ขณะที่เกาเซียนจือและเฉินเทียนซานทะยานขึ้นท้องฟ้าไปนั้น ทั้งสองกลับไม่ได้ตระหนักถึงเหตุการณ์ประหลาด ที่เกิดขึ้นรอบหุบเขาไร้โศกแม้แต่น้อย
เพราะปรากฏการณ์แปลกๆ ที่เกิดขึ้นนี้ ไม่อาจเห็นได้เด่นชัดนัก
กลิ่นหอมฟุ้งตลบ ทว่าอ่อนจางชวนพิศวง แพร่ไปทั่วสารทิศในหุบเขาไร้โศก ชายทั้งสองจึงไม่อาจััได้ในตอนนั้น
ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ฝูงมดกำลังเดินเรียงแถวขนอาหาร ทันใดนั้นกลิ่นหอมก็โชยมา
วูบ!
มดทั้งหมดหยุดชะงัก หันหน้ากลับไป และทิ้งอาหารในปากทันที
พวกมดหันหลังกลับ ค่อยๆ ไต่ไปยังทิศทางที่กลิ่นหอมโชยมา
มดมีขนาดเล็ก แต่จำนวนมหาศาล
แม้ว่ากลิ่นจะจาง แต่สำหรับพวกมดแล้ว มันกลับดึงดูดใจยิ่ง
เมื่อกลิ่นหอมแผ่กระจายทั่วทิศ จึงดึงดูดฝูงมดที่อยู่ไกลออกไปเรื่อยๆ
พวกมันทิ้งทุกอย่าง และเริ่มไต่ไปทางถ้ำของกู่ไห่ทันที
เนื่องจากตัวมันเล็กมาก จึงเดินทางได้เชื่องช้า ระหว่างทาง เมื่อหิว พวกมันก็จะหาของกินจากข้างทาง หากเหนื่อยก็แวะพักชั่วครู่ หลังฟื้นพลัง ก็ไต่ไปยังถ้ำนั้นต่อ
มดตัวเล็กๆ ไม่อาจทำให้เกาเซียนจือและเฉินเทียนซานสนใจได้
ผู้ใดจะมาสังเกตมดกัน?
สองวันหลังจากคนทั้งสองจากไป ฝูงมดกลุ่มแรกก็ค่อยๆ มารวมตัวกันที่หุบเขาไร้โศกแล้ว แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่เป็ที่สังเกตอยู่ดี
ฝูงมดกลุ่มแรก แทนที่จะเดินต่อไปที่ถ้ำ กลับเริ่มสังหารกันเอง
เมื่อเวลาล่วงเลยไปเรื่อยๆ มดที่มาถึงหุบเขาไร้โศก ก็เพิ่มขึ้นทุกขณะ มันค่อยๆ ไต่ไปใกล้ถ้ำ
ทางเข้าถ้ำ ถูกเกาเซียนจือและเฉินเทียนซานซ่อนเอาไว้แล้ว เหลือเพียงช่องระบายอากาศเล็กๆ เท่านั้น แต่สำหรับมด ช่องเหล่านี้ก็เหมือนถนนกว้าง นอกจากนี้พวกมันยังก็สามารถเจาะรูเพิ่มได้เองด้วย
...
ภายในถ้ำ
เสี่ยวโหรวได้รับมอบหมายให้คอยดูแลกู่ไห่ นางย่อมตอบตกลงโดยไม่ลังเล อีกทั้งยังมีความสุขมากที่ได้ทำหน้าที่นี้
อสรพิษน้อยเลื้อยไปรอบๆ พร้อมมองชายหนุ่มที่กำลังนั่งขัดสมาธิ นางเอนศีรษะไปหา และค่อยๆ ขยับเข้าใกล้มากขึ้น พลางสูดดมกลิ่นหอมที่มาจากกลางหว่างคิ้วของเขา ราวกับกำลังมึนเมา
กู่ไห่จมจ่อมอยู่ในช่องว่างมิติ ที่หว่างคิ้วของตนอย่างสมบูรณ์
ขณะนี้ หมากหนึ่งแสนกระดานกำลังจับคู่ และหลอมรวมเข้าด้วยกันอย่างต่อเนื่อง กระดานหมากขนาดเล็กสี่กระดานรวมกันเป็กระดานใหญ่หนึ่งกระดาน
หมากดำยังคงมองทุกสิ่งจากเบื้องบน อย่างสง่างามเช่นเคย
ร่างจิตของชายหนุ่ม จ้องเขม็งไปยังหมากซึ่งเคลื่อนที่เร็วขึ้นๆ บนกระดานหมาก ที่มีเส้นแนวตั้งและแนวนอนอย่างละยี่สิบแปดเส้น ซึ่งลอยอยู่ระหว่างผลึกสีขาวและหมากดำ
สมาธิทั้งหมดของเขา ดูเหมือนจะถูกดึงดูดเข้าสู่หมากกระดานนั้น และคล้ายจะมองเห็นบางอย่างได้รางๆ
"การควบคุมค่ายกลด้วยหมากล้อม เช่นนั้นหรือ?" ดวงตาของกู่ไห่สว่างวาบขึ้นทันที
"หมากกระดานนี้ กำลังแสดงให้เห็นถึงวิธีการวางค่ายกล โดยการใช้หมากหรือ? การสร้างค่ายกลนั้น ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนในการแบ่งหยินและหยาง ซึ่งต้องแบ่งให้สมดุลกัน หมากขาวคือตัวแทนของหยาง ซึ่งหมายถึงชีวิต! หมากดำคือตัวแทนของหยิน ซึ่งหมายถึงความตาย!
ค่ายกลหมากล้อม? ใช้เม็ดหมากเป็จุดศูนย์กลาง และรูปแบบของค่ายกล? ค่ายกลหมากล้อมของผู้าุโกวนฉี? ยิ่งทักษะหมากแข็งแกร่งเท่าใด ค่ายกลก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น?" ชายหนุ่มกล่าวด้วยความประหลาดใจ
บางทีการสร้างค่ายกลอาจไม่ง่ายนัก แต่กระดานหมากตรงหน้ากู่ไห่ ก็ได้แสดงวิธีสร้างค่ายกลแบบพิเศษให้ดูแล้ว นี่เป็วิธีการวางค่ายกลโดยใช้หมากล้อม ไม่ใช่เพียงค่ายกลหยินหยาง หรือค่ายกลเป็ตายเท่านั้น ยังมีค่ายกลที่อิงตามความสามารถเชิงหมากด้วย!
กระดานหมากตรงหน้า แสดงให้เขาเห็นทุกอย่างเกี่ยวกับค่ายกลหมากล้อม
มันกำลังสอนวิธีในการเปลี่ยนทักษะหมาก ให้เป็ความแข็งแกร่งในการต่อสู้ ซึ่งน่าสนใจกว่าวิชาใดๆ ที่เขาเคยเรียนมา
ชายหนุ่มมีทักษะหมากที่แข็งแกร่ง แต่ทักษะหมากนั้นกลับใช้เพียงเพื่อความบันเทิง คิดคำนวณ และใช้ในบางสถานการณ์เท่านั้น แต่กระดานหมากตรงหน้า กำลังสอนเขาให้เปลี่ยนทักษะหมาก เป็พลังอันแข็งแกร่ง
ยิ่งทักษะหมากแข็งกล้าเท่าใด พลังก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น!
นี่เป็เคล็ดวิชาที่ช่วยเปลี่ยนความคิดของกู่ไห่ ให้กลายเป็ความจริง ทักษะหมาก มหัศจรรย์ถึงเพียงนี้เชียวหรือ?
"หมากกระดานนี้ แสดงให้เห็นถึงค่ายกลหมากล้อมรูปแบบหนึ่ง และยังแสดงถึงการเปลี่ยนแปลง หลากหลายรูปแบบ? สมกับเป็ผู้าุโกวนฉีผู้เก่งกาจที่สุดในใต้หล้าจริงๆ นี่คงเป็กฎ์อย่างหนึ่งสินะ?” แววตาของเขาเปล่งประกายวาบ
ในตอนนี้ ชายหนุ่มเพ่งสมาธิมากขึ้น หมกมุ่นอยู่กับกระดานหมากนั้น ราวกับไม่อยากคลาดสายตาแม้แต่เสี้ยววินาที หรือบางทีทั้งหมดนี้ อาจต้องขอบคุณทักษะหมากอันเหนือสามัญของเขา ที่ทำให้สามารถเข้าใจมันได้อย่างลึกซึ้ง หากเปลี่ยนเป็ผู้อื่นมามองดู มันย่อมไม่ต่างจากกระดานหมากธรรมดาแน่
กระดานหมากส่งกลิ่นหอม พร้อมไอพลังจางๆ ออกมาทุกครั้ง ที่เม็ดหมากเคลื่อนไหว
เมื่อเสี่ยวโหรวได้กลิ่นนั้น นางก็เอาแต่จ้องมองกู่ไห่อย่างโง่งม
...
ไม่ทราบผ่านไปนานเท่าใด
"อ๊า!"
จู่ๆ อสรพิษน้อยก็รู้สึกเ็ปที่หาง คล้ายว่าถูกขบกัด มีเืซึมเล็กน้อย
เสี่ยวโหรวพลันรู้สึกตัวตื่นจากภวังค์ หันหน้าไปมองรอบๆ
“อ๊า!”
อสรพิษน้อยกรีดร้องเสียงดัง เมื่อเห็นเืไหลจากหางของตัวเอง บนาแเปื้อนเืนั้น มีมดนับพันๆ ตัวไต่อยู่ ทั้งมันยังกัดและกินเืนางอยู่ แต่นั่นยังไม่เท่าไร
ที่น่ากลัวที่สุดก็คือ เวลานี้ในถ้ำเต็มไปด้วยมดที่ไต่เต็มพื้นและผนัง
"เกิดสิ่งใดขึ้น?" เสี่ยวโหรวร้องด้วยความใ
ปัง!
อสรพิษน้อยหมุนตัวและเหวี่ยงหาง ทำให้มดจำนวนมากถูกสะบัดออกไปทันที
อย่างไรก็ตาม ในถ้ำก็เต็มไปด้วยฝูงมดแล้ว ที่ปากถ้ำ มีมดจำนวนมหาศาล ดูราวกับเนินเขาขนาดย่อม ขวางทางเข้าถ้ำเอาไว้
"เหตุใดจึงมีมดมากมายเช่นนี้? มีมากมายเช่นนี้ ได้อย่างไร?" เสี่ยวโหรวร้องอุทานอย่างตื่นตระหนก
อสรพิษน้อยหันกลับไปมองชายหนุ่ม
"ผู้มีพระคุณ รีบตื่นเร็ว แย่แล้ว ผู้มีพระคุณ!" เสี่ยวโหรวจวนจะร่ำไห้แล้ว
ทว่าเวลานี้ กู่ไห่ได้จดจ่ออยู่กับกระดานหมากอย่างสมบูรณ์ จิตดิ่งลึกขึ้นเรื่อยๆ ค่ายกลหมากล้อมอาจดูเรียบง่าย แต่มีตัวแปรมากมาย จนแม้แต่ผู้มีสติปัญญาน่าทึ่งอย่างเขา ยังต้องเพ่งสมาธิเต็มที่
เมื่อทุ่มความสนใจทั้งหมดไปที่กระดานหมาก ชายหนุ่มก็เหมือนตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง ไม่ได้ยินสิ่งใดแม้แต่น้อย
"ผู้มีพระคุณ รีบตื่นเร็วเข้า!" นางร้องเรียกอย่างกระวนกระวาย
แต่กู่ไห่กลับไม่อาจตื่นขึ้นมาได้ในเวลานี้
ขณะเดียวกัน มดจำนวนนับไม่ถ้วน ก็กำลังมุ่งหน้าไปยังชายหนุ่ม
“แย่แล้ว เพราะกลิ่นนั่น ต้องเป็เพราะกลิ่นหอมนั่นแน่!” เสี่ยวโหรวร้องโพล่งอย่างใ
ซ่าๆๆ
มดยังคงเดินเข้าหากู่ไห่
"อย่าแตะต้องเขานะ อย่าแตะต้องผู้มีพระคุณของข้า ตายเสียเถอะ!" เสี่ยวโหรวร้องะโ
ปังๆๆ!
นางสะบัดหางอย่างรวดเร็วและเหวี่ยงพวกมดออกไป อย่างไรก็ตาม เพราะมันมีขนาดเล็กเกินไป จึงเป็ไปไม่ได้เลย ที่นางจะกำจัดพวกมันทั้งหมดได้ด้วยการกวาดหาง ยังมีบางตัวก็ลอดช่องว่างและไต่ไปทางชายหนุ่ม
อสรพิษน้อยรู้สึกกระวนกระวายยิ่ง นางเหวี่ยงหางเข้าใส่พวกมดอย่างต่อเนื่อง
"แย่แล้วๆ จำนวนมดเพิ่มขึ้นทุกที ข้าต้องพาผู้มีพระคุณออกไป หากยังอยู่ที่นี่ ไม่ช้าก็เร็ว มันต้องกินเขาแน่!" เสี่ยวโหรวกล่าว น้ำเสียงหวั่นวิตก
มดมีขนาดเล็กมาก อยากฆ่าให้หมดก็ไม่ใช่เื่ง่าย อีกทั้งหากมันมีจำนวนมาก สถานการณ์ก็จะต่างออกไป ดังคำกล่าวที่ว่า แมู้เาสูงตระหง่าน หากเผชิญลมฝนนานวันเข้า ก็ถล่มลงมาได้เช่นกัน เหมือนกับฝูงมดในเวลานี้ นางถูกพวกมันกัดเข้าไปสองแผลแล้ว
เสี่ยวโหรวมองปากทางเข้าถ้ำ
"ไปให้พ้นๆๆ!"
ตูม!
ทันใดนั้น นางก็พุ่งเข้าไปที่ทางเข้า และกำจัดฝูงมด เพื่อเปิดทาง จะได้พากู่ไห่ออกจากถ้ำ
ซ่าๆๆ!
มดนับไม่ถ้วนปิดกั้นทางออกเอาไว้ แม้ว่าเสี่ยวโหรวจะฉลาด แต่ก็ไม่ได้ฝึกพลัง ทั้งยังมีอายุเพียงแปดปี ไฉนเลยจะมีความสามารถเพียงพอ? สิ่งที่ทำได้ มีเพียงการเหวี่ยงหางออกไปสุดแรงเท่านั้น
ตูม!
เสียงะเิดังขึ้น อสรพิษน้อยกระแทกหางใส่ปากถ้ำ ทางเข้าที่เดิมถูกปิดกั้นด้วยต้นไม้และก้อนหิน พังทลายทันที
แต่เมื่อเปิดปากถ้ำออก ก็นิ่งงันทันที ภาพที่นางเห็นภายนอกถ้ำนั้น ชวนตะลึงยิ่ง
“เฮือก!”
เสี่ยวโหรวสูดหายใจด้วยความหนาวเหน็บ
บริเวณรอบๆ หุบเขาไร้โศก ปกคลุมไปด้วยสีดำ ราวกับทะเลสีนิลอันกว้างใหญ่
ทะเลสีนิลนี้ คือเหล่ามดดำจำนวนนับไม่ถ้วน ที่กำลังหลั่งไหลเข้ามาไม่ต่างจากเกลียวคลื่นสีดำ
"อ๊า!" อสรพิษน้อยหลั่งน้ำตาทันที
นางดิ้นรนจัดการกับมดภายในถ้ำ เพื่อหาทางหลบหนี แต่มหาสมุทรสีดำในหุบเขาไร้โศกนี้ ได้ทำลายความหวังไปสิ้น
ดูเหมือนโลกทั้งใบ จะเต็มไปด้วยมด
"เหตุใดจึงมีมากมายถึงเพียงนี้? มีมหาศาลเพียงนี้ได้อย่างไร? พระคุณผู้มีพระคุณๆ!" เสี่ยวโหรวร่ำไห้ด้วยความกลัว
เมื่อนางหันไปมอง กลับเห็นมดฝูงหนึ่ง กำลังเข้าใกล้ชายหนุ่มแล้ว
"ไม่! อย่าทำร้ายผู้มีพระคุณ เ้าพวกมด ออกไป… ออกไปให้พ้น!" นางรีบปราดเข้าหากู่ไห่ และใช้หางค่อยๆ ปัดมดออกทีละตัวๆ เพื่อช่วยขจัดกองทัพมดบนตัวเขา
ซ่าๆๆ
มดยังคงไต่เข้ามาไม่รู้เหนื่อย ด้านนอกถ้ำ จำนวนมดทวีขึ้นเรื่อยๆ
“ผู้มีพระคุณ ตื่นเร็วเ้าค่ะ... ฮือๆๆ... รีบตื่นเร็วเ้าค่ะ!” เสี่ยวโหรวสะอึกสะอื้นไม่หยุด
หางของนางเคลื่อนไหวตลอดเวลา กวาดเอามดที่เข้ามาใกล้กู่ไห่ออกไป าแจำนวนมาก ปรากฏบนหางที่มีเกล็ดงูแข็งๆ ของนาง แม้ว่ามดจะมีขนาดเล็ก แต่แรงกัดช่างมากมายนัก สร้างความเ็ปให้ครั้งแล้วครั้งเล่า
“ผู้มีพระคุณ!” เสี่ยวโหรวร้องไห้ พลางะโเรียกต่อไป
กระนั้น ชายหนุ่มก็ยังไม่ได้ยิน
พริบตา มดก็กลุ้มรุมกันเข้ามาดั่งน้ำทะเลซัดสาด ในถ้ำปกคลุมไปด้วยมด และซากมดจำนวนนับไม่ถ้วน กลาดเกลื่อนเต็มไปหมด กองทัพมดดูเหมือนอยากจะกัดกินกู่ไห่ ซึ่งเป็แหล่งที่มาของกลิ่นหอมนั้น
พวกมดถูกดึงดูดด้วยกลิ่นหอมนั้น ที่มันกัด ก็เพราะอสรพิษน้อย ขัดขวางพวกมัน หากนางพุ่งออกไป ก็จะสามารถหนีจากทะเลมดได้ แต่เสี่ยวโหรวไม่ได้ทำเช่นนั้น ยังคงเหวี่ยงหางฟาดไปเรื่อยๆ และในเวลาต่อมา ก็เหนื่อยจนหมดแรง
"ทำอย่างไรดี? ทำอย่างไรดี?"
อสรพิษน้อยพันหางรอบร่างชายหนุ่ม ก่อนพาเขาออกจากถ้ำ
"หลีกไป! หลีกไปให้พ้น!" เสี่ยวโหรวกรีดร้องอย่างตื่นตระหนก
ระหว่างทาง มดนับพันนับหมื่นต่างมุ่งเข้าไปหา และกัดนางไม่หยุด ราวกับ้าเตือนให้รีบปล่อยกู่ไห่ พวกมันจะได้กินเขา
"ข้าจะไม่ปล่อยให้พวกเ้าทำร้ายผู้มีพระคุณเด็ดขาด ข้าไม่ปล่อยเด็ดขาด... ฮือๆๆๆ ผู้มีพระคุณ… รีบตื่นเร็วเข้า!... จะทำอย่างไรดี?" อสรพิษน้อยร้องไห้ไปพลาง หนีไปพลาง
ที่หางเริ่มมีเืออก พวกมดไต่ไปบนร่าง และกัดนางตลอดเวลา
เสี่ยวโหรวพาชายหนุ่มออกจากถ้ำ อย่างไรก็ตาม เพราะตัวกู่ไห่นั้นเป็แหล่งที่มาของกลิ่นหอม ไม่ว่าไปทางไหน กองทัพมดก็ติดตามไปทางนั้น
ตูมๆๆ!
อสรพิษน้อยเหวี่ยงหางอย่างสิ้นหวัง ขณะรีบเลื้อยออกจากหุบเขา แต่พวกมดก็ยังคงพุ่งเข้ามากัดอย่างไม่ลดละ
เสี่ยวโหรวกัดฟัน ร้องไห้พร้อมสะบัดหาง ร่างกายของนางเต็มไปด้วยาแ และมีเืไหลซิบ ความเ็ปมากมายเหลือคณานับนี้ ทำให้เกือบหมดสติ แต่ก็ยังกัดฟันทนต่อไป
"ห้ามสลบ! หากสลบ ผู้มีพระคุณจะถูกมดกัดกิน ฮือๆๆ จะสลบไม่ได้ ข้าต้องปกป้องผู้มีพระคุณ!" นางให้กำลังใจตัวเอง
ทว่า ด้านนอกมีมดอยู่มากเกินไป หลังจากเสี่ยวโหรวหลบหนีออกมา ก็หลงทิศติดอยู่ในทะเลมด ไม่รู้ว่าเหนือใต้ออกตกคือทางใด จำนวนมดไม่ได้ลดลงเลย แต่มีจะเพิ่มมากขึ้น
เืไหลออกจากาแมากขึ้นทุกขณะ ไม่รู้ว่าตัวเองจะทนได้อีกนานแค่ไหน ร่างกายของนางเต็มไปด้วยเื รู้สึกหมดแรงจนแทบสลบไปหลายครั้ง
“ข้าจะหมดสติไม่ได้ๆ!” อสรพิษน้อยตัวสั่น และฟาดหางที่เต็มไปด้วยเืของนางออกไป
...
ขณะเดียวกัน ตรงกลางหว่างคิ้วของกู่ไห่ เหนือผลึกสีขาว
ก๊อก!
เมื่อหมากขาวเม็ดสุดท้ายถูกวางลงบนกระดาน กระดานหมากทั้งหมดก็แตกกระจายทันที สุดท้ายมันก็กลายเป็ไอพลัง ก่อนสลายตัวไป กลิ่นหอมสุดท้ายได้พุ่งออกจากร่างเขา และกระจายออกไป
วูบ!
จิตใจชายหนุ่มสั่นไหว ในที่สุดก็ตื่นขึ้น
"เป็ค่ายกลที่แข็งแกร่งยิ่ง!" กู่ไห่โพล่งออกมา ด้วยความประหลาดใจ
ในที่สุด สิ่งต่างๆ ก็จบลง แต่ฉากเมื่อครู่ ยังคงติดตรึงใจ ความสุขมหาศาล พุ่งสู่หัวใจ เมื่อตระหนักได้ว่า ตัวเองได้รับมรดกอันมีค่ายิ่ง
บางทีอาจพูดได้ว่า เขาได้เรียนรู้กลวิธีในการใช้หมาก เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง และด้วยสิ่งนี้ มันจะทำให้เขาพัฒนาขึ้นไปอีกสองหรือสามขั้นทีเดียว
ในขณะที่กู่ไห่กำลังยินดี พลันได้ยินเสียงแ่เบาลอยเข้าหู
“ข้าจะสลบไม่ได้ๆ!”
เป็เสียงอ่อนแรงของเสี่ยวโหรวนั่นเอง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้