ม่อหลิงหานขมวดคิ้ว มองเยว่เฟิงเกอและม่อเสวียนเช่อด้วยสีหน้าเ็า
เหตุที่ม่อหลิงหานมาอยู่ที่นี่ เพราะเขารู้ว่าหลังจากเยว่เฟิงเกอปลอมตัวเป็ชายแล้ว นางจะต้องออกจากจวนด้วยประตูนี้อย่างแน่นอน
เช่นนี้เขาจะได้เดินออกไปข้างนอกพร้อมนาง
ม่อหลิงหานคิดไว้เพียงว่า พอเขาได้ออกไปพร้อมกับเยว่เฟิงเกอ ถึงตอนนั้นค่อยพยายามโอ๋ให้นางอารมณ์ดี เช่นนี้ความสัมพันธ์ของพวกเขาจะได้แน่นแฟ้นและอบอุ่นขึ้นอีกหน่อย
ทว่า สิ่งที่เขาคิดไม่ถึงก็คือ เยว่เฟิงเกอไม่เพียงสวมอาภรณ์บุรุษ ข้างกายนางยังมีม่อเสวียนเช่อติดตามมาด้วย
นางเคยบอกว่าระหว่างพวกเขาไม่ได้มีอะไรกัน แล้วตอนนี้นางจะอธิบายอย่างไร?
เยว่เฟิงเกอเห็นสีหน้าของม่อหลิงหานที่เ็าขึ้นเรื่อยๆ ก็รู้แล้วว่าเขากำลังเข้าใจนางผิดอีกแล้ว
เดิมทีเมื่อวานก็เป็เพราะม่อหลิงหานกินน้ำส้มสายชู ทำให้ผลสุดท้ายคนทั้งสองต้องแยกจากกันอย่างไม่สบอารมณ์
วันนี้ที่เยว่เฟิงเกอจะออกไปเที่ยวนอกจวน ก็ไม่คิดบอกให้ม่อหลิงหานรู้ แต่กลับเป็ม่อหลิงหานที่มาดักรอนางอยู่ที่นี่
เยว่เฟิงเกอหันหน้าไปอีกทาง ไม่อยากมองม่อหลิงหานอีก
ม่อเสวียนเช่อถูกสายตาเ็าของม่อหลิงหานทำเอาจิตใจไม่สงบ ขณะที่เยว่เฟิงเกอข้างกายเขากลับมีท่าทีไม่อยากจะสนใจคนตรงหน้า
ตอนนี้ม่อเสวียนเช่ออยากจะหันหลังกลับแล้ว เขามาหาเยว่เฟิงเกอที่จวนอ๋องก็เพียงเพราะอยากจะเล่นโทรศัพท์มือถือ
ก่อนหน้านี้เขาได้ยินเสด็จแม่เล่าเื่ความสามารถของโทรศัพท์มือถือให้ฟังอยู่บ่อยๆ จึงรู้สึกสนใจเ้าโทรศัพท์มือถือที่ว่านั่นขึ้นมา
และเมื่อรู้ว่าเยว่เฟิงเกอเองก็มีโทรศัพท์มือถืออยู่ ด้วยเหตุนี้เขาถึงได้อยากจะมาหานางที่จวนจั้นอ๋องอยู่หลายครั้ง
ในที่สุดครั้งนี้ก็ได้ออกจากวังเสียที จึงมุ่งหน้ามาที่จวนจั้นอ๋องนี้ในทันที
สุดท้ายไม่เพียงไม่ได้ยืมโทรศัพท์มือถือ เขายังต้องมาเผชิญหน้ากับสองสามีภรรยาที่กำลังแง่งอนกันอยู่อีก
ม่อหลิงหานไม่สนใจม่อเสวียนเช่อ เขาก้าวยาวๆ ไปหาเยว่เฟิงเกอ
“เขามาอยู่กับเ้าได้อย่างไร? ” แน่นอนว่าเขาที่ม่อหลิงหานกล่าวถึงหมายถึงม่อเสวียนเช่อ
ม่อเสวียนเช่อยืนฟังอยู่ข้างๆ ด้วยหัวใจที่หนาวเหน็บ ไม่ใช่ว่าเสด็จพี่รองของเขาควรจะเอ่ยถามเขาว่าเหตุใดถึงได้มาเยือนถึงจวนอ๋องหรือ เหตุใดคนถึงได้เมินเขากันนะ
เยว่เฟิงเกอเพียงเบ้ปากน้อยๆ ยังคงไม่พูดไม่จา
อันที่จริงนางหายโกรธเขาแล้ว แต่เมื่อเห็นว่าม่อหลิงหานทำท่าทีเ็าใส่นางเช่นนี้อีก ก็อดไม่ได้ที่จะโกรธจนไฟลุกขึ้นมาอีกครั้ง
“เปิ่นหวางพูดกับเ้าอยู่นะ” ม่อหลิงหานยืนอยู่ตรงหน้าเยว่เฟิงเกอ ก้มหน้ามองดวงหน้าน้อยๆ ที่กำลังโกรธอยู่
เยว่เฟิงเกอแค่นเสียงเ็า “เขามาหาข้าเอง”
“จากนั้นเล่า? พวกเ้าตั้งใจจะออกจากจวนไปพร้อมกัน? ” เมื่อม่อหลิงหานนึกถึงว่าเยว่เฟิงเกอจะออกไปเที่ยวเล่นกับม่อเสวียนเช่อ แต่ไม่ชวนเขาไปด้วย ใจเขาก็อึดอัดคับข้องขึ้นมา
เยว่เฟิงเกอไม่อยากพูด นางรู้สึกว่าการยืนอยู่ข้างม่อหลิงหานในยามนี้ทำให้นางรู้สึกกดดันเป็อย่างมาก ทำให้นางรู้สึกไม่สบายใจเป็อย่างมาก
“รบกวนช่วยถอยไปด้วย อย่ามาขวางทางข้า” เยว่เฟิงเกอเองก็ไม่คิดเกรงใจม่อหลิงหาน แม้แต่คำเรียกขานอย่างยกย่องว่าท่านอ๋องก็ยังไม่คิดพูด
เยว่เฟิงเกอพูดพลางผลักม่อหลิงหานออก แต่เมื่อเห็นว่าไม่อาจทำให้เขาหลีกทางได้ นางจึงเลือกเบี่ยงตัว เดินอ้อมตัวเขาแทน
มิคาดม่อหลิงหานจะดึงนางเข้ามาในอ้อมแขน เขาเชยคางนางขึ้น ก้มหน้าลงไปกัดริมฝีปากนางอย่างแรง
“โอ๊ย...” เยว่เฟิงเกอเจ็บจนร้องออกมา
ชายคนนี้บ้าไปแล้วหรือ เขาถึงกับกัดนาง?
ตอนที่ม่อหลิงหานขบกัดริมฝีปากเยว่เฟิงเกอ อารมณ์ขุ่นมัวที่อยู่ในใจก็สลายหายไปทันที
เขาผละห่างออกจากริมฝีปากนาง กล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำ “เ้าคือสตรีของเปิ่นหวาง เปิ่นหวางไม่อนุญาตให้เ้าเข้าใกล้บุรุษอื่นมากจนเกินไป”
ยามที่ม่อหลิงหานเอ่ยประโยคนี้ออกมา ยังไม่ลืมแผ่บรรยากาศกดดันรอบกายออกมาด้วย
เยว่เฟิงเกอมองม่อหลิงหานอย่างอึ้งๆ จู่ๆ หัวใจก็เต้นรัวเร็วอย่างรุนแรง
คำพูดเผด็จการเช่นนี้ แน่นอนว่าม่อหลิงหานไม่ได้เพิ่งพูดกับนางเป็ครั้งแรก แต่หากเป็เมื่อก่อนนางคงไม่รู้สึกอะไร ซ้ำยังอาจรู้สึกต่อต้านมากขึ้นอีกด้วย
แต่ครั้งนี้ไม่รู้เพราะอะไร เมื่อได้ยินม่อหลิงหานพูดเช่นนี้ กลับรู้สึกเหมือนทำตัวไม่ถูก
ม่อเสวียนเช่อที่ยืนอยู่ข้างๆ ถึงกับเบิกตาโต
สองท่านนี้จุมพิตกันต่อหน้าเขา?
คนทั้งสองเห็นเขาเป็อากาศธาตุหรือไร?
ม่อเสวียนเช่อกระแอมออกมา “คือว่า พี่รองพี่สะใภ้รอง อย่างน้อยพวกท่านก็ควรจะเกรงใจข้าสักหน่อย ข้าเองก็ยังยืนอยู่ตรงนี้นะ”
“หุบปาก” ม่อหลิงหานไม่มองม่อเสวียนเช่อแม้เพียงนิด
เพียงแต่เสียงของม่อเสวียนเช่อกลับทำให้เยว่เฟิงเกอเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าอีกฝ่ายก็ยังอยู่ด้วย นางหน้าแดงลามไปถึงใบหูทันที
เยว่เฟิงเกอรีบผลักม่อหลิงหานออก ไม่อยากให้เขากอดนางเช่นนี้
ทว่า การกระทำนี้ของเยว่เฟิงเกอกลับทำให้หัวใจของม่อหลิงหานขุ่นมัวขึ้นมาอีกครั้งโดยไม่ทราบสาเหตุ
“เ้าไม่อยากให้เปิ่นหวางกอดถึงเพียงนี้? ” ม่อหลิงหานคล้ายกำลังขบเขี้ยวเคี้ยวฟันพูดออกมา
เยว่เฟิงเกอมุมปากกระตุก “ท่านอ๋อง ท่านไม่เห็นองค์ชายสามหรือ? พวกเราทำอะไรเช่นนั้นต่อหน้าเขาคงไม่เหมาะไม่ควรกระมัง? ”
นางเขินจะตายอยู่แล้ว
ม่อหลิงหานแค่นเสียงเ็า “แล้วจะอย่างไร เปิ่นหวางอยากให้เขารู้ว่าเ้าคือสตรีของเปิ่นหวาง ไม่ใช่ใครที่ไหนที่เขาจะพาตัวไปได้”
ม่อเสวียนเช่อ “...”
เสด็จพี่รอง เื่ระหว่างพวกท่านทั้งสองก็อย่าได้เอาข้าเข้าไปข้องเกี่ยวด้วยจะได้หรือไม่?
เยว่เฟิงเกอมุมปากกระตุกอีกครั้ง นางพ่ายแพ้ให้กับความหวาดระแวงและดื้อรั้นของม่อหลิงหานจริงๆ
เดิมนางคิดจะออกไปเที่ยวเล่นนอกจวนอ๋อง เหตุใดจู่ๆ กลับกลายเป็คนที่กำลังจะถูกม่อเสวียนเช่อพาตัวไปได้กันเล่า
ม่อหลิงหานมองม่อเสวียนเช่อด้วยสีหน้าเ็า ท่าทางนี้ชัดเจนมากเขากำลังบอกอีกฝ่ายว่าเหตุใดเ้ายังไม่ไปอีก
ม่อเสวียนเช่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดีแล้ว เขารีบร้อนหาข้ออ้าง “พี่รองพี่สะใภ้รอง ที่วังยังมีเื่ที่ยังไม่ได้จัดการอยู่ ถ้าเช่นนั้นข้าขอตัวก่อน พวกท่านทั้งสอง เชิญทำต่อเถอะ”
ม่อเสวียนเช่อพูดจบก็รีบร้อนออกไปทางประตูหลัง
สายตาของเสด็จพี่รองของเขาน่ากลัวเกินไปแล้ว เขาไม่กล้าอยู่ต่อแม้สักกระผีกด้วยกลัวว่าจะถูกสายตาของพี่รองสับฟันเป็พันเป็หมื่นชิ้น
เมื่อวิ่งออกมาจากจวนจั้นอ๋องจนมาถึงจุดปลอดภัยแล้ว ม่อเสวียนเช่อถึงได้หยุดฝีเท้าลง เขาแอบถอนใจโล่งอก ดูท่าครั้งหน้าคงจะไม่สามารถพาพี่สะใภ้รองออกไปเล่นนอกจวนอ๋องได้อีกแล้ว
หากเขาอยากเล่นโทรศัพท์ของนาง คงมีแต่ต้องอยู่เล่นกับนางในจวนอ๋อง
เช่นนี้พี่รองคงจะไม่โกรธกระมัง
ม่อเสวียนเช่อก้มหน้าก้มตาเดินไปบนถนน ในใจคิดว่าวันหน้าจะใช้ข้ออ้างอะไรไปที่จวนอ๋องดี จู่ๆ ก็มีชายคนหนึ่งเดินชนเขาเข้าเต็มๆ
ไหล่ของม่อเสวียนเช่อถูกชนเต็มแรง เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นว่าอีกฝ่ายเป็ชายหน้าตาเ้าเล่ห์ ดวงตาดอกท้อคู่นั้นคล้ายจะสามารถล่อลวงิญญาคนไปได้
เมื่อครู่ซ่างกวานม่อิเองก็กำลังก้มหน้าก้มตาเดิน เพราะกำลังจดจ่ออยู่กับแผนที่ในมือ
แผนที่นี้เป็เขาเองที่วาดขึ้นมาเพื่อจะได้หาจวนจั้นอ๋องได้รวดเร็วขึ้น
ถึงแม้ก่อนหน้านี้ซ่างกวานม่อิจะเคยมาที่จวนอ๋องแล้ว และเคยเห็นเยว่เฟิงเกอที่นั่นมาก่อน แต่เขาเป็คนขี้หลงขี้ลืมขั้นรุนแรง หากไม่รีบวาดสถานที่ที่เคยไปเยือนออกมาทันที เพียงหลับไปหนึ่งตื่น เขาก็จะหลงลืมเส้นทางทั้งหมดไป
ม่อเสวียนเช่อกำลังจะอ้าปากตำหนิอีกฝ่ายที่เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ แต่กลับเหลือบเห็นแผนที่ในมือคนเสียก่อน
มองเพียงปราดเดียว เขาก็รู้แล้วว่าเป็เส้นทางไปยังจวนอ๋อง
ม่อเสวียนเช่อนึกถึงคำพูดเมื่อครู่ที่ม่อหลิงหานพูดกับเยว่เฟิงเกอ เขาไม่อนุญาตให้เยว่เฟิงเกออยู่ใกล้ชิดบุรุษคนใดมากจนเกินไป จึงทึกทักเอาว่าชายตรงหน้าคงจะเป็คนที่แอบพึงใจในตัวเยว่เฟิงเกอกระมัง
เขารีบร้อนถามขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “เ้าจะไปหาเยว่เฟิงเกอหรือว่าม่อหลิงหาน? ”
ซ่างกวานม่อิมองม่อเสวียนเช่อด้วยสายตาแปลกใจยิ่ง เขาคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะรู้จักเยว่เฟิงเกอด้วย
เขาถามขึ้นด้วยสีหน้าสงสัย “ข้าน้อยมาหาเยว่เฟิงเกอ หรือว่าคุณชายท่านนี้รู้จักนาง? ”
เมื่อม่อเสวียนเช่อได้ยินว่าคนตั้งใจมาหาเยว่เฟิงเกอ ก็ยิ่งแน่ใจในความคิดตน จะให้ชายคนนี้ไปหาเยว่เฟิงเกอไม่ได้เด็ดขาด มิเช่นนั้นเป็ไปได้มากว่าจะถูกม่อหลิงหานสังหาร
ม่อเสวียนเช่อรีบร้อนกล่าวว่า “ข้าย่อมรู้จักเยว่เฟิงเกอแน่ ข้าเป็สหายนาง เพียงแต่วันนี้นางไม่อยู่ในจวน เข้าวังไปแล้ว”
ซ่างกวานม่อิได้ยินว่าเยว่เฟิงเกอเข้าวังไปแล้ว ก็พยักหน้าเข้าใจ
ในฐานะชายาจั้นอ๋องจะเข้าวังก็ไม่แปลก
ในเมื่อวันนี้เยว่เฟิงเกอไม่อยู่ในจวน เช่นนั้นเขาค่อยมาหานางพรุ่งนี้ก็ได้
เขาต้องให้เยว่เฟิงเกอได้รับรู้ถึงความทุกข์ทรมาน ไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถขจัดความแค้นที่อยู่ในใจเขาไปได้
เมื่อนึกถึงว่าสหายรักมู่เหยียนเฉินถูกขังอยู่ในกลไกไร้เทียมทาน ในใจของซ่างกวานม่อิก็ยิ่งเคียดแค้นขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้