เขตปลอดอัลฟ่าระดับ 1 อัลฟ่าและนางฟ้าโอเมก้าแม่ทูนหัว
ไม่มีใครไม่รู้จัก ธนาคารวาสุรีย์พาณิชย์
ธนาคารเอกชนเก่าแก่ที่อยู่คู่บ้านเมืองมาช้านาน เปลี่ยนผ่านผู้บริหารไปพร้อมกับสังคมโลก คนสมัยก่อนเรียกสั้นๆว่าธนาคารวาสุรีย์ เด็กขึ้นมาหน่อยก็เริ่มย่อลงเหลือธนาคารวาสุ ปัจจุบันภาษาต่างประเทศเข้ามามีอิทธิพลต่อกระแสเศรษฐกิจ ชาวต่างชาติหันมาใช้โมบายแบงก์กิ้งเยอะ VZR ที่ย่อมาจาก Vazuri banking จึงกลายเป็คำเรียกติดปากเพราะชื่อแอพธนาคารก็เขียนกำกับเด่นหลาไว้อยู่ว่า VZR mobile banking
[เมื่อเช้าคุณศรุตโทรมาถามปุ๊กถึงอาการคุณศิธาน่ะค่ะ]
“บอกไปว่ายังไม่ตายครับ สบายใจได้”
[โธ่ คุณระคะ ปุ๊กจะไปกล้าพูดอย่างนั้นได้ไง เขาเป็หนึ่งในกรรมการบริษัทนะ]
เลขาสาวของระฟ้าถอนหายใจเสียงระเหี่ยมาตามสาย
เวลานี้ท่านประธานกรรมการแห่งวาสุกรุบกำลังนั่งประชุมงานอยู่ริมระเบียงห้องพักพิเศษของโรงพยาบาล เข้าสู่วันที่สี่หลังศิธา วาสุรีย์โรจน์ ดาราหนุ่มชื่อดังประสบอุบัติเหตุขับรถตกสะพาน ญาติมิตรไม่มีใครโผล่เข้ามาเยี่ยมเพราะระฟ้าให้แพทย์สั่งเอาไว้ว่าห้ามเยี่ยม แม้จะยังไม่ตาย แต่สภาพท่านรองประธานยังคงอยู่ในภาวะวิกฤต เสี่ยงติดเชื้อ ซึ่งในความเป็จริงไม่ใช่เลย ไม่มีการติดเชื้อทั้งนั้น
สมองเพี้ยนล้วนๆ..
“สรุปเอาเป็ว่าบอกทั้งอาศรุต อาสิปปางค์ ทั้งนักข่าว ทั้งกลุ่มผู้ประสงค์ดีตามนี้นะครับ ใครเขียนข่าวมั่วคุณปุ๊กกี้ก็ส่งให้ฝ่ายกฎหมายจัดการ”
[รับทราบค่า ว่าแต่ท่านประธานจะแวะเข้ามาบริษัทวันไหนคะ]
คำถามของเลขาสาวทำระฟ้านิ่งงัน ร่างบ่างนั่งไขว้ขวารับลมยามสาย โต๊ะไม้สเตนเลสสีขาวมีจอไอแพดตั้งอยู่ หากสิ่งที่ชายหนุ่มทอดมองคือคนตัวโตนอนสลบไสลอยู่บนเตียง เมื่อเช้าตื่นขึ้นมาอาละวาดรอบนึง ระฟ้ารับมือไม่ไหวเลยรบกวนคุณหมอฉีดยาให้เขาหลับไป ส่วนคำถามของคุณปุ๊กกี้อย่างเื่ที่เขาจะเข้าบริษัทวันไหนน่ะหรือ
“ก็คงจนกว่าสามีผมจะอาการดีขึ้นล่ะมั้งครับ”
พูดจบก็กดวางสายพร้อมกับถอนหายใจหนึ่งเฮือก
เปลือกตาสีไข่เลื่อนปิดลงจนทิวทัศน์ตรงหน้าเหลือเพียงความมืดมิด ในเวลาอับจนหนทางเช่นนี้คนเดียวที่ระฟ้าเคยพึ่งพิงได้คือ คุณหญิงเยาวมาลย์ หญิงชราที่ชุบเลี้ยงระฟ้าขึ้นมาราวบุตรหลานแท้ๆ ระฟ้าจำได้ดี คุณย่ารับระฟ้าเข้ามาอยู่บ้านวาสุรีย์โรจน์ในฐานะเด็กรับใช้ตอนอายุ 9 ย่าง 10 ขวบ เรียกว่าโตเกินกว่าจะถูกรับเลี้ยงด้วยซ้ำ แต่คุณหญิงย่าก็เลือกระฟ้า เธอให้การศึกษา ให้ชีวิตใหม่ ทรัพย์สินเงินทอง สอนบทเรียน สอนการใช้ชีวิต หล่อหลอมจนระฟ้าเติบโตขึ้นมาเป็ระฟ้าอย่างเช่นทุกวันนี้ คุณหญิงไม่เคยขอให้ระฟ้าตอบแทนสิ่งใดเลยกระทั่งเมื่อสามปีก่อน
‘ตาฟ้า ย่าอยากให้แกแต่งงานกับศิธา’
ตอนที่ได้ยินครั้งแรกระฟ้าอ้าปากค้างไปหลายนาที
แต่งงานกับหลานชายแท้ๆของตัวเอง? คุณย่าคิดได้อย่างไร
แม้ระฟ้ากับศิธาจะไม่ได้มีความเกี่ยวพันธ์ทางสายเื แต่คนไม่ได้รักกัน แทบไม่รู้จักกัน จับมาอยู่ด้วยกัน ไม่มีทางไปกันรอด สุดท้ายก็ต้องเลิกกัน ทว่าความฝันของคุณหญิงเยาวมาลย์คือการได้เห็นหลานชายสุดที่รักแต่งงาน ท่านรักศิธาออกนอกหน้า รักเสียยิ่งกว่าลูกชายและลูกสาวอีกสามคน รักถึงขนาดที่ว่ายอมยกหุ้นของวาสุกรุปให้ศิธาและระฟ้าคนละ 35% รวมเป็ 70% โดยที่ไม่ต้องร่างพินัยกรรมหากทั้งสองยอมแต่งงาน ศิธาจากตอนแรกที่จะไม่ยอมแต่ง ครั้นเห็นจำนวนหุ้นมากขนาดนั้นก็มากดดันระฟ้าทางอ้อมให้แต่ง โชคดีที่คุณหญิงย่ากำหนดวาระไว้สามปี ห้ามหย่ากันก่อนสามปี ทรัพย์สินทั้งหมดถึงจะไม่เป็โมฆะ ศิธาและระฟ้าจึงยอมอดทนกันมาถึงจุดนี้
พูดตามตรงระฟ้าไม่ได้อยากทรัพย์สินของคุณหญิงเยาวมาลย์แม้แต่นิดเดียว เขาปรารถนาเพียงทำงานเป็ฟันเฟืองเล็กๆให้แก่วาสุกรุป ไอ้ตำแหน่งประธานกรรมการก็ไม่เคยอยากได้ เหตุผลเดียวที่ระฟ้ายอมแต่งคือ้าทดแทนบุญคุณเ้าหล่อน ตลอดชีวิตระฟ้ารับอย่างเดียว หากจะมีสิ่งที่คืนให้คุณหญิงได้บ้าง เห็นทีจะเป็ความปรารถนาอันมากล้นของท่านนี้ แต่คุณหญิงย่าไม่เคยบอกสักนิดว่าหลานชายสุดที่รักของเธอเนื้อแท้ช่างแสนปากหมานรกแตก ซ้ำยังเห็นแก่ตัว หน้าเงิน ชอบเอาเปรียบ เก่งอย่างเดียวคือแสดงละครตบตาชาวบ้าน
ล่าสุดยังจะมาสมองเพี้ยนอีก
“ชีวิตมึงนี่นะไอ้ฟ้า..”
พูดพร้อมกับตบหน้าผากตนเองดังแปะขณะสายลมบนชั้นสูงสุดพัดกระทบใบหน้า คุณหมอแจ้งแล้วว่าสามีของระฟ้ามีสภาวะความจำเสื่อมแบบย้อนกลับ (Retrograde amnesia) ก็คือเขาจะสูญเสียความทรงจำเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอดีต ในกรณีของศิธาเหมือนจะสูญเสียแม้กระทั่งความทรงจำเกี่ยวกับตัวตนของตนเอง แต่ไอ้การที่เรียกแทนระฟ้าว่าโอเมก้า เรียกคนอื่นว่าเบต้า เรียกแทนตนเองว่าอัลฟ่านี่ คุณหมอยังอธิบายแน่ชัดไม่ได้ มันเหมือนกับว่าความทรงจำของพ่อดาราหนุ่มตีกันยุ่งเหยิง หรือเพราะล่าสุดเขาเล่นซีรีส์ฟอร์มั์เกี่ยวกับโอเมก้าเวิร์ส บางทีความทรงจำเกี่ยวกับการแสดงอาจยังคงอยู่ แต่อย่างอื่นลืมหมด
ระฟ้าไม่เข้าใจเหลือเกิน มันจะเป็ได้อย่างไร พยายามขอคำอธิบายเพิ่มเติมจากคุณหมอ ก็ระฟ้าคือคนที่ต้องรับมือกับสามีนะ ไหนจะต้องพาสามีไปตอบคำถามสื่อ คุณหมอต้องให้ข้อมูลระฟ้ามากกว่านี้ แนะนำวิธีรักษามากกว่านี้ น่าเสียดายที่คุณหมอวินิจฉัยอาการของศิธาได้เพียงเท่าที่แจ้งไป ั้แ่หัดผีเสื้อระบาดเมื่อหลายสิบปีก่อนก็เกิดโรคประหลาดทางสมองมากมาย วงการแพทย์ค้นพบโรคทางสมองใหม่ๆทุกปี ไอ้อาการเพี้ยนๆคิดว่าตนเองเป็อัลฟ่าของศิธาคงไม่ต่างกัน
“คุณระ!! ไอ้ศิยังไม่ตายใช่ไหม”
นั่นแหละ สงบสุขได้แปปเดียวประตูห้องก็ถูกเปิดออกพร้อมเสียงดังสนั่นของ โอฬาร
ระฟ้าต้องทำเสียงชู่วให้ผู้จัดการหนุ่มอย่าเอะอะโวยวาย ประเดี๋ยวคนป่วยก็ได้ตื่นขึ้นมาอาละวาดอีกรอบ โอฬารเหมือนจะเพิ่งรู้ตัวว่าที่แห่งนี้คือโรงพยาบาลเลยรีบผงกหัวยกมือไหว้ขอโทษ เขาอายุมากกว่าทั้งระฟ้าและศิธา หากถึงกระนั้นก็ยังให้เกียรติท่านประธานกรรมการแห่งวาสุกรุป อันที่จริงใครๆต่างเรียกชื่อระฟ้าด้วยชื่อต้น ถ้าไม่เรียกระฟ้า ระฟ้าก็จะให้เรียก ระ เฉยๆ เว้นเสียแต่คนที่สนิทมากๆเช่นคุณหญิงเยาวมาลย์หรือชวิศที่จะเรียกระฟ้าว่า ฟ้า
“ผมโทรหาคุณระตั้งหลายสาย พยายามจะเข้ามาเยี่ยมไอ้ศิั้แ่เกิดเื่แล้วแต่พวกบอดี้การ์ดกันซีนมาก”
“ขอโทษครับพี่โอฬาร ผมสั่งเอาไว้เอง”
ระฟ้าผายมือให้คนอายุมากกว่านั่งลงยังโซฟาห้องนั่งเล่น ห้องพิเศษแห่งนี้เป็แบบวีไอพี มีห้องนั่งเล่นแยกออกจากห้องนอนผู้ป่วย ซ้ำยังมีครัว มีห้องน้ำกว้างขวางสมศักดิ์ศรีผู้บริจาคสูงสุด ถึงแม้จะไม่ใช่คนติดหรู แต่ระฟ้ารู้ดีว่าสามีเขาน่ะติดมาก ขืนให้อยู่ห้องพิเศษแบบธรรมดาเดี๋ยวก็ได้ทะเลาะกันอีก
“สรุปมันเป็อะไรมากไหมครับคุณระ จะออกจากโรงพยาบาลได้ในวันสองวันหรือเปล่า กองถ่ายเขาฝากถามมาครับ ไม่มีพระเอกงานแทบไม่กระเตื้องเลย ตอนนี้ก็ถ่ายซีนอื่นรออยู่”
“เปลี่ยนพระเอกเลยครับ”
“พูดเล่นไม่ดีนะครับ พี่จะหัวใจวายเอานะคุณระ”
“ไม่ได้พูดเล่นครับ คุณศิธาความจำเสื่อม”
บรรยากาศห้องนั่งเล่นเงียบกริบ เสียงลมจากเครื่องปรับอากาศยังดังเสียกว่า โอฬารนั่งปากค้างเหมือนฟ้าจะถล่มโลกจะทลาย ซีรีย์ฟอร์มั์เื่ ‘โรงเรียนประจำโอเมก้า’ ที่ศิธากว่าจะแคสมาได้เืตาแทบกระเด็น ต่อให้เป็พระเอกดัง แต่ผู้กำกับและทีมงานล้วนอยากได้คนตรงคาแรคเตอร์ ศิธาต้องต่อสู้ฝ่าฝันด้วยความสามารถ แม้อยากยัดเงินใจจะขาดก็ไม่เป็ผล ต้องความสามารถล้วนๆเท่านั้น แล้วนี่อะไร
“ฮือออ ไม่จริง! คุณระบอกทีว่าไม่จริง ไอ้ศิไม่ได้ความจำเสื่อม หรือถ้าเสื่อมก็แค่ชั่วคราวใช่ไหมครับ ผมให้มากสุดหนึ่งอาทิตย์นะคุณระ”
“หมอยังตอบไม่ได้ครับว่านานเท่าไหร่ อาจสักหนึ่งเดือน หรือหลักปี ยังไม่มีใครตอบได้ พี่โอฬารรอเขาตื่นขึ้นมาแล้วดูสภาพเองแล้วกัน”
น้ำเสียงของระฟ้าเย็นเฉียบเสมอต้นเสมอปลาย
ชายหนุ่มวัย 26 ผู้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการสูงสุดแห่งวาสุกรุป ถูกบีบให้เติบโตเป็ผู้ใหญ่เกินวัย นั่นทำให้การวางตัวของระฟ้าดูน่าเกรงขามไปในตัวด้วย ทุกคำพูดของระฟ้าไม่เคยมีคำว่าล้อเล่น หรือบางทีอาจเพราะพื้นดวงของนักปกครองที่คุณย่าเคยผู้เอาไว้ ‘รู้ไหมตาฟ้า แกน่ะเกิดมาเป็เ้าคนนายคนนะ’ ระฟ้าไม่เคยรู้หรอกว่าเ้าคนนายคนเป็อย่างไร กระทั่งขึ้นมาบริหารวาสุกรุปต่อจากคุณย่า ชีวิตก็สอนให้ระฟ้ารู้จักตัวรอดในฐานะผู้บริหาร
“ผมอยากตายคุณระ ชีวิตไอ้ห่าศิแม่งเคยนำพาความสงบสุขมาสู่ผมสักครั้งบ้างมั้ยเนี่ย ฮือออ”
โอฬารบ่นโอดครวญพร้อมกับทิ้งศีรษะลงบนฟูกโซฟาอย่างหมดอาลัยตายอยาก ซีรีย์เื่โรงเรียนประจำโอเมก้าใช้สกิลการแสดงค่อนข้างสูง ไม่มีทางแน่ๆที่จะมนุษย์ความจำเสื่อมอย่างศิธาจะไปยืนแอคหล่อโง่ๆให้เขาถ่ายทำจนเสร็จได้ นั่นไง พูดถึงผู้กำกับก็โทรมาเลย ไอ้หมอนี่แม่งเขี้ยวเสียด้วย ยิ่ง่นี้ศิธาสันดานเดิมกำเริบ ทำตัวเื่มาก เหวี่ยงวีนทีมงาน ผู้กำกับเริ่มเปรยแล้วว่าหรือควรจะเปลี่ยนพระเอกดี แล้วถ้าเกิดอีกฝั่งรู้ว่าศิธาตกอยู่ในสภาพไหน แผนการเปลี่ยนพระเอกต้องมาถึงชั่วข้ามคืนแน่ๆ
“ท โทรมาแล้วครับคุณระ เอาไงดี” โอฬารเสียงสั่น ที่สั่นยิ่งกว่าคือมือที่กำลังถือโทรศัพท์
“บอกความจริงครับ เปลี่ยนพระเอกได้เลย”
“คุณระพูดง่าย ฮืออ นี่มันทั้งชีวิตของผมกับไอ้ศิเลยนะ”
ระฟ้าี้เีต่อความยาวสาวความยืด เขาไหวไหล่ตัดบทสนทนา มือคว้าเอาแก้วกาแฟร้อนขึ้นมาดื่ม เช่นเดียวกับโอฬารที่ตัดสินใจไม่รับโทรศัพท์แม่งละ ชายหนุ่มโยนอุปกรณ์สื่อสารไปอีกฟากของโซฟา ขณะเดียวกันก็คว้าแก้วกาแฟเย็นขึ้นมาดูดบ้าง แต่เพราะมือยังไม่หายสั่น แก้วกาแฟถือไม่พ้นมือโอฬารเลยหกราดต้นขาระฟ้า
“ว เหวอ!! ขอโทษครับคุณระ ผมไม่ได้ตั้งใจ”
“พี่โอฬารสติหน่อยครับ เฮ้อ... ไม่เป็ไร ผมเช็ดเอง”
ระฟ้าใไม่น้อยที่จู่ๆกาแฟก็หกใส่ขา แถมน่าจะกระเด็นมาถึงเป้ากางเกง แต่ที่น่าใยิ่งกว่าคือท่าทางลุกลิกของโอฬารที่พยายามคว้าทิชชู่มาเช็ดให้ คือมองจากระยะไกลมันดูสองแง่สองง่ามเอามากๆ ระฟ้าที่เป็ห่วงภาพลักษณ์และเน้นวางตัวดีอยู่เสมอจึงรีบเอ่ยปฏิเสธ แต่พูดไปก็เท่านั้นเพราะโอฬารสติแตกจากเื่ศิธาความจำเสื่อมไม่หาย เอาแต่มุ่งมั่นเช็ดกาแฟให้ระฟ้าอยู่ท่าเดียว โดยไม่รู้เลยว่าด้านหลังของตนเองกำลังลุกไหม้ด้วยเปลวเพลิงปริศนาจากสายตาของใครบางคน
“ไอ้เหี้ยโอ..”
น้ำเสียงทุ้มนุ่มเย็นเฉียบลอยหวิวมากับสายลม โอฬารกลืนน้ำลายอึกใหญ่อัตโนมัติ ค่อยๆหันไปมองเพื่อพบร่างสูงของพ่อดาราในสังกัดที่กำลังยืนตาลุกวาวจ้องมองมายังตัวเขา ศีรษะของศิธาถูกพันด้วยผ้าก๊อชสีขาว มือหนากำหมัดแน่นจนเส้นเืขึ้นข้อ ผู้จัดการหนุ่มฉีกยิ้มด้วยตาลุกวาวเช่นเดียวกัน ฟื้นแล้วหรือ กำลังจะถามว่าฟื้นแล้วหรือ แต่หมัดหนักก็ซัดเปรี้ยงเข้าที่ซีกแก้มของคนอายุมากกว่าเสียจนตกโซฟา
“มึงกล้าลวนลามนางฟ้าของกูได้ยังไง ไอ้เพื่อนทรยศ!”
เพื่อนทรยศ? ไหนว่าเป็รุ่นพี่รุ่นน้องโรงเรียนเดียวกันกันเฉยๆ
ระฟ้าชักงงแล้วแฮะ..
/
เอาล่ะ ก่อนที่เื่มันจะเลยเถิดไปกันใหญ่
ท่านประธานกรรมการแห่งวาสุกรุปคงต้องหาทางทำอะไรสักอย่าง ไม่อย่างนั้นความเพี้ยนของศิธา วาสุรีย์โรจน์จะแผ่กระจายเป็วงกว้าง กัดกินชื่อเสียงเกียรติยศในฐานะเ้าชายแห่งวงการจอเงินของเขา ลามมาถึงตำแหน่งประธานและรองประธานของเราทั้งสอง ระฟ้ารู้ดีว่ามีศัตรูมากมายจ้องจะเลื่อยขาเก้าอี้พวกเราทุกชั่วขณะจิต
“มึงต่อยกูมาได้นะไอ้เหี้ยศิ ไอ้เวรตะไลเอ๊ย ฮือออ”
“เขาป่วยครับ พี่โอฬารอย่าถือสาเลยนะ”
ร่างบางยิ้มแหยพลางเพยิดหน้าให้คุณผู้จัดการออกไปทำแผลด้านนอก ส่วนเขาจะรับมือกับสามีเอง ทีแรกระฟ้ากะจะให้ทีมแพทย์อัดยานอนหลับใส่เขาอีกสักเข็ม ไม่สิ สักยี่สิบเข็มไปเลย หลับยาวไปชาตินึงเลยยิ่งดี แต่คิดดูอีกทีพื้นฐานนิสัยระฟ้าไม่ใช่พวกหนีปัญหา ไม่ซุกมันไว้ใต้พรม คุณหญิงเยาวมาลย์สอนให้ระฟ้าอย่าทำอะไรครึ่งๆกลางๆ เลิกเรียนมาทำการบ้านให้เสร็จแล้วค่อยไปเล่น หรือระหว่างนั่งรถกลับก็ทำมาเลยยิ่งดี เคลียร์ทุกอย่างให้เสร็จเร็วย่อมดีกว่าเป็ไหนๆ ระฟ้ายึดคำสอนดังกล่าวเรื่อยมาจนติดเป็นิสัย
“คุณจำผมได้ไหม”
สุดท้ายก็เลือกวิธีเผชิญหน้ากับปัญหา
แม้ปัญหาครั้งนี้จะตัวสูง 190 เิเ แม้ปัญหาครั้งนี้จะเป็คนที่คุยด้วยทีไรก็จบลงด้วยการทะเลาะทุกที แต่ปล่อยไว้ก็เรื้อรัง ยิ่งงานประธานกรรมการกองพะเนินเป็ูเา ระฟ้าไม่มีเวลามาหนีเขาไปตลอดทั้งชาติหรอกนะ
“คุณศิธา ได้ยินที่ผมพูดไหมครับ แล้วไปยืนทำไมตรงนั้นน่ะ”
ถามคนที่กำลังยืนเอามือไขว่หลังมองทิวทัศน์ยามสายจากชั้นสูงสุดของตึก ท่ายืนแบบนี้เห็นล่าสุดคือพวกคนแก่ๆในสภากาแฟเขาทำกัน อีตาคนนี้เพี้ยนหนักถึงขั้นไหนล่ะนั่น
“หึ ยอมพูดกับพี่แล้วหรือยัยตัวดี”
เ้าของเสียงทุ้มแสยะยิ้ม หันมองระฟ้าเพียงเสี้ยวหน้า สาบานเลยว่านั่นชวนสยิ้วกิ้วสุดๆ ปกติศิธามักแทนตัวเองกับระฟ้าว่า ฉัน และ แก ด้วยโทนเสียงอันแสนห่างเหินและเ็า นี่มาแทนว่า พี่ กับ ยัย ทำเอาคนฟังขนลุกไปหมดทั่วร่างแล้วนะ แต่ใจเย็นๆสิระฟ้า เขาป่วยอยู่ ท่องเอาไว้ ผู้ชายคนนี้ป่วยอยู่ อย่าถือสาคนป่วย
“เพราะคุณเอาแต่โวยวาย ใครจะอยากคุยด้วยครับ”
“แล้วเธอไปให้ไอ้โอมันจับของสงวนทำไม ยัยคนใจง่าย”
“พูดให้มันดีๆนะคุณ พี่โอฬารเขาทำกาแฟหกใส่ผม ก็เลยช่วยเช็ดให้ต่างหาก”
“พวกโอเมก้าจะไปทันเล่ห์เหลี่ยมอัลฟ่าที่ไหน ถึงจะเป็เพื่อนสนิท แต่พี่ก็รู้สันดานมันดี”
ระฟ้าปวดหัวมาก คือไม่ว่าจะอยู่ในเวอร์ชั่นปกติหรือไม่ปกติ ศิธา วาสุรีย์โรจน์ก็ล้วนทำระฟ้าปวดหัวด้วยกันทั้งสิ้น แต่เออช่างมันเถอะ ใจเย็นๆไว้ก่อนระฟ้า คุณหมอบอกว่าจนกว่าความทรงจำของสามีจะกลับมา ญาติอาจต้องเล่นบทบาทสมมติกับเขาไปก่อน แล้วที่บ่นหน้าหงิกอยู่ตอนนี้ อัลฟ่า เบต้า โอเมก้า ศัพท์แสงมันคุ้นๆแฮะ
อ๋อ ซีรีส์ที่อีกฝ่ายเล่นนั่นเอง แล้วก็ สมัยเรียนระฟ้าชอบอ่านหนังสือมาก คุณหญิงเยาวมาลย์สามารถเอาระฟ้าไปปล่อยที่ร้านหนังสือ หรือซื้อหนังสือมาโยนให้ระฟ้าสักสิบเล่มยี่สิบเล่ม เด็กคนนี้ก็จะสามารถอยู่กับหนังสือได้เป็วันๆไม่รู้จักเบื่อ แน่นอนว่าหนึ่งในหนังสือที่ระฟ้าอ่านย่อมมีประเภทนวนิยาย ระฟ้าเป็พวกอ่านหมดไม่เกี่ยงหมวด โรแมนติก ดราม่า ตลกขบขัน สะท้อนสังคม ไซไฟ แฟนตาซี แม้กระทั่ง โอเมก้าเวิร์ส!
ยิ่งนึกถึงข้อมูลดังกล่าวเกี่ยวกับนิยายแนวโอเมก้าเวิร์ส ข้อมูลก็ไหลย้อนกลับมา โอเมก้าเวิร์สคือโลกสมมติที่แบ่งประชากรออกเป็สามเพศรองใหญ่ๆ อัลฟ่า เบต้า โอเมก้า อัลฟ่าคือเพศรองที่อยู่เหนือสุดของห่วงโซ่อาหาร มีพละกำลังวังชาสูง สามารถทำเพศรองที่อยู่ต่ำกว่าระดับตนเองให้ตั้งท้องได้ต่อให้อัลฟ่าคนนั้นจะเป็เพศหญิง ขณะที่เบต้าคือประชากรส่วนใหญ่ของโลก ไม่ได้มีบทบาทมากมายในนิยาย ที่เด่นคือโอเมก้า เพศรองผู้แสนอ่อนแอ ต้องคอยรับตำแหน่งแม่พันธุ์อุ้มท้องให้เหล่าอัลฟ่า
อีตาดาราดังคงทั้งอ่านนิยาย อ่านบทละคร เล่นซีรีส์จนจับเอามารวมกันมั่วไปหมด แต่ดันมาแปะป้ายว่าระฟ้าเป็โอเมก้าเนี่ยนะ เห็นอย่างนี้ระฟ้าก็สูงตั้ง 180 เิเ ตัวเล็กตัวน้อยตรงไหนกัน เออช่างเหอะ
กลับมาเื่เล่ห์เหลี่ยมพวกอัลฟ่าที่ใครบางคนพูดถึง
“พี่โอฬารเขาไม่ได้คิดอะไรกับผมหรอกครับ”
“เธอจะรู้ได้ไง พี่ก็บอกอยู่ว่าเธอไม่ทันมัน”
“ก็ผมเป็ภรรยาคุณ เขาจะมายุ่งกับผมทำไมล่ะ”
ประโยคนั้นของระฟ้าทำร่างสูงถึงกับชะงัก จากที่ตอนแรกหันมองแค่เสี้ยวหน้า พอได้สติก็หันควับมาทั้งหน้า ั์ตาคร้ามคมสุกสกาวประหนึ่งท้องฟ้ายามค่ำคืนอันเต็มไปด้วยฝนดาวตก
“ภ ภรรยา เธอเนี่ยนะภรรยาพี่”
“คุณจำพี่โอฬารได้ แต่จำภรรยาตัวเองไม่ได้?”
สรุปแล้วไอ้ก้อนความทรงจำในหัวพ่อดาราดาวรุ่งนี่มันมีเื่ไหนบ้างนะ
“ตอบพี่ก่อนว่าเธอเป็ภรรยาพี่จริงๆ”
พูดไม่พอศิธายังตรงเข้ามาเขย่าไหล่ระฟ้าคาดคั้น ั์ตาดาวตกเริ่มสั่นระริกเหมือนน้องหมาโกลเด้นเวลาเห็นเ้าของเพิ่งกลับจากทำงาน
“ก็เป็สิครับ เราเป็สามีภรรยากัน แต่งงานกันมาสามปีแล้ว”
“อย่างนี้นี่เอง พี่ตายแล้วสินะ ทั้งหมดนี้คือ์ ส่วนเธอก็คือแม่นางฟ้าคนดี”
ร่างสูงถอนหายใจเฮือกใหญ่ เอามือกุมอก แล้วก็ล้มตึงไปทั้งอย่างนั้น
ครับผมท่านผู้ชม ศิธา วาสุรีย์โรจน์ล้มหมดสติเอาเสียดื้อๆ
“อะไรเนี่ยคุณ กลับมาคุยกันให้รู้เื่ก่อน!”
tbc
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้