หลินเยว่พยักหน้ารับคำอย่างหนักแน่นสายตาของเขาเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว การแข่งขันครั้งที่ 3 เขาต้องพลิกสถานการณ์ให้ได้ถึงอาจจะไม่ได้เป็อันดับที่ 1 แต่เขาต้องไม่ใช่ที่โหล่เขากับคนอันดับก่อนหน้ามีคะแนนแตกต่างกันน้อยมาก ขอแค่ด่านที่ 3 เขาทำได้ดีหน่อย เขาก็จะสามารถแซงหน้าคนเหล่านี้โดยเฉพาะหลี่เฉียนโจว เขาจะต้องแซงหน้าอีกฝ่ายให้ได้
เมื่อได้ยินคะแนนของตนเองหวังเยว่และหลี่เฉียนโจวต่างสบตากันด้วยความโกรธแค้น
ไอ้บ้าเอ๊ย! หากวันแรกแกบอกฉันว่าสภาพเครื่องเคลือบด้านในทั้ง10 ชิ้นเป็อย่างไรตอนนี้ฉันก็คงไม่ได้มีผลการทดสอบแบบนี้ คงจะได้ที่ 1 แล้วล่ะ!ตอนนี้แกเลยกลายเป็คนรองอันดับบ๊วย สมน้ำหน้า!
ถุย!
หวังเยว่คิดจนถึงตรงนี้ เขาจึงสบถอย่างเกรี้ยวกราด
เมื่อหลี่เฉียนโจวเห็นสีหน้าท่าทางของหวังเยว่เพลิงโกรธในใจก็ลุกโชนขึ้นมาทันที
หวังเยว่ ไอ้เวร! หากไม่ได้เป็เพราะแกกับอาจารย์ของแกที่สมควรตายคนนั้นตอนนี้ฉันจะต้องตกอยู่ในสถานการณ์อย่างนี้ด้วยหรือ? รองอันดับบ๊วย ฉันกลายเป็รองอันดับบ๊วยได้อย่างไร!เหตุการณ์ในวันนี้ล้วนเป็เพราะอาจารย์ลูกศิษย์สมควรตายอย่างพวกแกไงล่ะฉันเลยต้องเป็แบบนี้ สักวันฉันจะทำให้พวกแกต้องเสียใจกับการกระทำของตนเองทั้งหมดในวันนี้! ฉันต้องทำอย่างแน่นอน! ฉันขอสาบานไว้ตรงนี้เลย!
เฉินเฟยมองเว่ยจิ้นจงด้วยสายตาครุ่นคิด วันนี้เขาถูกคนอื่นแทงเข้าข้างหลังความรู้สึกนี้มันช่างแย่จริงๆ!
เว่ยจิ้นจงรู้สึกว่าเหมือนมีคนกำลังมองเขาอยู่เขาจึงหันหน้าไปมองเฉินเฟย พร้อมกับส่งยิ้มอย่างหยิ่งผยอง
อวดดีไปเถอะ อวดดีให้สุดๆ ไปเลยคุณคิดว่าลูกศิษย์โง่ๆ ของคุณจะสามารถทำการทดสอบได้ดีอย่างนั้นหรอ? ยังมีด่านที่ 3อีกนะ คนโง่ๆที่แม้กระทั่งเครื่องเคลือบของแท้ยังหาไม่เจออย่างนั้นแล้วจะมีผลงานยอดเยี่ยมในด่านที่ 3 ได้อย่างไรล่ะ!ด่านที่ 3 มีสัดส่วนคะแนนสูงสุด คุณคอยดูเถอะ! ผมยังมี “ไม้ตาย” รออยู่ หึหึ......
ความมืดพลันมาถึงอย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างทยอยกันกลับโรงแรมเพื่อรับประทานอาหารค่ำ
เมื่อหลินเยว่ทานเสร็จแล้วเขาก็กลับเข้าห้องพักของตนเอง หลังจากนั้นเขาก็เริ่มฝึกฝนตามแผนการที่เขากำหนดไว้อย่างแน่นอนในแต่ละวันแกะสลัก ผ่าธูป... ณ เวลานี้ เขาสามารถแกะสลักแก้วไม้ได้อย่างรวดเร็วถึงแม้ว่าชิ้นงานอาจจะยังไม่ได้มาตรฐาน แต่ทว่าก็ถือว่ามีพัฒนาการไปมากทีเดียว
ความกดดันที่เกิดขึ้นในวันนี้ถูกระบายออกมาผ่านมีดแกะสลักในมือของเขาภายในห้องพักเต็มไปด้วยเศษไม้และประกายมีดที่สะท้อนขึ้น อีกทั้งเป็ความซับซ้อนและดูสับสนแต่กลับแฝงไปด้วยความเป็ขั้นเป็ตอนอย่างน่าประหลาดสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็การสะท้อนถึงความบ้าคลั่งของหลินเยว่
เมื่อแกะสลักแก้วไม้และผ่าธูปครบเรียบร้อยแล้วหลินเยว่จึงล้มตัวลงนอนอย่างอ่อนเพลีย
......
“ได้ข้อมูลมาหรือยัง? เงินโอนเข้าบัญชีคุณแล้วนะอย่าบอกผมว่าคุณยังไม่มีข้อมูลอะไรเลย ตอนนี้ผมคอยไม่ไหวแล้ว”
น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเคร่งเครียดเสียงหนึ่งดังขึ้น
ในโทรศัพท์พลันมีเสียงเบาๆ ดังขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
“วางใจได้ ผมคนสกุลจ้าวไม่ว่าจะทำเื่อะไรก็ต้องยึดหลักการของตนเองเสมอ......”
“ไม่ต้องพูดจาไร้สาระแล้ว ผม้ารู้คำตอบเกี่ยวกับการแข่งขันมะรืนนี้”
“สำหรับเื่นี้......นอกจากผู้เฒ่าหลิวแล้วก็ไม่มีใครรู้คำตอบอีก ผมบอกได้เพียงภายในเครื่องเคลือบทั้ง 50ชิ้นมีของแท้กี่ชิ้นเท่านั้น”
“ไม่ได้ ผม้าคำตอบที่ชัดเจน! นี่เป็สิ่งที่พวกเราตกลงกันไว้แล้วคุณห้ามผิดคำพูดสิ!”
ยิ่งพูดน้ำเสียงก็เกรี้ยวกราดมากยิ่งขึ้น
“ผมไม่ได้้าผิดคำพูดแต่เหตุการณ์มันเกิดการเปลี่ยนแปลง ใครจะไปรู้ว่าตาแก่หลิวจะหุบปากเงียบขนาดนี้เขาไม่ได้บอกกับใครเลย แต่ผมต้องคิดหาวิธีตั้งมากมายถึงจะหลอกถามได้ว่าภายในนั้นมีของแท้จำนวนกี่ชิ้นนี่เป็สิ่งที่ผมพยายามทำอย่างสุดกำลังแล้ว หากไม่อยากรู้คำตอบนี้ถ้าอย่างนั้นคุณก็ไปถามคนอื่นเถอะ ผมไม่สามารถหาคำตอบได้จริงๆ แต่ว่าหากผมทำไม่ได้คนอื่นก็ไม่มีทางทำได้มากยิ่งกว่า”
น้ำเสียงที่พูดเต็มไปด้วยความมั่นใจ
“หึ! ในมือของผมมีหลักฐานของคุณอยู่อย่าคิดว่าจะตลบหลังกันได้! หากวันนี้ผมไม่รู้คำตอบคุณก็คงจะรู้ผลลัพธ์อยู่แล้วนะ” น้ำเสียงที่พูดเต็มไปด้วยการข่มขู่อยู่ลึกๆ
“คุณไม่ต้องขู่ผม คนสกุลจ้าวอย่างผมไม่ได้หลงกลเื่ง่ายๆอย่างนี้หรอก หึหึ...... อย่าคิดว่ามีแต่คุณที่มีหลักฐานอยู่ในมือ การคุยโทรศัพท์ระหว่างพวกเราผมมีการบันทึกเสียงไว้ทั้งหมดถึงตอนนั้นก็แค่สู้กันจนตายไปข้างนึงเท่านั้นเอง!”
“คุณ......ดี! ดีมาก!”
“คุณ้าข้อมูลหรือเปล่า? หากคุณไม่้าผมก็จะโอนเงินคืนให้กับคุณผมเชื่อว่าต้องมีคนอื่นที่อยากได้ข้อมูลนี้มากกว่าคุณแน่ๆ ได้ยินมาว่าในการทำการทดสอบครั้งนี้คุณกับเว่ยจิ้นจงแตกหักกันไปแล้ว ผมคิดว่าเขาจะต้องสนใจข้อมูลที่ผมมีอยู่แน่ๆหึหึ......”
ผ่านไปนานพอสมควรมีเพียงเสียงลมหายใจดังผ่านสายโทรศัพท์ แต่กลับไม่มีเสียงพูดใดๆ ราวกับว่าอีกฝ่ายกำลังพยายามควบคุมอารมณ์ของตนเอง
ในที่สุด เสียงลมหายใจก็หยุดลงและมีเสียงพูดดังขึ้น น้ำเสียงเต็มไปด้วยความโกรธและความผิดหวัง “บอกมาสิเครื่องเคลือบทั้ง 50 ชิ้นนี้มีของแท้อยู่กี่ชิ้นกันแน่?”
“หึหึ ผมว่าแล้วว่าคุณต้องซื้อคำตอบนี้”
“ไม่ต้องพูดจาไร้สาระ รีบพูดเร็ว!”
“10 ชิ้นในบรรดาเครื่องเคลือบทั้ง 50ชิ้นมีอยู่ 10 ชิ้นที่เป็ของแท้”
“อย่าลืมที่พวกเราตกลงกันไว้ล่ะ คำตอบนี้คุณบอกผมได้เพียงคนเดียว! มิฉะนั้นแล้วถึงแม้ว่าจะต้องสู้กันให้ตายไปข้างนึงผมก็ไม่มีทางยอมง่ายๆ หรอก คุณรู้ดีอยู่แล้วว่าผม้าได้ที่1 มากขนาดไหนหากคนอื่นได้ที่ 1 ผมยังไม่รู้เลยว่าตัวเองจะทำอะไรได้ถึงขนาดไหน!”
น้ำเสียงเรียบเย็นจนน่ากลัวคำพูดเต็มไปด้วยการข่มขู่
“วางใจได้ คุณเชื่อมั่นในนิสัยของผมคนสกุลจ้าวได้อยู่แล้วไม่ใช่หรือ?หากพูดว่าจะบอกคุณเพียงคนเดียว ผมก็ต้องบอกคุณเพียงคนเดียวเท่านั้น!”
“ยังมีโอกาสหาเงินได้อีกทางไม่รู้ว่าคุณอยากทำหรือเปล่า?”
“โอกาสอะไร?”
“เอาข้อมูลที่คุณบอกผมไปขายให้กับเว่ยจิ้นจงในราคาสูง”
“คุณ......เหอๆ เข้าใจ เข้าใจแล้วเครื่องเคลือบทั้ง 50 ชิ้นมีอยู่ 5ชิ้นที่เป็ของแท้ ผมรู้ว่าต้องเป็ข้อมูลนี้แน่ๆฮ่าๆ ...... ขอบคุณนะ!”
“หากคุณบอกข้อมูลนี้ให้กับเว่ยจิ้นจง ผมจะโอนเงินให้คุณเพิ่มอีก5 แสนหยวน!”
“พวกเราไม่ใช่คนอื่นคนไกล คุณชี้ทางสว่างให้ผมแล้วยังให้เงินผมเยอะขนาดนี้อีก ผมรู้สึกละอายจริงๆ!”
“ไม่ต้องพูดจาไร้สาระอีกแล้ว หากทำสำเร็จเงินก็จะโอนถึงบัญชีของคุณ ครั้งนี้จะต้องทำให้เรียบร้อยหน่อยล่ะ!”
“วางใจได้!”
……
เมื่อวางสายแล้วเฉินเฟยจึงมองลูกศิษย์ของตัวเองที่กำลังรอคอยคำตอบอยู่สีหน้าของอีกฝ่ายทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะสบถในลำคอ
“เครื่องเคลือบทั้ง 50 ชิ้นมีอยู่ 10 ชิ้นที่เป็ของแท้ จำไว้ให้ดี มีเพียง 10 ชิ้นเท่านั้น แต่เป็ 10 ชิ้นไหนบ้างไม่มีใครรู้หากครั้งนี้คุณทำได้ไม่ดีอีก ทุกสิ่งทุกอย่างที่อาจารย์เคยให้คุณ อาจารย์จะเก็บมันคืนกลับมาทั้งหมดได้ยินหรือยัง!”
“ได้ยินแล้ว ได้ยินแล้ว”
หลี่เฉียนโจวใจนสั่นเทิ้มไปทั้งร่างเขารีบก้มหน้ารับคำทันที แต่ทว่าสายตาของเขากลับสะท้อนความโกรธแค้นอยู่ชั่วครู่แต่เป็เพราะเขากำลังก้มหน้าอยู่ เฉินเฟยจึงไม่มีโอกาสเห็นสายตานี้
เฉินเฟยสบถในลำคออย่างเ็าขึ้นอีกครั้งหลังจากนั้นเขาจึงเบนสายตาหันไปมองที่นอกหน้าต่าง
เว่ยจิ้นจง ครั้งนี้ผมอยากรู้นักว่าคุณจะทำอย่างไรคุณกล้าหักหลังผม ผมจะทำให้คุณได้รับรู้รสชาติของการถูกหักหลังบ้าง แล้วต่อไปผมจะค่อยๆคิดบัญชีกับคุณอีกที!
แล้วยังมีเฮ่อฉางเหออีก คุณคอยดูก็แล้วกัน!ครั้งนี้... ลูกศิษย์ของคุณต้องเป็ที่โหล่อย่างแน่นอน!
หึหึ......
......
“สวัสดี ผมมีธุรกิจหนึ่งมาเสนอ ไม่ทราบว่าท่านสนใจอยากจะทำด้วยหรือเปล่า?”
“คุณคือใคร?”
เมื่อได้ยินเสียงที่ดูเ้าเล่ห์ดังขึ้นผ่านโทรศัพท์เว่ยจิ้นจงจึงขมวดคิ้วขึ้นทันที แต่ทว่าสีหน้าของเขายังมีความตื่นเต้นแฝงอยู่ดูเหมือนว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ทำให้เขามีความสุขมาก
“เป็เ้าหน้าที่ตัวเล็กๆคนหนึ่งของจิ่งเต๋อเจิ้น ไม่ทราบว่าท่านเว่ยปรมาจารย์แห่งการพิสูจน์เครื่องเคลือบจะสนใจทำธุรกิจนี้หรือเปล่า?”
“ธุรกิจ? ธุรกิจอะไร?”
เมื่อเว่ยจิ้นจงได้ยินว่าอีกฝ่ายเป็เ้าหน้าที่ของทางจิ่งเต๋อเจิ้นหัวใจของเขาจึงเต้นแรงขึ้นมาทันที ในใจเกิดความคาดหวังบางอย่างขึ้น...
“แน่นอน..ย่อมเป็ธุรกิจที่เป็ผลดีกับทั้งสองฝ่าย ในมือผมมีสิ่งที่ท่านสนใจไม่รู้ว่าท่านเว่ยจะอยากรู้หรือเปล่า?”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้