คนที่ติดตามพวกเกาหยางก็ล้วนแต่เป็ผู้มีพร์ มีขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่แปดระดับประสานเป็หนึ่งด้วยกันทั้งนั้น
แต่ทุกคนรู้ดีว่า คนที่เป็แกนหลักในกลุ่มของพวกเขานั้นคือเกาหยางกับเซินซวน เพราะทั้งสองล้วนแต่เป็ผู้กล้าประสานเป็หนึ่งระดับสูงสุด ถึงแม้จะแตกต่างกันนิดหน่อย แต่ในความเป็จริงแล้วกำลังรบนั้นแตกต่างกันอย่างมาก
ถึงแม้ในกลุ่มจะมีคนแอบคิดอะไรกับเซินซวนเหมือนกัน แต่พวกเขาล้วนแต่เก็บมันเอาไว้
เพราะคนที่มีกำลังรบมากที่สุดก็คือเกาหยาง หลังจากที่เข้าไปในเทือกเขาหลวนหมอหลิงแล้วพวกเขาก็ต้องอาศัยเกาหยาง ดังนั้น ทุกคนเลยเลือกที่จะถอยให้กันหมด
เกาหยางกับเซินซวนนั้นมีความเร็วอย่างมาก ถึงแม้พวกเขาจะอยู่ด้านหลังของิอวี่แต่ก็แอบตามหลังมาติดๆ เหมือนกัน เมื่อมาถึงเทือกเขาหลวนหมอหลิงพวกเขากับิอวี่ก็แทบจะอยู่ในระนาบเดียวกันเลย
เมื่อเข้าสู่เทือกเขาหลวนหมอหลิง ทุกคนล้วนแต่ได้กลิ่นคาวเืโชยมาในจมูก และ ได้ยินเสียงคำรามอันน่ากลัวออกมาจากพุ่มไม้สีเขียว
ทันใดนั้นเอง ด้านหน้าก็มีลิงตัวใหญ่พุ่งออกมา ลิงตัวนั้นมีสีแดงสด ดวงตาเป็สีเหลือง แขนของมันยาวมาก อีกทั้งยังมีเกล็ดและมีความแข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้า!
ลิงตัวนี้คืออสูรวานรแขนสีเื มีกำลังเทียบเท่าราชสีห์ห้าพันตัว มันข่วนกรงเล็บฉีกอากาศจนขาดราวกับดาบเหล็กก็ไม่ปาน
เกาหยางส่งเสียงขึ้นมาแล้วพลิกข้อมือ กระบี่ยาวสองเมตรเล่มหนึ่งปรากฏออกมา เขาตวัดกระบี่เพื่อรับมือกับกรงเล็กของวานร เมื่อทั้งสองปะทะกันก็เกิดเสียงดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จนเกิดประกายไฟสีแดงทองขึ้นมา!
ในขณะเดียวกัน พวกของเซินซวนเองก็อยู่คอยช่วยเสริมกำลัง ลมปราณกลุ่มหนึ่งชนเข้ากับแขนของเ้าอสูรวานรแขนสีเื ทำให้มันไม่สามารถเคลื่อนไหวไปไหนได้อีก
เกาหยางมีปฏิกิริยาไวมาก เขาจับจังหวะได้ดีฟันกระบี่ออกไปด้วยความเกรี้ยวกราด พลังราชสีห์หกพันห้าร้อยตัวะเิออกไปราวกับน้ำทะลักอย่างรุนแรง แทงทะลุไปยังหัวใจของเ้าวานร!
เกาหยางใช้เท้าถีบเอากระบี่ออกมาจากตัวของเ้าวานร โดยที่หัวใจของเ้าวานรก็ยังคงติดตัวกระบี่ออกมาด้วย
เกาหยางยิ้มมุมปาก เขาเอาหัวใจออกมาจากกระบี่แล้วยื่นให้กับเซินซวน จากนั้นก็พูดอย่างภูมิใจว่า “เซินซวน ในเทือกเขาหลวนหมอหลิง หากได้หัวใจอสูรหรือว่าสมบัติล้ำค่าอื่นๆ ข้าจะมอบให้เ้าหมดเลย มีเท่าไรข้าก็ให้เ้าเท่านั้น”
ถึงแม้เกาหยางอย่างจะยึดเอาหัวใจอสูรไปคนเดียวแต่คนอื่นก็ไม่ได้คัดค้าน เพราะคนที่เป็ผู้นำกลุ่มก็คือเกาหยางกับเซินซวน พวกเขาคิดมากเกินไปก็ไม่มีประโยชน์ สามารถเข้ามาถึงเทือกเขาหลวนหมอหลิงได้ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว
“ขอบใจในความหวังดีของเ้าด้วยก็แล้วกัน”
เซินซวนก็ไม่ได้เกรงใจ นางรับหัวใจอสูรมา แต่สีหน้าท่าทางก็ยังคงไร้อารมณ์เหมือนเดิม
ที่จริงในสายตาของนาง หัวใจอสูรวานรแขนสีเืมันไม่ได้มีราคาอะไรเท่าไรเลย ถ้านางออกแรงมากกว่านี้นางก็ชิงมาได้เหมือนกัน
เห็นเซินซวนนิ่งเฉยในใจของเกาหยางก็รู้สึกไม่สบอารมณ์เท่าไร แต่ว่าเขายังไม่ยอมแพ้ เส้นทางในเทือกเขาหลวนหมอหลิงอีกยาวไกล จะว่าสั้นก็ไม่สั้น ขอแค่ได้หัวใจอสูรมาได้มากกว่านี้ แล้วมอบให้กับเซินซวน เขาจะต้องเอาชนะใจนางได้แน่นอน
“วางใจเถอะนะเซินซวน ตลอดเส้นทางนี้ ข้าจะเอาหัวใจอสูรระดับแปดมาให้เ้าสิบดวง แล้วก็หัวใจอสูรระดับเก้าธรรมดาอีกดวงมาให้เ้าให้ได้” เกาหยางสู้เต็มที่เพื่อเอาชนะใจเซินซวน!
จากการประเมินของเกาหยาง ขีดจำกัดสูงสุดของเขานั้นก็ฆ่าได้แค่อสูรระดับแปดสิบตัวกับอสูรระดับเก้าธรรมดาอีกหนึ่งตัวเท่านั้น
ต้องรู้ว่าต่อให้เป็อสูรระดับเก้าธรรมดาก็มีพลังเทียบเท่าราชสีห์หกพันตัว เกาหยางก็ต้องสู้แบบสุดตัวเท่านั้นถึงจะสามารถชิงหัวใจอสูรระดับเก้ามาได้
หากเจออสูรระดับเก้าที่แข็งแกร่งกว่านี้อีกหน่อย พลังเทียบเท่ากับราชสีห์เจ็ดพันหรือไม่ก็แปดพันแน่นอน!
ส่วนระดับเก้าสูงสุดหรืออสูรระดับสิบ กำลังของอสูรพวกนั้นต้องใช้คำว่าน่ากลัวเท่านั้นที่จะมาอธิบายได้ แม้แต่เกาหยางก็เคยได้ยินอย่างเดียว ยังไม่เคยเจอมาก่อน หากเจออสูรพวกนั้นปรากฏตัว พวกมันโจมตีทีเดียวเขาคงกระดูกเส้นเอ็นขาดไปแล้ว แต่โชคยังดีที่ในเทือกเขาหลวนหมอหลิงไม่มีอสูรระดับสิบปรากฏกายเลย
“อ๋อ? ถ้าอย่างนั้นข้าจะรอดูเ้าทำตามที่พูดก็แล้วกัน” เมื่อได้ยินเกาหยางพูดอย่างหนักแน่นแบบนั้น ท่าทางของเซินซวนก็ยังคงนิ่งเฉยอยู่ แต่น้ำเสียงของนางกลับมีความเปลี่ยนแปลงขึ้นมาเล็กน้อย
เกาหยางจับสังเกตได้ ในใจของเขามั่นใจว่ามันเป็การส่งสัญญาณอะไรบางอย่างกับเซินซวน
ขอแค่สู้ตายแล้วได้หัวใจอสูรมา การจะจีบเซินซวนติดก็รอแค่เวลาเท่านั้น!
พอคิดได้แบบนี้เกาหยางก็รู้สึกตื่นเต้นดีใจมาก เขารีบพาคนรุดหน้าไปล่าอสูรทันที
แต่ในเวลานี้ทุกคนก็ได้ยินเสียงคำราม ซึ่งรวมถึงเกาหยางและเซินซวนด้วยต่างหันไปตามเสียงร้องคำรามนั้น พวกเขาก็พบว่ามีหมาป่าตัวใหญ่ขนาดสูงสามเมตรยาวสิบเมตรกำลังวิ่งพุ่งมาแต่ไกล!
ทุกคนรีบเตรียมการรับมือ แต่ไม่นานพวกเขาก็พบว่าหมาป่าตัวนั้นเหมือนไม่ได้พุ่งเป้ามาที่พวกเขา แต่วิ่งไปทางชายหนุ่มอีกคนที่มาคนเดียว!
ชายหนุ่มคนนั้นก็คือิอวี่!
หมาป่าตัวนี้ฉลาดมาก มันเห็นพวกของเกาหยางมากันสิบกว่าคนก็รู้ว่าไม่อาจล่าเป็เหยื่อของมันได้ ก็เลยเปลี่ยนเป้าหมายไปหาิอวี่ที่อยู่คนเดียว มันวิ่งพุ่งเข้าใส่ิอวี่รวดเร็วดั่งสายฟ้า การนองเืในป่าลึกกำลังจะเริ่มขึ้น
เพราะต้นไม้ใบหญ้าเยอะมาก ทำให้มีระยะค่อนข้างไกลพอควร ทุกคนไม่อาจเห็นได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในกองพุ่มไม้สีเขียวนั่น แต่พวกเขากลับได้ยินเสียงร้องอันน่ากลัวของหมาป่าที่กระหายเือย่างชัดเจน มันเป็เสียงที่แสบแก้วหูมาก!
“นั่นมันหมาป่ากระหายเือสูรระดับเก้านะ ถึงแม้จะเป็อสูรระดับเก้าธรรมดา แต่ว่ามันน่ากลัวว่าวานรนั่นเยอะมากเลย เ้าหนูน้อยซวยแน่ เข้ามาถึงก็เจออสูรที่ร้ายกาจมาก พวกเ้าฟังเสียงนั่นสิ หมาป่ากระหายเืคงใช้กรงเล็บฉีกเขาเป็ชิ้นแล้วแน่เลย!” คนที่อยู่ด้านหลังของเกาหยางพูดขึ้นมา
มีคนถอนหายใจแล้วพูดว่า “เฮ้อ อายุยังน้อย เดิมควรจะมีอนาคตไกลแท้ๆ แต่กลับไม่รู้จักทำอะไรเรียบง่าย ตอนนี้กลับต้องมาตายอยู่ที่นี่ น่าเสียดายจริงๆ!”
ที่ป่าห่างไกลออกไปมีเสียงร้องของหมาป่ากระหายเืดังขึ้น พื้นสั่นะเื กิ่งก้านใบของต้นไม้ส่ายไม่หยุด ทุกคนล้วนแต่ขนลุกด้วยกันทั้งนั้น
มีคนพูดขึ้นมาว่า “หมาป่ากระหายเืโหดร้ายเกินไปแล้ว โชคดีที่เมื่อครู่เราไม่เจอมันนะ ไม่อย่างนั้นเราสิบคนรับมือกับมันก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนไปไม่น้อยเช่นกัน”
เสียงของหมาป่ากระหายเืดังขึ้นเรื่อยๆ ทำให้คนที่ได้ยินถึงกับใจสั่น เสียงมันน่ากลัวมาก ทำให้หัวใจคนเต้นระรัวไม่หยุด
แม้แต่เกาหยางเมื่อได้ยินก็ยังขนลุก เดิมเขาพาคนเข้ามาก็เพื่อปราบหมาป่ากระหายเื แต่พอเขาได้ยินเสียงร้องอันบ้าคลั่งนั่น เขากลับถอยแบบไม่รู้ตัว
หมาป่ากระหายเืบ้ามากเกินไปแล้ว? ฉีกชายหนุ่มนั่นไปแล้วยังไม่พอใจอีกหรือ?
แค่ได้ยินเสียงคำรามกับเสียงอาวุธแทงเข้าเนื้อ เกาหยางก็รู้สึกกลัวแล้ว!
ถึงแม้ในใจเริ่มมีความคิดจะถอย แต่สีหน้าท่าทางของเกาหยางยังคงพูดอย่างเรียบง่ายว่า “พวกเ้าเพิ่งจะรู้ว่าเทือกเขาหลวนหมอหลิงน่ากลัวหรือ? ก่อนหน้านี้ข้าเคยบอกแล้ว ในนี้มันมีอันตรายเยอะแยะมากมาย ดังนั้นพวกเ้าต้องเกาะติดพวกเราเอาไว้ ร่วมมือกันกับพวกเรา ไม่อย่างนั้นการตายอนาถอย่างเ้าหนุ่มไม่เอาไหนนั่น อาจจะเป็จุดจบของพวกเ้าก็ได้”
ผู้มีพร์คนอื่นต่างพากันพยักหน้า ต่อให้พวกเขาจะภูมิใจในพร์ของตัวเองมากแค่ไหนก็ไม่กล้าอวดดีในเทือกเขาหลวนหมอหลิง ไม่อย่างนั้นจุดจบของพวกเขาคงไม่ดีแน่
“ไปเถอะ ที่นี่ไม่อาจอยู่นานได้ หากเ้าหมาป่ากระหายเืนั่นหันกลับมาจ้องเล่นงานเราจะยุ่งยากนะ”
เซินซวนที่อยู่ข้างๆ ขมวดคิ้วแล้วพูด ถึงแม้นางอยากจะได้หัวใจของหมาป่ากระหายเืนั่นมากแค่ไหน แต่นางก็รู้ตัวดีว่าของสิ่งนั้นมันไม่ใช่ของที่นางจะอาจเอื้อมได้
เซินซวนพูดจบก็เกิดเสียงดังคำรามในป่าดังขึ้นมาอย่างน่ากลัว
เมื่อได้ยินเสียงคำรามที่น่ากลัว เกาหยางก็อยากจะรีบไปในทันทีเพียงแต่คิดหาคำพูดดีๆ อยู่ พอเซินซวนพูดขึ้นมาแบบนี้เขารีบรับคำต่อเลยว่า “เราเพิ่งฆ่าอสูรระดับแปดไป เสียพลังไปพอควร เราไม่มีความมั่นใจพอที่จะฆ่าหมาป่ากระหายเืนั่นได้ ดังนั้นเราเลี่ยงก่อนน่าจะดีกว่า”
พูดจบ เขาก็แทบไม่หันไปดูคนด้านหลังเลย รีบพาคนมุ่งตรงไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว
แต่ในเวลานี้เอง ...
ป่าที่ห่างไกลออกไปก็มีเสียงดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นมาจนทุกคนอดหันไปมองไม่ได้ พวกเขาพบว่าในป่าบริเวณนั้น มีเงาขนาดใหญ่ปลิวกระเด็นมาชนกับต้นไม้สีเขียว แล้วตกลงมาบนพื้นอย่างแรง
แต่เงาที่กระแทกหล่นลงมานั้นไม่ใช่ิอวี่ แต่เป็ ... หมาป่ากระหายเื!
“อะไรกัน!”
เกาหยางร้องออกมาโดยไม่ทันตั้งตัว เขาจ้องไปที่หมาป่ากระหายเืที่อยู่บนพื้นอย่างไม่กะพริบตา เขาเห็นว่าบนตัวหมาป่านั้นมีาแเต็มไปหมด เืไหลนองออกมา ดูแล้วเหมือนกำลังจะหมดลม ในป่าฟากนั้นิอวี่หยิบกระบี่กำลังเดินมา แล้วฟันสังหารลงไปที่หมาป่ากระหายเืตัวนั้นอีกครั้ง
หมาป่ากระหายเืนอนหมอบตัวสั่นอยู่ที่พื้น มันเห็นิอวี่กำลังเดินบีบเข้ามาใกล้ ราวกับว่ามันกำลังมองเห็นเทพมรณะปรากฏกาย มันพยายามส่งเสียงร้องขู่และคิดที่จะหาทางหนี
แต่ว่า กระบี่หวงฉวนในมือของิอวี่นั้นเร็วมาก ลมปราณแห่งความตายของกระบี่พุ่งออกมา มันคือกระบี่มรณะสังหาร!
หมาป่ากระหายเืนั่นถูกิอวี่ฟันจนมีแผลทั่วตัว ในเวลานี้ใกล้จะหมดลมไม่มีแรงจะขัดขืนอีกต่อไปแล้ว “ฉับ!” หัวของหมาป่ากระหายเืถูกิอวี่ตัดขาด แล้วทุกคนก็เห็นว่าิอวี่นั้นควักหัวใจของหมาป่ากระหายเืออกมา
“เป็ไปได้อย่างไรกัน!”
พอได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ดวงตาของพวกเขาก็แทบจะหลุดออกมาจากเบ้า สายตาของทุกคนล้วนแต่มีความใ!
เดิมทีพวกเขาคิดว่าหมาป่ากระหายเืนั้นโหดร้ายมาก แต่กลับเป็ิอวี่ที่เหี้ยมกว่า พวกเขาคิดว่าเสียงอาวุธแทงเข้าเนื้อนั่นมันเป็เสียงฉีกร่างิอวี่ แต่ในความเป็จริงแล้ว ิอวี่ต่างหากที่เป็คนฟันกระบี่ไปบนตัวของหมาป่ากระหายเื!
เมื่อเป็เช่นนี้ เสียงร้องของหมาป่าเ่าั้ไม่ได้ทำเพื่อข่มขู่ แต่เสียงร้องที่น่ากลัวเ่าั้เป็เสียงร้องโหยหวนของมันเอง ...
เกาหยางคิดว่าตัวเองนั้นมองผิดไป เขาขยี้ตาแล้วมองไปอีกครั้งก็พบว่าทุกอย่างตรงหน้านั้นล้วนเป็ความจริง
เมื่อครู่เขายังบอกกับทุกคนเลยว่ารูปร่างหน้าตาแบบิอวี่คงต้องโดนสั่งสอน แต่ตอนนี้ ิอวี่กลับกลายเป็คนที่สั่งสอน กลายเป็วีรบุรุษในใจของทุกคน!
ในสายตาของเกาหยาง คนที่สมควรจะเป็วีรบุรุษในสายตาคนอื่นน่าจะเป็เขา แต่ว่าิอวี่แย่งทุกอย่างนั้นไปหมดเลย สำหรับเกาหยางแล้วมันมีผลกระทบทางจิตใจอย่างมาก!
ทุกคนมองไปที่หัวใจหมาป่ากระหายเืในมือของิอวี่ แต่ละคนตาร้อนด้วยความอิจฉากันมาก หัวใจหมาป่ากระหายเืมีพลังมหาศาลอย่างมาก มันเป็ตัวช่วยชั้นดีในการฝึก
ิอวี่มองดูหัวใจหมาป่ากระหายเืที่อยู่ในมือ เขาเพ่งพลังจิตเข้าไปด้านในก็ััได้ว่าหัวใจดวงนี้เหมือนจะมีธาตุหยางอยู่
แต่ว่ามันยังไม่ใช่ธาตุหยางสูงสุด แม้แต่ธาตุไฟยังนับไม่ได้เลย หากดูดซับเข้าไปจะทำให้เคล็ดวิชาหยินหยางขั้นสูงปะปนและบริสุทธิ์ไม่พอ
ของบางอย่างไม่ใช่ยิ่งมากยิ่งดี เช่นหัวใจหมาป่ากระหายเืถึงแม้จะมีพลังมหาศาล แต่ว่ามันมีธาตุหยางน้อยมาก หากิอวี่ดูดเข้าไปแล้วจะทำให้ธาตุหยินและหยางไม่บริสุทธิ์ ดังนั้น เขาเลยไม่คิดจะดูดซึมมันเอาไว้
หากหมาป่ากระหายเืนี่เป็ธาตุไฟก็จะดีมาก ไม่รู้เหมือนกันว่าในเทือกเขาหลวนหมอหลิงมีอสูรระดับเก้าธาตุไฟหรือไม่ ถ้ามีข้าก็จะได้ดูดมันได้ ...
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม จะต้องรีบออกจากเทือกเขาหลวนหมอหลิงไปหาอสูรระดับสิบดีกว่า หัวใจอสูรระดับสิบต่างหากที่ข้า้า
เมื่อคิดทบทวนแล้ว ิอวี่ก็ทิ้งหัวใจหมาป่ากระหายเืเอาไว้ที่พื้นจากนั้นก็ลอยออกไปไกล
“โอ้โฮ! … ”
พอทุกคนได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นก็ถึงกับหน้าเขียวกันเลย พวกเขาเห็นหัวใจหมาป่ากระหายเือสูรระดับเก้าเป็ดั่งสมบัติล้ำค่า แต่ิอวี่ทิ้งมันเหมือนทิ้งขยะลงพื้น ... ราวกับว่ามันไม่ใช่ของที่คู่ควรนำออกมาขาย
มันทำให้พวกเขารู้สึกว่าเหมือนโดนลบหลู่อย่างรุนแรง!
ถึงแม้ในใจคิดแบบนี้ แต่ร่างกายของพวกเขาก็ยังพุ่งไปที่หมาป่ากระหายเือย่างรวดเร็ว แต่ละคนแย่งชิงกันสุดตัวเพื่อให้ได้หัวใจหมาป่ากระหายเืชิ้นนั้นมา ...