หนิงเทียนถูกล้อมรอบด้วยกระแสลมรุนแรงอยู่ข้างบ่อน้ำสีดำ กระแสวังวนพลังเก้าแห่งกำลังกลืนกินพลังิญญาอันยิ่งใหญ่ ซึ่งทำให้ร่างกายของหนิงเทียนยืดออกอย่างต่อเนื่อง
แผนที่จิติญญาในเส้นลมปราณแรกกำลังหมุนวน ลวดลายจิติญญาพัฒนาไปกระบวนท่าทั้งเก้าของบงกชสีมรกต ดูดซับพลังอันน่าสะพรึงกลัวอย่างบ้าคลั่ง รวบรวมกระแสวังวนพลังในเส้นลมปราณ และสร้างการก่อตัวของพลังขึ้น
ระดับขอบเขตผนึกดาราไม่ใช่เื่ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรากฐานของหนิงเทียนนั้นแข็งแกร่งเกินไป การที่จะทะลุผ่านขอบเขตก็ยิ่งยากยิ่งขึ้นไปอีก
การรวมตัวเป็วังวนเป็กุญแจสำคัญ จื๋อซิวทั่วไปใช้รากบ่มเพาะเพื่อเปลี่ยนเป็กระแสวังวนพลัง และใช้เป็แหล่งในการขับเคลื่อนกระแสวังวนพลัง กระบวนการทั้งหมดค่อนข้างง่ายซึ่ง
ทว่าสถานการณ์ของหนิงเทียนแตกต่างออกไป เขาไม่ได้ใช้รากบ่มเพาะเพื่อขับเคลื่อนกระแสวังวนพลัง แต่ใช้แผนที่จิติญญาเพื่อควบคุมกระแสวังวนพลัง ซึ่งเป็การก้าวเดินอีกรูปแบบที่ให้ผลลัพธ์แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
การควบแน่นกระแสวังวนพลังในแผนที่จิติญญาไม่ใช่เื่ยาก แต่ปัญหาอยู่ที่การสร้างรูปแบบและการเปิดใช้งานต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมหาศาล
หนิงเทียนอยู่ในสภาวะว่างเปล่า ยุทธศาสตร์ครอง์เคลื่อนไหวด้วยตัวเอง รวบรวมทักษะในร่างให้เป็หนึ่ง และใช้กระบวนท่าทั้งเก้าของบงกชสีมรกตเพื่อสร้างวังวังวนพลัง ต้องมีวังวนอย่างน้อยเก้าแห่งจึงจะเสร็จสมบูรณ์ในขบวนแรกและขั้นพื้นฐานที่สุดได้
ไม่ว่าจะเป็หยวนซิว ซิงซิว หรือจื๋อซิวก็ตาม การควบแน่นกระแสวังวนพลังถือเป็จุดเริ่มต้นในขอบเขตผนึกดารา กระแสวังวนพลังสามแห่งสามารถไหลเวียนได้ และกระแสวังวนพลังเก้าแห่งเป็ขีดจำกัดสำหรับหลายๆ คน
เนื่องจากในแต่ละครั้งที่กระแสวังวนพลังถูกควบแน่น ทรัพยากรจำนวนมากจะถูกใช้ แม้ในทางทฤษฎีจะเป็ไปได้ที่จะควบแน่นกระแสวังวนพลังนับอนันต์ ทว่าขนาดของเส้นลมปราณกลับมีจำกัด ซึ่งความเป็จริงแล้วเป็ไปไม่ได้เลยที่จะบรรลุผลสำเร็จ
หนิงเทียนแทนที่รากบ่มเพาะด้วยแผนที่จิติญญาในขอบเขตจิตหยั่งลึก ซึ่งเหนือกว่าผู้คนนับไม่ถ้วน
เมื่อทะลวงขอบเขตผนึกดารา หนิงเทียนได้รวมสถานการณ์ของแผนที่จิติญญาและหลักการของเลขเก้าหลักเพื่อควบแน่นกระแสวังวนพลังทั้งเก้าในรอบแรกเพื่อสร้างรูปแบบชั้นแรกขึ้นมา
นี่คือขีดจำกัดของผู้บำเพ็ญจำนวนมาก แต่มันคือจุดเริ่มต้นของหนิงเทียน การสร้างชั้นสองของเขาต้องใช้กระแสวังวนพลังแปดสิบเอ็ดกระแส วังวนพลังแต่ละกระแสสามารถดูดซับพลังิญญาด้วยความเร็วหนึ่งพันสองร้อยเก้าสิบหกรอบ โดยรักษาความเข้มข้นของพลังิญญาให้อยู่ในสภาวะสุดขั้นสุดได้
ความเร็วนี้น่ากลัวอย่างยิ่งเมื่อนำไปใช้กับขอบเขตผนึกดารา แต่หนิงเทียนยังไม่ตระหนักถึงมัน เขาเพียงปล่อยให้ธรรมชาติดำเนินไปและแสวงหาความสมบูรณ์แบบก็เท่านั้น
น้ำโคลนในบ่อน้ำสีดำม้วนตัว กระดูกที่เริ่มเน่าเปื่อยปลดปล่อยพลังอันน่าประหลาดใจออกมา
ในเส้นลมปราณแรกของหนิงเทียนมีกระแสวังวนพลังเข้ามารวมตัวกันและแยกตัวออก ก่อนจะสร้างเป็รูปแบบที่สมบูรณ์ นี่เป็กระบวนการที่ยาวนานอย่างยิ่ง หลังจากรูปแบบชั้นสองเสร็จสิ้น หนิงเทียนก็เริ่มสร้างรูปแบบชั้นสามต่อทันที
ครานี้จำนวนกระแสวังวนพลังควบแน่นสูงถึงเจ็ดร้อยยี่สิบเก้ากระแส นี่เป็ความสำเร็จที่น่าใอย่างยิ่ง
ผู้บำเพ็ญทั่วไป ไม่ว่าจะเป็หยวนซิว ซิงซิว หรือจื๋อซิวจะต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมากทุกครั้งที่ควบแน่นกระแสวังวนพลัง ไม่มีผู้ใดกล้าควบแน่นและบริโภคมันอย่างไม่มีขีดจำกัดเช่นเขาเป็แน่
เนื่องจากสิ่งนี้เกี่ยวข้องกับหลายแง่มุม สิ่งแรกคือเส้นลมปราณของพวกเขาย่อมทนไม่ได้
ประการที่สอง จะมีทรัพยากรเพียงพอหรือไม่?
ประการที่สาม จะมีเวลามากขนาดนั้นหรือไม่? เื่นี้จึงยังคงมีความเสี่ยงอยู่มาก
แม้แต่อัจฉริยะหยวนซิวและซิงซิวก็ยังทำตามความสามารถของตน และคำนวณอย่างรอบคอบเมื่อพวกเขาอยู่ในขอบเขตผนึกดารา
หนิงเทียนไม่ได้รับคำแนะนำจากอาจารย์ผู้โด่งดังและอาศัยจินตนาการของตัวเองทั้งสิ้น ดังนั้น เขาจึงไม่สนใจทั้งเวลาหรือทรัพยากร เขาสนเพียงว่าตนเองแข็งแกร่งพอและสมบูรณ์แบบหรือไม่
ไม่รู้ต้องใช้เวลานานเพียงใด แต่ในที่สุดกระแสวังวนพลังสามสายที่หนิงเทียนสร้างขึ้นในเส้นลมปราณแรกก็เสร็จสมบูรณ์ มันดูเหมือนหอคอย ชั้นแรกประกอบด้วยวังวนเก้าแห่ง ชั้นที่สองประกอบด้วยแปดสิบเอ็ดแห่ง และชั้นที่สามประกอบด้วยวังวนเจ็ดร้อยยี่สิบเก้าแห่ง วังวนทั้งหมดรวมเป็แปดร้อยสิบเก้าแห่ง
ขั้นตอนต่อไปคือการกระตุ้นชั้นที่สามเพื่อให้กระแสวังวนพลังเหล่านี้เริ่มหมุนเวียน
แผนที่จิติญญาแรกและยุทธศาสตร์ครอง์เป็กุญแจสำคัญ หนิงเทียนเข้าใจความลับในกระบวนการสร้างวังวังวนพลังแล้ว และตอนนี้เขาใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว
“ยันต์เต๋าอนันต์ วาโยพิโรธ เผาไหม้!” หนิงเทียนใช้หนึ่งก้าวสู่์ควบคุมแผนที่จิติญญาทั้งเก้า ผสานยุทธศาสตร์ครอง์ และเริ่มการพัฒนาครั้งสุดท้าย
ขณะนั้นบ่อน้ำสีดำเริ่มเกิดการปั่นป่วน พลังอันน่าสะพรึงกลัวที่แนบมากับหนิงเทียนแล้วก่อตัวเป็หมอกสีดำโกลาหล จากนั้นเสียงแตกร้าวก็ดังออกมาจากร่างกายของหนิงเทียน
เส้นลมปราณแรกของหนิงเทียนเปลี่ยนไป กระแสวังวนพลังแปดร้อยสิบเก้าแห่งกำลังดูดซับพลังอย่างบ้าคลั่ง ความเร็วการกลืนกินของกระแสวังวนพลังแต่ละอันแห่งถึงหนึ่งพันสองร้อยเก้าสิบหกเท่า เมื่อนำมารวมกันผลที่ได้ช่างน่าหวาดหวั่น
ลวดลายสีทองบนร่างของหนิงเทียนกำลังแตกสลาย แม้แต่ระดับห้าของกายาสุวรรณะนิรันดร์ก็ไม่สามารถทนต่อผลกระทบของการดูดกลินพลังิญญาคราวนี้ได้ นี่แสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงในร่างกายของหนิงเทียนในเวลานี้นั้นน่ากลัวเพียงใด
แต่ละกระแสวังวนพลังในเส้นลมปราณเริ่มเรืองแสง ยิ่งดูดซับพลังิญญาได้มากเท่าใด ความสว่างก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น
เมื่อกระแสวังวนพลังแต่ละแห่งถึงความอิ่มตัวและความสว่างถึงจุดที่แข็งแกร่งที่สุด การก่อตัวของกระแสวังวนพลังสามแห่งจึงถูกจุดประกายและเปิดใช้ทันที
เสียงดังก้องอยู่ภายในใจของหนิงเทียนราวกับโลกถูกสร้างขึ้น และมีภาพมิติแปลกๆ ก็ปรากฏขึ้นในร่างของเขา
สายฟ้าตกกระทบห้วงอากาศและโจมตีหนิงเทียน ทำให้ธารโลหิตหลั่งไหลจากทวารทั้งเจ็ดทันที พร้อมกับเขาที่กรีดร้องอย่างไม่ยินยอม
ภายในเส้นลมปราณแรก พลังที่หมุนวนส่งเสียงคำรามทะลุทะลวงชั้นฟ้า กระแสลมหมุนแปดร้อยสิบเก้าสายหมุนด้วยความเร็วสูง เมื่อความถี่ถึงจุดหนึ่งก็เกิดเป็เสียงที่สะท้อนออกมา พร้อมพลังรุนแรงที่พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า ทำลายสายฟ้าที่ฟาดลงมาในทันที
หนิงเทียนคำรามและต่อต้านอย่างบ้าคลั่ง ผมแต่ละปอยบนศีรษะสะบัดหมุน ร่างกายอาบด้วยแสงอันเจิดจ้า เขาถูกโจมตีโดยพลังแห่งอัสนีแต่กลับไม่ได้รับาเ็ใดๆ
บ่อน้ำสีดำเปล่งประกายและเต็มไปด้วยหมอกควันโกลาหล พลังบริสุทธิ์พุ่งเข้าหาหนิงเทียนอย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะถูกกระแสวังวนพลังกลืนกินและกลั่นกรองเข้าไปในเส้นลมปราณแรก จากนั้นก็ฉีดเข้าไปในแผนที่จิติญญาแรก ทำให้เงาร่างของบงกชสีมรกตแข็งแกร่งขึ้น
“วาโยพิโรธ ศักยภาพลุกโชน!”
ใน่เวลาแห่งทัณฑ์์ หนิงเทียนกรีดร้องอย่างดุเดือด เขาถูกฟ้าผ่าตอนอยู่ในขอบเขตขอบเขตจิตหยั่งลึก ตอนนี้เขาได้เข้าสู่ขอบเขตผนึกดาราขั้นแรกแล้ว ทัณฑ์์สายฟ้าฟาดย่อมเป็สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ยุทธศาสตร์ครอง์เติบโตอย่างรวดเร็ว กล้วยไม้เซียนเก้าชีวิตในตันเถียนกลืนแสงแห่งฟ้าร้องและความโกลาหล ใบที่สี่ก็เริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
สายฟ้าฟาดล้อมรอบร่างของหนิงเทียนและเจาะเข้าไปในเส้นลมปราณแรก ก่อนจะเข้าสู่กระแสวังวนพลัง ชำระล้างพลังชั่วร้าย พร้อมทั้งขับไล่พลังลึกลับบางส่วนออกจากร่างกายของเขา
หนิงเทียนกลืนพลังแห่งอัสนี จากนั้นจึงดูดซับพลังจากบ่อน้ำสีดำต่อไป และเริ่มวังวนพลังชั้นที่สี่
ตามการหักลบของเลขเก้าหลัก จำนวนกระแสวังวนพลังที่เกี่ยวข้องกับชั้นที่สี่มีมากถึงหกพันห้าร้อยหกสิบเอ็ดแห่ง นั่นเป็เป้าหมายที่แทบจะเป็ไปไม่ได้เลยและมีแนวโน้มอย่างมากที่จะะเิเส้นลมปราณของหนิงเทียน แต่เขาก็ไม่ได้คิดมาก เขาััได้ถึงความน่ากลัวของบ่อน้ำสีดำนี้และพลังที่อยู่ในนั้นก็เกินกว่าจะจินตนาการได้
แต่ละกระแสวังวนพลังกำลังก่อตัวอย่างรวดเร็ว เส้นลมปราณแรกค่อยๆ ขยายตัว ความยากในการควบคุมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วไม่ต่างกัน
หนิงเทียนกัดฟันและอดทนต่อไป จิติญญาการต่อสู้ของเขาไม่เคยลดลง จำนวนวังวนก็พุ่งเกินหนึ่งพัน สองพัน สามพันไปอย่างรวดเร็ว
“ยันต์เต๋าอนันต์ขยายไม่มีสิ้นสุด!” หนิงเทียนทุ่มเทพลังทั้งหมดไปกับการปลูกเส้นลมปราณแรก โดยใช้วิถีแห่งเต๋าธรรมชาติ เืถูกเผาไหม้ แผนที่จิติญญาเบ่งบาน และเขาพร้อมมอบทุกสิ่งที่ตนมีออกมา
จำนวนกระแสวังวนพลังเกินห้าพัน ทะลุหกพัน และในที่สุดก็เสร็จสิ้นวังวนหกพันห้าร้อยหกสิบเอ็ด ทว่ายามนี้เส้นลมปราณของเขาใกล้จะพังทลายแล้ว
“ชีพจรข้าครอง์ หนึ่งก้าวสู่์ เอาผลาญ!”
การก่อตัวของกระแสวังวนชั้นที่สี่ต้องใช้พลังมากเกินไป บ่อน้ำสีดำสั่นะเืทั้งบ่อ เกาะแห่งนี้เริ่มมีสัญญาณของการล่มสลาย
ทวารทั้งเจ็ดของหนิงเทียนโชกไปด้วยเื แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาก็ไม่สนใจ เขาบ้าไปแล้ว เขานึกเพียงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของขอบเขตผนึกดาราและเพิกเฉยต่อความเสี่ยงโดยสิ้นเชิง
กระแสวังวนพลังรูปทรงหอคอยกำลังลุกไหม้ ชั้นที่หนึ่ง สอง และสามทั้งหมดถูกเปิดใช้ พร้อมกับหลั่งพลังออกมาอย่างบ้าคลั่งและส่งไปยังชั้นที่สี่
วังวนมากกว่าหกพันแห่งเป็เหมือนเหวที่แห้งแล้ง มันดูดซับพลังที่ส่งมาอย่างเมามันและค่อยๆ สว่างขึ้น
เมื่อกระแสวังวนพลังทั้งหมดถูกจุด พลังอันน่าสะพรึงกลัวก็ปะทุออกมา หอคอยกระแสวังวนพลังะเิออกมาด้วยแสงที่ไม่มีใครเทียบได้ แสงนั้นราวกับดวงอาทิตย์แผดเผา ซึ่งส่องสว่างทั่วทั้งอวัยวะภายใน กล้ามเนื้อ และเส้นลมปราณของหนิงเทียน
หนิงเทียนคำรามด้วยความเ็ปก่อนจะปล่อยหมัดขวาใส่ความว่างเปล่า ทำลายสายฟ้าที่ฟาดลงมา ทันใดนั้นเขาก็ล้มลงและร่วงลงไปในบ่อน้ำสีดำ
ทัณฑ์์ค่อยๆ คลี่คลายลงท่ามกลางความว่างสายฟ้าสุดท้ายปาดใส่บ่อน้ำสีดำ สะท้อนถึงร่างกายของหนิงเทียนและสถานการณ์ในบ่อน้ำ
ศพแล้วศพเล่าสลายไป น้ำที่ทั้งมืดและขุ่นใสขึ้นในทันใด
หนิงเทียนลอยอยู่ใต้น้ำ ร่างกายเปล่งประกาย แหล่งกำเนิดชีวิตหล่อเลี้ยงช่วยหล่อเลี้ยงร่างกายและจิตใจ ขณะที่บงกชสีมรกตในบ่อแผ่รากออกมาพันรอบร่างกายของหนิงเทียน
ร่างกายของหนิงเทียนมีพลังอันรุนแรง ไม่เพียงเข้าสู่ขั้นแรกของขอบเขตผนึกดาราได้เท่านั้น แต่เขายังควบแน่นหอคอยกระแสวังวนพลังในเส้นลมปราณ ยามนี้สามารถเรียกได้ว่าเขาเป็อัจฉริยะแห่งยุคสมัย
ที่ผ่านมาจำนวนอัจฉริยะผู้ไร้เทียมทานที่สามารถควบแน่นหอคอยพลังในขอบเขตผนึกดาราได้นั้นสามารถนับได้ด้วยมือข้างเดียว
ในเส้นลมปราณแรกของหนิงเทียนมีหอคอยพลังสี่ชั้น ซึ่งมีกระแสวังวนพลังทั้งหมดเจ็ดพันสามร้อยแปดสิบแห่ง นั่นคือการดำรงอยู่ที่คนธรรมดาไม่สามารถจินตนาการได้
หอคอยพลังประกอบด้วยพลังมากมายมหาศาล มันสามารถหมุนวนได้ตลอดและนี่คือสิ่งที่น่ากลัวเกี่ยวกับมัน
หนิงเทียนขยับตัวเล็กน้อยใต้น้ำ ไม่นานเขาก็ตื่นแล้วลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า พร้อมเหยียดกายอยู่กลางอากาศ
หนิงเทียนรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในตนเอง เขาเข้าสู่ขอบเขตขอบเขตผนึกดาราได้สำเร็จ และจุดเด่นที่ใหญ่ที่สุดคือหอคอยพลังในเส้นลมปราณแรก
มันทำงานด้วยตัวของมันเองและคงอยู่ตลอดเวลา เมื่อหนิงเทียน้าการะเิพลัง หอคอยพลังจะสามารถส่งให้พลังที่น่าสะพรึงกลัวออกมาได้ทันที
หลังจากก้าวเข้าสู่ขอบเขตผนึกดาราขั้นแรก จากจุดสูงสุดของขอบเขตจิตหยั่งลึกแล้วหนิงเทียนก็เปลี่ยนไปมาก การปลูกเส้นลมปราณแรกของเขาเกือบจะถึงขีดสุด และเขาเกือบจะะเิในยามก้าวเข้าสู่ขอบเขตผนึกดารา
ด้วยการเคลื่อนไหวของทักษะยุทธศาสตร์ครอง์ เส้นลมปราณแรกในร่างของหนิงเทียนก็ปะทุขึ้นด้วยแสงอันน่าสะพรึงกลัวทันที แผนที่จิติญญาพัฒนาไปสู่การเปลี่ยนแปลงตามกระบวนท่าทั้งเก้าของบงกชสีมรกต หอคอยพลังหมุนและสั่นไหวพร้อมปลดปล่อยพลังเหนือจินตนาการออกมา เืของหนิงเทียนเผาไหม้ จิติญญาการต่อสู้บ้าคลั่ง เขาเข้าสู่สถานะการต่อสู้ขั้นสุดยอดทันที
หนิงเทียนรู้สึกถึงกระแสเืที่กำลังลุกไหม้ กระดูกทั่วทั้งะเิออก เขาต่อยออกไปด้วยหมัดขวา ทักษะทะลวงพันชั้นส่งผ่านพลังศักดิ์สิทธิ์อันกว้างใหญ่อย่างหาที่เปรียบมิได้ ห้วงอากาศฉีกขาด การไหลของอากาศก่อให้เกิดเสียงดังก้องกังวาน
“ดียิ่ง!” หนิงเทียนกู่ร้องเสียงดัง พลังของเขาคมเหมือนใบมีด เขาตื่นเต้นอย่างมากก่อนจะเริ่มมองออกไปในระยะไกล
บนูเาลอยฟ้า นกประหลาดบนต้นไม้ใหญ่กำลังมองมาที่เขา ดวงตาสีม่วงอมฟ้าของมันนั้นแหลมคมและน่าสะพรึงกลัว ซึ่งทำให้หนิงเทียนรู้สึกตื่นตระหนก
หนิงเทียนกลั้นลมหายใจแล้วเอ่ยพึมพำ “นกประหลาดตัวนี้ไม่ใช่เื่ง่ายที่จะยุ่ง ข้าต้องหลีกเลี่ยงมัน เมฆสีม่วงนั่นก็ไม่สนุกเหมือนกัน มันดูชั่วร้าย ทว่าูเาไฟกลับน่ากลัวยิ่งกว่า ลืมเื่แม่น้ำไปได้เลย เช่นนั้นไปชมพระราชวังก่อนดีกว่า”
หลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว หนิงเทียนก็รู้สึกว่าูเาลอยฟ้า เมฆสีม่วง ูเาไฟ และแม่น้ำล้วนเป็อันตราย ถ้ารีบเร่งอาจตายตรงนั้นได้ เขาจึงตัดสินใจใช้ทางอ้อมและมุ่งหน้าสู่พระราชวังทันที นั่นเพราะมีบางอย่างดึงดูดเขาไปที่นั่นอย่างคลุมเครือ
พระราชวังอันกว้างใหญ่ดูงดงามเมื่อมองจากระยะไกล แต่เมื่อมองใกล้ๆ กลับกลายเป็เงา มันคือภาพลวงตาหรือ?
เสียงฉินดังกังวาน ปราณกระบี่เปรียบเสมือนกระแสน้ำที่เต้นรำอย่างสง่างาม ราวกับหญิงสาวที่กำลังบรรเลงเพลงขลุ่ย
หนิงเทียนหยุดมองอยู่ครู่หนึ่ง เขาเห็นเงาิญญาเหนือพระราชวัง เขากำลังมองเงามายาอยู่จริงๆ
