เมื่อแสงอรุณสาดส่องเมืองอวิ๋นหลิว ตระกูลถังยังไม่โดนตระกูลตงฟางกับตระกูลซินยึดครอง
บนถนนเมืองอวิ๋นหลิวไร้ซึ่งผู้คนสัญจร เหลือแต่เพียงองครักษ์จวนเ้าเมือง
หลังจากที่เยียนหลิงซานไล่ตามถังเหล่ยออกไป เยว่มู่จือก็ออกคำสั่งให้ทั้งเมืองอวิ๋นหลิวใช้มาตรการควบคุมเข้มงวด ไม่อนุญาตให้ใครเข้าออกเมืองและไม่อนุญาตให้ร้านรวงต่างๆ เปิด จนกว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะสงบลง
ในฐานะที่เยว่มู่จือเป็เ้าเมือง เขาไม่อาจเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้ระหว่างตระกูลได้ การต่อสู้ของตระกูลถังกับตระกูลตงฟางและตระกูลซินดำเนินมาตลอดทั้งคืน เสียงะโฆ่าฟันและแสงไฟล้วนปกคลุมไปทั่วเมือง
เยว่มู่จือกับหลินอวี่ทำได้เพียงยืนมองจากที่สูงในจวนเ้าเมือง ตระกูลถังจะผ่านพ้นอันตรายครั้งนี้ไปได้หรือไม่ ล้วนต้องพึ่งตัวเอง
“เกรงว่าตระกูลถังยากจะหนีพ้นแล้ว ต่อให้ต้านการโจมตีของตระกูลตงฟางกับตระกูลซินได้ แต่หลังจากเยียนหลิงซานฆ่าถังเหล่ยแล้ว เขาจะปล่อยตระกูลถังไปหรือ?”
หลินอวี่ที่ยืนอยู่ด้านข้างเยว่มู่จือกล่าวด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์
เยียนหลิงซานที่ไล่ตามถังเหล่ยก็ออกจากเมืองไปแล้ว ชายหนุ่มที่เพิ่งทะลวงระดับผู้ชำนาญยุทธ์ จะหนีรอดจากน้ำมือจากยอดฝีมือระดับยอดยุทธ์ได้เยี่ยงไร?
“ข้าก็เกรงว่าพวกเราคงมีจุดจบที่ไม่ดีเช่นกัน ข้าคงรักษาตำแหน่งเ้าเมืองไว้ไม่ได้ เ้าต้องมาลำบากเพราะข้าเสียแล้ว”
เยว่มู่จือหันหน้ามองหลินอวี่พลางกล่าว ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
เพื่อมาอยู่กับเย่วมู่จื่อ หลินอวี่ที่เกิดในตระกูลใหญ่จึงตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูล ส่วนเยว่มู่จือเองก็พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อชิงตำแหน่งเ้าเมืองมา เดิมทีเขาก็คิดว่าจะได้อยู่อย่างสงบสุขระยะหนึ่ง แต่ใครจะคิดว่าต้องมาพบพานเื่เช่นนี้
“ท่านอย่าพูดเช่นนั้นเลย หลินอวี่ไม่ได้กลัวความลำบากสักนิด!”
แล้วทั้งสองคนที่จมจ่ออยู่ในความเงียบ ก็มองไปยังตระกูลถังด้วยกัน แสงไฟค่อยๆ ดับลงแล้ว เสียงะโฆ่าฟันก็ค่อยๆ หายไป
ในจวนตระกูลถัง
การต่อสู้ตลอดทั้งคืนทำให้ทุกคนเหนื่อยล้า ทุกที่ในจวนตระกูลถังล้วนเต็มไปด้วยร่างไร้ิญญา หากมองจากที่สูง อาจเห็นตระกูลถังราวกับภาพวาดที่เต็มไปด้วยเืและซากศพ
ร่างเหล่านี้หาใช่เพียงศิษย์ตระกูลถัง ยังมีศิษย์ตระกูลตงฟางกับตระกูลซินปะปนอยู่ด้วย
เดิมทีตระกูลถังตกเป็ฝ่ายเสียเปรียบ ทว่าการมาถึงของถังจงเวยเปรียบเหมือนเสาค้ำ์ที่ค้ำจุนทั้งตระกูลเอาไว้
เพราะถังจงเวยสู้กับยอดฝีมือระดับผู้ทรงยุทธ์สามคนเพียงลำพังได้ นี่จึงสร้างโอกาสให้ตระกูลถัง
และภายใต้การนำของถังจงชิงที่แม้จะผ่านการต่อสู้มาทั้งคืน ตระกูลถังยังคงไม่ถูกตีแตก ศิษย์ตระกูลถังทุกคนรวมตัวอยู่รอบเรือนชั้นใน จะเป็ผู้ฝึกยุทธ์หรือไม่ ทุกคนล้วนถืออาวุธ และมองศิษย์ตระกูลตงฟางกับตระกูลซินที่อยู่ข้างนอกด้วยสีหน้าเ็า
ทุกคนในตระกูลถังนั้นกล้าหาญไม่กลัวตาย
ิญญายุทธ์ในร่างถังจงเวยได้รับาเ็จากการต่อสู้ ปราณแท้ในร่างก็เหลือไม่มาก เขาจึงไม่อาจเรียกใช้ิญญายุทธ์ได้ ถังจงเวยในยามนี้กำลังถือดาบโลหะชั้นดีที่อาบย้อมไปด้วยเื และยืนอยู่ด้านหน้าคนตระกูลถังเหมือนกำแพงสูงชั้นหนึ่ง เขากำลังช่วยคนในตระกูลถังแบกรับแรงกดดัน
ผู้าุโใหญ่ถังจงชิงยืนอยู่ด้านข้างถังจงเวย ทั่วร่างเขาเต็มไปด้วยาแ ที่อกมีรอยแผลพาดยาว ผ้าขาวที่พันเอาไว้ย้อมไปด้วยเื แต่ชายชราผู้นี้ยังไม่คิดถอย ในมือกำลังถือดาบที่อาบไปด้วยเืเช่นกัน
“ตงฟางป้าเทียน หากวันนี้ข้ายังอยู่ ตระกูลเ้าก็ไม่มีวันตีตระกูลข้าแตก คิดจะทำลายตระกูลข้า ต้องชดใช้ด้วยชีวิต!”
ด้านหน้าถังจงเวยไม่ไกล ตงฟางป้าเทียนกำลังยืนถือดาบโค้งอยู่ในมือ
ด้านหลังตงฟางป้าเทียนคือศิษย์ตระกูลตงฟางกับตระกูลซิน ตระกูลตงฟางหลายร้อยคนที่โจมตีในระลอกแรกตายไปหมดแล้ว คนส่วนใหญ่ตอนนี้ล้วนเป็กำลังเสริมที่ตงฟางป้าเทียนเรียกมาจากตระกูลอีกครั้ง
เรียกได้ว่าครั้งนี้ตงฟางป้าเทียนทุ่มทั้งตระกูล ส่วนศิษย์ตระกูลซินก็เหลือไม่ถึงสามสิบคน เพราะตระกูลซินไม่ยอมส่งกำลังเสริมมาเพิ่ม แต่ผู้าุโตระกูลซินจึงยังอยู่ที่นี่ต่อ เพราะหากได้รับชัยชนะ ก็ไม่อยากพลาดผลงาน แต่หากสถานการณ์ผิดปกติ เขาก็พร้อมจะหนีทันที
“ถังจงเวย ข้าดูถูกเ้าเกินไปจริงๆ แต่เ้าช่วยตระกูลถังไม่ได้ ใครก็ช่วยตระกูลถังไม่ได้ วันนี้ตระกูลตงฟางของข้าจะทำลายตระกูลถังให้สิ้น!”
อาการาเ็บนร่างตงฟางป้าเทียนสาหัสมาก
ในเมื่อมาถึงขั้นนี้ นี่คงไม่ใช่แค่แย่งชิงผลประโยชน์กันแล้ว แต่เป็ความแค้นระหว่างตระกูลล้วนๆ ต่อให้ตระกูลตงฟางชนะไป ก็ต้องแบกรับความเสียหายอันมหาศาล
ตงฟางป้าเทียนไม่เข้าใจว่าทำไมเฮยฉานฉู่ถึงไม่ลงมือกับตระกูลถัง และไม่รู้ว่าถังจงเวยรอดมาจากจวนเ้าเมืองได้อย่างไร!?
เขาไม่เข้าใจเื่เหล่านี้เลยสักนิด ยอดฝีมือระดับยอดยุทธ์สองคนทำอะไรอยู่กันแน่ แต่ยามนี้เขาไม่รู้และไม่อยากรู้ด้วย สิ่งที่เขาคิดมีเพียงอย่างเดียว คือนำพาตระกูลตงฟางกำจัดตระกูลถังให้สำเร็จ
ศิษย์ตระกูลตงฟางยังคงได้เปรียบอยู่ แต่ตอนนี้สองฝ่ายยังไม่มีใครกล้าลงมือก่อน เพราะคนที่มีชีวิตอยู่ตรงนี้ล้วนรอดมาจากการต่อสู้อันดุเดือดในยามค่ำคืน
ใครก็ไม่อยากทำลาย่เวลาสงบอันแสนสั้นนี้
แต่การต่อสู้ก็คือการต่อสู้ จุดจบของการต่อสู้ก็คืออีกฝ่ายถูกกำจัด
“ฆ่า!”
ตงฟางป้าเทียนชูดาบขึ้น และะโออกมา เขานำศิษย์ตระกูลตงฟางพุ่งเข้าหาตระกูลถัง
“ฆ่ามันให้หมด!”
ถังจงเวยชูดาบขึ้น และปลุกความกล้าของคนตระกูลถังรับศึกต่อ
ตอนนี้หาใช่เวลาถอยแล้ว ต่อให้ในใจจะหวาดกลัวเพียงใด เราก็ต้องเผชิญหน้าอย่างกล้าหาญ เราต้องเอามีดในมือแทงหัวใจศัตรูให้ได้
แต่ในใจของถังจงเวยกลับปรากฏเงาของถังเหล่ย เขาไม่รู้ว่าถังเหล่ยไปอยู่ที่ไหนแล้ว ถูกยอดฝีมือระดับยอดยุทธ์ไล่ตามไปเช่นนั้น จะปลอดภัยไหมก็ไม่รู้
การต่อสู้กำลังปะทุขึ้นอีกครั้ง ขณะที่ทั้งสองฝ่ายเตรียมต่อสู้ ทันใดนั้นร่างหนึ่งก็ตกลงมาคั่นกลางระหว่างทั้งสองฝ่ายราวกับลูกธนู
สองฝ่ายล้วนหยุดมือ พวกเขาอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“เหล่ยเอ๋อร์!”
แค่ถังจงเวยมองปราดเดียว ก็จำรูปร่างของถังเหล่ยในฝุ่นควันได้ เขาเรียกชื่อถังเหล่ยด้วยความดีใจ
จากนั้นฝุ่นควันก็กระจายหายไป ร่างของถังเหล่ยปรากฏต่อหน้าทุกคน
ใบหน้าของตงฟางป้าเทียนพลันฉายแววหวาดผวา
ถังเหล่ยยังไม่ตาย นี่เป็ไปได้เยี่ยงไร!?
“ท่านปู่ เหล่ยเอ๋อร์มาช้าไปหน่อย เื่ต่อจากนี้ให้ข้าจัดการเองเถอะ!”
ถังเหล่ยกวาดสายตามองรอบด้าน และเห็นสภาพน่าอนาถของคนตระกูลถัง แม้แต่คนธรรมดาที่ยังไม่ปลุกิญญายุทธ์ก็จับอาวุธขึ้นสู้ แสดงว่าตระกูลถังเกือบก็จวนล่มสลายอยู่รอมร่อ
ยังดีที่ถังเหล่ยเห็นใบหน้าผอมเล็กของถังเฟยในฝูงชน นี่ทำให้ในใจของเขาผ่อนคลายลงเล็กน้อย คนในตระกูลถังที่เขาสนใจมากที่สุดก็คือถังจงเวย ถังเฟย และจื่อเจวียน
ถังเฟยดูท่าทางใไม่น้อย เมื่อนางเห็นถังเหล่ยปรากฏตัว ั์ตาก็เต็มไปด้วยความซาบซึ้ง แต่สาวน้อยรู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลามาทักทาย นางจึงเอามือปิดปากไม่ส่งเสียง
“เ้าเดรัจฉานยังไม่ตายสินะ มาได้เวลาพอดี วันนี้พวกแกปู่หลานมาตายพร้อมกันเถอะ!”
ตงฟางป้าเทียนเหยียดยิ้มชั่วร้าย ถังเหล่ยมาแล้วทำไม? มันก็แค่ผู้ชำนาญยุทธ์ตัวเล็กๆ คนหนึ่ง คิดหรือว่าจะพลิกสถานการณ์ได้?
“หลังจากวันนี้ไป ในเมืองอวิ๋นหลิวจะเหลือเพียงตระกูลถังของข้า!”
ถังเหล่ยหันหน้าที่ไร้ซึ่งอารมณ์มาประชันกับตงฟางป้าเทียน ศิษย์ตระกูลตงฟาง และตระกูลซิน
“ท่านปู่ ข้าขอยืมดาบหน่อย!”
ถังเหล่ยไม่ค่อยใช้อาวุธ เพราะหน้าที่ของอาวุธก็คือการสังหาร และวันนี้ถังเหล่ยก็มาเพื่อสังหาร!