ตู้เ้าฮุยแนะนำให้เซี่ยเสี่ยวหลานไปถ่ายละครที่ฮ่องกง แน่นอนว่าเซี่ยเสี่ยวหลานรู้ด้านมืดของวงการบันเทิงฮ่องกงในยุค 80 ดังนั้นคำแนะนำนี้ของเขาทำเอาเธอรู้สึกสะอิดสะเอียนเหลือเกิน
“เสี่ยวหลาน ไปทำอะไรมา เธอดูหงุดหงิดนะ”
โจวลี่ิ่เรียกเธอไว้ เซี่ยเสี่ยวหลานโบกมือไปมา “หยุดพูดเถอะ ฉันเจอคุณชายฮ่องกงคนนั้นอีกแล้ว เขาถามฉันว่าอยากไปถ่ายละครที่ฮ่องกงไหม!”
พูดให้คนอื่นฟังคงไม่เป็ไร แต่หากบอกกับโจวลี่ิ่ เธอย่อมรู้สึกไม่พอใจ โจวลี่ิ่เป็คนหยางเฉิง ดาราสาวที่ฮ่องกงเป็อย่างไร คนหยางเฉิงล้วนรู้ได้จากหน้าหนังสือพิมพ์และนิตยสารของฮ่องกง โจวลี่ิ่หน้าแดงก่ำ โมโหจนเสียงสั่น
“เสี่ยวหลาน เธออย่าเชื่อเขาเด็ดขาดเลยนะ เป็ดาราไม่ใช่อาชีพที่ดีอะไรเลย”
วันนี้มีดาราสาวกลายเป็คู่ควงเศรษฐีใหญ่ที่แต่งงานแล้ว พอพรุ่งนี้กลับถูกดาราสาวอีกคนแย่งไป ข่าวบันเทิงบนหนังสือพิมพ์เขียนแต่ข่าวฉาวของดาราในลักษณะนี้ โจวลี่ิ่รู้สึกว่ามันคือทางเลือกที่เลวร้ายที่สุด เสี่ยวหลานสอบติดหัวชิงแล้ว ใช่ว่าจะเลี้ยงดูตัวเองไม่ได้เสียหน่อย ทำไมต้องไปถ่ายละครที่ฮ่องกงด้วย... ถุย ตู้เ้าฮุยจากเครือเชิงหรงคนนั้น ดูภายนอกก็พอไปวัดไปวา แต่ที่แท้กลับไม่ใช่คนดีแม้แต่น้อย!
“ฉันไม่ไปอยู่แล้ว แต่เขาน่ารำคาญเหลือเกิน”
เซี่ยเสี่ยวหลานค้นพบแล้วว่า คนมีเงินและมีอำนาจมักชอบพูดเองเออเอง ไม่ว่าจะเป็ติงอ้ายเจิน คนตระกูลเหลียง หรือจี้หย่า รวมถึงตู้เ้าฮุยด้วยเช่นกัน
คนพวกนี้มีอภิสิทธิ์เหนือผู้อื่น จึงไม่เคยคิดถึงความรู้สึกของคนอื่น และมักคิดว่าความคิดของตนเป็สิ่งที่ถูกต้อง แม้เซี่ยเสี่ยวหลานจะปฏิเสธสักกี่ครั้ง พวกเขาก็ยังคงทำตามความคิดของตัวเอง
คำว่าให้เกียรติผู้อื่นน่ะหรือ?
ไม่เคยมีอยู่ในพจนานุกรมของพวกเขาหรอก
คนพวกนี้ให้เกียรติแค่กับคนที่มีอำนาจมากกว่า หรืออย่างน้อยๆ ก็ต้องอยู่ในระดับเดียวกัน!
ก็เหมือนครอบครัวของหลิวฟาง พวกเขาคิดว่าเซี่ยเสี่ยวหลานไม่มีคนหนุนหลังจึงรังแกเธออย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใด ถ้าเป็เซี่ยเสี่ยวหลานในปัจจุบัน ตระกูลเหลียงคงไม่กล้าบีบบังคับให้เธอแต่งงานกับฝานเจิ้นชวนอย่างแน่นอน
หลังจากนั้นก็คือจี้หย่า แม้เซี่ยเสี่ยวหลานจะมี ‘คนหนุนหลัง’ แต่สุดท้ายก็ไม่ใช่ความสามารถของตัวเธอเอง ดังนั้นตระกูลจี้ถึงไม่ให้ค่า
ตระกูลตู้จากฮ่องกงแม้จะไม่มีอำนาจในแผ่นดินใหญ่ ถึงอย่างไรเขาก็เป็ถึงนักลงทุนที่มีหน้ามีตา คุณชายใหญ่ตู้ย่อมไม่เห็นเด็กนักศึกษาอย่างเซี่ยเสี่ยวหลานอยู่ในสายตา
ทำไมคุณชายใหญ่อย่างเขาต้องให้เกียรติลูกสาวขอผู้คุ้มกันคนหนึ่งด้วย?
สิ่งที่ตู้เ้าฮุยไม่ได้ทำเกินเลยเหมือนคนอื่นคือ เขาไม่ได้ใช้มหาวิทยาลัยมาเป็เครื่องมือกดดันเธอ มิเช่นนั้น หลังบริจาคเงินห้าล้านหยวน ขอแค่ตู้เ้าฮุยบอกกับทางมหาวิทยาลัยสักคำว่า จะขอให้เซี่ยเสี่ยวหลานไปเยี่ยมพ่อบังเกิดเกล้าที่ฮ่องกงสักครั้ง มันก็คงไม่ใช่เงื่อนไขที่เกินไปแต่อย่างใด...
เหอะๆ อีกทั้งคนเรามักจะสงสารผู้ที่อ่อนแอกว่าอยู่เสมอ ตอนนี้เซี่ยต้าจวินกำลังาเ็ ดังนั้นเขาคือฝ่ายที่อ่อนแอ!
แค่ประโยคที่ว่า ‘พ่อแม่ถูกต้องเสมอ’ ก็สามารถปิดปากเซี่ยเสี่ยวหลานได้สนิทแล้ว
สาเหตุที่เซี่ยเสี่ยวหลานรู้สึกหงุดหงิดก็คือจุดนี้ ไม่มีใครให้เกียรติเธอเลยสักคน เดิมทีการได้รับเกียรติจากทุกคนก็เป็เื่ยากอยู่แล้ว เซี่ยเสี่ยวหลานคิดว่าตนพอจะมีความสามารถอยู่บ้าง เธอสามารถโดดเด่นได้ยิ่งกว่าตอนนี้ แต่เพราะระยะเวลาที่สั้นเกินไป ทำให้เธอไม่สามารถทำตามแผนธุรกิจของตนอย่างเต็มที่ อีกทั้งคนพวกนี้ก็ได้โผล่มาไม่หยุดหย่อน
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้มีความแค้นใหญ่หลวงกับตู้เ้าฮุย แม้ตู้เ้าฮุยจะทำให้เธอหงุดหงิด แต่ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนแก่เธอเหมือนจี้หย่า
ความหงุดหงิดเช่นนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะตู้เ้าฮุยเพียงอย่างเดียว แต่เป็เพราะเธอหงุดหงิดตัวเอง
ยังใช้ชีวิตไม่ดีพอ!
โจวลี่ิ่โกรธแทนเซี่ยเสี่ยวหลาน ทำให้เซี่ยเสี่ยวหลานรู้สึกหงุดหงิดน้อยลงไปบ้าง
“ช่างเถอะ ฉันไม่อยากถือสาคนประเภทนี้ ถ้าเขาฟังคำปฏิเสธไม่เข้าใจ ฉันก็จะบอกเื่นี้กับทางมหาวิทยาลัย”
บริจาคเงินแล้วแน่นักหรือ มีสิทธิ์คุกคามนักศึกษาหญิงหรืออย่างไร
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่เคยกลัวการทำให้เป็เื่ใหญ่ ถ้าตู้เ้าฮุยยังไม่ตัดใจ เซี่ยเสี่ยวหลานไม่เพียงจะบอกกับทางมหาวิทยาลัย แต่เธอจะไปแจ้งความอีกด้วย เธอจะบอกว่าตู้เ้าฮุยพยายามล่อลวงเธอไปฮ่องกง อาจ้าทำการค้ามนุษย์ หรือไม่ก็ฝึกให้เธอกลายเป็สายลับกลับมาสืบข่าวของประเทศ เอาเป็ว่าแบบไหนที่ทำให้ตู้เ้าฮุยรู้สึกคลื่นไส้ได้ เธอก็จะพูดแบบนั้น
โจวลี่ิ่ฟังแล้วอ้าปากค้างตาโต ผ่านไปครู่ใหญ่ถึงยกนิ้วโป้งให้
“ฉันไม่น่าเป็ห่วงเธอเลย ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถรังแกน้องหกของพวกเราได้ง่ายๆ!”
วิธีการที่เรียบง่ายตรงไปตรงมาของเซี่ยเสี่ยวหลานชี้ทางสว่างให้กับโจวลี่ิ่ มีเื่ยุ่งยากที่จัดการไม่ได้ก็ควรไปหาคุณตำรวจที่โรงพัก คุณชายใหญ่ตู้ควรดีใจเสียอีกที่ตอนนี้คือมกราคมของปี 1985 ถ้าเขามาก่อนหน้านี้สักครึ่งปี ่ฤดูร้อนของปีที่แล้วยังไม่สิ้นสุดการปราบปรามอาชญากร เสี่ยวหลานสามารถไปแจ้งความจับเขาข้อหาก่อความวุ่นวายได้ด้วยซ้ำ!
เป็นักธุรกิจฮ่องกงแล้วอย่างไร?
่ปราบปรามอาชญากรรม ขนาดลูกหลานของข้าราชการยังต้องถูกลงโทษ!
โจวลี่ิ่ควงแขนเซี่ยเสี่ยวหลานเดินในรั้วมหาวิทยาลัยอย่างภาคภูมิใจ ความมั่นใจมาจากไหนน่ะหรือ ก็มาจากสถานภาพนักศึกษาอย่างไรเล่า เพราะไม่ยอมก้มหัวให้กับอำนาจเงิน เป็คุณชายนักธุรกิจชาวฮ่องกงคิดว่าดีเด่นักหรือ ถึงอย่างไรนักศึกษาในยุค 80 ก็สามารถดูแคลนเขาได้ ไม่สนใจเขาได้ก็แล้วกัน!
—-----------------------------------------------------
คุณชายตู้ไม่เคารพผู้อื่น ไม่ใช่แค่เฉพาะบุคคล
เขาไม่สนใจความคิดของเซี่ยเสี่ยวหลาน และไม่เห็นหวังก่วงผิงอยู่ในสายตาด้วยเช่นกัน
หวังก่วงผิงทำการสั่งสอนคุณชายใหญ่ตู้อย่างรวดเร็ว ตู้เ้าฮุยได้รับเอกสารแจ้งว่า เงินบริจาคก้อนนี้ดำเนินการอย่างไม่ถูกต้อง
คุณชายใหญ่ตู้กับทางหัวชิงถูกหวังก่วงผิงทำเอามึนงงกันไปหมด
บริจาคเงินผิดตรงไหน?
ตู้เ้าฮุยเพิ่งเคยเจอเื่แบบนี้เป็ครั้งแรก เขาหัวเราะเสียงเย็นให้กับไกด์
“ผมเพิ่งเคยเจอเื่แบบนี้เป็ครั้งแรก อยากให้เงินดันมีคนไม่อยากได้เสียนี่”
เขาพูดจนไกด์อับอายและรู้สึกผิด
ดูอย่างไรการบริจาคเงินก็เป็เื่ดี ทว่าฝ่ายอุดมศึกษากลับบอกว่าไม่ถูกต้องตามขั้นตอน ไม่มีหน่วยงานผู้รับผิดชอบหรือกฎระเบียบที่แน่ชัด ทางหัวชิงย่อมมิอาจคัดค้านได้
นักธุรกิจฮ่องกงอยากบริจาคเงินให้หัวชิง แต่ไม่บริจาคให้กับมหาวิทยาลัยอื่น แล้วหัวชิงจะทำอะไรได้?
ถ้าจะให้เอาเงินห้าล้านมาแบ่งสันปันส่วนกระจายให้กับมหาวิทยาลัยทั่วทั้งประเทศ หัวชิงยินดี แต่นักธุรกิจฮ่องกงจะยินยอมด้วยหรือ?
ไกด์รู้สึกว่าเื่นี้เกิดขึ้นเพราะตู้เ้าฮุยทำให้รองหัวหน้าหวังไม่พอใจ
คนบางคนช่วยเหลือใครไม่ได้ แต่เก่งในเื่ขัดลาภผู้อื่น หวังก่วงผิงค่อนข้างขึ้นชื่อเกี่ยวกับเื่นี้ โดยเฉพาะหลังกลับปักกิ่งมาแล้วหน้าที่การงานของเขาไม่ราบรื่นนัก เขาคงอดกลั้นเพลิงโทสะไว้ในใจมานานแล้วอย่างแน่นอน
คนที่เมื่อก่อนตำแหน่งงานเท่าเขา ตอนนี้ก้าวหน้ากว่าเขากันหมด
พวกโง่เง่าที่เมื่อก่อนเขาเคยดูถูกดูแคลน กลับมายึดตำแหน่งงานในอดีตของเขาไป
พวกโง่เง่าได้รับตำแหน่งสำคัญ แต่คนมีความสามารถอย่างเขากลับถูกเมินเฉย หลังหวังก่วงผิงกลับมาที่ปักกิ่ง สภาพจิตใจและชีวิตของเขาก็ไม่มั่นคงนัก ชีวิตพบเจอแต่อุปสรรค ขนาดลูกชายนักธุรกิจฮ่องกงก็ยังดูถูกเขา ในเมื่อคนหนุ่มไม่รู้จักวางตัว หวังก่วงผิงจะเป็คนช่วยสั่งสอนให้เอง!
ตู้เ้าฮุยมีหรือจะทนไหว เขาที่อยู่ในวัยคึกคะนองเช่นนี้มีหรือจะยอมทน?
ทั้งสองคนต่างทำาเย็นกัน ตู้เ้าฮุยควักเงินอีกสามล้านบริจาคให้กับจิงต้า เหรินต้า และจิงซือต้า มหาวิทยาลัยละหนึ่งล้านหยวน ทั้งสามครั้งล้วนไม่ผ่านการอนุมัติจากฝ่ายอุดมศึกษา... ไม่มีหน่วยงาน ไม่มีกฎระเบียบ แต่คุณชายใหญ่ตู้มีเงิน!
แผนลอบกัดของเขาชั่วร้ายยิ่งนัก บริจาคเงินให้หัวชิงห้าล้าน บริจาคให้จิงต้ากับเหรินต้าและที่อื่นๆ หนึ่งล้าน หลังบริจาคเสร็จก็ยังทำสีหน้าลำบากใจ บอกว่าเครือเชิงหรงมีใจอยากช่วยเหลือด้านการศึกษา นึกไม่ถึงเลยว่ากฎระเบียบของแผ่นดินใหญ่จะเข้มงวดเช่นนี้ เงินหนึ่งล้านที่เขาบริจาคไปนั้น เขาไม่้าสร้าง ‘กองทุนเพื่อการศึกษาเชิงหรง’ อะไรทั้งสิ้น ทั้งสามมหาวิทยาลัยสามารถใช้ได้ตามใจชอบ
เขาบอกว่ากลัวฝ่ายอุดมศึกษาจะเข้ามาขัดขวาง ดังนั้นถึงล้มเลิกแผนที่จะให้ทุนการศึกษา และทำแค่บริจาคเงินจำนวนหนึ่งล้านหยวนเท่านั้น
จิงต้าเป็มหาวิทยาลัยแห่งแรกที่ไม่พอใจ
เห็นพวกเขาเป็ลูกเมียน้อยหรืออย่างไร?
ให้หัวชิงห้าล้าน แต่จิงต้ากลับได้แค่หนึ่งล้าน ฝ่ายอุดมศึกษาขัดขวางกันเช่นนี้ เพราะอยากมีเื่กันหรืออย่างไร หรือเพราะเห็นว่าเป็จิงต้าเลยต้องได้รับสิ่งที่ด้อยกว่าหัวชิง?