งานเลี้ยงฉลองวันเกิดของหวงกุ้ยเฟย โคมไฟสีสันสดใสสว่างไสวไปเสียครึ่งเมือง
เสียงสังคีตแ่จางขับกล่อมเป็ท่วงทำนองอันไพเราะลอยละล่องอยู่เหนืออุทยานหลวงซึ่งเป็ที่จัดงานเลี้ยง
ภายในอุทยานประดับตกแต่งอย่างประณีต แขวนโคมตำหนักเจ็ดสีนับไม่ถ้วน สถานที่จัดงานเลี้ยงจึงสว่างโชติ่ราวกับเวลากลางวัน
งานเลี้ยงล้อมรอบไปด้วยมวลผกานานาพรรณที่กำลังผลิบาน ประชันสีสันและความงามดุจดั่งแพรบุปผา เป็ภาพที่งดงามตระการตาภายใต้แสงโคม
นางกำนัลสวมอาภรณ์สีสันสดใสยกอาหารเลิศรสหลากชนิดเข้ามาในงานเลี้ยง
ตำแหน่งของประธานในพิธีอยู่บนพระแท่น อู่เซวียนตี้สวมฉลองพระองค์ัสีเหลืองสดใสประทับคู่กับหวังฮองเฮาซึ่งสวมชุดพิธีการปักลายหงส์อยู่บนบัลลังก์
ที่นั่งของเหล่าสนมลดหลั่นลงมาตามตำแหน่ง ต้วนหวงกุ้ยเฟยนางเอกของค่ำคืนนี้นั่งอยู่หัวแถวของเหล่านางสนม
ที่นั่งจัดไว้สองด้าน ยามนี้เหล่าราชนิกุลขุนนางใหญ่ ทูตของแต่ละแคว้นต่างซึ่งมาร่วมงานเลี้ยงเข้าประจำที่เรียบร้อยแล้ว
เสียงแหลมสูงขานร้องให้แต่ละแคว้นมอบของขวัญแสดงความยินดี
หลังการเรียกขานแต่ละครั้ง แขกในงานก็จะเริ่มวิพากษ์วิจารณ์ของขวัญของแต่ละแคว้น บรรยากาศครึกครื้นมีชีวิตชีวา
ทันใดนั้นก็มีเสียงเรียกขานหนึ่งกรีดผ่านความมืดยามราตรี
"องค์ชายเจ็ดเสด็จแล้ว"
แเื่ทั่วงานเลี้ยงต่างแตกตื่นราวกับมีหยาดน้ำหยดใส่ในหม้อน้ำมัน
แม้แต่ฮ่องเต้และฮองเฮาบนพระที่นั่งยังลุกขึ้นโดยไม่รู้พระองค์
เงาร่างในอาภรณ์สีแดงย่างกรายออกมาจากมุมห้อง
เรือนกายสูงใหญ่ผึ่งผายไม่เร่งไม่ช้าเดินตรงเข้ามา สวมชุดยศหมั่งเผาสีแดงสด เรือนผมประดับเกี้ยวหยกม่วง กลิ่นอายสูงศักดิ์และดุดันอาบย้อมไปทั่วร่าง
เขาเหยียบย่างบนพรมแดงอย่างสงบนิ่งท่ามกลางสายตาผู้คน
แสงโคมเจิดจรัสพาดผ่านดวงตาระยิบระยับดั่งดวงดาว และจมูกรูปหยดน้ำ ดวงหน้าหล่อเหลาคมคายดั่งรูปสลักอันวิจิตรประณีต
"เป็องค์ชายเจ็ดจริงๆ ด้วย"
เสียงร้องตื่นตระหนกจากผู้ใดในหมู่แเื่ก็สุดรู้ ปลุกทุกคนให้ตื่นจากภวังค์
"์ เป็องค์ชายเจ็ด"
"เป็องค์ชายเจ็ดจริงๆ"
"ประเสริฐยิ่งนัก องค์ชายเจ็ดทรงปลอดภัยกลับมา"
"องค์ชายเจ็ดหายไปจากเมืองหลวงหนึ่งปีเต็มออกมาปรากฏตัวแล้ว"
"ดูท่าทรงกลับมาเพื่อถวายพระพรแด่หวงกุ้ยเฟยโดยเฉพาะ"
คนในงานต่างวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา
เหลียนเซวียนไม่แม้แต่จะปรายตามอง สีหน้าราบเรียบ ทั่วร่างกำจายกลิ่นอายเมินเฉยมิแยแส เดินตรงไปด้านหน้า
"กระหม่อมถวายบังคมเสด็จพ่อ เสด็จแม่พ่ะย่ะค่ะ"
"ดี ดี ดี ในที่สุดเ้าก็กลับมาแล้ว" อู่เซวียนตี้มองเงาร่างที่คุกเข่าบนพรมแดงด้วยแววตาเปล่งประกาย "รีบลุกขึ้น"
"เป็เหลียนเซวียนจริงๆ ด้วย" หวังฮองเฮาป้องปากร้องอุทาน พระเนตรฉายแววยินดีอย่างเห็นได้ชัด
เหลียนเซวียนขอบคุณในพระมหากรุณาก่อนลุกขึ้นอย่างสง่างาม
"น้องเจ็ด"
"พี่เจ็ด"
องค์ชายใหญ่หวงผู่เหลียนปี้กับองค์ชายเก้าหวงผู่เหลียนหยวนเรียกเขาพร้อมกัน
เหลียนเซวียนหันข้างไปเล็กน้อย ผงกศีรษะให้ "พี่ใหญ่ น้องเก้า"
ขณะเดียวกันก็ใช้หางตากวาดมองสีหน้าของพี่น้องคนอื่นๆ
พี่รองหวงผู่เหลียนเหิงสีหน้าตกตะลึง แฝงแววเคลือบแคลงอยู่หลายส่วน
พี่สามหวงผู่เหลียนอวี้ตกตะลึงเช่นกัน ั์ตาฉายแววยินดีอยู่หลายส่วน
พี่ห้าหวงผู่เหลียนเผิงแสยะยิ้มมุมปาก ใบหน้าทำราวกับกำลังชมเื่สนุก
พี่หกหวงผู่เหลียนลี่สีหน้าคล้ายตื่นเต้นประหลาดใจ แต่รอยยิ้มแข็งเกร็งไม่เป็ธรรมชาติของเขา เปิดเผยความหวาดวิตกของเขาออกมา
ฮึ ดูการแสดงออกของคนเหล่านี้ พอกลับถึงเมืองหลวง ก็เปิดละครโรงใหญ่ต้อนรับกันเลย
เหลียนเซวียนช้อนตาขึ้นเล็กน้อย เหล่าสตรีในตำหนักหลังล้วนรูปโฉมเหนือสามัญ สวมอาภรณ์หรูหรางามวิจิตร สีหน้าของพวกนางต่างมีสีสันหลากหลายไม่แพ้กัน
ส่วนหวงกุ้ยเฟยซึ่งนั่งหัวแถวของเหล่าพระสนม ดวงหน้างามพิลาสยังรักษาความสงบเสงี่ยม ทว่าสีเืกลับจางหาย ผิวซีดจางขับเน้นให้ริมฝีปากที่ทาชาดแลดูแดงสดดุจโลหิต เพิ่มเสน่ห์เย้ายวนกว่าปรกติหลายส่วน
แววเหยียดหยันผุดวาบจากก้นบึ้งดวงตาของเหลียนเซวียนก่อนหายไป หลังจากนั้นก็กวาดสายตาไปทางที่นั่งของแขกสตรี เห็นกู่มู่เหยาสวมอาภรณ์พิธีการลายดอกกุ้ยฮวาสีแดงไม่ผิดจากที่คาดไว้
นางเกล้ามวยทรงเมฆาอันสลับซับซ้อน สวมเครื่องประดับผมเต็มชุด ท่วงท่าสูงศักดิ์สง่างาม เพียงแต่ดวงหน้านั้นกลับขาวซีดเหมือนผี ฝืนกระตุกมุมปากเผยรอยยิ้มแข็งเกร็งออกมา
สายตาของเหลียนเซวียนกวาดผ่านไป คร้านกระทั่งจะเหยียดมุมปากยิ้มเยาะ
"เหลียนเซวียน" องค์หญิงใหญ่ [1] เต๋อคังเหยียบพรมแดงก้าวเข้ามาต่อหน้าเขา พลางดึงมือมากุมด้วยความตื่นเต้น "จะ... เ้าปลอดภัย ช่างประเสริฐยิ่ง"
"ท่านอาหญิง" ยามพบองค์หญิงใหญ่เต๋อคัง สีหน้าเฉยชาของเหลียนเซวียนก็อ่อนโยนลง
"หนึ่งปีมานี้เ้าไปไหนมากันแน่ ทุกคนล้วนตามหาเ้าจนแทบเป็บ้ากันอยู่แล้ว" องค์หญิงใหญ่คังเต๋อขอบตาแดงก่ำ "ถ้าหย่งเจียรู้ว่าเ้ากลับมา ต้องดีใจตายแน่ๆ"
"จริงด้วย เหลียนเซวียน หนึ่งปีมานี้เ้าไปอยู่ที่ไหนมา เหตุใดจู่ๆ ก็หายไปเล่า" หวังฮองเฮาให้นางกำนัลประคองลงมาจากบัลลังก์
เหลียนเซวียนเงยหน้ามองไปที่อู่เซวียนตี้
แต่พระองค์กลับเสด็จไปที่นั่งของเหล่าสนม แล้วจูงมือหวงกุ้ยเฟยซึ่งหน้าขาวซีด สีหน้าเต็มไปด้วยความห่วงใย
รอยยิ้มจากแววตาและริมฝีปากของเหลียนเซวียนแฝงแววเหยียดหยัน
อู่เซวียนตี้อายุเกือบห้าสิบปีแล้ว รูปร่างยังไม่เปลี่ยนไปมาก ดวงหน้าที่เคยองอาจหล่อเหลาก็ยังไม่แก่ลงเท่าไร เพียงแต่เบ้าตาลึก แววตาไร้ชีวิตชีวา ริมฝีปากคล้ำอยู่บ้าง
หลายปีมานี้ล้วนพึ่งยาลูกกลอนเสพสุขกับเหล่าสนมในวังหลัง พิษจากยาแทรกซึมเข้าสู่กระดูกและโลหิตนานแล้ว
แม้อาจารย์จะเคยเตือนพระองค์ แต่ก็ไม่ทรงเปลี่ยนนิสัย
ได้แต่อาศัยเทียบยาถอนพิษที่อาจารย์ทิ้งไว้ให้ เสวยทั้งยาลูกกลอน และยาถอนพิษ
เหลียนเซวียนมองปราดเดียวก็รู้ พิษจากยาลูกกลอนหนักขึ้นกว่าปีที่แล้ว
หลังจากหวังฮองเฮาและองค์หญิงใหญ่เต๋อคังเข้าไปหา องค์ชายและองค์หญิงสองสามพระองค์รวมถึงเชื้อพระวงศ์ และขุนนางใหญ่คนอื่นๆ ต่างเข้ามาใกล้เขา
"เสด็จแม่ วันนี้เป็วันเกิดของหวงกุ้ยเฟย ลูกกลับมาถวายพระพรเป็การพิเศษ แต่เพื่อมิให้เป็การเอิกเกริกจนบดบังรัศมีเ้าของงาน เื่อื่นเอาไว้ค่อยว่ากันภายหลังเถิดพ่ะย่ะค่ะ" เหลียนเซวียนเอ่ย
ผู้คนที่กำลังจะเข้ามาห้อมล้อมพลันชะงักเท้า
"เฮ่อ ก็จริง เ้าปลอดภัยกลับมาได้เป็ดีที่สุด เื่อื่นเอาคุยกันทีหลัง อย่าให้เบียดบังงานฉลองของมารดาเ้าดีกว่า" หวังฮองเฮาหันกลับไปมองอู่เซวียนตี้ที่กำลังปลอบขวัญหวงกุ้ยเฟย แววเหยียดหยันวาบผ่านดวงตา
"น้องเจ็ด มานั่งสิ ข้าให้ขันทีเพิ่มโต๊ะให้เ้าแล้ว" เฟิงอ๋องตบบ่าของเขาพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน รอยยิ้มแห่งความยินดีอาบย้อมทั่วใบหน้า
"พี่เจ็ด ท่านคงมิได้แกล้งหายตัวไปแล้วแอบหนีไปเที่ยวหรอกกระมัง" องค์ชายเก้าหวงผู่เหลียนหยวนอายุสิบหกสิบเจ็ด แต่ยังมีความเป็เด็กอยู่บ้าง
"ไปเถอะ ไปนั่งก่อน" องค์หญิงใหญ่เต๋อคังปาดน้ำตา พลางยิ้มให้
เฟิงอ๋องกับองค์ชายเก้ายืนขนาบซ้ายขวาลากเขาไปที่นั่ง
"ไม่เลวนี่ ดูท่าอยู่ข้างนอกจะไม่ลำบากเท่าไร" ลี่อ๋องมองเขาอย่างพิจารณา
เหลียนเซวียนปรายตามองเรียบๆ "ไม่ได้พบกันมาหนึ่งปี เสน่ห์ความเป็ชายของพี่ห้ายังคงไม่ถดถอย"
ลี่อ๋องหน้าถอดสี แววเกลียดชังผุดวาบในดวงตา ถ้อยคำนี้ไม่ว่าจะฟังอย่างไรก็ขัดหูยิ่ง ก่อนหน้าที่อีกฝ่ายจะหายตัวไป พวกเขายังทะเลาะกันอยู่เลย
เพราะเื่นี้ หลังจากเขาหายไป เสด็จพ่อก็เรียกตนเองไปสอบถามอยู่หลายครา ช่างน่ารังเกียจนัก
เหลียนเซวียนคร้านจะสนใจ หันไปอีกทีกลับพบใบหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้มของเหลียนลี่
...
[1] องค์หญิงใหญ่ หรือจ่างกงจู เป็ตำแหน่งเชื้อพระวงศ์หญิงลำดับสูงสุด ซึ่งมักเป็ญาติผู้ใหญ่หรือพี่สาวน้องสาวของฮ่องเต้
