หลังจากที่ร่างเงาภาพติดตาของหลงอวี้หายไป เส้นทางปรภพสายหนึ่งถูกจำลองขึ้นจากทางด้านหลังของเซี่ยโฮ่วเทียนเจี๋ย
ภายในนั้นได้มีปราณปรภพแฝงเข้มข้นด้วย เพียงพริบตาเดียวมันก็ทำให้เขาหมดสติจนนิ่งค้างอยู่กับที่ทันที!
“คลื่นะเิปรภพ!”
หลงอวี้ะโอย่างเกรี้ยวกราด หนึ่งหมัดชกลงพื้นดินที่พ่นเปลวเพลิงทันที!
ที่แท้ ตอนที่เขาแยกออกมาจากหอกัปรภพเมื่อครู่นี้ เขาได้สร้างร่างเงาภาพลวงตาสายหนึ่งเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้คนไว้ ส่วนตัวจริงนั้นได้ใช้วิชาิญญาเคลื่อนที่บรรลุถึงขั้นสูงแล้ว เปลี่ยนร่างตัวเองให้กลายเป็ิญญาไปชั่วขณะ!
ตอนที่หลงอวี้ขี่ม้าเดินทางมายังูเาตระกูลหลิงนั้น เขาได้ฝึกวิชาิญญาเคลื่อนจนบรรลุถึงขั้นสูง ทำให้ร่างกายกลายเป็ปราณิญญาได้
ปราณิญญานั้นไร้รูปไร้สี เมื่อเป็เช่นนี้แล้วก็จะไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้ตัวเขาอยู่ที่ใด
แม้จะเป็แค่เสี้ยวพริบตาเดียวเท่านั้น แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ มันกำหนดผลแพ้ชนะได้เลย
เขาที่เปลี่ยนร่างเป็ปราณิญญาได้เคลื่อนตัวไปยังด้านหลังของเซี่ยโฮ่วเทียนเจี๋ย จากนั้นก็คืนร่างกลับมาใช้วิชาหมัดัปรภพ!
เซี่ยโฮ่วเทียนเจี๋ยที่ถูกร่างเงาภาพลวงตาดึงดูดความสนใจนั้นไร้ซึ่งการป้องกันตัวอย่างสิ้นเชิง ถูกคลื่นะเิปรภพที่พวยพุ่งจากด้านล่างซัดโถมเข้าใส่เต็มๆ จากนั้นก็ได้ถูกปราณปรภพแทรกซึมรุกรานไปทั่วทั้งตัว!
“เซี่ยโฮ่ว!”
ยอดฝีมือระดับิญญาแท้ขั้นสอง หั่วฝู่ ที่ชมการต่อสู้อยู่ข้างๆ ตลอดเวลานั้นพลันกำหมัดแน่น ในดวงตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความดุร้ายป่าเถื่อน
พอเห็นท่าไม่ดีเมื่อครู่นี้ก็คิดจะลงมือ แต่กลับมีมหาพลังสยบฟ้าสายหนึ่งถูกปล่อยมาจากทางด้านข้างจนปกคลุมเขาไว้ภายใน เพียงเขาขยับตัว การลอบโจมตีที่ดุดันรุนแรงจะโจมตีเข้ามาทันที
ไป๋หัง!
ไป๋หังคอยเฝ้าอยู่ข้างๆ มาโดยตลอด และเพราะเหตุนี้เองทำให้หั่วฝู่สั่งให้เซี่ยโฮ่วเทียนเจี๋ยลงมาจัดการกับหลงอวี้
ใครจะไปคิดว่า เซี่ยโฮ่วเทียนเจี๋ยจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้ที่มีวิถียุทธ์เพียงขั้นเก้าคนหนึ่ง!
เมื่อถูกคลื่นะเิปรภพถาโถมใส่จนกลืนร่างเข้าไปแล้ว เซี่ยโฮ่วเทียนเจี๋ยที่ตอบโต้ไม่ทันได้ถูกปราณปรภพอันมหาศาลที่แทรกซึมเข้ามาในทั่วทั้งร่างกายกัดกร่อนจนทั้งชีพจรและตันเถียนเละไปอย่างสมบูรณ์
หลังจากที่ปราณปรภพสลายไปแล้ว เปลวเพลิงที่พวยพุ่งขึ้นมาจากบนพื้นดินก็ได้สลายหายไปด้วยเช่นกัน สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าของผู้คนทั้งหมดนั้น มีแค่ซากศพอันเหี่ยวแห้งของเซี่ยโฮ่วเทียนเจี๋ยที่เคยหล่อเหลาเท่านั้น
ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้หั่วฝู่เบิกตาโตจนเืขึ้นตาทันที!
“ไอ้เวรนี่ เ้าฆ่าคนของตำหนักซ่อนอัคคีเช่นนี้ หรือว่าเ้าจะเบื่อชีวิตแล้ว!”
หั่วฝู่ส่งเสียงพูดขึ้นอย่างดุร้ายน่าสะพรึง!
หลงอวี้กลับลงมายืนอยู่บนพื้นได้ก็คว้าหอกัปรภพ ยืนนิ่งสงบนิ่ง
“โลกนี้เป็โลกที่ผู้แข็งแกร่งอยู่เหนือกว่าอยู่แล้วนี่ หรือมีแค่พวกเ้าที่ได้รับอนุญาตให้ฆ่าคน แต่คนอื่นไม่สามารถฆ่าเ้าได้?”
“ใช่แล้ว!”
หลู่กวนิก็ได้แผดเสียงหัวเราะข้างๆ
“หากไม่ใช่เพราะสหายหลงแข็งแกร่งแล้ว อย่างนั้นผู้ที่ตายต้องเป็พวกเราแทน! พวกเรากับตำหนักซ่อนอัคคีไม่เคยมีความแค้นอะไรต่อกัน พวกเ้าต่างหากที่เข้ามาหาเื่พวกเราก่อน!”
หั่วฝู่ในตอนนี้เริ่มรู้สึกเสียใจ
พอเห็นซากศพของเซี่ยโฮ่วเทียนเจี๋ยแล้วเขาก็กระแทกเสียงเ็า ไม่คิดว่าหลงอวี้มันจะแข็งแกร่งมากขนาดนี้ พลังแค่ระดับวิถียุทธ์ขั้นเก้าแต่ถึงกับสามารถสังหารยอดฝีมือระดับิญญาแท้ขั้นหนึ่งได้
“หากครั้งหน้าข้าได้เจอเ้า ข้าต้องเผาเ้าให้เป็เถ้าธุลีแน่!”
ในดวงตาของหั่วฝู่มีแววตาดุร้ายป่าเถื่อนปรากฏ ก่อนจะหันหลังแล้วเดินจากไป
เมื่อเซี่ยโฮ่วเทียนเจี๋ยตาย มันก็เหลือแค่เขาคนเดียวเท่านั้น กลับกันฝั่งลัทธิสยบฟ้ามีถึงเจ็ดแปดคนรวมถึงไป๋หังด้วย!
ไม่ว่าเขาหั่วฝู่จะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่มีทางต่อกรได้ หรือต่อให้มีแค่ไป๋หังคนเดียว หั่วฝู่ก็ไม่อยากเผชิญหน้าแม้เต่น้อย
เมื่อเป็เช่นนี้ ตอนนี้ก็เหลือเพียงทางเลือกเดียวเท่านั้นคือหนีไปก่อนค่อยว่ากัน!
หลังจากหั่วฝู่จากไปแล้ว หลงอวี้ถึงได้ผ่อนลมหายใจโล่งอก ด้วยพลังของเขาในตอนนี้แล้ว การเผชิญหน้ากับยอดฝีมือระดับิญญาแท้ขั้นที่สองยังเป็เื่ที่เป็ไปไม่ได้
“ร้ายกาจมากเลย”
หลิงหานและหลิงอีเยว่สองพี่น้องที่ชมการต่อสู้อยู่ข้างๆ นั้นรู้สึกว่าหลงอวี้เป็เทพาก็ไม่ปาน
แม้จะมีพลังเพียงวิถียุทธ์ขั้นเก้า ไม่มีิญญาแท้ แล้วจะทำไม?
หนึ่งหมัดะเิปรภพ ส่งลงยมโลก กลืนกินทุกสรรพสิ่ง!
“ร้ายกาจ ร้ายกาจ”
เสียงหัวเราะอันสง่าผ่าเผยเสียงหนึ่งดังขึ้นด้านหลังยอดเขาเล็กๆ ลูกหนึ่ง จากนั้นชายหนุ่มรูปงามชุดขาวคนหนึ่งก็ก้าวเท้าออกมาโดยมีอีกสามตามหลังมาด้วย
ไป๋หัง!
พวกหลงอวี้สี่คนนั้นได้มุ่งหน้าไปยังทิศที่ไป๋หังอยู่ พอเห็นอีกสามคนที่ติดตามไป๋หังมาแล้วก็ขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้
สามคนนั้นคืออี้เหยียน หลิ่วซู่เฉิงและฮว๋าอี้หลุน!
ทั้งสามคนล้วนเป็ลูกศิษย์ของลัทธิสยบฟ้าทั้งสิ้น แต่ล้วนเป็คนที่มีความขัดแย้งกับหลงอวี้มาก่อน หรือไป๋หังจะเกี่ยวข้องกับเ้าสามคนนี้?
พวกมันสามคนที่เดินตามไป๋หังออกมาจากเนินเขาเล็กๆ มีสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไรนัก พวกมันไม่คิดว่าหลงอวี้ในตอนนี้จะสามารถสังหารยอดฝีมือระดับิญญาแท้ได้
“ศิษย์พี่ไป๋ ไอ้เ้าหลงอวี้นี่มันผิดสามัญสำนึกมากเกินไปแล้ว”
หลิ่วซู่เฉิงที่เดินออกมาจากเนินเขาแล้วมองไปทางหลงอวี้ด้วยท่าทางอิจฉาชิงชัง เริ่มกล่าวโทษหลงอวี้
“ถึงแม้จะมีฝีมืออยู่บ้าง แต่ด้วยฝีมือแค่นี้กลับทำอะไรตามอำเภอใจนอกลัทธิเช่นนี้ แถมยังฆ่าลูกศิษย์ระดับพิเศษของตำหนักซ่อนอัคคีไปด้วย แบบนี้ก็เท่ากับว่าเ้าสร้างศัตรูให้กับลัทธิสยบฟ้าเราเพิ่มน่ะสิ!”
หลงอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็มองไปทางหลิ่วซู่เฉิงเอ่ยพูดเสียงเรียบ
“ฟังจากที่เ้าพูดหมายความว่า ถ้าคนของตำหนักซ่อนอัคคีมารังแกถึงหัวเ้า กำลังจะฆ่าเ้ารอมร่อ เ้าก็ควรอ้อนวอนพวกมันเพื่อร้องขอชีวิตถึงจะถูกอย่างนั้นหรือ หรือไม่ก็ทำตัวเหมือนไอ้เหยาเหยี่ยนนั่น สะบัดหางหนีเอาชีวิตรอดไปคนเดียว แบบนี้ถึงจะนับว่าไม่เสียชื่อของลัทธิสยบฟ้า ไม่ทำให้ลัทธิสยบฟ้าเป็ที่อับอายอย่างนั้นหรือ”
คำพูดนี้เป็การเย้ยหยันและตอกกลับหลิ่วซู่เฉิงจนมันพูดไม่ออกทันที!
เื่ที่เกิดขึ้นเป็เพราะพวกคนของตำหนักซ่อนอัคคีหาเื่เอง หลงอวี้ที่ถูกกลั่นแกล้งรังแก จึงตอบโต้โดยฆ่าพวกมันทิ้งไปหนึ่งคน ไม่เห็นจะมีอะไรผิดเลย!
พอพูดจบ หลงอวี้ก็ไม่ได้ใส่ใจสามคนนั้นอีก แต่เลื่อนสายตาไปมองไป๋หังแทน
ไป๋หังในชุดขาวอันงามสง่า ในฐานะที่เป็ลูกศิษย์ระดับพิเศษอันดับสองของลัทธิสยบฟ้า แม้จะมีอายุเพียงยี่สิบสามสี่ แต่กลับแข็งแกร่งไม่ธรรมดา
ตัวเขาที่กำลังก้าวเท้าเดินมา มีกลิ่นอายที่ดูสูงส่งเหนือธรรมชาติเล็กน้อย!
“หลงอวี้ ศิษย์พี่ปู้เคยพูดถึงเ้าให้ข้าฟังอยู่ เขาชื่นชมเ้าไม่น้อยเลยล่ะ”
ไป๋หังที่กำลังเดินมานั้นพูดด้วยรอยยิ้ม
“ดูท่าทางเขาจะไม่ได้มองเ้าผิดไป เพียงแต่ไม่คิดเลยว่าเ้าจะมาชิงเศษชิ้นส่วนจันทรากับเขาด้วย”
“ข้าแค่มาเพื่อช่วยสหายเท่านั้น”
หลงอวี้มองไปทางหลิงหานแล้วพูดขึ้น
หากไม่ใช่เพราะหลิงหานเชิญมาล่ะก็ เขาย่อมไม่มีทางได้รู้ข่าวที่ว่าเศษชิ้นส่วนจันทราจะปรากฏอยู่แล้ว อีกทั้งเขาก็ไม่ได้สนใจเศษชิ้นส่วนจันทราสักเท่าไรด้วย
“มาเพื่อช่วยสหายอย่างนั้นเหรอ ฮ่าฮ่า!”
ไป๋หังหัวเราะอย่างสง่างาม
“จริงสิ ในเมื่อพวกเรามีเป้าหมายเดียวกันแล้ว ทำไมเราไม่รวมกลุ่มกันล่ะ จะได้ดูแลกันได้ เป็อย่างไร?”
หลงอวี้ขมวดคิ้ว
เขาเหลือบมองดูไอ้สามคนข้างหลังของไป๋หังแล้วส่ายหน้า
“เื่รวมกลุ่มน่ะข้าว่าช่างเถอะ”
หากร่วมกลุ่มกับพวกอี้เหยียน อาจจะถูกพวกมันแทงข้างหลังตอนไหนก็ได้ แบบนั้นคงไม่ดี!
หากไม่ใช่คนที่ไว้ใจได้ ต่อให้ไปด้วยกันสุดท้ายมันก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี ก็เหมือนกับเ้าเหยาเหยี่ยนก่อนหน้านี้นี่แหละ!
ไป๋หังได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะเบาๆ
ความจริงแล้วเขาก็แค่พูดไปอย่างนั้นแหละ หากต้องร่วมทางกับหลงอวี้จริงๆ เขายังรังเกียจว่าเ้าหลงอวี้จะมาถ่วงแข้งถ่วงขามากกว่า
อีกทั้งถ้าร่วมทางไปด้วยกันแล้ว แต่สุดท้ายเศษชิ้นส่วนจันทรามีแค่ชิ้นเดียว อย่างนั้นจะแบ่งกันอย่างไร?
“อย่างนั้นก็ช่างเถอะ พวกเราก็ไปทางใครทางมันแล้วกัน!”
ไป๋หังหัวเราะอย่างสง่างามเล็กน้อย ก่อนจะหันหลังเดินจากไป
“พวกเราไปกันเถอะ!”
ฮว๋าอี้หลุน ชายถือกระบี่ชุดสีเทาที่เคยพ่ายแพ้ให้กับหลงอวี้มองดูเขาครู่หนึ่งก่อนจะเดินตามไป๋หังไป
ก่อนหน้านี้ตัวเขาที่เป็ลูกศิษย์ระดับพิเศษนั้นเป็คนที่คอยดูแลไป๋หังที่เพิ่งเข้าลัทธิมาที่หลังมากเป็พิเศษ
แต่ตอนนี้ ไป๋หังที่กลายเป็ลูกศิษย์ระดับพิเศษอันดับสองไปแล้วก็เลยเปลี่ยนกลับมาเป็ฝ่ายดูแลเขาฮว๋าอี้หลุนแทน!
ฮว๋าอี้หลุนตอนนี้อายุไม่น้อยแล้ว หากยังไม่สามารถทะลวงขีดจำกัดขึ้นไปได้อีก เกรงว่าทั้งชีวิตนี้ก็คงต้องใช้ชีวิตไปทั้งอย่างนั้น ด้วยเหตุนี้เอง เขาถึงต้องเชิญไป๋หังมาช่วยตามหาเศษชิ้นส่วนจันทรา
“ศิษย์พี่ไป๋ เ้าหลงอวี้นั่นมันไม่ไว้หน้าท่านเลยจริงๆ ท่านอุตส่าห์เมตตาเชิญให้พวกมันมาร่วมทางด้วย แต่พวกมันกลับปฏิเสธ ช่างไม่รู้จักเจียมตัวเลยจริงๆ!”
หลิ่วซู่เฉิงที่ตามหลังไป๋หังพูดยกยอ
แต่ไป๋หังไม่ได้สนใจมันเลยแม้แต่น้อย
“แม้ว่าเ้าหลงอวี้จะสามารถฆ่ายอดฝีมือระดับิญญาแท้ขั้นหนึ่งได้ แต่มันก็ได้ไปหาเื่จ้าวตำหนักน้อยแห่งตำหนักซ่อนอัคคีเข้าแล้ว ถ้าไม่มีศิษย์พี่ไป๋ให้พึ่งพาแล้ว ข้าล่ะอยากเห็นจริงๆ ว่ามันจะถูกหั่วฝู่ฆ่าตายอย่างไร!”
ในดวงตาของอี้เหยียนปรากฏแววตาโกรธแค้น
แต่ไป๋หังก็ไม่ได้สนใจ
ทั้งอี้เหยียนและหลิ่วซู่เฉิงนั้นมีความสัมพันธ์กับฮว๋าอี้หลุนอยู่บ้างเท่านั้น ก่อนหน้านี้มันไม่ได้รู้จักไป๋หัง
ไป๋หังเองก็ย่อมไม่จำเป็ต้องไว้หน้าทั้งสองคนนี้อยู่แล้ว!
........
หลังจากพวกไป๋หังจากไป หลงอวี้ถึงรู้สึกโล่งอก
อันที่จริงเขาก็กลัวอยู่เหมือนกันว่าเ้าไป๋หังจ้องเล่นงานเขาอยู่หรือเปล่า หากเป็เช่นนั้น ด้วยพลังและสภาพร่างกายของเขาในตอนนี้ ย่อมไม่มีทางสามารถต่อกรกับไป๋หังได้แน่นอน
แม้เมื่อครู่นี้เขาจะฆ่าเซี่ยโฮ่วเทียนเจี๋ยลงได้ แต่วิชาอัคคีะเิพสุธาได้สร้างาแไฟไหม้ที่ิัของเขาแทบจะทั้งตัว โดยเฉพาะที่ใต้เท้าถึงกับไหม้จนดำไปเลย
หากไม่ใช่เพราะเขาฝึกวิชากายาพิชิตมาร เกรงว่าแค่วิชาอัคคีะเิพสุธาอย่างเดียวก็สามารถเผาเขาจนตายได้แล้ว
“ศิษย์พี่หลิงหาน พวกเราไปกันเถอะ”
หลงอวี้หันกลับไปพยักหน้าให้กับหลิงหาน
เข้ามาในอาณาเขตของแหล่งแร่ได้ไม่ทันไรก็ได้เจอกับยอดฝีมือระดับิญญาแท้ขั้นที่สองถึงสองคน เส้นทางแห่งการแย่งชิงเศษชิ้นส่วนจันทราในครั้งนี้ เกรงว่าคงจะไม่ได้ง่ายดายเสียแล้ว!
เพียงแต่ยังดีที่ในการต่อสู้เมื่อครู่นี้หลงอวี้รู้สึกเข้าใจกฎเกณฑ์สยบฟ้าของเขาลึกซึ้งมากขึ้นกว่าเดิม
“หากได้ต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งอีกสักครั้ง บางทีอาจถึงขั้นบรรลุเขตแดนสยบฟ้าได้เลย!”
หลงอวี้ตาเป็ประกายแวววาว
“ถ้าเป็อย่างนั้น ต่อให้ศัตรูเป็ยอดฝีมือระดับิญญาแท้ขั้นสองก็ไม่ถึงขั้นพ่ายแพ้ทันทีโดยที่ทำอะไรไม่ได้เลย!”
หลิงหาน หลิงอีเยว่และหลู่กวนิสามคนนั้น บัดนี้พวกเขาก็ยอมรับในความแข็งแกร่งของหลงอวี้อย่างสมบูรณ์แล้ว
แต่เดิมหลิงหานยังมองหลงอวี้ในฐานะของศิษย์น้องอยู่ แต่ตอนนี้ เขารู้ตัวดีว่าหลงอวี้แข็งแกร่งมากกว่าเขาหลายเท่า
หลงอวี้ในตอนนี้สามารถสังหารยอดฝีมือระดับิญญาแท้ได้ด้วยตัวคนเดียว แต่ตัวเขานั้นกลับมีพลังแค่ระดับวิถียุทธ์ขั้นแปดเท่านั้นเอง!
แรกเริ่มนั้นหลิงหานไม่ได้คิดจะพึ่งพาหลงอวี้ในการมาเก็บเศษชิ้นส่วนจันทราครั้งนี้
แต่ดูท่าทางตอนนี้ถ้าเขาไม่พึ่งพาหลงอวี้ล่ะก็ เกรงว่าเขาคงไม่มีโอกาสได้รับเศษชิ้นส่วนจันทราอย่างแน่นอน!
การแย่งชิงเศษชิ้นส่วนจันทราดุเดือดมาก
หลิงหานเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่า ความเร็วในการพัฒนาของหลงอวี้มันจะสูงขนาดนี้ สูงจนใกล้จะถึงจุดที่ไม่อาจจินตนาการได้แล้ว
แม้เหยาเหยี่ยนจะทิ้งไป แต่ก็ยืนยันได้แล้วว่าหลงอวี้นั้นมีความแข็งแกร่งมากพอที่จะสังหารระดับิญญาแท้ได้จริงๆ
สายตาที่หลิงอีเยว่มองไปทางหลงอวี้แฝงด้วยความนับถือและความสงสัยอยู่เล็กน้อย ไม่คิดเลยว่าพี่ชายตัวเองจะสามารถผูกมิตรกับยอดฝีมือที่แข็งแกร่งเหนือคนทั่วไปแบบนี้ได้ อีกทั้งยังกลายเป็สหายสนิทกันด้วย!
มีเพียงหลู่กวนิเท่านั้นที่ยังคงยิ้มแย้ม ไม่คิดอะไรแม้แต่น้อย
แต่เดิมแล้วเ้าหมอนี่เป็พวกซื่อบื้ออยู่แล้ว มันรู้สึกว่าการที่หลงอวี้ฆ่าระดับิญญาแท้ได้นั้นเป็เื่ปกติมากๆ เลย ไม่เห็นมีอะไรน่าใ
มันไม่คิดว่า ผู้ที่ทำได้ถึงขั้นนี้ ทั่วทั้งแผ่นดินเทียนอวี้นั้นหาได้ยาก!
ิญญาแท้เป็ตัวแทนของพลังอันเด็ดขาดที่เหนือกว่า และเป็สิ่งที่แสดงถึงตำแหน่งฐานะที่สูงส่งกว่าด้วย
นอกจากหลงอวี้แล้ว มีน้อยคนมากจริงๆ ที่สามารถสังหารยอดฝีมือระดับิญญาแท้ได้ด้วยพลังระดับวิถียุทธ์ขั้นเก้า
นึกภาพออกเลยว่า หากหลงอวี้สามารถสร้างิญญาแท้ได้ จะต้องกลายเป็ตัวตนที่ร้ายกาจมากแน่นอน!
แค่ลองจินตนาการดูก็ทำให้พวกหลิงหานรู้สึกคาดหวังแล้ว
มีโอกาสสูงมากที่หลงอวี้จะสร้างตำนานบทใหม่ในลัทธิสยบฟ้า หรืออาจถึงขั้นเป็ตำนานของทั่วทั้งอาณาจักรต้าถังเลยทีเดียว!
แต่ระหว่างที่พวกเขากำลังเดินทางกันอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีเสียงหมาป่าเห่าหอนดังมาจากทิศทางหนึ่งกะทันหัน ทำให้ทั้งสี่คนตึงเครียดขึ้นมาทันที
“ระวังนะ นี่คือเสียงของหมาป่าที่อยู่ในแหล่งแร่ ปกติแล้วพวกมันมักจะเคลื่อนไหวล่าเหยื่อกันเป็ฝูง คนขุดเหมืองของหมู่บ้านเราถูกมันทำร้ายอยู่บ่อยๆ!”
หลิงหานส่งเสียงเตือน
