“ท่านพูดจริงหรือ… ”
เหมยลี่ถามพลางเงยหน้ามองมายังที่มาของเสียง ก่อนที่สายตาปะทะเข้ากับเรือนร่างสูงใหญ่ กำลังยืนตระหง่านอยู่หน้าประตูห้องพักที่บานประตูเพิ่งถูกผลักออกมา
“จริง… ข้าอยากช่วยเ้า”
หวังหย่งตอบ…
เขาเป็คนพูดจาไพเราะ เสียงทุ้มกังวานน่าฟัง
“เ้าเวลาคุยกับข้าสักประเดี๋ยวไหม… ”
หวังหย่งเดินเข้ามาใกล้แคร่ไม้ไผ่ที่เหมยลี่กำลังนั่งให้นมบุตรชาย กำลังดูดกินนมจากเต้าเสียงดังจ๊วบๆ จนหวังหย่งนึกอิจฉาทารกน้อย
“ได้… ”
นางตอบ…
หวังหย่งเดินมาทรุดร่างลงนั่งบนแคร่ไม้ใกล้ๆ นาง ตาเผลอจ้องมองเต้านมของเหมยลี่ที่กำลังคัดมากจนมองเห็นเส้นเืสีเขียวกระจายเป็สายรางๆ อยู่ภายใต้นวลเนื้อบอบบางเปล่งปลั่งน่าทะนุถนอม
“ผิวของเ้าขาวเนียนมาก… ”
หวังหย่งชมออกมาตรงๆ…
สองตาจ้องมองลำคอระหงและเต้านมที่ทารกกำลังดูดกิน เขาเผลอพูดออกมาทั้งที่ประโยคนี้ควรจะเก็บเอาไว้ในใจ
“นมเ้าคงคัดมากสินะ… ”
สายตาของหวังหย่งจับจ้องอยู่ที่โนมเนื้อปทุมถันมหึมา
หวังหย่งสังเกตเห็นว่าน้ำนมสีขาวยังไม่หยุดไหลเพราะเมื่อครู่เด็กน้อยยังดูดดังจ๊วบๆ อย่างเอร็ดอร่อยก่อนที่ตัวเองจะเดินออกมาเห็น
เหมยลี่รู้ตัวว่าเขาแอบมอง…
นางจึงรีบดึงชายผ้าลงมาปิดเต้า ซ่อนโนมเนื้อเนียนขาวจากสายตากระหายของหวังหย่ง
“ข้าขอโทษที่ต้องขัดจังหวะให้นมลูก... ”
หวังหย่งรู้ว่าตัวเองเสียมารยาท…
มีจังหวะหนึ่งเขาเผลอตัวกลืนน้ำลายลงคอเสียงดังเอื๊อก เมื่อเห็นน้ำนมของแม่ลูกอ่อนซึมออกมาเป็วงชื้นอยู่ใต้เสื้อ บอกตำแหน่งของจุกหัวนมทั้งสองข้างที่ดุนดันอยู่ใต้เสื้อบางๆ
“ไม่เป็ไร… ”
เหมยลี่กล่าว สังเกตเห็นว่าสายตาของหวังหย่งยังไม่ละจากทรวงอกอวบใหญ่ของนาง
เห็นเขาเผลอกลืนน้ำลายลงคอด้วยความลืมตัวอีกครั้ง ทำให้เหมยลี่รู้ว่าผู้ชายคนนี้น่าจะกำลังคิดอะไรกับนาง
“เต้านมเ้าคัดมาก… ปวดไหมจ๊ะ”
หวังหย่งจ้องมองเนื้อหนั่นที่แลดูตุงแน่น เบียดกันอยู่ใต้ผ้าบางๆ อย่างน่าอึดอัด
“ก็มีปวดบ้างเวลาคัดมากๆ
เหมยลี่ตอบทั้งอายๆ…
ก็นางเป็สตรี เมื่อถูกถามในเื่แบบนี้ย่อมเคอะเขินเป็ธรรมดา เมื่อครู่หวังหย่งถามเื่งานที่เขาอยากช่วย แต่ไม่รู้ทำไมสายตาจึงวนเวียนชวนคุยอยู่กับเื่เต้านมที่กำลังคัดของนาง
“ที่ว่าอยากช่วย… ท่านหมายความว่ายังไง”
เหมยลี่รีบเปลี่ยนบทสนทนา…
พร้อมกับรีบดึงชายผ้าลงมาปิดบังเต้านมอีกครั้งเมื่อผ้าร่นขึ้นจนเห็นเนื้อขาวๆ ล้นอยู่บนใบหน้าของลูกน้อยที่พยายามซุกใบหน้าเข้ามาดูดนมอย่างไร้เดียงสา
“อ๋อ… ข้าจะจ้างเ้าซักผ้าดีไหม”
หวังหย่งเข้าเื่…
จากนั้นก็ตกลงเื่ค่าจ้าง จะให้เหมยลี่ช่วยซักผ้า นางจะได้มีรายได้มาจุนเจือครอบครัว
“ได้… ข้าทำได้… ”
เหมยลี่ตอบ
“งั้นตกลงตามนี้… ”
หวังหย่งรีบสรุป รอยยิ้มผุดพราวขึ้นบนใบหน้าคมคร้ามหลังจากได้พูดคุยรายละเอียดจนเข้าใจตรงกันทั้งสองฝ่าย
“ข้าขอบคุณท่าน… ”
เหมยลี่กล่าว…
ความดีใจผุดวาบขึ้นในดวงตาของนางเช่นกัน ถ้าหากมีรายได้จากงานที่หวังหย่งหยิบยื่นให้ด้วยไมตรีจิตอันดีต่อกัน ก็จะมีรายได้มาจุนเจือครอบครัวที่กำลังตกอยู่ในภาวะลำบากยากเข็ญ
อีกสัปดาห์ต่อมา…
เหมยลี่เริ่มพูดคุยกับหวังหย่งบ่อยขึ้นเพราะต้องเจอกันทุกวันจนกลายเป็ความสนิทสนมไปโดยไม่รู้ตัว
