ทางตะวันออกของเมืองเทียนเฉิน
ป่าแห่งนี้ดูเหมือนจะมีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ที่แห่งนี้มีพื้นที่เขียวขจีทอดยาวออกไปสิบกว่าลี้ แต่หลังจากที่ห้วงเวลาแห่งโชคชะตาหายไป การระส่ำระสายของหอคอยแห่งโชคชะตาก็ดึงดูดไอปีศาจให้ทะลักเข้ามา ผืนป่าที่มีพลังหยินแทรกซึมอยู่นี้ดูดซับความโลภและสะสมไอปีศาจจากที่ห่างไกลเอาไว้ ระยะเวลาสามปีพืชพรรณในที่แห่งนี้ก็กลายเป็สีเทาๆดำๆไปเล็กน้อย บรรยากาศสดชื่นน่ารื่นรมย์ที่เคยมีก็หายไปแล้วถูกแทนที่ด้วยกลิ่นอายแห่งความตายที่กดทับผู้คนเอาไว้
สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ของป่าก็ค่อยๆถูกเปลี่ยนให้กลายเป็ปีศาจอย่างช้าๆไปมากบ้างน้อยบ้างภายใต้สภาพแวดล้อมเช่นนั้น ทำให้ผืนป่าที่เคยปกติสุขกลายเป็แหล่งรวมมอนสเตอร์ปีศาจ และชื่อของป่าแห่งนี้ก็กลายเป็......ป่าเงาปีศาจ
“เอาล่ะ มันคือที่นี่แหละ”
เมื่อมาถึงชายขอบของป่าเงาปีศาจเย่เทียนเซี่ยก็หยุดฝีเท้าลงแล้วหันกลับมาพูด “เตรียมตัวพร้อมหรือยัง มอนสเตอร์ข้างในน่าจะเป็มอนสเตอร์เลเวล 15 ขึ้นไป ทุกคนระวังหน่อยก็แล้วกัน พั่วจวิน นายไม่ต้องกังวลหรอก นายแค่ปกป้องชิวสุ่ยให้ดีก็พอ”
ซูเฟยเฟยได้ยินดังนั้นในใจของเธอก็รู้สึกถึงความอ่อนหวานขึ้นมา จั้วพั่วจวินคอยปกป้องมู่หรงชิวสุ่ย แบบนี้ก็หมายความว่า........ เขาจะมาปกป้องเธอ
“เฟยเฟย ตั้งใจปกป้องตัวเองและฟื้นฟูให้ดีล่ะ....... แล้วก็อย่าไปไกลจากฉันนักนะ”
“รู้แล้ว” เสียงซูเฟยเฟยตอบกลับไปเบาๆ เธอลูบคฑาเวทมนต์ในมือไปมาเบาๆ ไอเทมบนร่างของเธอล้วนเป็ไอเทมขาวทั้งตัว........ เอาเถอะ จริงๆแล้วเย่เทียนเซี่ยก็ไม่ได้หวังว่าเธอจะทำอะไรได้อยู่แล้ว อย่างน้อยตอนนี้เธอก็เป็ขวดน้ำยาที่สมบูรณ์
“วางใจเถอะพี่รอง ตอนนี้ถึงผมจะมีเลเวลแค่ 13 แต่เืของผมก็มีตั้งพันกว่า มากกว่าพี่รองเยอะอยู่หรอกน่า” จั้วพั่วจวินสวมใส่โล่ทองแดงและดาบธรรมดาเล่มหนึ่ง เขาลูบอกตัวเองแล้วพูดออกมา เมื่อเย่เทียนเซี่ยเลื่อนระดับเขาก็นำค่าคุณสมบัติทั้งหมดของเขาไปเพิ่มใส่ค่าพละกำลังจนหมด ค่าคุณสมบัติอิสระของจั้วพั่วจวินก็ล้วนเติมไปที่ค่าความแข็งแกร่งเช่นกัน....... นี่คือวิถีของผู้พิทักษ์เต็มตัว!
ผู้พิทักษ์คือจิติญญาแห่งการปกป้องของทีมผู้เล่น และเป็ปราการป้องกันสำคัญในการท้าทายบอสระดับสูงด้วย เมื่อเขาเปลี่ยนอาชีพจากผู้พิทักษ์ฝึกหัดมาเป็ผู้พิทักษ์ที่แท้จริง พลังชีวิตและความสามารถในการป้องกันของผู้พิทักษ์ก็จะขยับขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง และขณะเดียวกันสำหรับผู้เล่นคนอื่น ทุกครั้งที่เพิ่มค่าความแข็งแกร่งก็จะส่งผลให้พลังชีวิตเพิ่มขึ้น 10 หน่วยและทำให้พลังป้องกันเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งหน่วยด้วย แต่ทุกครั้งที่ผู้พิทักษ์เพิ่มค่าความแข็งแกร่งหนึ่งหน่วย พลังชีวิตของพวกเขาจะเพิ่มขึ้น 15 หน่วย และพลังป้องกันก็จะเพิ่มขึ้น 1.5 หน่วย ทุกครั้งที่เลื่อนระดับพลังชีวิตก็จะเพิ่มขึ้นอีก 20 หน่วย นี่คือพลังพิเศษของผู้พิทักษ์ และราคาของมัน.............. ก็คือความสามารถในการโจมตีที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน หากพูดกันในด้านคุณสมบัติผู้พิทักษ์เพิ่มค่าพละกำลังหนึ่งหน่วยก็จะเพิ่มพลังโจมตีได้แค่ 1.5 หน่วยเท่านั้น
จั้วพั่วจวินเลเวล 13 พลังชีวิตของเขาจึงทะลุหนึ่งพันไปแล้ว พลังป้องกันของเขาก็เกือบจะถึงสองร้อย เขาคือผู้นำท่ามกลางผู้พิทักษ์ในเลเวลเดียวกันอย่างไม่ต้องสงสัย ผู้พิทักษ์เป็อาชีพที่ปลอดภัยที่สุด แต่เพราะความสามารถในการโจมตีที่อ่อนแอ มันจึงเป็อาชีพที่ยากจะรุ่งโรจน์และมักจะหายไปตามธรรมชาติ
เย่เทียนเซี่ยไม่พูดอะไร จริงๆแล้วเขาไม่อยากจะเอาตัวเลขสองพันกว่าที่อยู่ด้านหลังพลังชีวิตของตัวเองออกมาป่าวประกาศเพื่อทำลายจิติญญาอันอ่อนแอของจั้วพั่วจวินนัก
“อยู่กับพี่รอง ผมไม่เคยรู้เลยว่าความกลัวมันเป็ยังไง........ เฮ้อ! มีเ้าอ้วนคอยบังอยู่ข้างตัวแบบนี้ คงจะบดบังสายตาของผมที่มองไปที่พี่รองแน่เลย” ไอเทมที่มู่หรงชิวสุ่ยสวมอยู่คือธนูเหล็กกล้า เขาส่ายหัวแล้วพูดออกมา ถ้าไม่ใช่ว่าเข้าใจนิสัยของคนๆนี้อย่างถ่องแท้ ด้วยอารมณ์ร้อนๆของจั้วพั่วจวินคงเลี่ยงไม่ได้ที่จะเตะเขาไปซักทีเป็แน่
“ใช่แล้วพั่วจวิน อันนี้ให้นาย” เย่เทียนเซี่ยหยิบสร้อยข้อมือวัวดุคลั่งแค้นซึ่งเป็ไอเทมเงินเลเวล 10 ออกมาจากกระเป๋าแล้วส่งให้กับจั้วพั่วจวิน มันเป็ไอเทมเพียงอย่างเดียวที่เยเทียนเซี่ยมีที่สามารถมอบให้พวกเขาใช้ได้
“อ....ไอเทมเงิน” จั้วพั่วจวินรับมา ดวงตาทั้งสองข้างของเขาเปล่งประกาความตื่นเต้น หลังจากมองคุณสมบัติของมันทันใดนั้นประกายในดวงตาของเขาก็แกร่งกล้าขึ้นมาหลายส่วน จากนั้นเขาก็ถอดสร้อยข้อมือที่เคยใส่อยู่ออกไปอย่างไม่อาจรั้งรอแล้วนำสร้อยข้อมือระดับเงินชิ้นใหม่สวมลงไปแทนที่ เขายกมือขึ้นโบกมันไปมาด้วยความพอใจและตื่นเต้น แล้วมองมันอย่างกระตือรือร้น “ว๊าว ดูคุณสมบัติของไอเทมเงินชิ้นนี้สิ ผมเพิ่งรู้ว่าไอเทมทั้งตัวผมมันคือผ้าขี้ริ้วชัดๆ....... ชิวสุ่ย ดูสิดูๆ หล่อไหมล่ะ อิจฉาเปล่า! ฮ่าๆๆๆๆๆ!”
มู่หรวชิวสุ่ยเม้มปากแน่นพลางขมวดคิ้วแล้ว “ปราย” สายตาไปมองเย่เทียนเซี่ย เขาขบริมฝีปากเบาๆแล้วพูดออกมาอย่างน่าสงสาร “พี่รอง..........ผมอ่ะ....... มีบ้างไหม.......”
ถ้ามันเป็ผู้หญิงจริงๆน้ำเสียงเศร้าๆนั้นคงจะมีพลังฆ่าคนตายได้อย่างไม่ต้องสงสัย........ แต่เมื่อมันหลุดออกมาจากปากของผู้ชาย.......... พลังทำลายล้างที่ฆ่าคนตายได้นั้นก็ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว คำว่า “พี่รอง” ที่มู่หรงชิวสุ่ยเพิ่งจะพูดออกมาจากปากนั้นทำให้เย่เทียนเซี่ย จั้วพั่วจวินและซูเฟยเฟยขนลุกกันไปหมด
“พวกเราเข้าไปเถอะ” เย่เทียนเซี่ยเลือกที่จะมองเมินอย่างเห็นได้ชัด แล้วเดินเข้าไปในป่าเงาปีศาจเป็คนแรก
จั้วพั่วจวินมองผ่านสายตาเกลียดชังที่ถูกส่งมาจากมู่หรงชิวสุ่ยแล้วรีบเดินตามหลังเย่เทียนเซี่ยไป ร่างกายใหญ่โตของเขาดูๆไปแล้วราวกับูเาลูกน้อยๆที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ สำหรับไอเทมเงินที่เย่เทียนเซี่ยหยิบออกมา พวกเขาไม่มีความใเลยแม้แต่น้อย ยังจะมีใครสามารถเข้าใจความสามารถของเย่เทียนเซี่ยได้มากกว่าพวกเขาอีกล่ะ
เมื่อเข้ามาในป่าเงาปีศาจแสงสว่างโดยรอบก็มืดมนลงอย่างชัดเจน ที่ทำให้พวกเขาสนใจมากยิ่งขึ้นก็คือที่นี่มันเงียบแปลกๆ เงียบจนน่ากลัว พวกเขาไม่ได้ยินเสียงแมลงหรือเสียงร้องของมอนสเตอร์เลยแม้แต่นิดเดียว ความเงียบนี้ทำให้หัวใจของพวกเขาเต้นถี่แรง
ซูเฟยเฟยเดินเข้าไปใกล้เย่เทียนเซี่ยอีกสองสามก้าวด้วยความกลัวแล้วถามออกมาสียงเบา “เทียนเซี่ย....... ที่นี่น่ากลัวหน่อยๆนะ พวกเราจะต้องอยู่ที่นี่นานเท่าไรเหรอ?”
เธอพยายามกดเสียงให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะกลัวว่าจะไปปลุกมอนสเตอร์อะไรสักอย่างของที่นี่ขึ้นมา ั้แ่เล็กจนโตนี่เป็ครั้งแรกที่ซูเฟยเฟยได้ลิ้มลองประสบการณ์ในป่าอันมืดมิดเช่นนี้ แม้ว่าที่นี่จะเป็สถานที่ในโลกเกมออนไลน์ก็ตาม แต่ทุกอย่างก็ไม่มีอะไรต่างจากโลกแห่งความจริงเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นเธอจึงไม่อาจควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจได้เลย
“ถ้าเ้าเมืองเทียนเฉินไม่ได้โกหกพวกเรา เป้าหมายของภารกิจนี้น่าจะอยู่ที่ใจกลางของป่าแห่งนี้ ถ้าเดินต่อไปไม่หยุดก็คงใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าๆ ถ้าพวกเราพยายามหลีกเลี่ยงมอนสเตอร์ก็น่าจะไปถึงเร็วขึ้นนิดหน่อย” เย่เทียนเซี่ยบอก
ระหว่างที่กำลังพูดประโยคนั้นพุ่มไม้ด้านหน้าก็เกิดการสั่นไหวขึ้นทันที แล้วเงาร่างสีน้ำตาลหกถึงเจ็ดเงาก็พุ่งทะยานตรงมาทางเย่เทียนเซี่ย
จั้วพั่วจวินและมู่หรงชิวสุ่ยมีปฏิกิริยาตอบสนองพร้อมกันั้แ่แวบแรก มู่หรงชิวสุ่ยถอยหลังไปก้าวหนึ่งพร้อมกันกับที่ธนูและลูกศรลูกหนึ่งปรากฏขึ้นในมือของเขา จั้วพั่วจวินก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวเพื่อป้องกันคนด้านหลังเอาไว้แล้วตั้งโล่ไปทางด้านหน้า ทักษะ “ยั่วยุ” ถูกใช้ออกไปกับเงาร่างที่อยู่ด้านหน้าและขณะเดียวกันเขาก็ะโออกมาเสียงดัง “เข้ามา!!!”
เมื่อเปลี่ยนจากผู้พิทักษ์ฝึกหัดเป็ผู้พิทักษ์ที่แท้จริง ทักษะยั่วยุเป้าหมายเดี่ยวก็กลายเป็ทักษะยั่วยุแบบกลุ่มอันเป็เอกลักษณ์ของผู้พิทักษ์ มันจะดึงดูดความเกลียดชังของมอนสเตอร์ที่อยู่ในรัศมีโดยรอบ แต่ร่างของจั้วพั่วจวินเพิ่งจะยืนได้มั่นคงเงาสายหนึ่งก็พุ่งวาบออกมาจากข้างกายของเขา
แรคคูนปีศาจ : เลเวล 15 พลังชีวิต 600
เดิมทีมันคือแรคคูนธรรมดาๆชนิดหนึ่ง แต่หลังจากได้รับผลกระทบจากไอปีศาจก็บ้าคลั่งและมันจะจู่โจมสิ่งมีชีวิตที่เข้าใกล้ก่อนโดยอัตโนมัติ
พร์ : ไม่มี
ทักษะ : ไม่มี
จุดอ่อน : เนื่องจากมีคุณสมบัติของความมืดจึงหวาดกลัวต่อแสงสว่างและธาตุไฟ
“ทักษะเงาัสะบั้น!”
ร่างของเย่เทียนเซี่ยพุ่งเข้ามาราวกับสายฟ้าเส้นหนึ่ง เขาปรากฏขึ้นมาในกรอบสายตาของคนทั้งสามแล้วพุ่งตัวออกไปเป็ระยะห้าเมตรทันที แรคคูนปีศาจหกเจ็ดตัวที่เพิ่งจะพุ่งออกมามีสี่ตัวที่ถูกเลือกให้เป็เป้าหมายในระยะโจมตีของ “เงาัสะบั้น” และพลังชีวิตของแรคคูนปีศาจสี่ตัวนั้นก็ถูกกวาดไปจนเกลี้ยงทันที หลังจากที่ถอยหลังกลับมาเขาก็หมุนตัวแล้ววาดห้วงเวลาแห่งโชคชะตาไปทางแรคคูนปีศาจอีกสามตัวที่เหลือที่เพิ่งจะพุ่งถึงพื้นดิน
-669,-672,-669!
เงาสายหนึ่งตวัดวูบกวาดไปที่แรคคูนปีศาจทั้งสามตัวนำมาซึ่งตัวเลขสีแดงสดสามตัวและเสียงร้องอันแปลกประหลาดของแรคคูนสามตัวที่ดังขึ้นมาพร้อมกัน
เงาัสะบั้น.............. เขาหมุนตัวกวักแกว่งโดยใช้เวลาทั้งหมดไม่ถึงครึ่งวินาทีแรคคูนปีศาจที่พุ่งออกมาทั้งเจ็ดตัวก็ลงไปกองเป็ซากศพอยู่บนพื้นจนหมดพร้อมกับดรอปเหรียญทองแดงและน้ำยาจำนวนหนึ่งลงบนพื้น
ภายใต้ทักษะยั่วยุแบบกลุ่มของจั้วพั่วจวินเป้าหมายของการโจมตีของแรคคูนปีศาจทั้งเจ็ดตัวจึงพุ่งมาที่เขาทั้งหมด......แต่ทักษะยั่วยุของจั้วพั่วจวินเพิ่งจะแสดงผลเสร็จยังไม่ทันที่การโจมตีจากมอนสเตอร์จะมาถึง ศัตรูที่ปรากฏตัวออกมาก็ถูกกวาดล้างไปจนหมดสิ้น....... เขายืนแข็งเหมือนหินและดวงตาเบิกกว้างอยู่ตรงนั้น ปากของเขาอ้าค้างกว้างจนสามารถยัดโล่ที่ถืออยู่ในมือเข้าไปได้
และมู่หรงชิวสุ่ยที่เพิ่งจะง้างธนู.......... ลูกศรของเขาก็ยังไม่ทันที่ได้ยิงออกไป ธนูและลูกศรของเขาตกลงบนพื้น เขาเงยหน้าขึ้นแล้วถอนหายใจออกมาอย่างสบายๆ “ดวงจันทร์ เธอคงไม่เข้าใจหัวใจที่เต้นถี่แรงของฉันในตอนนี้...... โอ้! ฉันเห็นอะไรไปเนี่ย.......”
เวลาไม่ถึงสองวินาที เป็เวลาที่ทำให้จั้วพั่วจวิน มู่หรงชิวสุ่ย และซูเฟยเฟยยังไม่ทันจะมีปฏิกิริยาตอบสนองแต่มอนสเตอร์เลเวล 15 เจ็ดตัวก็ถูกสังหารจนสิ้น
“เทียนเซี่ย....... นายเจ๋งมากเลย.......” ซูเฟยเฟยที่ยังคงใอยู่กับแรคคูนเจ็ดตัวที่พุ่งออกมาใช้สองมือลูบหน้าอกอย่างไม่รู้ตัว เธอกระซิบออกมาเบาๆอย่างเหม่อลอย ประกายในดวงตาของเธอดูเหมือนจะสว่างสดใสยิ่งกว่าดวงดาวบนท้องฟ้าเสียอีก
“ไปเถอะ ระวังกันหน่อย ข้างหน้าจะต้องอันตรายแน่นอน” เย่เทียนเซี่ยพูดแล้วเดินต่อไปข้างหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“พ.....พี่รอง พี่ๆๆๆๆ.......พี่โคตร......” จั้วพั่วจวินที่ิญญาเพิ่งกลับเข้าร่างอึกๆอักๆพูดออกมาอย่างติดๆขัดๆ การโจมตีแบบกลุ่มครั้งเดียวในเสี้ยววินาทีมีพลังโจมตีเกินกว่า 600! มันคือพลังการทำลายล้างอันแข็งแกร่งที่ผู้เล่นใน่เวลานี้ยังไม่อาจมีได้......... และการโจมตีที่พุ่งเข้าไปและหมุนตัวกลับมาราวกับสายฟ้าฟาดเมื่อกี้นี้เขาก็เห็นแค่เพียงเงาเลือนรางสายหนึ่งเท่านั้น แต่แรคคูนปีศาจทั้งเจ็ดตัวกลับลงไปนอนกองกับพื้นเสียแล้ว
ที่เขาอยากจะพูดก็คือ..........โคตรบ้าระห่ำเลย
เดิมทีเทียนโม่เซี่ยก็บ้าระห่ำมากพอยู่แล้ว แต่เขาในตอนนั้นมีอาชีพธรรมดาๆเท่านั้น มากสุดก็แค่มีไอเทมที่แข็งแกร่งหน่อย คุณสมบัติโดยรวมก็ไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าผู้เล่นธรรมดามากนัก ที่มาของความแข็งแกร่งของเขาดูเหมือนจะเป็การเคลื่อนย้ายตำแหน่ง ความคล่องตัว การตัดสินใจและการวิเคราะห์ที่แม่นยำราวกับปาฏิหาริย์ แต่วันนี้ตัวเลขความเสียหายมหาศาลทำให้เขารู้ว่าคุณสมบัติของเย่เทียนเซี่ยในตอนนี้ก้าวล้ำผู้เล่นธรรมดาไปไกล...... และมันก็หมายความว่าเขาได้เปลี่ยนจากบ้าระห่ำธรรมดาเป็โคตรบ้าระห่ำไปแล้ว
พร์อันน่าใบวกกับคุณสมบัติอันน่าทึ่งเช่นนี้จะให้ผู้เล่นคนอื่นมีชีวิตอยู่ต่อไปยังไง!!
อาชีพลับของ World of Fate .............. จริงๆแล้วน่ากลัวได้ขนาดนี้เลยเหรอ!
