สภาพอากาศในเดือนห้านั้นไม่แน่นอน่บ่ายอากาศเปลี่ยนไป ด้านนอกมีฝนตกหนัก นอกจากนั้น ทางูเามีเมฆครึ้มปกคลุม ดูเหมือนว่าจะไม่หยุดตกในเร็วๆนี้!
ฝนตกก็ปล่อยให้ตกไป เซี่ยยวี่หลัวไม่ร้อนใจในบ้านมีเสบียงอาหาร นางวาดแบบลวดลายอย่างตั้งอกตั้งใจ ั้แ่เซียวยวี่กลับมา นางไม่ได้ไปฮวาหม่านยีเจ็ดถึงแปดวันแล้ว
รอให้ฟ้าโปร่ง นางยังต้องนำแบบลวดลายไปส่งในตัวเมืองอีก!
ฝนตกติดต่อกันสามถึงสี่วันเมื่อถึง่บ่าย ฝนจึงหยุดตก รุ้งงามปรากฏอยู่ตรงขอบฟ้า อากาศบริสุทธิ์ แฝงเร้นด้วยกลิ่นหอมของหญ้าเขียวและดินโคลน
เซียวเหลียงส่งท่านปู่เซียวกลับมาอีกครั้ง
เมื่อคนในหมู่บ้านเห็นว่าฟ้าโปร่งแล้วฝนหยุดตก จึงหิ้วตะกร้าไปเก็บผักตี้เอ่อในท้องนา
ท่านปู่เซียวยังไม่กลับบ้านสูบยาสูบพลางเดินไปบ้านเซี่ยยวี่หลัว
เมื่อเห็นเซียวยวี่กลับมาแล้วท่านปู่เซียวก็ทั้งใทั้งดีใจ “อายวี่กลับมาแล้วงั้นหรือ? กลับมาั้แ่เมื่อไร? ”
เซียวยวี่เอ่ยเรียกท่านปู่เซียวก่อนกล่าวตอบว่ากลับมาหลายวันแล้ว
ระยะนี้ท่านปู่เซียวอยู่ในตัวเมืองกับเซียวเหลียงตลอดย่อมไม่รู้ว่าเซียวยวี่กลับมาแล้ว จึงพูดคุยกับเซียวยวี่ไม่หยุด คำถามที่ตอบได้เซียวยวี่ล้วนตอบทั้งหมด
“ดูเ้าสิ ไปสอบมา เหมือนจะผอมลง!อยู่ข้างนอกคงลำบากไม่น้อยสินะ! ” ท่านปู่เซียวถือกล้องยาสูบไว้ในมือ หรี่ตาที่เต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่นมองเซียวยวี่อย่างพินิจ
ตอนเซียวยวี่เพิ่งไป ลำบากไม่น้อยจริงๆทั้งตัวมีเงินแค่สองตำลึง ใช้ชีวิตอย่างอัตคัดเสียยิ่งกว่าอะไร
แต่ในภายหลังเซี่ยยวี่หลัวให้เซียวเหลียงส่งเงินไปสิบกว่าตำลึงจึงสบายขึ้นไม่น้อย
เซียวยวี่สอบกลับมา ผอมลงเล็กน้อยจริงๆ ทว่า ได้เซี่ยยวี่หลัวทำอาหารอร่อยให้กินมาสิบกว่าวันถึงแม้จะผอม แต่ก็ดูมีพลังขึ้นไม่น้อย
เซียวยวี่กำลังจะกล่าวอะไรต่อท่านปู่เซียวไม่ปล่อยให้เขามีโอกาสพูด หันไปกล่าวกับเซี่ยยวี่หลัว “นี่ยวี่หลัว สามีเ้ากลับมาแล้วต้องทำอาหารอร่อยให้เขาบำรุงร่างกายมากหน่อย เรียนหนังสือต้องใช้สมอง ครั้งก่อนเ้าบอกว่ากินปลาจะบำรุงสมองใช่หรือไม่? เ้าทำปลาให้อายวี่กินมากๆ ทั้งน้ำแกงปลาและปลาตุ๋นน้ำแดงที่เ้าทำออกมาได้หลากหลายรูปแบบล้วนแต่อร่อย เ้าก็ทำให้เขากินทุกวัน! ”
ขณะท่านปู่เซียวพูดคุยกับเซี่ยยวี่หลัวเห็นได้ชัดว่าเหมือนผู้สูงวัยที่มีเมตตาและรักใคร่เอ็นดู
เซี่ยยวี่หลัวยิ้มพร้อมขานตอบ“ข้ารู้แล้วเ้าค่ะ ท่านปู่เซียว! ”
ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนดีขึ้นแล้วงั้นหรือ?
เซียวยวี่ไม่อยากเชื่อเลยว่าสองคนนี้จะสามารถพูดคุยกันอย่างสบายอารมณ์ได้
เมื่อสามเดือนกว่าที่แล้วเซียวยวี่และเซี่ยยวี่หลัวทะเลาะกันทุกวัน ในบ้านวุ่นวายไม่เคยสงบสุข ท่านปู่เซียวก็มักจะมาช่วยไกล่เกลี่ยเป็ประจำเซี่ยยวี่หลัวกลับชี้หน้าท่านปู่เซียว ด่าเขาว่าแก่แล้วยังชอบยุ่งเื่ชาวบ้านอีกท่านปู่เซียวโมโหแทบแย่ ทั้งสองคนเห็นหน้ากันเป็ต้องมีปากเสียง
คนหนึ่งด่าอีกคนว่าแก่แล้วยังไม่อยู่เฉยอีกคนก็ด่ากลับว่าโเี้อำมหิตเหมือนนางอสรพิษ
ใครจะรู้ ว่าสองคนนี้...
กลับอยู่ร่วมกันอย่างสันติได้!
ฟังจากวาจาของท่านปู่เซียวเหมือนว่าจะเคยกินอาหารที่เซี่ยยวี่หลัวทำด้วย
ท่านปู่เซียวคุยกับเซียวยวี่เสร็จจึงไปหาเซี่ยยวี่หลัว ทั้งสองคนไปคุยกันอีกด้านหนึ่ง กดเสียงให้ต่ำ เหมือนจงใจไม่ให้เซียวยวี่ได้ยิน
“นี่ยวี่หลัว เ้าจะยังรับซื้อผักตี้เอ่ออีกหรือไม่? ” ที่ท่านปู่เซียวกลับมาคราวนี้ก็เพื่อรับซื้อผักตี้เอ่อ
เซี่ยยวี่หลัวก็กล่าวด้วยความกลัดกลุ้ม“ครั้งก่อนเซียนจวีโหลวบอกว่าหาคนจัดหาวัตถุดิบได้แล้ว แต่ในภายหลังกลับบอกให้ข้าจัดหาอีกไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันว่าเซียนจวีโหลวทำอะไรกันแน่! ”
“เช่นนั้นเ้าจะรับซื้อผักตี้เอ่อหรือไม่? ” ท่านปู่เซียวบอกเล่าเื่ที่ตอนเขามายังเห็นชาวบ้านจำนวนไม่น้อยหิ้วตะกร้าไปเก็บผักตี้เอ่อในท้องนา“ผักตี้เอ่อจะช่วยเพิ่มรายได้ให้คนในหมู่บ้าน เวลานี้คนทั้งหมู่บ้านล้วนคาดหวังว่าจะหาเงินเพิ่มได้จากการเก็บผักตี้เอ่อ!ข้าเห็นว่ามีหลายครอบครัวที่พาทั้งคนสูงวัยทั้งเด็กเล็กออกไปช่วยกันเก็บ! ”
เซี่ยยวี่หลัวกัดฟันทีหนึ่ง“เช่นนั้นก็รับซื้อแล้วกัน! ยังรับราคาเดิม จินละสามอีแปะ! ”
หากถึงเวลาเซียนจวีโหลวไม่เอานางก็จะตากแห้ง เก็บไว้ค่อยๆ กินเอง
“เช่นนั้นเ้าจะรับซื้อเองหรือจะให้ข้าช่วยรับต่อ? เ้าดูสิ อายวี่ก็กลับมาแล้วในบ้านมีบุรุษช่วยแบกรับภาระ เ้ารับซื้อผักตี้เอ่อเอง คนอื่นจะได้ไม่นินทาว่าร้าย”
เซี่ยยวี่หลัวส่ายหน้า“ไม่ให้เขาไปจะดีกว่าเ้าค่ะ เขาต้องอ่านตำรา อย่าให้เขาเสียสมาธิเลย เื่ในบ้านมีข้าจัดการก็พอแล้วถึงเวลาข้าจะบอกกล่าวกับเขาเองเ้าค่ะ! ”
ไม่เลว เป็ภรรยาที่ดีเซียวยวี่ต้องอ่านตำรา เื่ราวทั้งภายในและภายนอกบ้าน นางจัดการคนเดียวทั้งหมด ให้เซียวยวี่ทุ่มเทสมาธิทั้งหมดกับการอ่านตำรา
เซียวยวี่ไม่ได้แต่งภรรยาผิดเลย!
ท่านปู่เซียวรู้สึกพึงพอใจยิ่งนักยกเท้าขวาขึ้น นำกล้องยาสูบที่สูบไปเมื่อครู่ไปเคาะข้างเท้า “เช่นนั้นก็ได้ พรุ่งนี้เช้าไปรับซื้อผักตี้เอ่อที่บ้านข้าต่อ!”
เซี่ยยวี่หลัวพยักหน้า“ท่านอาเซียวเหลียงยังอยู่หรือไม่เ้าคะ? ”
“เขาอยู่ วันนี้เขาไม่กลับไปบอกว่าจะอยู่กับข้าหนึ่งคืน พรุ่งนี้หลังจากรับซื้อผักตี้เอ่อเสร็จ ข้ายังต้องตามเขากลับไปอีก”
เช่นนี้เท่ากับจงใจกลับมาเพื่อช่วยนาง!
เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกซาบซึ้งใจยิ่ง“เช่นนั้นก็พอดี หากพรุ่งนี้คนของเซียนจวีโหลวไม่มา ยังต้องรบกวนท่านอาเซียวเหลียงไปส่งผักตี้เอ่อที่เซียนจวีโหลวกับข้าอีก”
“วางใจได้ ข้ากลับไปแล้วจะบอกท่านอาเซียวเหลียงของเ้าให้”ท่านปู่เซียวกำลังจะไป
เซี่ยยวี่หลัวไม่อยากรบกวนอีกฝ่ายเปล่าๆ“ท่านปู่เซียว ถ้าอย่างไร่เย็นท่านกับท่านอาเซียวเหลียงก็มากินข้าวบ้านข้าแล้วกันพี่ชายจื่อเซวียนก็กลับมาพอดี พวกท่านสามคนจะได้ดื่มสุราร่วมกัน! ”
มากินข้าวงั้นหรือ?
ท่านปู่เซียวย่อมตอบรับเต็มปากเต็มคำแค่ได้ยินว่าจะได้มากินข้าว น้ำลายก็แทบไหลจนเป็แม่น้ำแล้ว “ได้ได้ได้ ไม่ได้กินอาหารที่เ้าทำมานานแล้วท่านอาเซียวเหลียงของเ้ายังเอ่ยถึงเป็ประจำ ข้าจะกลับไปบอกเขาเดี๋ยวนี้! ”
“ได้เ้าค่ะ ท่านปู่เซียวท่านค่อยๆ เดินนะเ้าคะ! ” เซี่ยยวี่หลัวไปส่งท่านปู่เซียวถึงหน้าประตูใหญ่ด้วยความเคารพเห็นเขาเดินไปไกลแล้ว จึงปิดประตูบ้าน ขณะนางหันกลับมากำลังจะเดินไป หางตาก็เหลือบไปเห็นว่ามีคนกำลังจ้องตัวเองอยู่นางหันไปยังทิศที่สายตาเพ่งมองมาตามสัญชาตญาณ เซียวยวี่ยืนอยู่ใต้ชายคา กำลังมองนางด้วยสีหน้าแปลกประหลาด
เซี่ยยวี่หลัวยิ้มแก้เก้อ“เย็นนี้ท่านปู่เซียวและท่านอาเซียวเหลียงจะมากินข้าว” จากนั้นจึงกลับห้องของตัวเอง
เซียวยวี่รู้สึกประหลาดใจยิ่งนักระหว่างที่เขาไม่อยู่ เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ท่านลุงสี่บอกว่าเขาได้แต่งภรรยาที่ดี บัดนี้แม้แต่ท่านปู่เซียวยังอยู่ร่วมกับนางได้อย่างสันตินอกจากนั้น ยังสนิทสนมกันถึงขั้นสามารถร่วมกินข้าวบนโต๊ะตัวเดียวกัน ทั้งยังมีเื่ให้กระซิบคุยกันได้อีก
เซียวยวี่แสดงสีหน้าฉงนสงสัยคิ้วเข้มที่ดูดีค่อยๆ ขมวดเป็ปม
เซี่ยยวี่หลัวผู้นี้ นางทำอะไรกันแน่ถึงทำให้ทุกคนมองนางต่างจากเดิมได้!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้