น่าจะเป็ยามดึก ในสวนดอกไม้ภายในบริเวณคฤหาสน์แห่งนี้ เก๋งจีนตรงเรือนริมน้ำตกมีเพียงเสียงน้ำไหล และ แสงจันทร์ส่องสว่างกลางท้องฟ้า นั่น “เฟยเฟย” ทำไมเค้าดูแปลกไป สีเสื้อหม่น ใบหน้าหมองเศร้า เหมือนมีน้ำตาเอ่อตรงดวงตาคู่งาม ในตากลวงว่างเปล่า เหมือนคนใจสลาย ในมือถือสุราดอกมฤตยูดำ (ดอกมฤตยูดำคือดอกไม้ที่ผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่าง ดอกมฤตยูดำที่ปลูกแค่บริเวณคฤหาสน์ตระกูลเ้า และ พลังจักราของคนสกุลเ้า) มีต้นกำเนิดและมีที่เดียวคือสกุลเ้า
คนที่คิดค้นคือ เ้าวั่งซูรุ่นที่1และถูกนำมาหมักเป็เหล้ารสเริด เมาแต่ไม่หนักหัวและสามารถช่วยสร้างความคิดและจินตนาการของผู้ดื่มให้สมจริง ดื่มเพื่อลืมความทุกข์จากโลกแห่งความเป็จริง
ไป่ชิงหลงขดนอนอยู่บนโขดหินหน้าน้ำตก เกล็ดของชิงหลงจากสีขาวสว่างเปลี่ยนเป็สีหม่นเหมือนขี้เถ้าและนอนหมดแรงอยู่ตรงนั้น “นั่นเ้าเป็อะไรเฟยเฟย” เ้าวั่งซูเดินเข้าไปใกล้เพื่อฟังสิ่งที่ฮวาเฟยฟาพึมพำ “ทำไมท่านถึงทิ้งข้าไป ไหนว่าเราจะอยู่และร่วมกันต่อสู้เคียงข้างกันไปตลอด ทำไมทำไม” และเสียงก็เงียบหายไป
“เค้าหมายถึงใคร” เ้าวั่งซูสงสัยในใจ
“เ้าสัญญาแล้วนะว่าจะกลับมา ข้าจะจดจำเ้าไว้ ข้าจะรอเ้าไม่ว่านานแค่ไหน ข้าก็จะอยู่รอเ้า” ฮวาเฟยฟาเพ้อ
“จดจำ” เ้าวั่งซูพูดซ้ำ ในใจก็นึกถึงคำพูดของเฟยฟาที่พูดกับตนที่ห้องอาบน้ำบ้านสกุลเ้า เมื่อสักครู่ “ข้าจำได้ เ้ายังดูไม่เปลี่ยนไปจากเดิม ไม่เลยยังเป็คนเดิมที่ข้ารู้จัก” ภาพในอดีตยามนั้นเริ่มเลือนลางหายไปพร้อมกับภาพฮวาเฟยฟานอนหลับทั้งน้ำตาพร้อมสุราดอกดำมฤตยู
ภาพตัดย้ายเ้าวั่งซูมาตรงกลุ่มบ่าวรับใช้ในบ้านกำลังคุยกับ บ่าวไพร่จากบ้านตระกูลอื่น “ที่นี่ที่ไหนเมือ่ไหร่ น่าจะเป็แถวตลาดสักที่ข้าว่า” เ้าวั่งซูพูดกับตัวเอง
“นี่! พวกเ้าสรุปองค์ชายันั่นยังอยู่ที่ตำหนักสกุลเ้าไม๊ เห็นคนว่าองค์ชายรับไม่ได้ ที่สหายคนสนิทอย่างเ้าวั่งซู ทำการทรยศที่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น และคำสาปแช่งกร่นด่าจากทุกภพที่พรั่งพรูมา องค์ชายเลยตัดมิตรภาพกับสกุลเ้า และหนีกลับสู่์” บ่าวไพร่สกุลโจวเริ่มเล่าก่อน
“ไม่! ข้าได้ยินว่าก็เป็องค์ชายฮวาเฟยฟานั่นแหล่ะ ที่เป็คนมอบมุกั และเพิ่มพลังในการจุดะเิให้เ้าวั่งซู แต่ตัวเองกลับหนีออกมาโดยทิ้งสหายไว้ และรู้สึกละอายเลยหนีหายไป” บ่าวสกุลหงเถียงแทรกขึ้นมา
“พวกเ้า หยุดสามหาวกันทั้งหมด ถ้าข้าได้ยินข่าวลือบ้าบออะไรอย่างนี้มาจากปากพวกเ้าที่เป็สหายกันมานาน อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ” เสียงดังใหญ่กังวาลหนักแน่นจาก พ่อบ้านซานตง ที่เดินมาพร้อมกับกลุ่มคนจากสกุลเ้า
“แหะๆ! ข้าขออภัย ซานตงเ้าก็ตีความหมายพวกข้าผิด ข้าแค่เล่าในสิ่งที่พวกข้าได้ยินมา เอามาแลกเปลี่ยนกัน หาได้มีเจตนาใส่ความ สกุลเ้า และ องค์ชายั” บ่าวไพร่จากสกุลโจวรีบออกแก้ตัว
“ถ้าพวกเ้าไม่อยากให้ข่าวลือ พวกนี้ออกไปในทางเสียหายหรือเข้าใจผิด ก็โปรดเล่าให้พวกข้าฟัง ถ้าต่อไปพวกข้าได้ยินข่าวหรือเสียงซุบซิบนินทาที่ผิดไปจากความจริงที่ท่านเล่า พวกข้าจะเข้าแก้ไขให้เอง” บ่าวไพร่สกุลจูเสริม
“มันเป็เื่ภายในสกุลข้า เป็เื่เ้านาย ข้าไม่มีสิทธิ์เอามาป่าวประกาศให้คนข้างนอกฟัง ถ้าเ้ายังคิดจะคบหากันเป็สหายได้โปรดเข้าใจ และ พูดต่อไปในทางที่มันดี” ซ่านตงกล่าวหนักแน่นตัดจบและพากันเดินไป ทิ้งให้บ่าวไร่คนอื่นๆ ยืนงงๆ และ ต่างพากันซุบซิบนินทาต่อ สักพักก็มีเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นมาจากท้ายตลาด
“โอ๊ย! ปลาเปอ! อาหารทะเลอะไรก็ไม่มี! มาจะหกเจ็ดเดือนแล้ว! พวกเราจะอยู่กันยังไง!” หญิงสูงวัยกะเตงลูกหนึ่งถือตะกร้ามาซื้อกับข้าว แต่ได้กลับไปเพียงผักและเนื้อหมู โวยวายดังขึ้น
“พวกชาวประมง ออกเรือไปหาไม่ได้ เรือต่างๆ ก็โดนพายุ โดนน้ำวนดูด บ้างก็โดนคลื่นซัดหายไป เหล่าสัตว์ทะเลลอยตายเกยตื้น แต่เหนือคุ้งน้ำก็เต็มไปด้วยไอพิษไม่สามารถเอามากินได้ น้ำทะเลก็วิปริตบางวันก็สีดำ บางวันก็สีแดง เหมือนโดนคำสาปอะไรสักอย่าง ทุกอย่างในทะเล และแม่น้ำลำธารผิดเพี้ยน ไม่มีอาหารจากน้ำกินกันมานานแล้ว” พ่อค้าปลาบ่นโวยวายตัดพ้อใส่อารมณ์กลับ
“นั่นมันก็ต้องเพราะไอคนสกุลเ้านั่นหล่ะ ที่มันสร้างความวิปริตผิดเพี้ยนให้กับทุกสิ่ง และมันก็หนีตายไป” ชายวัยกลางคนร่างแคระแกร็นฟันเหยินผมหลุดลุ่ยะโด่าเสริม
“สารเลว! มันทำความลำบากให้คนทั่วไปหมดแบบนี้! และจะมาตายง่ายๆ! อย่าหวังเลยว่ามันจะได้ผุดได้เกิดอีก! ไอ้สกุลชั่วช้า!” หญิงอีกคนยืนแถวนั้นรีบเสริมสาปแช่ง
“แล้วสรุป! ไอ้หนุ่มสกุลเ้านั่นทำยังไงของมัน!? แม่น้ำลำธารหนองบึงทะเลถึงได้เปลี่ยนให้พวกสัตว์ พากันขึ้นมาตาย ทะเลแปรปรวนวิปริตแบบนี้ หรือแรงะเิตอนนั้นมันส่งผล!?” ชายชราดูนิ่งถามแบบเรียบๆ
“ข้าได้ยินว่า สกุลเ้าไม่ได้มีพลังจักราในการควบคุมแม่น้ำหรือสายน้ำใดๆ และ แรงะเิที่จัตุรัสเฟิงสุ่ยนั่น ทำให้แต่ละภพเกิดรอยร้าวและดวงจิตต่างภพลอยผสมผสาน แต่ความวิปริตของธรรมชาติถูกดูดกลับ และรวมศูนย์แค่ที่หมู่บ้านชุนเทียนแห่งนี้ ที่อื่นธรรมชาติล้วนเป็ปกติ ไม่มีอะไรเสียหาย” ชายหนุ่มพกกระบี่คล้ายผู้ฝึกตนกล่าวขึ้น
“ข้าเอง! ข้ารู้! ข้าคือชาวประมงที่เดินทางไปทะเลทางตอนใต้ เมื่อครั้งที่ทะเลเริ่มแปรปรวน มันเริ่มจากทะเลแดนใต้ที่ซึ่งเป็ที่พำนักขององค์ชายแห่งั ฮวาเฟยฟาสหายของเ้าวั่งซู” ชายวัยกลางคนท่าทางแข็งขันเริ่มเล่า
“เื่ราวมันเป็ไง ท่านรีบเล่า” ผู้หญิงท่าทางอยากรู้อยากเห็น พร้อมกับความกระหายของทุกคนที่ยืนตรงนั้นต่างส่งเสียงเรียกร้อง
“ข้าได้ไป ในเมืองแถวทะเลทางใต้ ที่นั่นมีรูปเคารพกราบไหว้เทพเ้าั ซึ่งก็คือพระมารดาขององค์ชายฮวาเฟยฟา เพราะเชื่อว่าท่านทรงประทานพรคุ้มครองให้ทะเลแถบนั้นให้อุดมสมบูรณ์ และคุ้มครองชาวเดินเรือทุกคนมายาวนานมากกว่าพันปี
ส่วนองค์ชายฮวา เ้าชายหนึ่งเดียวแห่งเผ่าัในรอบพันปี ที่มีพระบิดาเป็เทพแห่งแสงอาทิตย์ เป็ผู้มีพร์มากยิ่งกว่า พระองค์สามารถควบคุมและดูความสงบของแม่น้ำลำธารและทะเลทั่วทั้งภพ นำพาความอุดมสมบูรณ์ ความสงบ ความสว่างแก่แหล่งน้ำทุกที่ ดังนั้นสิ่งที่พวกเ้าสงสัยเกี่ยวกับความวิปริตทีเกิดขึ้นของแหล่งน้ำทั่วทุกที่ย่อมเกิดจากองค์ชายฮวาเฟยฟาอย่างแน่นอนไม่ใช่สกุลเ้า” ชาวประมงยืนยันหนักแน่นจากสิ่งที่ตนรู้มา
“ข้าเข้าใจว่าองค์ชายฮวาคือสหายสนิทของเ้าวั่งซูต้นตระกูลเ้า “เ้าวั่งซูรุ่นที่1” และองค์ชายฮวาก็เสด็จมาพำนักอยู่ที่คฤหาสน์จันทร์มืดแห่งสกุลเ้ากับเ้าวั่งซูตลอด แต่หลังจากเหตุการณ์ะเิที่จตุรัสเฟิงสุ่ย และการจากไปของเ้าวั่งซูแห่งสหายสนิท องค์ชายฮวาเฟยฟาก็หายสาบสูญไปจากหมู่บ้านชุนเทียน ทิ้งไว้เพียงฤดูใบไม้ร่วงที่ไม่มีวันหายไป” ชายหนุ่มถือกระบี่ที่ยืนคู่กับคนแรกเอ่ยเสริมเกี่ยวกับสกุลเ้า
“มีเสียงข่าวลือจากเหล่าคนที่ทะเลใต้ว่า องค์ชายทำใจไม่ได้จากการจากไปของเ้าวั่งซูสหายคนสนิทเพียงหนึ่งเดียว และกล่าวถึงตำนาน ที่คนเกาะแดนใต้เชื่อมาแต่โบราณว่า” เทพแห่งัจะไม่มีวันร้องไห้ แต่เมื่อร้องไห้จะร้องไม่หยุด และน้ำตานั้นจะไหลท่วมโลก”
ผู้คนต่างพากันเล่าขานว่า วันที่ฝนและพายุเริ่มกระหน่ำเกาะทางใต้ทะเลเริ่มแปรปรวน ท้องฟ้าแลบ ทะเลมืดดำแดง มีคนเห็นองค์ชายฮวาเฟยฟาที่หัวใจแตกสลายหมดซึ่งพลังจักรา ไม่สามารถคงร่างมนุษย์ และคืนร่างสู่ัฟ้า เหาะเกาะไต่ทะยานขึ้นสู่ฟ้าพร้อมน้ำตาสีแดงอาบแก้มเป็ทางหยดลงมหาสมุทรทางใต้ ทำให้แม่น้ำลำธารทะเลมหาสมุทรทุกที่ล้วนแดงมืดมิดบรรยากาศมืดครึ้ม ลมฝนฟ้าพายุเริ่มคะนองคลื่นลมแรง และ น้ำท่วมเขตการทำเกษตรของผู้คนมากมายแบบไม่มีสาเหตุ พืชผลจมน้ำตาย และน้ำจากแหล่งน้ำล้วนแดงดำเป็พิษใช้ไม่ได้
ตามตำนานสิ่งนี้จะทำให้ภพนั้นๆ ตกอยู่ในกลียุคยาวถึง100ปีถ้าัตัวนั้นสามารถฟื้นกลับ แต่ ถ้าไม่ตื่นจากความทุกข์ระทมนั้นและยิงยาวไป ดวงจิตแห่งัจะดับสูญและความวิปริตแปรปรวนนี้ก็จะคงอยู่ตลอดไป แม่น้ำลำธารหนองบึงทะเลมหาสมุทรจะวิปริต และผู้คนจะไม่สามารถทำการประมงได้เลยตลอดกาล จนกว่าจะมีการถือกำเนิดของเทพัตัวใหม่” ชาวประมงคนนั้นเล่าสิ่งที่ได้รู้ได้เห็นมาจากชาวเกาะทางใต้จนหมด พร้อมกับความอึ้ง และสิ้นหวังของทุกคนบรรยากาศเงียบรอบๆ
“นี่เราต้องตายกันหมดเลยใช่ไม๊! ถ้าน้ำใช้ไม่ได้! และ พืชพันธุ์ไม้เจริญงอกงาม พวกเราๆๆ!” หญิงสาวคนหนึ่งพูดขึ้นพร้อมน้ำเริ่มไหล
“นั่นสิ! เป็อย่างที่แม่นางว่า ท้ายสุดแม้พวกเราจะรอดจากการะเิ และต้องมาอยู่ในหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยความผิดแปลกและดวงิญญาจากภพอื่นที่อยู่รวมกัน พวกเรายังต้องอดตายอีกหรอเนี๊ยะ ไม่นะ! โฮๆ! ฮือๆ!” ชายวัยกลางคนพูดตัดพ้อและน้ำตาไหล และสีหน้าคนเ่าั้เริ่มสิ้นหวัง บ้างก็บ่นเอะอะ ะโด่า บ้างก็ร้องไห้อย่างสิ้นหวัง
“ท้ายสุด ก็เป็เพราะไอ้สกุลเ้านั่นอีก! มันเกิดมาเพื่อล้างผลาญทุกคน! มันจะให้พวกเราไปตายกะมัน!” ชายหนุ่มท่าทางฮึกเหิมแต่โกรธาไม่ระวังอารมณ์ะโขึ้นกร่นด่าตระกูลเ้าและเ้าวั่งซู
เ้าวั่งซูทำหน้าหม่นหมอง “สิ่งที่คุณปู่ทวดทำคืออะไรกันแน่นะ หรือมันจะมีเื้ัทำไมทุกอย่างถึงดูเลวร้ายไปหมด สกุลเ้าต้องโดนผู้คนสาปแช่งไปตลอดกาล เพราะเหตุใดกัน สิ่งที่พวกเค้าเชื่อ คือสิ่งที่ถูกแล้ว หรือว่ามีอะไรอยู่เื้ัเหตุการณ์ะเิครั้งนั้น ข้าจะต้องหาคำตอบให้ได้
แล้วการจากไปของท่านปู่ทวดมันสร้างความะเืใจ และแหลกสลายให้กับเฟยเฟยขนาดนั้น หรือว่าคนที่พระแม่แห่งจิติญญาหมายถึงก็คือ ท่านปู่ทวดของข้า แต่พระแม่บอกว่าจะกลับมาไม่จากกัน อี๋! อย่าบอกว่าิญญาปู่ข้าจะกลับมาอยู่ที่ตำหนักกับพวกเรา บรื๋อ! ข้าไม่เอานะแบบนั้น เอาเถอะไว้ข้าจะต้องถามเฟยเฟยให้รู้เื่สักที เฉไฉไม่ตอบข้าสักที ว่าแต่ว่าข้าไม่เคยคิดว่าองค์ชายัที่ยิ่งใหญ่ สงบ รอบรู้ แข็งแกร่งเยือกเย็น และยิ่งใหญ่ขนาดนั้น จะแตกสลาย และพังทลายได้ขนาดนั้นเพราะการจากไปของท่านปู่ทวดของข้า นี่เค้าสองคนคงเป็สหายที่รักกันมากจนถึงขั้นตายแทนกันได้ มันช่างเป็มิตรภาพที่หาสิ่งใดเทียม
นี่เค้าจะคิดว่าข้าเป็แค่เด็กน้อยคนหนึ่งไม๊ถ้าเทียบกับท่านปู่ทวด นี่ข้าคิดอะไรเอาตัวเองไปเทียบกะท่านปู่ทวดได้ยังไงกัน” วั่งซูพูดและคิดกับตัวเอง “ว่าแต่ว่าสรุปเื่องค์ชายันี่จบยังไง เพราะทุกวันนี้ เฟยเฟยก็ยังมีชีวิตอยู่และกลับมาแข็งแรงปกติหนิ แล้วไอความปริตที่มันเกิดขึ้นนั่นมันอยู่ไปนานเท่าไหร่กันนะ” สิ้นเสียงความคิด ภาพแห่งความทรงจำก็ดูดวั่งซูไปปรากฏที่ดินแดนสุขาวดีภพ์