เอาล่ะหลังจากตัดฉากไปยังเื่ของ มาเรีย อยู่หลายตอนเราก็มากลับมาดูทางด้านลุคสักหน่อยดีกว่า
นิคที่ได้พบกับ รูริ ก็หอนอยู่พักใหญ่
นิคหอบหายใจแรงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยันกายลุกขึ้นนั่งอย่างช้า ๆ สีหน้าที่เมื่อครู่ยังเต็มไปด้วยความเพ้อคลั่ง กลับเปลี่ยนเป็สงบนิ่งราวกับคนละคน
เขาสูดหายใจลึก แล้วปัดเสื้อผ้าที่เปื้อนฝุ่นเล็กน้อย พลันเผยร่างหนุ่มหล่อรูปร่างสมส่วน ผมสีเข้มตัดกับดวงตาคม ที่เปล่งประกาย แม้จะมีรอยยิ้มเ้าเล่ห์ติดอยู่บนใบหน้า แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเขามีเสน่ห์ในแบบผู้กล้า
“ฮะ ๆ โทษทีนะ... เมื่อกี้ข้าอาจจะทำให้ใกันไปหน่อย”
นิคเอ่ยขึ้นก่อน ยกมือเกาศีรษะราวกับคนทำเื่ขายหน้า
รูริที่ยังคงนั่งอยู่ข้างโต๊ะปรุงยา เงยหน้าขึ้นนิดเดียวเพื่อมองเขาอย่างระมัดระวัง สีหน้าของเธอยังคงเรียบสงบ ไม่ได้พูดอะไรในทันที
นิคจึงยิ้มบาง ๆ แล้วเปลี่ยนเื่พลางชำเลืองไปยังโต๊ะที่เต็มไปด้วยขวดน้ำยาและสมุนไพร
“หืม... สูตรผสมนี้ไม่เลวเลยนะ สัดส่วนผงรากชินเดียกับน้ำกลั่นบริสุทธิ์นี่ ถ้าเติมใบฮิวมิเดียอีกนิดล่ะก็ จะได้ยาเพิ่มกำลังชั้นกลางที่เสถียรมากทีเดียว”
คราวนี้รูริจึงเพียงพยักหน้าเล็กน้อยเป็การตอบรับ ไม่ได้เอ่ยคำพูด แต่ก็ไม่แสดงท่าทีปฏิเสธหรือรังเกียจ เธอเพียงรักษามารยาทในฐานะเ้าของบ้าน
นิคยิ้มกว้างขึ้นอย่างพอใจ
“อ้อ ข้าเป็ทั้งนักเล่นแร่แปรธาตุและนักปรุงยาน่ะ ของแบบนี้แค่ดมกลิ่นกับดูสีก็พอจะคาดเดาได้แล้ว”
รูริหยุดมือที่กำลังบดสมุนไพรไปชั่วครู่ เธอชะงักนิดหนึ่งเหมือนกำลังชั่งใจ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นพอสมควร ยิ้มบาง ๆ เพื่อตอบรับโดยไม่เอ่ยคำใด
ลุคที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ถึงกับเม้มปากแน่น เขามองออกทันทีว่า นิคกำลังพยายามจีบน้องสาวของเขา แม้จะไม่พูดคำหวานตรง ๆ แต่แววตาและท่าทางบอกหมด
“ว่าแต่”
นิคหันกลับมามองลุค สีหน้าที่เมื่อครู่ยังดูขี้เล่นกลับเปลี่ยนเป็จริงจังขึ้น
“ข้ามาที่นี่เพราะอยากขอความร่วมมือ พวกเรากลุ่มผู้กล้าของริค ้านักปรุงยาและนักเล่นแร่แปรธาตุคอยสนับสนุนระหว่างการเดินทาง”
ลุคชะงัก ใจเต้นแรงทันที แต่พยายามตอบเสียงนิ่ง
“กลุ่มผู้กล้าน่ะหรือ...?”
“ใช่แล้ว”
นิคพยักหน้าช้า ๆ
“เราเผชิญหน้ากับอสูรและภัยต่าง ๆ มามาก ยาและน้ำยารักษาเป็สิ่งที่ขาดไม่ได้ หากมีนักปรุงยาฝีมือดีอย่างนาง”
เขาชำเลืองไปทางรูริอีกครั้ง ดวงตาทอประกายวูบวาบ
“ก็คงช่วยเราได้มหาศาล”
รูริหยุดมือที่กำลังบดสมุนไพรเล็กน้อย ชะงักและเงยหน้าขึ้นพอสมควร ยิ้มบาง ๆ แต่เธอก็มีสีหน้ากังวลเล็กน้อย ดูเหมือนรอยยิ้มของเธอจะทำไปเพื่อกลบความกังวล
เธอแค่รับฟังโดยไม่เอ่ยคำตอบใด ๆ
ลุครีบพูดแทรกทันที
“ไม่จำเป็ต้อง....”
แต่ก็หยุดกลางคัน เขาอยากรีบ ปฏิเสธ แต่เพราะรู้ตัวดีว่าถ้าทำตัวขัดขวางมากเกินไป อาจทำให้ผู้กล้าอย่างนิครู้สึกไม่พอใจ
เขากำหมัดแน่นข้างลำตัว มองรูริด้วยแววตาเป็ห่วงสุดขีด แต่ทำได้เพียงกลั้นไว้ในใจ
นิคยิ้มอ่อนโยนขึ้นเล็กน้อย
“ไม่ต้องรีบหรอก ข้าแค่มาแนะนำตัว และอยากบอกว่าถ้าวันใดเ้าพร้อม กลุ่มของเราก็จะต้อนรับอย่างเต็มใจ”
เขาพูดจบก็หันไปส่งยิ้มให้รูริอีกครั้ง แม้เธอจะเพียงพยักหน้าเบา ๆ ตอบกลับ แต่ท่าทางสงบเสงี่ยมและการรักษาน้ำใจของเธอ ก็เพียงพอที่จะทำให้หัวใจของผู้กล้าแห่งสายฟ้าพองโต
ลุคกลับทำได้เพียงขมวดคิ้วแน่น สีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย เพราะเขารู้ตัวดี ว่าเขาเป็เพียงคนธรรมดา และไม่อาจขัดใจผู้กล้ามากไปกว่านี้ได้
เขารู้ตัวดีว่าเขาและ รูริ สุดท้ายแล้วก็คงจะปฏิเสธ คำขอ ความร่วมมือจากกลุ่มผู้กล้าไม่ได้แน่ๆ