พุ่มไม้เตี้ยทั้งผืนถูกแรงน้ำซัดจนล้มหมอบกองใบไม้ที่หนาทึบนับร้อยนับพันต่างถูกกระแสน้ำจากพายุพัดพาไปจนหมดส่วนพุ่มไม้หนามนั้นมีเปลวเพลิงรวมเป็กลุ่มก้อนจนเหมือนหงส์เพลิงที่พร้อมจะโบยบินขึ้นสู่ท้องฟ้าและเมื่อข้าเดินเข้าไปใกล้ก็เห็นได้ชัดเจนว่ามันคือหญ้าิญญาที่มีรูปร่างแปลกประหลาดเป็อย่างมากนอกจากหัวใต้ดินของมันแล้วยังมีกิ่งก้านสาขาที่ปลายชี้ลงดินส่วนใบมีสีแดงเพลิงรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนเหมือนเป็ปีกของหงส์
ต้นของมันปลิวไสวไปตามแรงลมเหมือนหงส์เพลิงที่บินถลาลม
หญ้าิญญาเพลิง!
นึกไม่ถึงว่าจะเป็หญ้าิญญาเพลิงที่มีการบันทึกไว้ว่าใกล้จะหายสาบสูญไปจากแผ่นดินโดยปกติแล้วจะพบเพียงในป่าลึกเท่านั้นหรือจะบอกว่าโอกาสที่จะได้พบมีเพียงหนึ่งในหมื่นเท่านั้น!
ข้าว่าครั้งนี้โชคของข้ามันดีเกินไปแล้วนึกไม่ถึงว่าจะมาเจอหญ้าิญญาเพลิงในที่แบบนี้ได้
หญ้าชนิดนี้มีประวัติมายาวนานเมื่อประมาณหลายพันปีก่อนมีการบันทึกไว้ว่าเมื่อนำมากินหรือใช้ฝึกฝนจะทำให้ผู้ฝึกฝนิญญามีพละกำลังที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นหรือกล่าวได้ว่ามีกำลังกายดีกว่าคนอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัดนั่นเองโดยการประลองของพวกจอมยุทธ์ในแต่ละครั้งจะต้องมีการาเ็เป็ธรรมดาแต่ถ้าใครมีเนื้อหนังที่หนาและทนทานต่อการโจมตีมากกว่ากันก็จะถือว่าเป็ผู้ชนะที่แท้จริง!
เพราะแบบนี้ทำให้ผู้ฝึกฝนิญญาหลายคนที่เจอเข้ากับสัตว์ิญญาที่มีระดับพลังเท่าๆกันจึงแทบจะไม่มีโอกาสชนะเพราะถึงจะมีพลังการโจมตีเท่ากันแต่เกราะป้องกันและความทนทานก็ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
ข้าดีใจจนออกนอกหน้าเพราะหญ้าชนิดนี้มีราคาสูงจนแทบไม่มีใครกล้าขายและเมื่อเด็ดไปแล้วจะต้องรีบใช้ภายในหนึ่งวันไม่อย่างนั้นพลังิญญาภายในจะค่อยๆสลายหายไปจนหมดฉะนั้นไม่ว่าจะเมืองหลิงหยุนเฉิงหรือเมืองหลินเสี่ยเฉิงก็ไม่มีหญ้าชนิดนี้ขายโดยประเด็นหลักก็เพราะหญ้าชนิดนี้ไม่สามารถเก็บรักษาไว้ได้ที่ทำให้ราคาของมันแพงกว่าหญ้าชนิดอื่นๆถึงขนาดที่ว่ามีคนเคยนำไปขายในเมืองหลิงหยุนเฉิงที่มีการประมูลราคามันสูงขึ้นไปถึงสิบล้านเหรียญหลงหลิงในเวลาไม่ถึงนาทีซึ่งคนที่ซื้อไปคือศิษย์ของสำนักชื่อดังแห่งหนึ่งที่พอใช้แล้วก็มีพละกำลังที่ะโข้ามขั้นจนกลายเป็จอมยุทธ์ผู้มีฝีมือคนใหม่และไม่เป็สองรองใครในตอนนั้น
ถ้าอย่างนั้นสรรพคุณของมันก็จะต้องล้ำค่ามากแน่ๆขอเพียงข้าทำให้มันสลายและแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายได้ไม่เพียงแค่เพิ่มความแข็งแกร่งแก่ร่างกายมากยิ่งขึ้นและที่สำคัญคือทำให้พลังเพิ่มขึ้นอีกขั้นหนึ่ง!
ตอนนี้เองก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของคนที่เดินใกล้เข้ามา ก่อนจะมีคนโผล่ออกมาจากป่าด้านหน้าพร้อมกับพูดขึ้นอย่างตกตะลึง“นายน้อย ท่านดูนั่นสิขอรับ! นั่นมันหญ้าิญญาเพลิงไม่ใช่หรือไง? ฮ่าๆๆ...แผนที่เก็บของล้ำค่าที่อาจารย์หวงให้มาถูกต้องจริงๆด้วย หญ้าิญญาเพลิงอยู่ตรงนี้จริงๆดูเหมือนว่าครั้งนี้พวกเราไม่ได้มาเสียเปล่าแล้วล่ะขอรับ ฮ่าๆๆ...”
พักเดียวร่างของคนที่อ้วนพีเดินออกมาซึ่งเขาคือิไซว่ที่ข้าเจอบนรถไฟนั่นเอง “ฮึ!ข้าอุตส่าห์ซื้อแผนที่มาจากมันตั้งสองสามล้านเหรียญ ถ้าเป็แผนที่ปลอมละก็ข้าจะกลับไปถลกหนังมันเลยล่ะฮ่าๆๆ...”
ลูกสมุนคนหนึ่งพูดขึ้นมา “นายน้อย ท่านรีบไปเด็ดมากินเถอะขอรับมันจะต้องทำให้นายน้อยบรรลุขั้นการบำเพ็ญตอนนี้ได้แน่ๆหรือบางทีขั้นการบำเพ็ญของนายน้อยอาจจะก้าวะโไปถึงขั้นเทวิญญาเลยก็ได้นะขอรับ!”
“ได้ ป้องกันให้ข้าด้วยแล้วกัน เข้าไปกันเถอะ!”ิไซว่ว่าแล้วเดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่บ่งบอกถึงความโอหัง
พวกมันมากันเยอะขนาดนี้จะให้ข้าทำอย่างไร?
ข้าขมวดคิ้วเข้มหากจะให้ถอยหนีแล้วทิ้งหญ้าิญญาไว้เพียงเพราะพวกมันมากันเยอะคงไม่ใช่ข้าอย่างแน่นอนถึงแม้อีกฝ่ายจะคนเยอะขนาดไหนข้าก็ไม่มีทางละทิ้งของสำคัญอย่างหญ้าิญญาเพลิงต้นนี้แน่นอน!
ข้ากระโจนออกไปอย่างรวดเร็วก่อนจะมายืนอยู่ตรงหน้าของหญ้าิญญาเพลิงต้นนั้น
“หืม เ้านี่มันขอทานบนรถไฟนั่นไม่ใช่หรือไง?” ิไซว่พูดออกมาอย่างประหลาดใจ
ข้าเห็นแบบนั้นจึงพูดขึ้นมาเสียงดัง“หญ้าิญญาเพลิงต้นนี้ข้าเห็นก่อน โดยปกติแล้วใครมาก่อนก็ควรจะได้ไปดังนั้นเมื่อว่ากันตามกฎหญ้าิญญาเพลิงต้นนี้ต้องเป็ของข้า”
ลูกสมุนคนหนึ่งแสยะยิ้มแล้วพูดขึ้น “เ้าบอกว่าเห็นก่อนข้าก็ต้องเชื่ออย่างนั้นเหรอ? เ้าคิดตัวเองเป็ใครฮะ?พวกข้าก็เจอมันเหมือนกัน ไม่ว่ายังไงก็ถือว่าเจอพร้อมกันซึ่งเดิมทีหญ้าต้นนี้คนของพวกข้ามาเจอก่อนแล้วถึงได้เขียนเอาไว้ในแผนที่แผ่นนี้”
ลูกสมุนอีกคนพูดเสริม “ขอทานอย่างเ้าคิดที่จะมาแย่งหญ้าิญญาเพลิงกับพวกข้าอย่างนั้นเหรอ? ช่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงจริงๆ!”
ิไซว่มองมาทางข้าด้วยลูกตาเท่าเม็ดถั่วเขียวก่อนจะฉายแววเ้าเล่ห์แล้วพูดพลางยิ้ม“เ้าเพื่อนยากการที่เ้าสามารถเข้ามาในหุบเขาชั้นที่แปดทั้งที่ตัวคนเดียวนั่นหมายความว่าเ้าเองก็พอจะมีฝีมืออยู่บ้างแต่ไม่ว่ายังไงหญ้าต้นนี้ก็ต้องเป็ของข้าซึ่งข้าก็ไม่ใช่พวกเอาแต่ได้โดยไม่คิดถึงหลักเหตุผลเอาเป็ว่าข้าจะให้บัตรที่มีเงินอยู่หนึ่งล้านเหรียญหลงหลิงเพื่อเป็การแลกเปลี่ยนดีหรือเปล่า?”
ข้าส่ายหน้าก่อนจะตอบกลับ “หญ้าิญญาเพลิงสำคัญต่อการบำเพ็ญของข้ามากและในเมื่อโชคชะตานำพาข้ามาพบกับมันแล้ว ข้าก็จะเสียมันไปไม่ได้!”
ลูกสมุนหลายคนเริ่มมีน้ำโหขึ้นมา “เ้าเด็กนี่!เ้าอย่ามาทำตัวโอหังให้มันมากนัก คุณชายของข้าบอกแล้วไม่ใช่หรือไงว่าจะให้เงินหนึ่งล้านเหรียญเป็การแลกเปลี่ยนเ้ายังจะกล้าปฏิเสธอีกเหรอ? หรือว่าเ้าอยากตายจริงๆ!?”
ข้าขมวดคิ้วแน่นก่อนจะผายมือเพื่อเรียกกระบี่คมจันทราออกมาก่อนที่บรรยากาศโดยรอบจะเย็นเยือกเหมือนอยู่ขั้วโลกเหนืออันหนาวเหน็บัสีทองพุ่งทะยานขึ้นมาจากร่างด้วยความยิ่งใหญ่ที่ไร้ซึ่งคู่ต่อสู้!
“วิชาลมหายใจัขั้นที่แปด?!”
ิไซว่ที่ดูเหมือนจะเคยเห็นพลังของมันจึงแสดงแววตาที่เหมือนจะนับถือข้าอยู่ไม่น้อยก่อนจะพูดขึ้น“เ้าเป็ศิษย์ของสำนักหมื่นิญญาสินะมิน่าล่ะถึงเข้ามาในหุบเขาหลิงหยุนชั้นที่แปดนี้ได้แต่เ้าคงจะเห็นแล้วว่าพวกข้ามีเยอะขนาดไหนหรือเ้าคิดว่าคนที่อยู่ในขั้น์เพียงคนเดียวจะสามารถสู้คนที่อยู่ในขั้น์สิบคนได้อย่างนั้นเหรอ?หากจะต้องถูกทำร้ายสู้สละหญ้าิญญาเพลิงนี้ให้พวกข้าไม่ดีกว่าหรือ?”
ข้ายังคงยืนหยัดอยู่เบื้องหน้าของหญ้าิญญาเพลิงก่อนจะพูดขึ้น “ก็บอกแล้วไงว่าข้าเป็คนเจอหญ้าิญญาเพลิงต้นนี้ก่อนถ้าพวกเ้าคิดจะแย่งก็เข้ามาเลย!”
“สามหาว! เ้ามันรนหาที่ตายชัดๆ!” ลูกสมุนแต่ละคนต่างเริ่มเดือดดาล
“พวกเ้าหุบปาก!”
ถึงแม้ลูกสมุนจะเดือดดาลแต่ิไซว่กลับพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“ท่านจอมยุทธ์น้อย ข้าว่าเอาแบบนี้ดีกว่านะในเมื่อพวกเราต่างก็เจอหญ้าิญญาเพลิงต้นนี้พร้อมกัน ข้าว่าเราลองมาพนันเล่นๆ กันดีไหมว่ามันจะเป็ของใครเ้ากล้าหรือเปล่า?”
“จะพนันยังไง?"
ข้าว่าแบบนี้ก็ดีเหมือนกันเพราะถ้าสู้กันไปก็มีแต่จะได้รับาเ็สาหัสและต่อจากนี้ไม่ว่าจะเจอกับสัตว์ิญญาหรือพวกล่าสัตว์คนอื่นๆก็ยากที่จะเอาชีวิตรอดการที่ต้องมาทิ้งชีวิตเพียงเพราะหญ้าิญญาต้นเดียวแบบนี้มันไม่คุ้มค่ากันเท่าไรและเมื่อเขาเสนอมาเช่นนั้นก็ถือว่าเป็วิธีที่ดีเหมือนกัน
ิไซว่ขมวดคิ้วเล็กๆ ก่อนจะว่าพลางยิ้ม“บรรพบุรุษของข้าต่างเป็ผู้ที่อ่านหนังสือค่อนข้างมากถ้าอย่างนั้นเรามาเล่นเกมง่ายๆ อย่างเช่นการต่อสำนวนสุภาษิต ท่านกล้าหรือเปล่า?”
ข้าไม่ได้หวาดหวั่นต่อเกมนี้เลยสักนิดเพราะตอนเด็กข้าก็ใช้ชีวิตอยู่ในห้องสมุดเสียส่วนใหญ่ชนิดที่ว่าจำตำราของแผ่นดินทั้งหลายและตำราเรื่อยเปื่อยสารพัดอย่างได้เกือบทั้งหมดและหนึ่งในนั้นก็มีตำราเกี่ยวกับสำนวนสุภาษิตพวกนี้อยู่ด้วย รับรองว่าถ้าแข่งกันเื่นี้ข้าไม่มีทางแพ้ใครแน่นอนจึงพยักหน้ารับ “ก็ดี ตกลงตามนี้และเ้าก็ต้องรักษาสัจจะด้วยล่ะ ใครชนะหญ้าิญญาเพลิงนี้ก็จะตกเป็ของคนนั้นเ้าจะเริ่มก่อนหรือข้าเป็คนเริ่มก่อนดีล่ะ?”
ิไซว่หัวเราะอย่างมั่นอกมั่นใจก่อนจะพูดขึ้น “ข้าเป็ถึงทายาทของตระกูลที่ยิ่งใหญ่ให้โอกาสเ้าเริ่มก่อนเลยแล้วกัน”
ข้ากระตุกยิ้มก่อนจะคิดอยู่พักหนึ่งชื่อของพี่เสวียนยินได้มาจากการที่นางเกิดตามคำทำนายของท่านปู้เก้าในเมืองหยินเย่เฉิงถ้าอย่างนั้นข้าจึงเริ่มด้วยความหมายของชื่อนางก่อนก็แล้วกัน
ข้าคิดได้แบบนั้นก็พูดขึ้น “เสียง!”
ิไซว่ “เสียงสงบแม้เร็วปานลม...ลม!”
ข้าพูดโดยไม่ต้องครุ่นคิด “ลมปากพาลพาหาข้อเสีย...เสีย!”
ิไซว่พูดอย่างสบายๆ “เสียกาลไยหากจิตไม่อยากทำก็ว่ายาก...ยาก!”
ข้าหยุดคิดพักหนึ่ง “ยากแต่เดิมยังต้องเสริมเพิ่มความยาก...ยาก!”
ิไซว่ถึงกับชะงักแล้วพูดต่อ“ยากแต่เดิมยังต้องเสริมเพิ่มความยาก...ยาก!” สุดท้ายแล้วพวกเราก็ได้แต่พูดอยู่อย่างนั้น...
“ยากแต่เดิมยังต้องเสริมเพิ่มความยาก...ยาก!”
“ยากแต่เดิมยังต้องเสริมเพิ่มความยาก...ยาก!”
“ยากแต่เดิมยังต้องเสริมเพิ่มความยาก...ยาก!”
“ยากแต่เดิมยังต้องเสริมเพิ่มความยาก...ยาก!”
...
หลังจากนั้นกว่าสิบนาที ลูกสมุนของิไซว่ก็เริ่มอยู่ไม่เป็สุขส่วนข้ากับิไซว่ก็เริ่มหมดความอดทน โดยเฉพาะเขาที่เอ็นคอเริ่มแข็งพร้อมกับแววตาที่ไร้การควบคุมเหมือนจะะเิออกมา
“ยากแต่เดิมยังต้องเสริมเพิ่มความยาก...ยาก!”
“ยากแต่เดิมยังต้องเสริมเพิ่มความยาก...ยาก!”
“ยาก...ยาก...”
ิไซว่เริ่มหายใจติดขัดจนหน้าแดงจึงสบถออกมา “ยากมารดาแกสิ!”
ข้าที่มีความรู้อยู่เต็มอกพูดขึ้นเหมือนตัวหนังสือลอยอยู่กลางอากาศเพราะความจำในเื่นี้ได้ฟื้นคืนกลับมาอีกครั้งหนึ่ง “สิ...สิยากเย็นดังเข็นครกขึ้นภู...ูเายาวสุดตาธาราไหลสุดสาย...สายอธรรมล้วนมีจิตใจสัตว์มักยาก...ง่ายเมื่อฟัง ทำแล้วกลับยุ่งยาก...ยาก!”
ฟู่!!
ิไซว่ถึงกับล้มกลิ้งลงกับพื้นแล้วกระอักเืออกมา
“นายน้อยขอรับ...นายน้อย...” ลูกสมุนทั้งหลายต่างรีบเข้าไปพยุง
ผ่านไปพักหนึ่งิไซว่ก็มีอาการดีขึ้นและลุกยืนพร้อมกับใบหน้าที่บ่งบอกถึงความนับถือจริงๆ สักที“นึกไม่ถึงว่าท่านจอมยุทธ์น้อยจะฉลาดหลักแหลมได้ถึงเพียงนี้ร่ำเรียนมาถึงห้าปีข้ายังต้องมาพ่ายแพ้ให้กับท่าน เชิญขอรับหญ้าิญญาเพลิงต้นนั้นเป็ของท่านแล้ว ถึงแม้จะขัดใจบ้างแต่คนอย่างพวกเราทำอะไรก็ต้องมีสัจจะรีบเอาไปแล้วอย่าให้ข้าเห็นหญ้าิญญาเพลิงนี้อีก!”
ข้าหันตัวกลับแล้วเก็บหญ้าิญญาเพลิงใส่ในตะกร้าก่อนจะพูดขึ้น“ถ้าอย่างนั้นข้าไปแล้วจริงๆ นะ?”
“ไป ไปแล้วไม่ต้องกลับมา!”
ิไซว่ยังนิ่งอยู่ที่เดิมก่อนจะพูดต่อ“พวกเ้าไม่ต้องขวางไม่อย่างนั้นจะต้องกลายเป็ศัตรูกับเขาแน่ ข้ามีสัจจะพอ พูดคำไหนคำนั้น!และไม่มีทางทำอะไรที่ขัดต่อวาจาตัวเองเด็ดขาด เ้าขอทานข้าจะต้องมีเ้าเป็เพื่อนให้ได้! ว่าแต่เ้าชื่ออะไรล่ะ?...เฮ้ย! อย่าไปเร็วแบบนั้นสิมาเป็เพื่อนกันก่อน...”
...
สวบ! สวบ!...
เท้าแตะไปบนใบไม้และใบหญ้าเดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลงตามความต่ำสูงของสิ่งที่เหยียบก่อนจะแล่นไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วดุจสายฟ้าและหายลับไปไกลจากระยะสายตาของพวกิไซว่และคนอื่นๆและยังเป็เส้นทางที่มุ่งเข้าสู่หุบเขาหลิงหยุนชั้นที่เจ็ดด้วย ตอนนี้ข้าจะต้องหาพื้นที่ปลอดภัยสักแห่งเพื่อกินหญ้าิญญาเพลิงต้นนี้ลงไปก่อนเพราะมันสำคัญกับการบำเพ็ญของข้าในครั้งนี้เป็อย่างมากถ้าจะต้องเสียเวลาไปอีกสรรพคุณของมันจะต้องเสื่อมถอยลงไปแน่ๆ
หลังจากเหน็ดเหนื่อยมากว่าหนึ่งชั่วโมงข้าก็เข้ามาถึงหุบเขาหลิงหยุนในชั้นที่เจ็ดสำเร็จซึ่งมีเพียงไม่กี่คนที่สามารถเข้ามาถึงที่นี่ได้หรือบางทีภายในระยะสิบลี้อาจจะไม่มีคนเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นข้าจึงหยุดเพื่อบำเพ็ญอยู่บริเวณนี้ก็ถือว่าปลอดภัยที่สุดแล้ว!
แต่ถึงกระนั้นข้าก็ใช้เวลาตามหาอยู่นานกว่าจะหยุดอยู่บริเวณที่ไร้กลิ่นอายของสัตว์ิญญาและผู้คน
ข้าปลดตะกร้าไม้ไผ่ออกแล้วหยิบหญ้าิญญาเพลิงข้างในออกมาขย้ำจนมีขนาดเหลือเพียงก้อนกลมๆที่ไม่ใหญ่มากก่อนจะยัดเข้าปาก แม้ยังไม่ทันได้เคี้ยวและกลืนลงไปในท้อง หญ้าิญญาเพลิงต้นนั้นก็ละลายกลายเป็พลังแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายอย่างมหาศาลเหมือนตัวข้าจะะเิออกมาให้ได้ทำให้ข้าต้องรีบเข้าฌานและบำเพ็ญทันทีไม่อย่างนั้นจะต้องเอาชีวิตมาทิ้งไว้ตรงนี้แน่!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้