ถ้าพูดถึงการต่อสู้ระหว่างจูชิงกับหมาป่าวายุคลั่งอย่างบ้าระห่ำครั้งที่แล้ว ครั้งนี้เขาเพียงแค่เย้าหยอกหมาป่าวายุคลั่งเล่นเท่านั้น หมาป่าวายุคลั่งนับร้อยยังมิทันได้แตะชายเสื้อของจูชิก็ถูกฆ่าตายไปเกินกว่าครึ่งแล้ว!
หมาป่าวายุคลั่งที่เหลืออยู่อยากหนี ทว่าจูชิงนั้นเร็วกว่าหลายเท่าตัว เขาสกัดกั้นทางหนี บั่นศีรษะของพวกมันในการเหวี่ยงแขนขวาเพียงครั้งเดียว
ซั่งกวานจือหนิงยืนอยู่ข้างหลัง ในแววตาทอประกายแตกตื่นมากกว่าเดิม จากการต่อสู้ครั้งก่อน ระยะเวลาห่างกันเพียงแค่สองวัน ทว่าพลังของจูชิงในเพลานี้กลับแกร่งกล้ายิ่งกว่าเมื่อตอนนั้นเป็สิบเท่า!
“ตู้ม!” ในระหว่างการต่อสู้ แสงโลหิตทะลักทลายทั่วร่างของจูชิง!
“ขั้นหลอมกายาสี่ชั้นฟ้า!” ซั่งกวานจือหนิงเบิกตาทั้งสองกว้าง
ทะลวงขั้นพลังในขณะที่กำลังต่อสู้อยู่ จูชิงใจกล้าเทียมฟ้ายิ่งนัก!
แม้ว่าการทะลวงขั้นพลังในขั้นหลอมกายาจักมิได้เป็อันตราย แต่หากเกิดเื่ไม่คาดฝันย่อมส่งผลเสียต่อรากฐาน ซึ่งยากจะกำจัดทั้งยังส่งผลกระทบต่อเส้นทางบำเพ็ญเพียรในภายภาคหน้าได้อีกด้วย
ปกติแล้วจอมยุทธ์ส่วนใหญ่จะเลือกทะลวงขั้นพลังในพื้นที่ปลอดภัยหรือให้อาจารย์ช่วยตั้งค่ายกลป้องกันชั้นหนึ่ง เพื่อให้แน่ใจว่าจักไม่เกิดข้อผิดพลาดในการทะลวงขั้นพลัง
ครั้นจูชิงััถึงลมปราณที่ไหลพล่านอยู่ในกายาไม่หยุดยั้ง มุมปากพลันกระตุกยิ้มเล็กน้อยอย่างอดมิได้ การต่อสู้เป็วิธีที่ดีที่สุดในการทะลวงขั้นพลัง!
ก่อนหน้านี้จูชิงยกระดับขั้นพลังเป็ขั้นหลอมกายาสามชั้นฟ้าสูงสุดแล้ว แต่เขายังไม่สามารถข้ามผ่านมันไปได้ จึงตัดสินใจทะลวงขั้นพลังในระหว่างการต่อสู้!
จากขั้นหลอมกายาสามชั้นฟ้าไปสี่ชั้นฟ้านั้นเป็กำแพงสูง ขั้นหลอมกายาหกชั้นฟ้าไปเจ็ดชั้นฟ้าเองก็เป็กำแพงสูงเช่นเดียวกัน มีจอมยุทธ์จำนวนไม่น้อยที่ติดอยู่ในสองขั้นพลังนี้นานหลายปี พลาดโอกาสบนเส้นทางบำเพ็ญเพียรอันควรจะเป็่เวลาที่เหมาะสมที่สุดไป
เวลาไม่คอยท่า เมื่อเดินช้าไปแล้วหนึ่งก้าวก็จะช้าตามหลังต่อไปเรื่อยๆ แม้ว่าการทะลวงขั้นพลังในระหว่างการต่อสู้นั้นจะฟังดูบ้าๆ บอบอ แต่ถ้าทำสำเร็จ สิ่งที่ได้รับนั้นมหาศาลเกินพรรณนา
“อ๊ากกก!” จูชิงคำราม ลมปราณไหลทะลักประหนึ่งมหาสมุทร อักขระาหลัวโหวที่แขนขวาสาดแสงจรัสแจ้ง อักขระาหลัวโหวทั้งสองหลั่งผสานรวมกันกลายเป็กระบี่คมโลหิต!
จากขั้นหลอมกายาสามชั้นฟ้าเป็ขั้นหลอมกายาสี่ชั้นฟ้า ลมปราณภายในร่างกายของจูชิงเพิ่มสูงขึ้นหลายเท่าตัว กอปรกับพลังของสองอักขระาหลัวโหว พิรุณโลหิตโปรยปรายทุกหนแห่งที่กระบี่คมโลหิตข้ามผ่าน หมาป่าวายุคลั่งที่เหลืออยู่ไม่กี่สิบตัวยังมิทันได้ต่อต้านก็ถูกจูชิงฆ่าตายจนหมดเกลี้ยงในพริบตาเดียว
่ขณะที่จูชิงทะลวงขั้นพลังเป็ขั้นหลอมกายาสี่ชั้นฟ้า เขาััได้ว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยกับอักขระาหลัวโหว ลมปราณอันบ้าคลั่งหลอมผสานรวมเข้าไปในสองอักขระาหลัวโหว
โชคดีที่จูชิงมีหินโลหิตคอยช่วยเหลือ ลมปราณหมุนเวียนอยู่ภายในร่างกายไม่ขาดสาย มิเช่นนั้นคงแย่หากลมปราณแห้งเหือดระหว่างที่ต่อสู้กับหมาป่าวายุคลั่ง
“หรือว่าพลังของอักขระาหลัวโหวจักเพิ่มขึ้นตามขั้นพลังของข้า?” จู่ๆ จูชิงก็คิดขึ้นในใจ
ตอนที่เขาอยู่ในขั้นหลอมกายาสามชั้นฟ้า มิว่าจักใช้ลมปราณผสานลงไปในอักขระาหลัวโหวมากเท่าไหร่ เมื่อถึงจุดหนึ่งพลังของอักขระาหลัวโหวก็จะหยุดอยู่ที่เดิมไม่เพิ่มขึ้น
แต่ตอนนี้เขาที่สำเร็จเป็ขั้นหลอมกายาสี่ชั้นฟ้า พลังของสองอักขระาหลัวโหวกลับเพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิมที่เคยเป็!
“อักขระาหลัวโหวเองก็มีระดับพลังอย่างนั้นหรือ?” จูชิงผุดความคิดประหลาดในหัว
“มันคือวรยุทธ์หรือวิชาลับ? เหตุใดจึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้?” ซั่งกวานจือหนิงอุทาน
ซั่งกวานจือหนิงเป็อัจฉริยะที่มีความสามารถโดดเด่น แต่นางเองก็อดยอมรับมิได้ว่าตอนที่อยู่ในขั้นหลอมกายานั้น นางมิได้พลังที่แกร่งกล้าเหนือฟ้าเฉกเช่นนี้!
นางไม่เคยเห็นวรยุทธ์ที่จูชิงสำแดงมาก่อน ซั่งกวานจือหนิงเดาว่ามันไม่น่าจะใช่วรยุทธ์ หากแต่เป็วิชาลับแขนงหนึ่ง!
ทุกสำนักที่มีศาสตร์วิชาลับล้วนเป็ผู้ยิ่งใหญ่ด้วยกันทั้งนั้น ขุนเขากระบี่เทียนหยวนเองก็มีวิชาลับเช่นเดียวกัน ทว่ามันเป็วิชาที่มิอาจแพร่งพราย ขนาดสถานะของซั่งกวานจือหนิงยังมีคุณสมบัติไม่เพียงพอที่จะได้รับการถ่ายทอดวิชาลับ
“เฮ้อ!” จูชิงถอนหายใจยาว พลังของสองอักขระาหลัวโหวสลายหาย กระบี่คมโลหิตก็หายไปด้วยเช่นกัน
“เมื่อครู่เ้าใช้วรยุทธ์อะไร ดูแล้วเก่งกาจไม่เบา” ซั่งกวานจือหนิงเอ่ยถาม
“ข้าเองก็ไม่รู้!” จูชิงหัวเราะ มิได้ตอบคำถามซั่งกวานจือหนิง
ณ อีกด้านหนึ่ง ท่ามกลางอาณาเขตของหมาป่าวายุคลั่ง ชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลาผู้หนึ่งคุกเข่าลงบนพื้น กายาอาบชโลมโชกไปด้วยเื หมาป่าวายุคลั่งตัวใหญ่ั์ถูกกระบี่ยาวสีทองเสียบทะลวงกะโหลก ตรึงร่างเอาไว้บนแผ่นหินมรกต
ราชันหมาป่าวายุคลั่ง จ่าฝูงของหมาป่าวายุคลั่งพันหมื่นตัวตายแล้ว อีกทั้งยังถูกฆ่าด้วยชายหนุ่มเพียงคนเดียว!
ซากศพหมาป่าวายุคลั่งเกลื่อนกลาดทุกหนแห่ง ชายหนุ่มผู้นี้บุกรังหมาป่าวายุคลั่งเพียงลำพัง ฆ่าหมาป่าวายุคลั่งนับพัน บั่นศีรษะราชันหมาป่าวายุคลั่งด้วยตนเอง!
“ราชันหมาป่าวายุคลั่ง เน่ยตันในตัวเ้าน่าจักพอเป็ประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย” รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของชายหนุ่ม เขาใช้กระบี่ยาวสีทองเลาะกะโหลกราชันหมาป่าวายุคลั่ง หยิบเม็ดเน่ยตันมรกตขนาดเท่าหนึ่งกำปั้นออกมา
เน่ยตันิญญาอสูรเป็ปฐมมูลแห่งชีวิต ภายในอุดมไปด้วยพลังของสัตว์อสูร สำหรับจอมยุทธ์แล้ว มันคือของขวัญล้ำค่ายิ่งกว่าสิ่งใด
เน่ยตันิญญาอสูรพบเจอได้อยากยิ่ง ปกติแล้วเมื่อสัตว์อสูรถูกสังหาร เน่ยตันที่อยู่ในร่างกายจะะเิ หากมิได้มีพลังมหาศาลมากพอ โอกาสที่จะได้เน่ยตันิญญาอสูรนั้นต่ำมาก
ฉะนั้นอย่าได้เอ่ยถึงเน่ยตันิญญาอสูรของอสูรดึกดำบรรพ์เลย สามารถสังหารราชันหมาป่าวายุคลั่งทั้งยังได้เน่ยตันของมัน ชายหนุ่มรู้สึกว่าตัวเองช่างโชคดีเสียเหลือเกิน
เดิมทีเขาล่าสังหารอสูรดึกดำบรรพ์ก็เพราะเน่ยตัน ทว่าเพราะขั้นบำเพ็ญเพียรที่ถูกยับยั้งอยู่ในขั้นเคลื่อนย้ายลมปราณ แค่ราชันหมาป่าวายุคลั่งขั้นเคลื่อนย้ายลมปราณก็เต็มกลืนแล้ว
แต่ถ้ามีเน่ยตันของราชันหมาป่าวายุคลั่ง เขาก็เข้าใกล้ความสำเร็จขึ้นอีกก้าวแล้ว!
“หืม? ดูเหมือนมีใครกำลังมา” ชายหนุ่มยิ้มออกมายามััได้ถึงคลื่นพลัง
ในบรรดาสองคลื่นพลังที่เคลื่อนเข้ามาใกล้ มีคลื่นพลังหนึ่งที่เขาคุ้นเคยอย่างยวดยิ่ง เขาเองก็คิดไม่ถึงว่าจักบังเอิญได้พบนางบนเกาะหลัวโหว ส่วนอีกคลื่นพลังหนึ่ง เขาไม่คุ้นเคยเลย ทว่าเป็แค่ขั้นหลอมกายาสี่ชั้นฟ้า สำหรับเขามิต่างอันใดกับมดปลวก หาได้อยู่ในสายตาของเขาไม่
“ศิษย์น้องเล็ก สบายดีหรือไม่” จูชิงที่เพิ่งพุ่งทะยานเข้ามาเห็นเพียงแสงสีขาวพุ่งเข้ามาในคลองจักษุ จากนั้นก็ถูกพลังมหาศาลอัดกระแทกลงกลางอก ตัวกระเด็นลอยลิ่วไปไกล
“ศิษย์พี่จินขวาง!” ซั่งกวานจือหนิงยามเห็นเ้าของเสียงก็ดีใจมากราวกับเห็นเ้าชายขี่ม้าขาว
ครั้นจินขวางเห็นหนวดปลาัทองรัดข้อมือซั่งกวานจือหนิงอยู่ จินขวางก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ดูเหมือนข้าจะมาถูกเวลาพอดี ไม่เช่นนั้นแล้วศิษย์น้องคงลำบากแย่”
จินขวางมาถึงก็เตะจูชิงจนกระเด็น ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนจูชิงยังตั้งตัวไม่ทัน ถ้ามิใช่เพราะจูชิงเปิดเกราะลมปราณคุ้มกันทันตามสัญชาตญาณ ต่อต้านพลังของจินขวางเอาไว้ครึ่งหนึ่ง กระดูกคงแตกไม่เป็ชิ้นดี!
สภาพของจูชิงไม่สู้ดีเท่าไหร่นัก ความเ็ปแผ่ซ่านทั่วสรรพางค์กาย ปอดร้อนผ่าวทุกครั้งที่หายใจ เป็ไปได้ว่าน่าจักมีเศษกระดูกบางส่วนทิ่มลงไปในปอด ถ้าไม่รีบรักษาจะต้องตายอยู่ที่นี่เป็แน่แท้
“อยู่แค่ขั้นหลอมกายา แต่กลับต่อต้านพลังของข้าได้โดยไม่ตายในครั้งเดียวงั้นรึ?” จินขวางมองจูชิงดิ้นทุรนทุรายอยู่กับพื้นด้วยความประหลาดใจ!
เขาตระหนักรู้ในพลังของตัวเองดี เมื่อครู่จินขวางใช้พลังเจ็ดส่วนจากทั้งหมดสิบส่วน ถึงเป็จอมยุทธ์ขั้นเคลื่อนย้ายลมปราณ กายาก็น่าจักแหลกสลายไปแล้ว
“น่าสนใจดีนี่ ทว่าเ้ารังแกศิษย์น้องข้า โทษตายสถานเดียว!” จินขวางแสยะยิ้ม กระบี่ยาวสีทองในมือสั่นสะท้าน แสงสีทองลำแสงหนึ่งพุ่งปราดเข้าใส่จูชิง
“ศิษย์พี่จินขวาง ช้าก่อน!” ซั่งกวานจือหนิงะโห้าม ทว่าไม่ทันเสียแล้ว
จูชิงไม่คิดเช่นกันว่าจินขวางจักลงมือเหี้ยมอำมหิตเฉกเช่นนี้ เขาััได้ถึงกลิ่นอายแห่งความตายจากแสงกระบี่ทองคำ เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายมีเจตนา้าฆ่าเขา
“วิ้ง!” ทันใดนั้นเอง หน้าอกของจูชิงมีประกายแสงสีทองสว่างวาบ ไข่ทองคำลอยขึ้นมากลางอากาศรับแสงกระบี่ของจินขวางเอาไว้!
“ตู้มม!” มิว่าจูชิงหรือจินขวางต่างคิดไม่ถึงว่าการโจมตีของจินขวางจักถูกไข่ทองคำทำลาย!
ซั่งกวานจือหนิงหายตัวในพริบตา พุ่งมาโผล่ตรงหน้าจูชิง “ศิษย์พี่จินขวาง ทำเกินไปหน่อยกระมัง!”
จินขวางหน้าเย็นยะเยียบ “ศิษย์น้องเล็ก มันลักพาตัวเ้า สมควรตายแล้ว เหตุใดเ้าถึงยังยังปกป้องมัน?”
ซั่งกวานจือหนิงขมวดคิ้ว “เขาเป็สหายของข้า อีกอย่างเื่ระหว่างข้ากับเขาจักเป็อย่างไร ศิษย์พี่ก็ไม่มีสิทธิ์มายุ่ง”
ความจริงแล้วซั่งกวานจือหนิงอยากให้จินขวางสั่งสอนจูชิง ให้ไอ้หัวขโมยได้รู้สำนักเสียบ้าง แต่คิดไม่ถึงว่าจินขวางจักโเี้ปานนี้ ถึงขนาดคิดที่จักฆ่าจูชิง
แม้ว่าซั่งกวานจือหนิงจะเกลียดชังจูชิง แต่พอจะฆ่าจูชิงจริงๆ นางกลับทำไม่ลง บางทีอาจเป็เพราะก่อนหน้านี้จูชิงช่วยชีวิตนางเอาไว้หลายครั้ง และจากที่อยู่ด้วยกันมาสองวัน นางจึงเข้าใจว่าแท้จริงแล้วจูชิงก็ไม่ใช่คนเลวร้าย ความรู้สึกตอนนี้มันสับสนปนเปกันไปหมด กระทั่งซั่งกวานจือหนิงเองก็ไม่อาจเข้าใจ
“สหาย? มันน่ะหรือ?” จินขวางไม่สบอารมณ์
ซั่งกวานจือหนิงเป็ผู้มีสถานะพิเศษยวดยิ่งในขุนเขากระบี่เทียนหยวน ผู้ที่มีคุณสมบัติเป็สหายของนางได้นั้นมีเพียงอัจฉริยะ อย่างเช่นตนเป็ต้น แล้วขั้นหลอมกายาสี่ชั้นฟ้าที่เป็แค่มดปลวกชั้นต่ำจักมาเป็มิตรสหายกับซั่งกวานจือหนิงได้อย่างไร
“ถ้าเป็สหายของศิษย์น้องเล็ก ข้าจะปล่อยไปก่อนก็แล้วกัน” จินขวางเหลือบมองจูชิงที่นอนหมดสภาพไม่ต่างอะไรกับสุนัขพลางเหยียดยิ้ม เขาเองก็ไม่อยากให้มือตัวเองต้องแปดเปื้อนเพราะขยะเพียงคนเดียว
ซั่งกวานจือหนิงรีบหันไปพยุงจูชิง “เ้าไม่เป็อะไรใช่หรือไม่?”
“ยังไม่ตาย!” จูชิงเม้มปาก ถ้ามิใช่เพราะไข่ทองคำ หัวกับตัวคงกระจัดกระจายอยู่คนละทิศละทางไปแล้ว
จินขวางรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่เศษสวะมีของล้ำค่าที่สามารถป้องกันการโจมตีของตัวเองได้ แต่ไม่นานนักก็ไม่ประหลาดใจเท่าใด อย่างไรเสียผู้ที่เข้ามาในเกาะหลัวโหว ถึงจักเป็พวกอ่อนหัด หากบ้างย่อมมีของล้ำค่าที่ใช้รักษาชีวิต ศิษย์ระดับล่างส่วนใหญ่ยอมเสี่ยงชีวิตเป็เดิมพัน หวังว่าจักได้พบปาฏิหาริย์บนเกาะหลัวโหว ก้าวเดินบนเส้นทางบำเพ็ญเพียร
“น่าสมเพช!” จินขวางแสยะยิ้ม อย่างไรเสียขยะอย่างจูชิงก็ต่างชั้นกับเขาอย่างสิ้นเชิง!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้