ! หลี่ฮ่าวหราน... เ้าลืมอะไรไปหรือเปล่า?” หญิงชราถามอย่างเกรี้ยวกราด
“จะขัดขืนหรือ? ติงรุ่ย สิ่งที่เ้าทำลงไปนั้นช่างหนักหนานัก คิดจะแย่งชิงหยกั ทั้งยังจับกุมและกักขังหลงหว่านชิงอีก… ฮึ่ม!” ชายสวมชุดเกราะกล่าวเสียงต่ำ
ตูมๆๆ!
ฝนธนูของกองกำลังเฉินจีหยิง พุ่งใส่ร่างหญิงชราอีกครั้ง
ใบหน้าของติงรุ่ยมืดครึ้มทันที นางโบกมือเล็กน้อย ก่อนที่กู่ฉินตัวหนึ่งจะปรากฏขึ้นตรงหน้า มันมิใช่ตัวก่อนหน้าที่พวกเขาเห็น เพราะกู่ฉินตัวนี้มีสายอยู่สามเส้น ที่ถูกตรึงด้วยเข็มขนาดเล็ก
ติ๊ง!
ทันทีที่ดึงเข็มบางๆ ออก สายกู่ฉินทั้งสามก็กลับมาเป็เช่นเดิม
ตูม!
ปราณกระบี่ปรากฏขึ้นรอบกายของหญิงชรา มันพุ่งเข้าไปบดขยี้ลูกธนูนับพันของกองกำลังเฉินจีหยิงทันที
“หลี่ฮ่าวหราน อย่าแสร้งทำตัวเป็คนดีไปหน่อยเลย! เป็เ้ามิใช่หรือที่้าหยกั? และบอกให้ข้าทำตามคำสั่ง เพื่อที่จะได้ชีพจรั?” ติงรุ่ยเยาะเย้ย
“กู่ฉิน?” ชายสวมชุดเกราะเอ่ยเสียงต่ำ
“นี่คือพลังปราณกระบี่ของข้า! ท่านผู้บัญชาการแห่งเฉินจีหยิง ข้าปิดผนึกไว้สามเพลงแล้ว อยากลองหรือไม่ล่ะ?” หญิงชรากล่าวอย่างเยียบเย็น
ติ๊ง!
ทันทีที่เข็มที่สองถูกดึงออก สายกู่ฉินเส้นที่สองก็พลันสั่นไหวอย่างรุนแรง
“โฮก….!”
เกิดพายุปราณกระบี่ พร้อมเสียงคำรามลั่นของกองทัพิญญาที่ปรากฏตัวขึ้น ซึ่งบางส่วนก็ปราดเข้าโจมตีคนของเฉินจีหยิงบนเรือเหาะ และส่วนที่เหลือก็มาคอยคุ้มกันติงรุ่ย
“ปล่อยธนู!”
ลูกธนูสองพันดอกพุ่งตรงเข้ามา
ตูม!
ฝนธนูถูกสกัดเอาไว้โดยกองทัพิญญาของหญิงชรา แม้จะมีิญญาบางดวงที่แตกสลาย จากการโจมตีของกองกำลังเฉินจีหยิง แต่เสียงของกู่ฉินก็ยังคงบรรเลงอยู่อย่างต่อเนื่อง เหล่าทหาริญญาจึงบุกเข้าโจมตีเรือเหาะอย่างบ้าคลั่ง
ตูม!
เรือเหาะเสียการทรงตัวไปเล็กน้อย
“โจมตีอีกครั้ง!” ติงรุ่ยสั่งเสียงต่ำ
“โฮก!”
ทหาริญญานับพันจึงเข้าโจมตีเรือเหาะอีกครั้ง
“ไปให้พ้น!” ชายสวมชุดเกราะถลึงตาใส่ ก่อนปล่อยปราณหมัดทองเข้าต้านการโจมตีของกองทัพิญญา
ตูม!
หมัดทองคำพุ่งเข้าใส่ กองทัพิญญาและหญิงชราลอยกระเด็นทันที
แต่กระนั้น เสียงกู่ฉินก็ยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้กองทัพิญญาไม่มีท่าทีว่าจะอ่อนกำลังลงแต่อย่างใด
“เยี่ยมไปเลย!” หลงหว่านชิงชื่นชม ดวงตาเป็ประกาย
หมัดของหลี่ฮ่าวหรานทรงพลังมากจริงๆ... เขาสามารถต้านกองทัพิญญาได้ในหมัดเดียวอย่างนั้นหรือ?
สบจังหวะที่สามารถไล่กองทัพิญญา ให้ออกห่างจากเรือเหาะได้ เขาจึงคว้าธนูยาวสีทองออกมา เล็งไปยังติงรุ่ยที่อยู่ท่ามกลางทหาริญญาเ่าั้
“ธนูสีทองแห่งหองทัพเฉินจีหยิง? หลี่ฮ่าวหราน เ้าคิดว่าข้าจะมิได้เตรียมรับมือเลยหรือไร? สายที่สามนี้ ข้าเตรียมไว้สำหรับลูกธนูทองคำของเ้าโดยเฉพาะ!” หญิงชราเอ่ยอย่างเยือกเย็น
ติ๊ง!
และแล้วเข็มสุดท้ายบนกู่ฉินก็ถูกดึงออก
ตูม!
เสียงกู่ฉินดังกึกก้อง ราวกับเสียงของอสนีบาต โล่ทองคำค่อยๆ ปรากฏขึ้นบนมือข้างหนึ่ง ของทหาริญญานับพันเ่าั้
ชายสวมชุดเกราะมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาเฉยเมย ก่อนยิงลูกศรยาวออกไปเต็มกำลัง
ฟึ่บ!
ลูกศรสีทองพุ่งตรงออกไป ทิ้งหางแสงเป็ทางคล้ายสายรุ้ง เสียงแหลมสูงของการแหวกอากาศดังขึ้น ทำให้ก้อนหินที่ศรใหญ่เคลื่อนผ่านแตกออกเป็เสี่ยง
กองทัพิญญาคำรามเสียงดังลั่น ชูโล่สีทองในมือขึ้นโดยพร้อมเพรียง เพื่อตั้งรับการโจมตีของหลี่ฮ่าวหราน
ตูม….!
พลังของลูกศรทอง สามารถทำลายเกราะทองของกองทัพิญญาได้เพียงยี่สิบอันเท่านั้น
แม้ว่าลูกศรสีทองจะทรงพลัง แต่ก็ถูกต้านเอาไว้ได้
“เสียงของกู่ฉิน สามารถต้านพลังของข้าได้อย่างนั้นหรือ?” ชายสวมชุดเกราะเอ่ย อย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง
นี่เป็ครั้งแรก ที่เขาโจมตีด้วยศรทองไม่ได้ผล
หญิงชรามองหลี่ฮ่าวหรานด้วยใบหน้าที่โกรธเกรี้ยว อันตรายมาก พลังของศรทองสามารถทำลายโล่ได้ถึงยี่สิบอัน? หากเขาโจมตีมาอีกสองถึงสามครั้ง นางคงต้านไม่ไหวแน่
“หลี่ฮ่าวหราน! เ้าคิดจะสังหารข้าจริงๆ หรือ?” ติงรุ่ยถามเสียงต่ำ
“หืม? มาดูกันว่าเ้าจะสามารถต้านธนูสามดอกของข้าได้หรือไม่!” ชายสวมชุดเกราะกล่าวเสียงเย็น
ขณะที่เอ่ย หลี่ฮ่าวหรานก็คว้าลูกธนูสามดอกออกมา รอยยิ้มร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้า เขายกคันธนูขึ้นเตรียมยิง
หญิงชรากัดฟันกรอดด้วยความเจ็บใจ ก่อนจะเหยียดมือของตนไปข้างหน้า
“โฮก!”
ทหาริญญานับพันปราดเข้าใส่ชายสวมชุดเกราะ หมายจะฉีกร่างคนตรงหน้าออกเป็ชิ้นๆ
“ผู้บัญชาการหลี่… ระวัง!” หลงหว่านชิงะโอย่างร้อนรน
กู่ไห่หรี่ตาลงเล็กน้อย เจตนาของหลี่ฮ่าวหรานช่างชัดเจนนัก... เขา้าสังหารติงรุ่ยหรือ?
เพราะอะไรกัน? และทำไมเขาจึงช่วยพวกตน?
ชายหนุ่มเงียบไปครู่หนึ่ง “ถังจู่ ข้าขอยืมหยกัของท่านหน่อย!”
“หือ?” หญิงสาวมองอีกฝ่ายด้วยความไม่เข้าใจ แต่ก็ยอมยื่นหยกัให้แต่โดยดี
“หลี่ฮ่าวหราน ท่านผู้บัญชาการแห่งเฉินจีหยิง ตอนนี้ข้าคือหนึ่งในสมาชิกของหออี้ผิน ปัญหาภายในของพวกเรา ข้าจะจัดการมันด้วยตัวเอง ท่านได้โปรดอย่าเข้ามายุ่งเกี่ยวเลย” กู่ไห่ร้องบอก
“หืม?” หลงหว่านชิงมองดูชายหนุ่มด้วยความกังขา
ชายสวมชุดเกราะที่กำลังจะปล่อยลูกศรทั้งสาม พลันขมวดคิ้วแน่น
ติงรุ่ยก็นึกสงสัยในการกระทำของกู่ไห่เช่นกัน
พวกเขามองดูกู่ไห่และหลงหว่านชิง ที่ยืนอยู่ข้างๆ กระดานหมากยี่สิบเก้าเส้น ด้วยสายตาเรียบเฉย มือของกู่ไห่ข้างหนึ่งกำด้ามกระบี่โลหิต ส่วนอีกข้างก็กำลังถือหยกัเอาไว้
“ติงรุ่ย เ้า้าที่จะผสานชีพจรัด้วยตัวเองมิใช่หรือ? รับมันไปสิ ไม่อย่างนั้นข้าจะทำลายมันเสียให้สิ้น!” กู่ไห่กล่าว พลางยกยิ้ม
“อะไรนะ?” ได้ยินเช่นนั้น หลงหว่านชิงพลันเบิกตากว้าง
แม้แต่หลี่ฮ่าวหรานและติงรุ่ย ก็ไม่เข้าใจในการกระทำของกู่ไห่ แม้แต่น้อย... บ้าไปแล้วหรือ?
“ย๊าก!”
กู่ไห่ชูหยกัขึ้นเหนือศีรษะ พร้อมทำท่าราวกับจะใช้กระบี่โลหิตสับมันให้แตกเป็เสี่ยงๆ ก็ไม่ปาน
“กู่ไห่ เ้าคิดที่จะทำอะไรน่ะ” หลงหว่านชิงอุทานอย่างตื่นตระหนก แต่เพราะพลังของนางถูกผนึกเอาไว้ จึงไม่อาจทำสิ่งใดได้
“บัดซบ!” ท่าทีของชายสวมชุดเกราะพลันแปรเปลี่ยน
“เ้าโง่!” หญิงชราคำรามเสียงดังลั่น
ลูกธนูในมือของหลี่ฮ่าวหราน เปลี่ยนทิศทางไปยังกระบี่โลหิต
“หลี่ฮ่าวหราน นี่คือเื่ภายในของหออี้ผิน ท่านไม่จำเป็ต้องเข้ามายุ่ง” กู่ไห่เอ่ยเสียงแข็ง
“หือ?” ชายสวมชุดเกราะชะงัก
ติงรุ่ยทะยานร่างเข้ามาใกล้ หมายจะคว้าหยกัที่อยู่เหนือศีรษะของกู่ไห่
ก๊อก!
ชายหนุ่มฉวยโอกาส คว้าเม็ดหมากสีดำขึ้นมา วางลงบนกระดานหมากล้อมทันที
“อ๊ะ!”
เกิดแรงดูดมหาศาลเหนือเกาะลอยฟ้า ทั้งหญิงชราและทหาริญญานับพัน ถูกดูดขึ้นไปทันที
“อะไรกัน?” ติงรุ่ยเบิกตากว้าง
ฟึ่บ!
ทั้งหมดถูกดูดเข้าไปในโลกของหมากล้อมทันที
กู่ไห่ลดกระบี่โลหิตในมือลง
“เอ๋!” หลงหว่านชิงมองภาพตรงหน้า ด้วยความงุนงง
ฟุ่บ!
หยกัหล่นลงสู่มือของชายหนุ่ม
“ถังจู่ ข้าขอคืนหยกัให้ท่าน” เขายื่นหยกัคืนให้หญิงสาวตามเดิม
ฟุ่บ!
จากนั้น กู่ไห่จึงนั่งลง และเล่นหมากล้อมตรงหน้าต่อ
ลูกธนูยาวสีทองสามดอกยังคงค้างอยู่บนคันศร แต่เดิมที่หมายจะปลิดชีพติงรุ่ย กลับต้องผิดแผนไปหมด ทำให้หลี่ฮ่าวหรานยืนนิ่งงันเช่นนั้นอยู่นาน