จากแผนที่ที่พวกเขามีอยู่ ถังเหล่ยสามารถคาดเดาตำแหน่งของตัวเองได้ ก่อนหน้านี้ม้าอัสนีพาพวกเขาเข้ามาในเทือกเขาสัตว์อสูรได้ประมาณหนึ่งพันลี้ รอบด้านมีเพียงสองเมือง คือเมืองเฮยเหยียน และด่านซิวหลัว
หาก้าหลบเลี่ยงสองเมืองนี้พวกเขาจำเป็ต้องเดินลึกเข้าไปในเทือกเขาสัตว์อสูร ไม่เพียงหนทางข้างหน้าจะยากลำบาก แต่ยังมีสัตว์อสูรจำนวนมากรอคอยอยู่ นี่ไม่ใช่ความคิดที่ดีอย่างแน่นอน
สภาพร่างกายของถังเหล่ยและฉินเฮ่าเลวร้ายอย่างมาก ไม่มีทางที่พวกเขาจะไปถึงอีกฟากหนึ่งของเทือกเขาสัตว์อสูรได้
“มีเพียงทางเดียว ด่านซิวหลัว!” ฉินเฮ่ากล่าวขณะที่กำลังฝืนตัวลุกขึ้นนั่ง การพักฟื้นร่างกายในเวลาสั้นๆ ทำให้เขามีเรี่ยวแรงกลับคืนมาเล็กน้อย
“ใบประกาศจับยังมีรูปของข้าอยู่ การไปที่ด่านซิวหลัวจะทำให้ข้าถูกจับ” ถังเหล่ยกล่าวขณะที่จ้องมองแผนที่ของฉินเฮ่า
ถังเหล่ยกำลังมองหาเส้นทางที่จะทำให้เขาไปถึงจักรวรรดิซือฉีได้อย่างปลอดภัย
“ถ้าพวกเราไม่ไปด่านซิวหลัวพวกเราไม่รอดแน่! เยียนหลิงเทียนไม่มีทางส่งมือสังหารมาแค่กลุ่มเดียว ข้าคิดว่าด่านซิวหลัวปลอดภัยที่สุดแล้ว ข้ารู้จักกับขุนพลที่นั่นพวกเขาสามารถปกป้องเราสองคนได้” ฉินเฮ่ากล่าวด้วยน้ำเสียงแ่เบา
ถังเหล่ยยังคงสงบนิ่งและจ้องมองแผนที่ แต่สิ่งที่ฉินเฮ่ากล่าวมานั้นถังเหล่ยก็เห็นด้วยเช่นกัน
ตอนนี้ถังเหล่ย้าออกจากจักรวรรดิเทียนอวี่ให้เร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นจะมีมือสังหารไล่ล่าไม่หยุดหย่อน หากยังคงชักช้าไม่เพียงแค่กลุ่มมือสังหารที่เยียนหลิงเทียนส่งมาจะออกตามล่าเขา แม้แต่หน่วยผู้คุมกฎก็จะออกตามล่าเขาเช่นกัน
“ข้าไปที่ด่านซิวหลัวได้ แต่เ้าต้องรับประกันว่าจะปล่อยข้าออกจากด่านซิวหลัวทันทีที่ปลอดภัย เพราะข้าจะต้องเดินทางไปที่จักรวรรดิซือฉีต่อ” ถังเหล่ยกล่าวอย่างตรงไปตรงมา และหันมาสบตาฉินเฮ่าอีกครั้ง
ถังเหล่ยก็ไม่มีทางเลือกเช่นกัน แต่เขาอยากตกลงกับฉินเฮ่าก่อนที่จะตัดสินใจ
“ทำไมเ้าถึง้าไปที่จักรวรรดิซือฉี? ที่นั่นอันตรายมาก เ้ากลับไปกับข้าดีกว่า ข้ารับประกันว่าเ้าจะไม่ได้รับอันตรายอย่างแน่นอน” ฉินเฮ่ากล่าวและคิดว่าถังเหล่ยจะออกจากด่านซิวหลัวเพื่อหนีการจับกุม
“ข้าคือคนที่ลงมือฆ่าเยียนหลิงซาน ผู้คุมกฎอย่างเ้าจะปล่อยข้าไปจริงๆ หรือ? หยุดพูดจาไร้สาระได้แล้ว” ถังเหล่ยหันมองฉินเฮ่าและกล่าวโดยไม่แยแส
“เ้า!”
ฉินเฮ่ากล่าวด้วยความโมโห เขาพยายามลุกขึ้นยืนแต่อาการาเ็ของเขาสาหัสเกินไปจึงทำได้เพียงแค่ข่มความโกรธไว้เท่านั้น
“ข้ารู้จักกับขุนพลหม่าเทียนเจิ้งแห่งด่านซิวหลัว ขอเพียงพวกเราไปถึงด่านซิวหลัวขุนพลหม่าจะรับประกันความปลอดภัยให้กับพวกเรา ถึงแม้ด่านซิวหลัวจะได้รับคำสั่งให้จับเ้า แต่ไม่มีใครเคยเห็นหน้าตาของเ้ามาก่อน เ้าสามารถผ่านไปได้ ถึงตอนนั้นเ้าจะตามข้ากลับไปหรือออกนอกด่านก็สุดแล้วแต่เ้า!”
“ข้าจะลองเชื่อเ้าสักครั้ง” ถังเหล่ยพยักหน้าและตอบรับข้อเสนอของฉินเฮ่า
ตอนนี้ไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้แล้ว ถังเหล่ยยังรู้สึกดีกับคำพูดของฉินเฮ่าเช่นกัน และหวังลึกๆ ว่าเขาจะไม่ผิดสัญญา
“ตอนนี้เรายังอยู่ห่างจากด่านซิวหลัวมาก ไม่แน่ว่ามือสังหารอาจจะดักรอเราอยู่” ถังเหล่ยกล่าวขณะที่ชี้ตำแหน่งของด่านซิวหลัวบนแผนที่
เส้นทางในการไปยังด่านซิวหลัวมีเพียงทางเดียว ถ้าคิดจะหนีออกจากจักรวรรดิเทียนอวี่ ต้องผ่านเส้นทางนี้เท่านั้น แล้วมือสังหารจะปล่อยโอกาสดีเช่นนี้ไปหรือ?
“ตอนนี้ข้าคงไม่มีปัญญาไปต่อสู้กับใคร ถ้าต้องสู้กันจริงๆ ข้าคงต้องพึ่งเ้า” ฉินเฮ่ากล่าวกับถังเหล่ยด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
“ข้าเป็เพียงผู้ชำนาญยุทธ์เท่านั้น จะปกป้องเ้าจากผู้ทรงยุทธ์ทั้งกลุ่มได้อย่างไร?” เมื่อถังเหล่ยได้ยินคำพูดของฉินเฮ่าเขาก็ไม่สามารถอดกลั้นความรู้สึกได้
“ให้เ้า!”
แหวนของฉินเฮ่าเปล่งแสงวาบ เขาหยิบยาเม็ดหนึ่งออกมา และกล่าวว่า
“นี่คือยาปีศาจคลั่งระดับนภา หลังจากกินเข้าไปแล้วจะสามารถกระตุ้นพลังได้สิบเท่า หากเ้าคิดว่าจำเป็ต้องต่อสู้ก็กินมันซะ” ฉินเฮ่ากล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นสะท้าน
เขารู้สึกไม่ค่อยเต็มใจกับการมอบยาชนิดนี้ให้กับถังเหล่ยมากนัก ต่อให้เป็ยอดยุทธ์ก็ทำได้เพียงแค่ฝันที่จะมัน ฉินเฮ่าจึงมีเพียงเม็ดเดียวเท่านั้น
ถังเหล่ยหยิบยาจากมือของฉินเฮ่าพร้อมรอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้า ยาปีศาจคลั่งคือยาที่เขาคิดค้นและปรุงมันขึ้นมา นี่คือยาที่ถังเหล่ยปรุงตอนที่อยู่ระดับปรมาจารย์ยุทธ์เมื่อชาติก่อน
เขาใช้ความบ้าคลั่งของสัตว์อสูรมาหลอมรวมเป็เม็ดยาเพื่อกระตุ้นพลังแฝงในร่างกายของผู้ฝึกยุทธ์ และถังเหล่ยก็มีชื่อเสียงไปทั่วตงฮวงเพราะยาปีศาจคลั่งเม็ดนี้
ชาติก่อนขั้วมหาอำนาจต่างๆ หวังจะให้ถังเหล่ยปรุงยาปีศาจคลั่งจำนวนมากให้พวกเขา ถังเหล่ยก็ปรุงยาปีศาจคลั่งออกมาเป็จำนวนมากจริงๆ อย่างไรก็ตามหาก้าเม็ดยาที่ปรมาจารย์ยุทธ์กับราชันยุทธ์ใช้งานได้ อย่างน้อยต้องใช้แก่นอสูรระดับจักรพรรดิเท่านั้น
ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดาระหว่างผู้ฝึกยุทธ์และสัตว์อสูรถังเหล่ยจึงทำได้เพียงปรุงยาปีศาจคลั่งระดับปฐีและระดับนภา เขาไม่เคยสนใจอยู่แล้วว่ายาเ่าั้จะไปตกอยู่ในมือของใคร เขาเพียงปรุงมันขึ้นมาเพื่อความร่ำรวยเพียงอย่างเดียว
การที่ฉินเฮ่ามียาปีศาจคลั่งระดับนภาอยู่ในมือหนึ่งเม็ดเป็สิ่งที่เกินความคาดหมายของถังเหล่ยโดยสิ้นเชิง
“ยาชนิดนี้มีความสำคัญต่อข้ามาก แม้แต่ตัวข้าเองก็ไม่กล้าที่จะใช้มัน หากเ้าไม่คิดจะใช้มันได้โปรดส่งคืนให้ข้าด้วย” ฉินเฮ่ากล่าวอย่างตรงไปตรงมา
“ยังไม่ทันไรเ้าก็ทวงยาเม็ดนี้คืนแล้ว ระหว่างทางข้ายังต้องปกป้องเ้า เ้าลืมไปแล้วหรือ?” ถังเหล่ยเก็บยาปีศาจคลั่งไว้ทันที
ทุกครั้งที่ฉินเฮ่ามองถังเหล่ยมักจะรู้สึกราวกับกำลังจ้องมองจิ้งจอกเฒ่าที่มีอายุมากกว่าร้อยปี สติปัญญาของอีกฝ่ายทำให้เขาเกิดความหวาดกลัวเป็อย่างมาก
ในเวลาต่อมาฉินเฮ่าก็หยิบเอายาสองเม็ดออกมาจากแหวน และยัดมันเข้าไปในปากของตัวเอง จากนั้นพลังปราณในร่างกายของเขาก็เริ่มฟื้นฟูกลับมาอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ แต่หลังจากนี้เขาจะไม่ใช่ตัวถ่วงของถังเหล่ยอีกต่อไป
ในขณะนี้ทั้งสองคนพร้อมที่จะเดินทางไปยังด่านซิวหลัวแล้ว พวกเขาทั้งสองจึงตกลงกันว่าจะออกเดินทางในยามค่ำคืนเพื่อยากต่อการมองเห็น
………