เมื่อเดินต่อไปด้านหน้าในที่สุดจำนวนผู้เล่นก็ลดลง และเมื่อเดินต่อไปเรื่อยๆ ก็มองไม่เห็นเงาผู้เล่นอีกแม้แต่คนเดียว พื้นที่บริเวณนี้คือที่อยู่อาศัยของมอนสเตอร์เลเวล 5 และพวกมอนสเตอร์เลเวล 5 ขึ้นไปก็จะเริ่มมีนิสัยจู่โจมก่อนโดยอัตโนมัติ แต่สำหรับ่แรกที่เกมเพิ่งเปิดตัวสถานที่แห่งนี้คือพื้นที่ต้องห้ามที่ผู้เล่นธรรมดาไม่สามารถเข้าไปได้ ต้องรอถึงเลเวล 3 พวกเขาถึงจะสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดและเข้าไปในที่แห่งนี้ได้ ซึ่งแน่นอนว่านั่นมันสำหรับผู้เล่นธรรมดาเท่านั้น
เย่เทียนเซี่ยเดินต่อไปด้านหน้าอีกก้าว ทันทีที่ก้าวเข้าไปในเขตแดนของมอนสเตอร์กลุ่มใหญ่สายตาเขาก็เหลือบไปเห็นเงาร่างเล็กๆ เงาหนึ่ง และเมื่อเขาหมุนตัวกลับไปมองก็ต้องพบกับความใเมื่อพบว่าในพื้นที่ไกลๆ ทางด้านขวามีคนคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่ใต้ต้นไม้เตี้ยๆ ต้นหนึ่ง เธอนั่งอยู่ตรงนั้นด้วยร่างกายผอมแห้ง และใบหน้าแห้งกร้านเหมือนเปลือกไม้ ทั่วร่างของเธอราวกับหลอมรวมไปกับต้นไม้ต้นนั้นทำให้เย่เทียนเซี่ยไม่ทันสังเกตเห็นเธอในตอนที่เขาเพิ่งมาถึง
หญิงชราที่ดูผอมแห้งคนนั้นคือ NPC ของโลกนี้อย่างนั้นเหรอ? เย่เทียนเซี่ยตัดสินใจเดินตรงไปหาเธอ
“มีอะไรให้ช่วยไหม?” เขาถามออกไป บนใบหน้ามีรอยยิ้มอ่อนโยนที่บิดเบี้ยวเต็มทีคำถามของเขาหากแปลออกมาตรงๆ ก็คือ “มีภารกิจไหม? รีบๆ ส่งมาซะ”
เมื่อพูดจบเขาก็ชะงักไป เขาสังเกตเห็นว่าขาของหญิงชราตรงหน้านั้นมัน...ขาที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้นนั้นไม่มีท่าทีจะขยับเขยื้อน อีกทั้งยังเผยให้เห็นส่วนเปล่าเปลือยที่เป็สีเทาเข้ม!
กลายเป็หิน...คำคำนี้แวบเข้ามาในหัวของเย่เทียนเซี่ยอย่างรวดเร็ว
“แกนพลังงานหลักของโลกแห่งนี้ ‘ห้วงเวลาแห่งโชคชะตานิรันดร์’ ได้หายสาบสูญไป ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน เมื่อขาดพลังงานของห้วงเวลาแห่งโชคชะตานิรันดร์ ผนึกของหอคอยแห่งโชคชะตาก็กระจัดกระจายไปตามที่ต่างๆ ทำให้าาปีศาจทั้ง 8 หลุดออกมาได้ ไอปีศาจก็เริ่มแพร่กระจายออกไปส่งผลต่อพื้นที่ทั้งหมด ทำให้แม้แต่สัตว์ที่อ่อนโยนที่สุดก็กลับกลายเป็ดุร้าย นักผจญภัยผู้มาจากต่างแดนเอ๋ย เ้าจะช่วยข้ารวบรวมดวงตาหมาป่า 10 ดวงได้หรือไม่? ข้า้าพวกมัน... แต่ทว่าร่างกายของข้าถูกผนึกไว้ที่นี่ไม่อาจไปไหนได้ เ้าจะยินยอมช่วยข้าหรือไม่?”
“ติ๊ง! ท่านถูกหญิงชราผู้ถูกผนึกขอร้องให้ช่วยรวบรวมดวงตาหมาป่า 10 ดวง
ระกับภารกิจ: ธรรมดา
จำกัดเวลา: ไม่มี
รางวัล: ไม่ทราบ
“ยอมรับ” เย่เทียนเซี่ยเลือกที่จะยอมรับภารกิจอย่างไม่ลังเล แม้ว่ามันจะเป็เพียงแค่ภารกิจธรรมดา แต่คำว่า “ไม่ทราบ” ที่ปรากฏอยู่ตรงช่องรางวัลภารกิจทำให้เขาสนใจ ใน่เวลาแห่งการเริ่มต้นนี้ ตามทฤษฎีแล้วการเล่นกับสิ่งลึกลับแบบนี้ต้องไม่ปรากฏสิ่งใดออกมาถึงจะถูก แบบนี้บางทีอาจจะมีความลับอะไรซ่อนอยู่ก็ได้ นี่คือความสามารถในการตามกลิ่นที่ผ่านการฝึกฝนจากประสบการณ์อันโชกโชนในเกมมาเป็เวลาหลายปี
“ติ๊ง! ท่านยอมรับภารกิจ ‘คำขอร้องของหญิงชราที่ถูกผนึก’ แล้ว...”
“บอกผมไม่ได้เหรอว่าทำไมขาของท่านถึงกลายเป็แบบนี้?” เย่เทียนเซี่ยยังไม่จากไปค้นหาดวงตาหมาป่าในทันที และยังย่อตัวลงถามไถ่ด้วยความอ่อนโยน หากคำว่า “ไม่ทราบ” ที่ระบบระบุไว้อย่างชัดเจนทำให้เขาเกิดความสนใจ ชื่อเรียกของหญิงชราที่ไม่มีความเฉพาะเจาะจงก็ยิ่งทำให้เขาสนใจมากขึ้น ใน World of Fate สิ่งมีชีวิตทั้งหมดล้วนมีความคิดเป็อิสระ เขาเชื่อว่าค่าเสน่ห์ที่เขาอุตส่าห์กดไปตั้ง 10 คะแนนจะต้องไม่สูญเปล่า เย่เทียนเซี่ยพยายามอย่างหนักเพื่อจะดูว่าเขาจะสามารถขุดอะไรออกมาจากหญิงชราตรงหน้าได้บ้าง
“เ้าหนุ่ม เ้าไปเถอะ เื่บางอย่างไม่รู้จะดีกว่านะ” หญิงชราตอบกลับอย่างเฉยเมย
“ร่างของข้าไม่สามารถไปจากที่นี่ได้ ขอบคุณสำหรับความหวังดี แต่เ้าไปเถอะ”
“ก็ได้” เย่เทียนเซี่ยยอมแพ้ “ฝูงหมาป่าที่ใกล้ที่สุดอยู่ตรงไหนล่ะ?”
“ข้างหน้านั่น”
“ดี ผมจะรีบเอาของที่ท่าน้ามาให้”
หลังจากตอบรับส่งๆ ไปเย่เทียนเซี่ยก็มองไปรอบๆ แล้วเดินลึกเข้าไปในพื้นที่ด้านหน้า เวลานี้สภาพอากาศใน World of Fate เป็ฤดูใบไม้ผลิ สายลมอุ่นปะทะใบหน้าของเขาช้าๆ ั้แ่ที่เขาก้าวเข้าสู่โลกแห่งเกมอย่างเป็ทางการ ตอนแรกเริ่มที่แม้เขาจะมีระดับอยู่เพียงแค่เลเวล 0 แต่เขาก็ไม่เคยฆ่ามอนสเตอร์เลเวล 1 เลย ทุกครั้งที่เขาลงมือในตอนเริ่มต้นล้วนเป็มอนสเตอร์เลเวล 5 ที่ทำให้คนอื่นๆ ใหรือพวกที่มีระดับสูงกว่านั้น เพราะมีแค่วิธีนี้เท่านั้นที่จะสามารถหลีกเลี่ยงฝูงชนที่กำลังเก็บเลเวลอยู่ได้ และยังได้เพลิดเพลินกับความเงียบสงบเพียงลำพังอีกด้วย
เนินเขาทางเหนือ ที่อยู่อาศัยของหมาป่า
หมาป่า: เลเวล 5
พลังชีวิต: 170
หมาป่าเป็สัตว์ที่มีอารมณ์ดุร้ายชนิดหนึ่ง ชอบอยู่รวมกันเป็ฝูง จะทำการโจมตีมนุษย์ที่เข้าใกล้โดยอัตโนมัติ
เลเวล 0 ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแค่ชุดมือใหม่ที่ไม่มีคุณสมบัติพิเศษอะไรเลยแต่กลับเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์เลเวล 5 เพียงลำพัง ในเกมเสมือนจริงทั้งหมดนี่ไม่ต่างอะไรกับการรนหาที่ตาย แต่ทว่ากฎข้อนั้นมันสำหรับพวกผู้เล่นธรรมดาเท่านั้น
เหตุผลที่ไม่เคยมีผู้เล่นมาเยือนสถานที่แห่งนี้เป็เพราะพวกหมาป่าจะกระจายตัวไปทั่วพื้นที่แห่งนี้ พวกมันจะเดินไปรอบๆ อย่างไร้เป้าหมาย ตอนนี้พวกมันยังมองไม่เห็นเย่เทียนเซี่ยที่อยู่นอกเขตแดนของพวกมัน เย่เทียนเซี่ยก้าวต่อไปอีกไม่กี่ก้าว เขาลองหยั่งเชิงความเกรี้ยวกราดของหมาป่าโดยรอบโดยการหยิบก้อนหินบนพื้นขึ้นมาก้อนหนึ่งก่อนจะสะบัดข้อมือขว้างมันไปทางหมาป่าตัวหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ
-1
ก้อนหินก้อนนั้นกระทบตรงกลางหัวหมาป่าอย่างจัง ร่องรอยสีแดงสดจากการถูกโจมตีปรากฏขึ้นมา หมาป่าที่กำลังเดินอยู่เงียบๆ ถูกรบกวน ดวงตาแดงฉานราวกับเืคู่หนึ่งพุ่งตรงมาทางที่เย่เทียนเซี่ยยืนอยู่ เสียงเห่าดังออกมาจากปากของมันพร้อมโชว์คมเขี้ยววาววับ ก่อนจะกระโจนมาทางเย่เทียนเซี่ย
ความเร็วในการเคลื่อนที่ของหมาป่านั้นรวดเร็วมาก มากกว่าความเร็วพื้นฐานของผู้เล่นอยู่ 1.5 เท่า แต่เสียงคำรามด้วยความโกรธที่ดังขึ้นกลับไม่ใช่ของหมาป่าตัวนี้เพียงตัวเดียว เสียงเห่าของมันยังไปกระตุ้นหมาป่าอีกสองตัว ตอนที่พวกมันเห่าออกมาก็เป็เวลาเดียวกับที่หมาป่าตัวที่ถูกเย่เทียนเซี่ยยั่วยุพุ่งตรงมาถึงตำแหน่งที่เขาอยู่พอดี
สามตัว! แม้จะมองเห็นหมาป่าทั้งหมดแต่เย่เทียนเซี่ยก็ไม่คิดจะถอยหนีไปจากแดนหมาป่านี้ เขาหรี่ตาลงแล้วค่อยๆ ยกดาบสั้นมือใหม่ในมือขึ้น...
ฉับ!
สายลมกรรโชกแรงปะทะใบหน้า สายตาของเย่เทียนเซี่ยสงบนิ่ง ในตอนที่คมเขี้ยวหมาป่ากำลังจะััเอวของเขา ร่างของเย่เทียนเซี่ยก็พลิกกลับอย่างรวดเร็วก่อให้เกิดช่องว่างเล็กๆ ทำให้หมาป่าตัวใหญ่ที่เกือบจะโจมตีถูกเขาพุ่งผ่านร่างของเขาไป ยิ่งช่องว่างในการหลบหลีกมากเท่าไร เวลาที่ใช้ในการหลบหลีกและความเฉื่อยก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นการควบคุมการหลบหลีกให้สมบูรณ์จึงเป็เื่ยากที่จะทำได้
หมาป่าตัวแรกพลาดเป้าพุ่งผ่านตัวเขาไปตามด้วยสายลมหอบใหญ่ เย่เทียนเซี่ยไม่แม้แต่จะมองไปด้านหน้า ร่างกายที่เพิ่งจะยืนขึ้นเอนตัวไปด้านหลังจนแทบจะขนานกับพื้นเก้าสิบองศาแล้วยกดาบสั้นมือใหม่ในมือขวาขึ้นจ้วงแทงไป้า...
ฉัวะ! -15!
ร่างของหมาป่าตัวที่สองกระโจนผ่านร่างของเย่เทียนเซี่ยไปอีกตัวโดยไม่อาจโจมตีเขาได้ เย่เทียนเซี่ยยกดาบสั้นมือใหม่ฟันเข้าใส่ท้องของมันเป็ทางยาวพร้อมตัวเลขสีแดงบ่งบอกพลังชีวิตที่ลดลงเด้งขึ้นมา ไม่ว่าเกมไหนๆ หมาป่ามักจะมีพลังโจมตีและความเร็วสูงแต่มีพลังป้องกันต่ำ นี่เป็หนึ่งในเหตุผลที่เย่เทียนเซี่ยสามารถฆ่ามันได้โดยตรง แต่ถ้ามอนสเตอร์ที่เขากำลังเผชิญหน้าอยู่ตอนนี้เป็พวกหมีที่มีค่าสถานะเหมือนเขาคือมีพลังโจมตีและความเร็วต่ำแต่มีพลังป้องกันสูง แม้ว่าจะจัดการได้ง่ายกว่าแต่โดยพื้นฐานแล้วแทบจะเป็ไปไม่ได้เลยที่จะทะลวงการป้องกันของพวกมัน
หมาป่าตัวที่สามกระโจนตามหมาป่าตัวที่สองมาติดๆ ร่างของเย่เทียนเซี่ยยืดขึ้นขณะเดียวกันก็ยืมแรงบิดเล็กน้อยโดยใช้เท้าขวาคอยหนุนร่างกายเพื่อหมุนตัวกลับมาเก้าสิบองศา หมาป่าตัวที่สามก็พลาดเป้าไปอีกตัว เย่เทียนเซี่ยหมุนตัวกลับมา เขาเดินไปด้านหน้าอีกไม่กี่ก้าวก่อนจะจ้วงแทงดาบสั้นมือใหม่ต่อเนื่องสองครั้งใส่ร่างหมาป่าตัวที่สองก่อนตัวเลขความเสียหายสองตัวจะลอยขึ้นมา
เวลาที่ใช้ในการโจมตีหมาป่าสามตัวั้แ่ต้นจนจบไม่ถึงสองวินาที มันไม่ใช่การโจมตีในครั้งเดียวแต่เป็การโจมตีอย่างต่อเนื่อง การโจมตีของพวกมันถูกเย่เทียนเซี่ยหลบหลีกได้ทั้งหมด และเขาทำเพียงแค่ขยับร่างกายไปทางซ้ายเล็กน้อย เดินตรงไปด้านหน้าและด้านข้างอีกหน่อยเท่านั้นเอง