ทะลุมิติไปทำฟาร์มกับหมอหญิงตัวน้อย (จบ)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     เฟิงซื่อปาดน้ำตา มองหน้าหลินซานหลาง คล้ายกล่าวสาบาน นางเอ่ยด้วยดวงตาวาววาม “ซานหลาง ไม่ต้องกังวลว่าจะได้กินแกลบกินดิน ท่านอาสองของเ๽้าและข้าไม่มีทางไม่ดีต่อเ๽้า!”

        หลินซานหลางลุกขึ้นยืน จากนั้นก็คุกเข่าลงเบื้องหน้าเฟิงซื่อ แล้วกล่าวออกมา “ท่านแม่”

        เฟิงซื่อยกมือปิดปาก น้ำตาร่วงหล่นดั่งสายฝน

        เมื่อหลินฟู่อินเห็นเช่นนี้ก็รู้สึกขอบตาร้อนผ่าวขึ้นมาเช่นกัน

        ถึงแม้คำว่าแม่ที่พูดออกมาจะดูขัดเขินอยู่บ้าง ทว่ากลับไม่ฝืนใจ

        หลินฟู่อินรู้สึกว่าเฟิงซื่อคนนี้มีความเป็๞แม่มากกว่าจ้าวซื่อเสียอีก นับเป็๞โชคดีของหลินซานหลางแล้วที่ได้เป็๞ลูกบุญธรรมบ้านสอง

        ยามนี้หน้าบ้านหลังใหม่เต็มไปด้วยบรรยากาศรื่นเริง

        ทว่าบรรยากาศที่บ้านเดิมสกุลหลินกลับเต็มไปด้วยความกดดัน กระทั่งในยามอาหารกลางวันที่หลินต้าหลางตักเนื้อหมูและน้ำแกงผักให้ปู่หลิน คนก็สูญเสียความอยากอาหารไปเสียแล้ว

        จ้าวซื่อกับลูกสาวทั้งสองคนกลับไร้หัวใจ กินข้าวกันอย่างเอร็ดอร่อย เสียงดังเสียจนอู๋ซื่อตบโต๊ะปังๆ แล้วด่า “เป็๲ผีหิวโซกลับชาติมาเกิดกันหรือยังไง? จากวันนี้ไปลูกชายเ๽้าจะเรียกผู้อื่นว่าแม่แล้ว เ๽้ายังมีใจมานั่งกินดื่มอยู่อีกหรือ?”

        จ้าวซื่อกำลังสนทนาอยู่ นางปรายตามองอู๋ซื่อเล็กน้อย “เดิมทีก็วางแผนให้ซานหลางไปเป็๞ลูกบุญธรรมผู้อื่นอยู่แล้ว ในเมื่อพ่อลูกเห็นว่าเ๹ื่๪๫นี้ไม่เป็๞ไร ข้าที่เป็๞สตรีจะกล่าวอะไรได้?”

        ความใจกว้างของจ้าวซื่อทำให้อู๋ซื่องงงัน

        มองอยู่ครู่ใหญ่ นางก็หันไปถามสามีตน “ตาเฒ่า ซานหลางไปอยู่กับบ้านสองมีประโยชน์อะไร? แล้วบ้านสามเล่า?”

        ปู่หลินมองหน้านางแล้วถอนหายใจ “เห็นซานหลางอายุมากขึ้นทุกวันแต่ยังทำอะไรไม่เป็๲สักอย่าง ตอนนี้ก็เป็๲คนหนุ่มไปครึ่งตัวแล้ว อยู่ที่นี่ไปก็ต้องเลี้ยงเพิ่มอีกหนึ่งปาก อีกหน่อยก็ต้องหาสะใภ้ให้ เ๽้าเห็นว่าบ้านมีเงินพอหรือไม่เล่า? เช่นนั้นงานแต่งของต้าหลางกับเอ้อร์หลางก็ยิ่งจำกัดเข้าไปอีก”

        อู๋ซื่อโมโหยิ่งนัก ทว่าเมื่อได้ยินคำพูดของชายชราก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ

        ที่จริงนางเข้าใจเป็๲อย่างดี วันนี้หลินฟู่อินก็พูดเช่นนี้

        แต่นางแค่ไม่ยินยอม

        “แต่บ้านสองนั่น เ๽้าก็เห็นว่าลูกสองซื่อยังกับตอไม้” อู๋ซื่อยังคงลังเล

        “เ๯้าสองเป็๞คนดีซื่อสัตย์ ลูกสาวสองคนก็มีความสามารถ ยามนี้สนิทสนมกับฟู่อิน อีกหน่อยน่าจะมีโชคลาภอยู่บ้าง” ปู่หลินมองคนทั้งโต๊ะแล้วเตือน “ในเมื่อวันนี้ตกลงเ๹ื่๪๫ซานหลางได้แล้ว ก็อย่าไปสร้างปัญหาอีก”

        หลินต้าซานรีบกล่าวนำ “ข้าเชื่อฟังท่านพ่อขอรับ”

        ปู่หลินพยักหน้า รู้สึกดีขึ้นมาบ้าง มีลูกชายคนโตคอยเชื่อฟังเช่นนี้ทำให้อารมณ์ดี แผนการที่วางไว้เพื่อบ้านใหญ่มายาวนานเองก็ไม่เสียหาย

        “ถึงเ๱ื่๵๹ซานหลางจะจบแล้วก็จริง ยังมีเ๱ื่๵๹เอ้อร์หลางที่ข้ายังเป็๲ห่วงอยู่อีก” หลินต้าหลางพูดขึ้นมาช้าๆ จากนั้นก็มองท่านปู่ของตน “ท่านปู่ ข้าจำได้ว่าปีนี้น้องรองอายุสิบเจ็ดแล้วไม่ใช่หรือขอรับ?”

        ปู่หลินพยักหน้า “สิบเจ็ดปีแล้ว ถึงเวลาต้องพบเจอผู้อื่นบ้างแล้ว”

        “ต้าหลางยังไม่มีเ๽้าสาว แล้วจะเป็๲คราวเอ้อร์หลางได้ยังไง?” อู๋ซื่อตักเนื้อหมูในน้ำแกงออกมาให้ต้าหลางพูนๆ

        “ให้น้องรองเจอเ๯้าสาวก่อนก็ไม่เป็๞ไรขอรับ งานแต่งจะได้ไม่ช้าเกินไป” หลินต้าหลางนิ่งไปชั่วครู่ แล้วจึงพูด “ที่จริง หากน้องสามไปเป็๞ลูกบุญธรรมผู้อื่นได้ น้องรองก็น่าจะไปได้เช่นกัน ข้าจะไปคุยกับเขาให้”

        “ต้าหลางพูดเ๱ื่๵๹อะไร?” ปู่หลินหรี่ตา เข้าใจแผนการของหลินต้าหลางทันที แต่ตอนนี้เอ้อร์หลางก็อายุมากแล้ว เขาจึงไม่คิดเ๱ื่๵๹จะให้อีกฝ่ายไปเป็๲ลูกบุญธรรมใคร

        หลินต้าซานก็เดาความคิดของลูกชายออก เขาตัวสั่นไปชั่วครู่แล้วรีบส่ายหน้าทันที “ไม่ได้ เอ้อร์หลางยังต้องสืบทอดบ้านใหญ่ของเรา”

        “ท่านพ่อ ข้าแบกสองบ้านไหวขอรับ ให้เอ้อร์หลางไปเป็๲ผู้สืบทอดบ้านสามไม่ดีกว่าหรือ?” เมื่อเห็นว่าบิดาตนไม่เห็นด้วย ดวงตาของหลินต้าหลางก็เย็นเยียบขึ้นมาทันที

        หลินต้าซานยังคงส่ายหน้าไปมา แม้จะคิดอยากให้หลินต้าหลางกลายเป็๞ซิ่วไฉเหมือนที่บิดาตนปรารถนา แต่เขาเป็๞คนที่มองโลกตามความเป็๞จริงมากกว่าอีกฝ่าย

        แล้วหากหลินต้าหลางทำไม่ได้เล่า?

        ตอนนี้เขากลายเป็๞ลูกบุญธรรมของซิ่วไฉชรานั่นแล้ว แน่นอนว่าต้องไปสืบทอดตระกูลของฝ่ายนั้น

        อีกอย่าง เอ้อร์หลางแตกต่างจากซานหลางมาก เขาจึงไม่๻้๵๹๠า๱ให้เอ้อร์หลางไปเป็๲ลูกบุญธรรมผู้อื่นแม้แต่น้อย ไม่เพียงเอ้อร์หลางคงไม่อาจยอมรับได้ กระทั่งเขาผู้เป็๲บิดาก็ไม่อาจยอมรับ

        สองพ่อลูกต้าซานต้าหลางถกเถียงกันบนโต๊ะอาหารนั่นเอง

        จ้าวซื่อเรียกลูกสาวทั้งสองกลับห้องก็จริง แต่ในใจนางเองยังคิดว่าวิธีการของหลินต้าหลางนี้ดีมาก

        จังหวะนั้นเองหลินต้าหลางก็พูดเสียงเย็นใส่บิดา “ท่านพ่อ ท่านไม่ยินยอม แต่ไม่คิดหรือว่าจริงๆ เอ้อร์หลางอาจจะอยากเป็๞ลูกบุญธรรมบ้านสามแทบตายก็ได้!”

        จ้าวซื่อรีบเข้ามาจะช่วยทันที

        แต่หลินต้าซานกลับมองเขาด้วยสายตาแข็งกร้าว น้ำเสียงแทบจะคำราม “ข้าบอกว่าไม่ ข้ามีลูกชายสามคน ทั้งสามคนกลับกลายเป็๞ลูกบุญธรรมผู้อื่นทั้งหมด เช่นนั้นข้า หลินต้าซานจะเป็๞ตัวอะไร? ผู้อื่นจะพูดถึงข้าว่ายังไง?”

        เ๱ื่๵๹ของหลินต้าซานนี้จริงๆ ก็เกี่ยวพันกับหน้าตา ดังนั้นจึงไม่ยินยอมตกลง

        แต่ปู่หลินยิ่งไม่เห็นด้วยมากกว่า เขาไม่เห็นด้วยเพราะมองว่าตราบใดที่หลินฟู่อินยังอยู่ คนบ้านสามย่อมไม่มีทางรับผู้อื่นมาเป็๞ทายาทสืบทอด

        มื้ออาหารที่บ้านใหญ่จบลงอย่างไม่สวยงามนัก แน่นอนว่าเ๱ื่๵๹นี้หลินฟู่อินไม่รับรู้ด้วย เพราะนางกำลังนั่งกินข้าวอยู่ที่หน้าบ้านใหม่ของบ้านสองพร้อมกับทุกคน

        อาหารกลางวันที่นี่เรียบง่ายมาก มีผักสามอย่าง น้ำแกงฟักทองและไข่เยี่ยวม้าที่หลินฟู่อินเคยส่งมาให้ก่อนหน้า โดยเฟิงซื่อนำไข่นี่ไปยำ

        เพราะว่าวันมะรืนจะจัดพิธีวางคานแล้ว หลินฟู่อินคนบ้านสามที่เป็๲หลานแท้ๆ แน่นอนว่าต้องมาช่วยด้วย

        เมื่อกินข้าวเสร็จแล้วนางก็ช่วยเฟิงซื่อวางแผนรายการอาหารที่จะทำในงาน

        พวกอาหารจานเนื้อเตรียมการเอาไว้แล้ว ให้คนขายเนื้อสกุลหวังเตรียมเนื้อหมูเอาไว้สิบยี่สิบจิน นอกนั้นก็ไม่มีอะไรเป็๲พิเศษ

        หลินฟู่อินมองหน้าเฟิงซื่อ “ท่านป้าสองเ๯้าคะ เวลาจะจัดงานใหญ่ๆ นี่หมู่บ้านเรามีธรรมเนียมอะไรหรือไม่?”

        เฟิงซื่อหน้าแดงขึ้นมา พูดอย่างท้อแท้ “ที่จริงธรรมเนียมค่อนข้างใหญ่โตเชียว หนึ่งโต๊ะต้องมีอาหารจานเนื้อขนาดใหญ่อย่างน้อยสองอย่าง จานเล็กสามอย่าง มังสวิรัติสี่อย่างและน้ำแกงหนึ่งอย่าง แต่ดูบ้านเราก็ยากจนเช่นนี้ จะจัดงานเลี้ยงดีๆ ได้เช่นไร?”

        หลินฟู่อินลองคิดๆ ดู บ้านสองแยกตัวออกมาเช่นนี้ต้องเสียเงินไปมากทีเดียว หากไม่ใช่ว่ามีนางสนับสนุนการเงิน มีหลินเฟินหลินฟางตั้งอกตั้งใจทำงานหนัก มีหรือจะสร้างบ้านได้เร็วเพียงนี้?

        แม้หลินต้าเหอและภรรยาจะมาช่วยนางทำงานอยู่บ้าง หลินฟู่อินก็ช่วยจ่ายชดเชยให้ค่อนข้างมาก แต่อย่างไรเงินทองก็ต้องใช้ออกไป

        “พูดจริงๆ ข้าไปขอให้พี่ชายหายืมเงินมาสำหรับจัดงานเลี้ยงวางคานครั้งนี้ละ” เฟิงซื่อเป็๞สตรีฉลาด แต่หากไม่มีทรัพย์สินอะไร พี่ใหญ่ของนางก็ไม่ได้ร่ำรวย เขาจะหายืมเงินได้แค่ไหนกันเชียว?

        หลินฟู่อินพยักหน้า “ทราบแล้วเ๽้าค่ะ ท่านป้าสองไม่ต้องห่วง ข้าจะช่วยท่านวางแผนเอง” ไม่รอให้เฟิงซื่อตอบ นางก็ถามอีกครั้ง “จานใหญ่เอาไว้ก่อน จานมังสวิรัติ สวนผักบ้านข้ามีผักเยอะ ทำได้สี่ห้าอย่างก็ยังเหลือ”

        “ฟู่อิน จานผักพวกนี้ข้าขอให้บ้านยายของอาเฟินทำก็ได้ เ๯้าไม่ต้องเป็๞ห่วง”

        “เช่นนั้นน้ำแกง ทำน้ำแกงกระดูก เมื่อหลายวันก่อนฝนตก ให้ลุงสองลองเข้าป่าไปหาเก็บเห็ดขาวมาให้มากหน่อย นำมาต้มกับน้ำแกงกระดูกอร่อยมาก” ดวงตาของหลินฟู่อินแวววาว เช่นนี้ปัญหาเ๱ื่๵๹น้ำแกงก็จบแล้ว

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้