หลายครั้งที่มะนาวมองดูแม่ของตัวเอง แล้วก็อดตั้งคำถามไม่ได้ ว่าผู้หญิงสวยๆ อย่างเดือนฉาย เหตุไฉนจึงเลือกที่จะแต่งงานกับพ่อของหล่อนซึ่งเป็คนจน
สายตาของมะนาวชำเลืองมองดวงหน้างดงามได้รูปของมารดา แม้ว่าจะเป็หน้าสด ไม่ได้เติมแต่งด้วยแป้ง หากความงามก็ยังคงฉายออกมาอย่างเป็ธรรมชาติ และความสะสวยที่์ให้มานี้ ได้ถ่ายทอดมาถึงหล่อนผู้เป็ลูกสาวอย่างไม่มีผิดเพี้ยน
สองทุ่มกว่าๆ
เสร็จจากอาบน้ำ เดือนฉายได้ยินเสียงรถยนต์แล่นมาจอดที่หน้าบ้าน จึงลงมาดู ก่อนจะพบว่าคนที่มาหา ก็คือเสี่ยกำพลผู้เป็เ้าของสวนลิ้นจี่ ชายผู้มีเมตตาให้หล่อนกับลูกสาวเข้ามาพักอาศัยในบ้านหลังน้อยกลางสวน
“สวัสดีค่ะเสี่ย”
เดือนฉายยกมือไหว้ทุกครั้งที่เจอหน้าเสี่ยกำพล หล่อนนึกแปลกใจ ที่วันนี้เขามาตอนค่ำ
“ทำไมจึงรีบร้อนย้ายออกจากบ้าน”
เสี่ยถามเสียงเครียด
“ฉันกับลูกได้ที่อยู่ใหม่แล้วจ้ะเสี่ย ยังไงก็ขอบคุณมากนะจ๊ะ ที่เสี่ยเมตตาให้ฉันกับลูกพักอาศัยอยู่ชั่วคราว”
สุ้มเสียงบอกความสำนึกในบุญคุณ
“อันที่จริงเธอกับลูกจะอยู่ที่นี่ตลอดไปก็ได้นะ ฉันไม่ว่าอะไร... ถ้า... ”
ไม่ทันพูดจบประโยค เสี่ยใหญ่ก็หยุด ทว่าสายตาหวามที่มองมาอย่างสำรวจตรวจค้น ั้แ่ศีรษะจรดปลายเท้าของแม่มาย ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่ทรวงอกอวบใหญ่ ทำให้เดือนฉายพอจะเดาได้ว่าเสี่ยกำพล้าอะไรจากหล่อน น้อยคนนักที่จะช่วยเหลือหล่อนโดยไม่หวังผลตอบแทน
“ตอนนี้ดึกมากแล้วนะจ๊ะ เสี่ยกลับไปก่อนเถอะ ลูกสาวฉันไม่อยู่ เดี๋ยวใครผ่านมาเห็นเข้ามันน่าเกลียด”
เดือนฉายรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย
“ลูกสาวไปไหน”
เสี่ยกำพลหรี่ตาหูผึ่งขึ้นมาทันที
เมื่อรู้ว่าตอนนี้เดือนฉายอยู่บ้านคนเดียว
“ฉันมีธุระอยากจะคุยกับเธอสักครู่... เข้ามาคุยกัน
ในบ้านดีกว่า”
แผนขยี้สวาทกระดังงาลนไฟ ผุดขึ้นในหัวของเสี่ย
กำพลจอมหื่น
“คุยตรงนี้ได้ไหมจ๊ะ... ”
เดือนฉายรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล
“ทำไม... รังเกียจฉันมากนักหรือ”
เสี่ยกำพลหันขวับมามองหล่อน ด้วยสีหน้าและแววตาไม่พอใจ
“ไม่เกี่ยวกับว่ารังเกียจหรือไม่รังเกียจหรอกจ้ะ มันเป็เื่ของความเหมาะสม ตอนนี้ลูกสาวฉันก็ไม่อยู่”
เดือนฉายกล่าวให้คิด รู้สึกกลัวเพราะฝนที่ตั้งเค้ามาั้แ่ตอนหัวค่ำเริ่มกลั่นเม็ดลงมากระทบหลังคาบ้าน
ถ้าเสี่ยกำพลปลุกปล้ำขืนใจหล่อน ต่อให้ส่งเสียงร้องยังไง ก็คงไม่มีใครได้ยิน เพราะว่าบ้านหลังนี้ตั้งอยู่กลางสวน
“เพิ่งรู้ว่าแม่ม่ายเนื้อหอมอย่างเธอห่วงเื่ความเหมาะสมกับเค้าด้วยหรือ แล้วการที่เธอจะย้ายไปอยู่บ้านไอ้พ่อเลี้ยงเ้าของฟาร์ม เธอคิดหรือว่าจะไม่เสร็จมัน”
เสี่ยกำพลเก็บอาการหวงเอาไว้ไม่อยู่
“ดูเหมือนเสี่ยจะเมานะจ๊ะ…กลับไปก่อนเถอะจ้ะพรุ่งนี้เช้ามีอะไรเดี๋ยวเราค่อยคุยกัน”
น้ำเสียงของเดือนฉายสั่นน้อยๆ แต่ก็พยายามทำใจดีสู้เสือ ที่รู้ว่าเขาดื่มมาก็เพราะได้กลิ่นเหล้า
“ฉันดื่มมานิดหน่อย... แต่ไม่เมา เธอรอเดี๋ยวนะ”
บอกแล้วก็หันกลับไปคว้าเบียร์กระป๋อง ที่วางอยู่ในรถ เปิดพร้อมกับยกขึ้นซดเสียงดัง
“ฉันขอเวลาเดี๋ยวเดียว... เข้ามาคุยกันในบ้านเถอะนะ คำว่า ‘บุญคุณ’ น่ะเธอรู้จักบ้างไหม”
เสี่ยกำพลทวงบุญคุณแล้วก้าวเดินนำหน้าเดือนฉายเข้ามาในบ้าน
หล่อนจำต้องเดินตามร่างสูงใหญ่เข้ามาในบ้านของเขาที่ให้หล่อนกับลูกสาวพักอาศัยชั่วคราว เพราะบ้านหลังนี้ไม่มีคนอยู่ ทุกวันนี้เสี่ยกำพลมีบ้านอีกหลังอยู่ในตลาด เป็บ้านหลังใหญ่ที่อยู่อาศัยกับลูกเมีย
