ภายในบ้าน เสียงร้องไห้ของคนสกุลจ้าวทำให้ลั่วชีเหนียงรำคาญใจและยืนถือกระบองไม้อยู่ตรงหน้าประตู
“หลี่ชุนฮัว เ้าแต่งชุดไว้ทุกข์มายืนหน้าบ้านสกุลลั่ว หมายความเช่นใดกัน?”
เมื่อเห็นคนออกมาจากด้านใน หลี่ชุนฮัวก็รีบหันร่างพุ่งเข้าไปด้านใน
“ลูกชายคนโตข้าตายอยู่บ้านพวกเ้า ยังไม่อนุญาตให้เรามาร่ำไห้อำลาหรือ? ตกลงพวกเ้าทำอะไรลูกชายคนโตข้า อยู่ดีๆ ถึงได้กระอักเืจากไป!”
หลี่ชุนฮัวพูดจบ ใบหน้าของจ้าวเหลยก็มีความโศกเศร้า “แม้ว่าเ้าทึ่มของเราจะสติไม่ดี แต่ถึงอย่างไรก็เป็ผู้ช่วยมือดีทั้งงานในบ้านและนอกบ้าน ตอนนี้เขาจากไปเช่นนี้ พวกเ้าต้องชดใช้!”
สองสามีภรรยาสกุลจ้าวไม่ยินยอม เน้นย้ำแต่ว่าจ้าวจือชิงตายแล้วและจะให้สกุลลั่วจ่ายค่าชดใช้
ชีเหนียงทั้งโมโหทั้งรู้สึกขำกับความจอมปลอมของครอบครัวนี้
“พวกเ้าเคยเห็นจ้าวจือชิงคือคนหรือ? เคลิบเคลิ้มกับผลประโยชน์ที่เขานำมาให้ ขับไล่ไปอยู่บนเขา! หากไม่ใช่เพราะเขาร่างกายแข็งแรงและหาของกินเองเป็ ถ้าต้องรออาหารจากสกุลจ้าวของพวกเ้า คงอดตายไปนานแล้ว!” กระบองในมือของชีเหนียงโบกสะบัดไปมา ทำเอาสองสามีภรรยาสกุลจ้าวที่กำลังร่ำไห้ใจนต้องรีบถอยหนี
“ตอนนี้คนของราชสำนักยังไม่ไป พวกเ้ากลับเผยธาตุแท้แช่งให้จ้าวจือชิงตาย หรือเพราะคิดว่าขอเพียงเขาตายไป เื่ราวที่พวกเ้าทำไม่ดีกับเขาและวางยาพิษจะไม่มีผู้ใดรับรู้!”
เมื่อคำว่าวางยาพิษหลุดออกมา หลี่ชุนฮัวตัวแเข็งขึ้นทันที กระทั่งจ้าวจือจุ่นที่อยู่ด้านหลังก็สีหน้าย่ำแย่ไปมาก กลับมีเพียงจ้าวเหลยที่ทำสีหน้าสับสนมึนงง
หน็อยแน่ ที่แท้คิดว่าจ้าวจือจุ่นไม่รู้ความ จากที่ดูตอนนี้คนที่ไม่รู้ความกลับเป็จ้าวเหลย จ้าวจือจุ่นกลับเป็คนสำคัญในการวางยาพิษแทน
หากนี่คือลูกของตน ชีเหนียงคงหักขาเ้าเด็กเลวนี่ด้วยตนเอง คนที่ลงมือกับพี่น้องได้ลงคอ ไม่สมควรเป็มนุษย์!
หลี่ชุนฮัวตรึกตรองอย่างละเอียดและคิดไม่ออกว่าตัวเองทำผิดพลาดขั้นตอนไหน ลั่วชีเหนียงต้องอยากขุดหลุมพรางนางแน่ เมื่อคิดได้ชัดเจน หลี่ชุนฮัวก็เดินยืดอกตัวตรงเดินไปข้างหน้าสองก้าว “ลั่วชีเหนียง เ้าสกปรกโสมม ตอนนั้นจี้ฉงเหวินทอดทิ้งเ้า คงเพราะเ้ามีปากสกปรกเที่ยวพูดเื่ไร้สาระ เ้าบอกเองว่าการที่จ้าวจือชิงมีชีวิตอยู่มีผลประโยชน์กับสกุลจ้าวอย่างมากที่สุด ทุกคนก็มีความเป็ไปได้ที่จะสังหารเขา แล้วจะเป็ครอบครัวเราที่ไม่อยากให้เขามีชีวิตอยู่อย่างดีที่สุดได้เยี่ยงไร”
หลี่ชุนฮัวที่นานทีปีหนจะฉลาดสักครั้งเอามือเท้าสะเอวและเดินขึ้นหน้าอีก “ตอนนี้เ้าไม่ให้เราเข้าบ้าน หรือสิ่งที่ชาวบ้านอันชิ่งพูดจะเป็เื่จริง คิดถึงผู้ชายจนคลุ้มคลั่งและอยากได้จ้าวจือชิงของเราแทน?”
“ทว่าข้าขอบอกเ้านะ ชั่วชีวิตนี้ใครจะแต่งกับเ้าก็ได้ แต่จ้าวจือชิงของเราไม่ได้!” หลี่ชุนฮัวมองดูลั่วชีเหนียงที่ใบหน้าซีดขาวกว่าเดิม ก็ยิ่งสาแก่ใจ “ตอนนั้นจี้ฉงเหวินเพิ่งจากไป เ้าก็ให้กำเนิดลูกชายคนเล็ก ลูกชายคนเล็กเ้าหน้าตาไม่เหมือนจี้ฉงเหวิน อย่าว่าแต่คนเล็กเลย กระทั่งคนรองของบ้านเ้าก็ไม่เหมือนจี้ฉงเหวินแม้แต่น้อย ไม่แน่ว่าจี้ฉงเหวินไม่้าเ้า ก็เพราะทนความสำส่อนไปทั่วของเ้าไม่ไหว!”
ลั่วชีเหนียงฟังคำพูดไร้สาระจากปากของหลี่ชุนฮัวก็อึดอัดไปทั้งร่าง นางอยากโต้ตอบ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าสมองพร่ามัวและโลกหมุน คำพูดนับพันในใจที่อยากโต้ตอบกลับพูดไม่ออก กลายเป็อัดอั้นอยู่ในใจ
สมควรตาย! ร่างเดิมดันออกมาสร้างความวุ่นวายตอนนี้
พี่หลิวได้ยินเสียงดังด้านนอก แล้วเห็นชีเหนียงกุมหน้าอก หญิงที่สวมชุดไว้ทุกข์อัปมงคลตรงข้ามกำลังตัวสั่นราวกับไก่จิก
เมื่อเห็นชีเหนียงถูกรังแก พี่หลิวก็เดินขึ้นหน้าอย่างองอาจ จากนั้นคว้าไม้กวาดมาฟาดฟันกับนาง กระทั่งจ้าวเหลยกับจ้าวจือจุ่นก็ตกกระไดพลอยโจนไปด้วย
......
เหล่าลูกชายสกุลลั่วได้ยินเสียงทะเลาะกันด้านนอกก็รีบมาดู จากนั้นรีบจับทั้งสองที่กำลังเกี่ยวรัดกันแยกออก
“ท่านแม่ นี่ท่านเป็อะไรไป?”
ไหลไหลน้อยวิ่งไปข้างชีเหนียง เพิ่งถามจบ ลั่วชีเหนียงก็หมดสติลงกองกับพื้น นี่เหมือนกับแหย่รังผึ้งสกุลลั่ว ลั่วจิ่งซีง้างหมัดขึ้นจะสั่งสอนคนสกุลจ้าวอย่างอุกอาจ ส่วนลั่วจิ่งเฉินสีหน้าย่ำแย่สุดขีด
“เพราะเหตุใด พวกเ้าบุกมาหาเื่ถึงที่ พวกเ้าย่อมรู้ดีแก่ใจ วันนี้หากท่านแม่ข้าไม่เป็ไรก็แล้วไป แต่หากมีสิ่งใดเกิดขึ้นกับท่านแม่ข้าแม้แต่น้อย วันนี้คนสกุลจ้าวอย่าได้หวังว่าจะเดินออกจากหมู่บ้านอันชิ่งง่ายดาย!”
ทันทีที่สิ้นเสียงของลั่วจิ่งเฉิน ทำให้ลั่วจิ่งซีมีความมั่นใจอย่างน่าประหลาด ความรู้สึกนี้ไม่มีมานานมากแล้ว
ตอนเยาว์ พี่ใหญ่คอยชี้แนะวางแผนอยู่ด้านหลัง ส่วนเขาก็บุกอยู่แนวหน้า สองพี่น้องร่วมมือกัน ในหมู่บ้าน นับว่าไร้คู่ต่อสู้ ความรู้สึกนั้นตอนนี้กลับมาอีกแล้ว
“รบกวนท่านป้าหลิวช่วยพยุงท่านแม่ข้ากลับห้องที”
ไม่ต้องให้ลั่วจิ่งเฉินพูด พี่หลิวก็พยุงชีเหนียงกลับห้อง ดีที่หมอหลิวยังอยู่บ้าน จึงทำการตรวจชีพจรให้ชีเหนียงทันที
“น่าแปลก! น่าแปลกนัก ชีพจรของชีเหนียงปกติดี แต่เหมือนมีสภาวะิญญาหลุดออกจากร่าง นี่น่าแปลกยิ่งนัก”
หมอหลิวเองก็บอกไม่ถูกว่าตกลงนางเป็อะไรไป แต่ตอนนี้ยังไม่เหมาะจะรบกวนหลิงชางไห่ ดังนั้นจึงได้แต่ต้มยากล่อมประสาทให้ชีเหนียงก่อน
......
ในลานบ้าน จ้าวจือจุ่นมองดูลั่วจิ่งเฉินที่แม้จะพิการขาหนึ่งข้าง แต่กลับยืนแย่งความสนใจอยู่ตรงนั้น ในใจก็เกิดความริษยา
ลั่วจิ่งเฉินไม่รู้จักจ้าวจือจุ่น แต่จ้าวจือจุ่นกลับรู้จักเขา ซิ่วฉายในวัยเพียงสิบหนาวในตอนนั้น ได้รับการชมเชยจากอาจารย์ไม่ขาดปาก กระทั่งนำเขาเป็ตัวอย่างในครึ่งปีก่อน หลังจากรู้ว่าลั่วจิ่งเฉินพิการขา เขาก็ไม่พอใจอย่างยิ่ง!
โดยเฉพาะการที่ลั่วจิ่งเฉินคือ ลูกชายของจี้ฉงเหวิน เกิดเื่กับเขาก็ยิ่งทำให้ตนดีใจ เพียงแต่น่าเสียดายที่ความดีใจนี้กลับต้องสิ้นสุดในวันนี้!
“อาซี ไปแจ้งความ บอกว่ามีคนจงใจบุกมาสร้างความวุ่นวายและทำร้ายร่างกาย!”
สิ้นเสียงของลั่วจิ่งเฉิน จ้าวจือจุ่นก็รู้ว่าจะมีเื่ร้าย ความฉลาดของลั่วจิ่งเฉิน เขาไม่เคยได้ััมาก่อน แต่ทุกครั้งที่อาจารย์เอ่ยถึงก็ชมเชยจนเขาไม่อาจไม่ระแวง
“เข้าใจผิด ทุกอย่างเป็เื่เข้าใจผิด! วันนี้ท่านแม่เ้าหมดสติไม่เกี่ยวข้องกับเรา เราแค่ห่วงพี่ใหญ่จึงรีบร้อนเข้ามา น้องลั่วอย่าได้ทำให้เป็เื่ใหญ่ดีกว่า” จ้าวจือจุ่นส่งสายตาให้จ้าวเหลย อีกฝ่ายก็รีบปิดประตู
“นอกจากนี้ผู้ใหญ่ทั้งหลาย่นี้ก็มีธุระติดพัน เื่เล็กแค่นี้เราจัดการกันเองดีกว่า เอาเช่นนี้ เราถอยกันคนละก้าว ส่วนเื่ค่ารักษาของท่านแม่เ้า เราสกุลจ้าวจะเป็คนออก เป็อย่างไร?”
“เดิมทีพวกเ้าก็ควรออกอยู่แล้ว เหตุใดจึงทำเหมือนกับว่าพวกเ้าเมตตาอย่างนั้น!” ไม่รู้เหตุใด ลั่วจิ่งซีเห็นท่าทางของจ้าวจือจุ่นแล้วหมั่นไส้ยิ่งนัก
ชัดเจนว่ามีแต่ความริษยา แต่ปากกลับพูดวาจาแฝงรอยยิ้ม กุเื่ไร้สาระ คนพันธุ์นี้ยังกล้าบอกว่าตนเองคือผู้มีการศึกษา
“พูดได้ดี!”
ด้านนอกประตู เฉียนจี้หวั่งพาคนผลักประตูออก เดิมทีเขาไม่มีความรู้สึกใดกับคนสกุลจ้าว ใครจะรู้ว่าพอรับรู้เื่ราวมากขึ้นก็ยิ่งชิงชังคนสกุลจ้าวอย่างถึงขีดสุด ดังนั้นจึงจัดคนสกุลจ้าวไว้ในกลุ่มคนที่ไม่อาจสั่งสอนและเชื่อไม่ได้
“ั้แ่ต้นจนจบของเื่นี้อยู่ในสายตาข้ามาตลอด ท่าทีอันชั่วร้ายั้แ่เริ่มจนจบของพวกเ้า ทั้งที่รู้ว่าลูกชายคนโตในบ้านรักษาตัวอยู่ที่บ้านสกุลลั่ว ้าสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ แต่กลับร่ำไห้โวยวายั้แ่แรก ไม่เพียงเท่านั้น ยังด่ากราดผู้มีพระคุณ จนทำให้คนเขาหมดสติ การจ่ายเงินชดเชยคือเื่สมควร ตอนนี้กลับทำท่ามีเมตตา คนสกุลจ้าวอย่างพวกเ้าช่างมีความสามารถนัก!”
-----