“เ้าอย่าพูดเหลวไหลตระกูลหลี่ไม่เคยทำเื่แบบนี้มาก่อน” หลี่หยงได้ยินวาจารีบโต้แย้งอย่างรวดเร็ว
ทำอย่างไรดีถ้าเื่กระโปรงถูกพบเห็นเข้า แผนทั้งหมดนี้...
“ท่านน้าเื่มาถึงบัดนี้ ท่านรู้สึกว่ายังสามารถปิดบังได้หรือ? ถึงแม้ว่าร้านจิ่งซิ้วได้รับเงินจากตระกูลหลี่แต่กล่าวถึงที่สุดก็เป็คนหนึ่งที่ทำธุรกิจด้วยเท่านั้นนักธุรกิจเข้าใจชั่งน้ำหนักหนักเบามากที่สุด ระหว่างเงินกับชีวิตเ้าคิดว่าร้านจิ่งซิ้วจะเลือกอะไร?” ซูเฟยซื่อเลิกคิ้วอย่างอวดดี
“นี่...”คำตอบนี้ชัดเจนมาก ในเมื่อซางจื่อสามารถพูดเื่นี้ออกมาได้ก็แสดงให้เห็นว่าร้านจิ่งซิ้วได้ทรยศตระกูลหลี่แล้ว
บ้าฉิบหลี่หยงโกรธจนกำหญ้าแห้งบนพื้นไว้แน่น “แล้วอย่างไร? ต่อให้ตระกูลหลี่ให้ร้านจิ่งซิ้วทำเสื้อผ้าแบบเดียวกันสองชุดหรือต่อให้เื่ที่พวกเขากล่าวเมื่อครู่ล้วนเป็สิ่งที่ตระกูลหลี่ทำจริงเื่นี้ทะเลาะกันไปจนถึงฮ่องเต้อย่างมากก็ต่อว่าตระกูลหลี่ที่นำให้เ้าเกิดความขัดแย้งกับคุณหนูหลัวเดิมก็เป็เื่วิวาทเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างเด็ก ใครจะคิดว่าถึงกับฆ่าคุณหนูหลัวเพราะเื่เล็กๆน้อยๆ นี้ได้ เ้าสังหารคุณหนูหลัว นั่นไม่ใช่เป็สิ่งที่ตระกูลหลี่ยุแหย่เ้าปรักปรำคนอื่นต้องแสดงหลักฐานออกมา”
รู้ว่าซูเฟยซื่อไม่สามารถเอาหลักฐานที่แสดงว่าตระกูลหลี่สอนยุแหย่ให้นางฆ่าหลัวฉีลี่ออกมาได้หลี่หยงยิ่งพูดยิ่งมีความมั่นใจมากขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
ซูเฟยซื่อยิ้มอย่างเ็าทันทีเดิมนางก็ไม่ได้ฆ่าหลัวฉีลี่ นางจะเอาหลักฐานแบบนี้ออกมาได้อย่างไร
ต่อให้มีนางก็เอาออกมาไม่ได้นั่นไม่ใช่ให้นางตกที่นั่งก่ออาชญากรรมว่านางเป็ฆาตกรสังหารคนแล้วจริงๆหรือ?
“เวลานี้ท่านน้ายังสามารถมีความมั่นใจในตนเองเช่นนี้เฟยซื่อชื่นชมจริงๆ แต่น่าเสียดายที่มั่นใจส่วนมั่นใจ ท้ายที่สุด แผนการของตระกูลหลี่มิอาจขึ้นจากความตายได้ด้วยเหตุนี้”น้ำเสียงของซูเฟยซื่อยังคงอ่อนโยนเหมือนเดิม
แต่ฟังในหูของหลี่หยงราวกับยันต์เร่งเอาชีวิตความหวาดกลัวในใจเสริมด้วยความเ็ปของาแ ทำให้เขาตัวสั่นอย่างอดไม่ได้“แผนการอะไร ข้าฟังไม่เข้าใจ เมื่อครู่ข้าบอกแล้วปรักปรำคนต้องเอาหลักฐานออกมา”
ซูเฟยซื่อไม่สนใจที่เขาแกล้งทำเป็โง่เขลายังคงกล่าวต่อไปเองว่า “ครั้งนี้เพื่อจัดการให้ข้าถึงตาย คุณตายังนับว่าลงทุนแล้วจริงๆจากเสื้อกระโปรงสองชุดที่เหมือนกันราวกับแกะจนถึงที่ข้ามีปากเสียงกับคุณหนูหลัวตรงหน้าประตูพระราชวัง รวมถึงญาติพี่สาวที่ใช้ข้ออ้างเื่ไปหาห้องสุขาเพื่อพาข้าเข้าไปในสวนบุปผชาติหลวงแผนการแเีแยบยลทีละก้าวๆ ก็เพื่อนำข้าเข้าสู่แผนถึงกับยังไม่เสียดายให้ญาติพี่สาวต้องเป็ผู้ต้องสงสัยพร้อมข้าด้วยให้ท่านน้าพาคนมาปล้นคุก ถ้าข้าเดาไม่ผิดขอเพียงข้าออกจากคุกหลวงก็ต้องถูกฆ่าทิ้งศพและเป้าหมายของแผนการทั้งหมดครั้งนี้ก็้าให้ข้าตาย ทั้งยังต้องถูกกล่าวหาว่าฆ่าคนแหกคุกจนตาย”
นางได้เคยถูกคนวางแผนหลอกล่อจนตายไปแล้วครั้งหนึ่งดังนั้นชั่วชีวิตนี้ที่นางเกลียดที่สุดก็คือให้คนอื่นวางแผนหลอกล่อชีวิตของนาง
ยังเป็ทีละก้าวๆ้าจัดการนางให้ถึงที่ตายโดยไม่เสียดายราคาค่างวด
นางไม่สามารถทนได้เด็ดขาด
คิดมาถึงตรงนี้รังสีสังหารที่กระหายเืบนร่างซูเฟยซื่อปะทุขึ้นอย่างมากในทันใดนอกจากอวี้เสวียนจีแล้ว ทุกคนต่างถูกข่มขู่จนกลัวไปหมด
นี่เป็เื่อะไรกัน? ทำไมคุณหนูที่ได้รับการเลี้ยงดูในเรือนจึงสามารถมีรังสีสังหารแบบนี้ได้!
นางเป็ซูเฟยซื่อคุณหนูสามแห่งจวนอัครมหาเสนาบดีจริงๆหรือ!
เมื่อเห็นว่าแผนการทั้งหมดถูกซูเฟยซื่อมองออกทะลุปรุโปร่งแล้วหลี่หยงก็รู้สึกท้อใจในทันที “ในเมื่อเ้ารู้ทั้งหมด ทำไมไม่เปิดโปงให้เร็วกว่านี้ยังให้คนใส่ร้ายป้ายสีให้เปื้อนมลทินอย่างโง่ๆ ถูกจับเข้าคุกหลวง?”
“เปิดโปงให้เร็วกว่านี้ก็ไม่ได้เห็นการแสดงที่สนุกของท่านน้าชุดนี้แล้ว?” ริมฝีปากซูเฟยซื่อกระดกยิ้มเล็กน้อยใบหน้าที่งามล้ำเลิศยามนี้กลับเหมือนปีศาจชั่วร้าย
จู่ๆหลี่หยงก็รู้สึกว่าความจริงซูเฟยซื่อกับอวี้เสวียนจีเป็คนชนิดเดียวกัน
ห่มชั้นหนังที่หยาดเยิ้มล่มเมืองมือครอบคลุมเฉียนคุน ราวกับทั่วใต้หล้าต่างถูกพวกเขาเล่นสนุกท่ามกลางเสียงปรบมือ
และความสงบนิ่งอันเป็เอกลักษณ์หนึ่งเดียวทั่วเอกาก็เป็หลักฐานที่ดีที่สุด
“จบแล้วจบแล้ว ตระกูลหลี่จบแล้ว” ตอนนี้ในที่สุดหลี่หยงก็เข้าใจแล้ว ทำไมมีหลายคนถึงพ่ายแพ้ในมือซูเฟยซื่อทำไมหลี่ชิ่งเหยียนจึงไม่เสียดายทุ่มทั้งหมดเพื่อฆ่าซูเฟยซื่อให้จงได้
ที่แท้ซูเฟยซื่อจึงเป็คนที่น่าหวาดกลัวคนนั้นจริงๆ
ทั้งๆที่นางรู้ว่าทั้งหมดนี้เป็แผนของตระกูลหลี่ ยังแกล้งทำเป็หลงกล แต่ในความเป็จริงคือผลักเรือไปตามน้ำยืมแผนของตระกูลหลี่ผลักให้ตระกูลหลี่เข้าไปในดินแดนแห่งหายนะที่ไม่สามารถกอบกู้กลับมาได้
ตอนนี้การตายของหลัวฉีลี่และการปล้นคุกได้กลายเป็เื่จริงขอเพียงซูเฟยซื่อพูดความจริงของ่เวลาเหล่านี้ออกไป ตระกูลหลัวต้องเกลียดแค้นตระกูลหลี่เข้าไปในกระดูกซ่งหลิงซิวต้องโกรธมากด้วย
เมื่อถึงเวลาตระกูลหลี่ก็ต้องกลายเป็เป้าหมายที่ประชาชนทั่วไปโจมตีและนี่คือจุดประสงค์ของซูเฟยซื่อ
หลี่ิ่เอ๋อร์เห็นหลี่หยงแบบนี้อดไม่ได้ที่จะลนลานด้วยแล้ว รีบก้าวมาข้างหน้าคิดจะช่วยพยุงเขากลับถูกเขาสลัดมือออกไปทันที
หลี่หยงเงยหน้าขึ้นแววตาในดวงตามืดมน “ตอนนี้ข้าเพียงคิดว่าเ้าพบแผนการนี้ั้แ่เมื่อไรแล้วให้สาวรับใช้แฝงเข้ามาในหมู่คนของข้าเมื่อไรกัน”
“ั้แ่ที่แม่ใหญ่ส่งเสื้อผ้าให้ข้าข้าก็รู้สึกว่าผิดปกติแล้ว เราต่างรู้ไส้รู้พุงกันว่าแม่ใหญ่ปฏิบัติต่อข้าอย่างไรดังนั้นหลังจากทะเลาะกับหลัวฉีลี่ที่หน้าประตูวัง ข้าก็ส่งคนไปตรวจสอบร้านจิ่งซิ้วยังให้ซางจื่อไปสอดแนมทุกอิริยาบถของพวกเ้าที่ตระกูลหลี่” เื่มาถึงตอนนี้ซูเฟยซื่อไม่มีอะไรต้องปิดบังอีกแล้ว
หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้จบในดวงตาหลี่หยงมีแววแปลกใจกะพริบผ่านปราดหนึ่งหลังจากนั้นหัวเราะเสียงดังขึ้นมาแล้ว “ฮ่าๆๆ ซูเฟยซื่อ ข้ายอมแพ้แล้วเ้าร้ายกาจมากจริงๆ แต่ตระกูลหลี่นับว่าหยั่งรากลึกในเมืองหลวงแม้ว่าขาดเราไปไม่กี่คนก็ไม่ถึงกับพินาศได้”
ดูไปแล้วเขาคิดตั้งใจสละตนเองกับหลี่ิ่เอ๋อร์แบกรับเื่ทุกอย่างไว้ เพื่อปกป้องหลี่ชิ่งเหยียนกับตระกูลหลี่ทั้งหมด
เดิมคิดว่านี่เป็การวางหมากที่เลวร้ายที่สุดแล้วไม่คิดว่าอวี้เสวียนจีที่นิ่งเงียบมาเป็เวลานานมาก จู่ๆ กลับเอ่ยปาก “งั้นหรือ? ถ้าเช่นนั้นข้าอุปราชกลับคิดดูว่าในที่สุดตระกูลหลี่มีรากลึกมั่นคงมากเท่าใด”
กล่าวจบเขาก็โบกมือทันทีจั๋วจื่อที่ยืนอยู่ข้างกายเขารีบดึงพลุจากอ้อมแขนอันหนึ่งออกมายิงขึ้นสู่ท้องฟ้าทันที
ซูเฟยซื่อขมวดคิ้วเล็กน้อยมองดูพลุดอกไม้ไฟที่ะเิออก ค่อยๆ กระจายไปในท้องฟ้า ในใจเต็มไปด้วยความสงสัย
นี่เป็เื่อะไรกันอีก?
“ท่านอ๋องท่าน...” หลี่หยงจ้องถลึงตาโตดูเหมือนไม่เชื่อเื่ที่เกิดขึ้นทุกอย่างนี้อย่างสิ้นเชิงแต่ความหวาดกลัวในดวงตามิอาจใช้คำพูดมาบรรยายได้
“เ้ากำลังคิดกล่าวว่าข้าอุปราชมีพลุสัญญาณของตระกูลหลี่ได้อย่างไร? ภายใต้ท้องฟ้านี้ขอเพียงข้าอุปราชคิดอยากมีต่างหนีไม่พ้นฝ่ามือของข้าอุปราช” เสียงของอวี้เสวียนจีอ้อยอิ่งแต่ซูเฟยซื่อกลับสั่นเทิ้มคราหนึ่งอย่างช่วยไม่ได้
เห็นได้ชัดว่าวาจานี้พูดกับหลี่หยงแต่ทำไมเขาถึงมองดูนาง?
หรือว่าคำพูดนั้นที่ด้านหลัง...
เป็พูดกับนาง?
เห็นซูเฟยซื่อมีความตระหนักในตัวอวี้เสวียนจีรีบกระดกริมฝีปากกล่าวต่อไปอีก “มีพลุสัญญาณนี้แล้วเกรงว่าหลี่ชิ่งเหยียนไอ้เฒ่านี้ก็ดิ้นไม่หลุดในความสัมพันธ์ด้วยแล้ว”
ประโยคหนึ่งเกือบคว่ำหลี่หยงล้มไป
หลี่ชิ่งเหยียนเป็เสาหลักของตระกูลหลี่ถ้าเสาหลักนี้ต้องล้มลง ตระกูลหลี่ก็ล้มลงถึงที่สุดแล้ว
แต่ในอีกด้านของห้องทรงพระอักษรกลิ่นอายกำลังแผ่ซ่านไปอย่างรวดเร็ว
“คุณหนูหลัวถูกแทงที่หน้าอกหมอหลวงได้วินิจฉัยแล้วไม่สามารถรอดชีวิต ยังขอหลัวไท่ฟูโปรดระงับความโศกเศร้าอย่าเศร้าเสียใจมากเกินไป” ซ่งหลิงซิวเอ่ยปากหน้าเขียวปั๊ด
ลูกสาวของขุนนางใหญ่ถึงกับถูกลอบฆ่าในขณะที่เข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองในพระราชวังจะให้เขาที่เป็ฮ่องเต้องค์นี้เอาพระพักตร์ไปไว้ที่ไหนกัน?
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้