เล่มที่ 8 บทที่ 216 กรงเล็บั์
หลังจากสายฝนสีดำจางหายไป ค่ายกลก็กลับมาสว่างเรืองรองอีกครั้ง พลังอันรุนแรงก็ะเิออกทันที จากนั้นก็ลอยลงมากดทับเ้าอสรพิษอย่างหนักหน่วง
เมื่อเ้าอสรพิษร้ายถูกกดทับมันก็ร้องโหยหวนอย่างเ็ปออกมา เ้าหนูั์เห็นดังนั้นก็คำรามกู่ก้อง กระทั่งเืสดๆในปากสาดกระเซ็น ขนสีทองทั้งตัวก็ราวกับะเิออก เกิดเป็หนามแหลมราวเหล็กกล้าจำนวนมากแทงทะลุไปทั่วร่างของเ้าอสรพิษ จากนั้นเ้าหนูั์ก็หดตัวถอยออกมา
ทว่าเ้าอสรพิษเห็นเหยื่อที่กำลังจะเข้าปากหลุดรอดไป มีหรือจะยอมรามือ บัดนี้สายตาของมันเต็มไปด้วยแรงอาฆาต ทันใดนั้นมันก็อ้าปากพ่นหมอกพิษออกมาอีกครั้ง
หมอกพิษมากมายราวกับกำลังกัดกร่อนจิติญญา ิัของเ้าหนูั์ก็พลันดำคล้ำคล้ายกับแผลไฟไหม้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่อาจสกัดกั้นให้มันหนีรอดออกไปได้...
หลังจากพ่นหมอกพิษออกมา เ้าอสรพิษร้ายก็เหมือนกับกำลังหมดแรง อีกทั้งทั่วตัวยังเต็มไปด้วยหนามแหลมที่ทิ่มแทง และเหนือหัวของมันยังมีค่ายกลอันหนักอึ้งกดทับจนไม่อาจโงหัวขึ้นมาได้อีก ส่วนลำตัวยาวนับสิบจ้างนั้นก็ได้แต่นอนหมดสภาพอยู่บนพื้น เพียงขยับตัวเล็กน้อยเท่านั้น เือันคาวคละคลุ้งก็จะพวยพุ่งขึ้นราวกับเขื่อนแตกเลยทีเดียว
เมื่อเ้าหนูั์เห็นดังนั้นก็คำรามเสียงกึกก้องออกมา ทั่วทั้งตัวของมันละม้ายกับถูกอัดลม เพียงพริบตาเดียวร่างกายของมันก็ขยายใหญ่ออกมาหลายเท่าตัว ดวงตาก็พลันแดงก่ำขึ้นมา กลิ่นไอแห่งความโเี้ผสมปนเปกับกลิ่นคาวเื กระทั่งกลายเป็หมอกควันสีแดงแพร่กระจายไปทั่วทั้งบริเวณ
เ้าหนูั์อ้าปากกว้างก่อนจะสูดลมเต็มปอดเพื่อดูดเ้าอสรพิษเข้ามา และบัดนี้เองเ้าอสรพิษได้ถูกค่ายกลกดทับเอาไว้ จึงไม่อาจโต้ตอบได้อีก มันทำได้แค่บิดส่ายดิ้นรนไปมาเท่านั้น
ชั่วขณะที่เ้าอสรพิษกำลังจะถูกเ้าหนูั์กลืนกินเข้าไป ทันใดนั้นก็มีลำแสงกระบี่สายหนึ่งปรากฏจากอยู่ไกลๆ ครู่เดียวก็มีเงาใครบางคนพุ่งเข้ามา
ไอโเี้มากมายพวยพุ่งขึ้น ก่อนจะกลายเป็ัร้ายสีดำตนหนึ่งซึ่งทะยานมาพร้อมกับเสียงคำรามน่าเกรงขาม บัดนี้เ้าอสรพิษอยู่ในสภาพที่ทั้งถูกค่ายกลกดทับและถูกเ้าหนูั์จู่โจมจนแทบปางตาย จึงไม่มีเรี่ยวแรงโต้ตอบได้อีก สุดท้ายก็กลายเป็แค่เป้านิ่งที่รอเชือดเท่านั้น
ลำแสงกระบี่และคนผู้หนึ่งปรากฏออกมา ก่อนจะสะบั้นไปยังจุดชีชุ่นของเ้าอสรพิษทันที ไอโเี้ก็ทำลายอวัยวะภายในของเ้าอสรพิษจนแตกกระจายกลายเป็ชิ้นเนื้อจำนวนมาก
จากนั้นลำแสงกระบี่ยังคงวนเวียนอยู่เหนือหัวเ้าอสรพิษร้าย ก่อนจะโอบล้อมหลินจือม่วงหกกลีบลอยไปยังจุดที่ห่างไกล
หลังจากลำแสงกระบี่สลายไป ก็เห็นเพียงเกาชิวที่ยืนถือหลินจือม่วงหกกลีบอยู่ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
หลินเฟยถึงกับพูดไม่ออกเลยทีเดียว ‘เ้าเกาชิวฉวยโอกาสเก่งไม่เบาเลย ถึงกับใช้เคล็ดวิชากระบี่กระบวนท่าที่สามพร้อมกับกระบี่ัดำ และไม่เพียงแต่ชิงผลงานคนอื่นเท่านั้น เขายังตัดหน้าคว้าเอาหลินจือม่วงหกกลีบไปอีกด้วย...’
คิดได้ดังนั้นหลินเฟยก็ลอบส่ายหน้าเบาๆ ‘ดูเหมือนว่าสิ่งหลังต่างหากที่เป็เป้าหมายของอีกฝ่าย...’
แม้เ้าอสรพิษร้ายจะถูกสังหารไปแล้ว แต่บรรยากาศรอบด้านก็ยังคงแปลกประหลาดเช่นเดิม...
เ้าหนูั์หดตัวกลายเป็หนูขนาดเท่าฝ่ามืออีกครั้ง หลังจากลอยลงบนไหล่ของเว่ยฟง มันก็กรีดร้องราวกับจะขอรางวัล เว่ยฟงเห็นดังนั้นก็หยิบบางอย่างออกมาให้ โดยไม่กล่าวอะไรแม้แต่น้อย
ทว่าหวังหลงกลับมีสีหน้ามัวหมองลงไป ยิ่งมองเห็นหลินจือม่วงหกกลีบในมือเกาชิว ก็ยิ่งแสดงสีหน้าชัดเจนขึ้นไปอีก
ก่อนหน้านี้แค่คิดจะแย่งก็ว่าแย่พอแล้ว แต่นี่ถึงกับเล่นงานลับหลัง เพื่อหลอกล่อเ้าอสรพิษร้ายให้พุ่งไปหาเว่ยฟง อีกทั้งตอนหลังใกล้จะสังหารเ้าอสรพิษได้ กลับพุ่งตัวเข้ามาแย่งชิงอีก นี่มันอะไรกัน?
“ฮ่าๆ ศิษย์น้องทั้งสอง หลินจือม่วงหกกลีบนี่ข้าขอล่ะนะ หากข้าหลอมสำเร็จ เดี๋ยวจะแบ่งยาลูกกลอนให้พวกเ้าคนละเม็ด ไม่ต้องเกรงใจหรอกนะ...” หลังจากได้หลินจือม่วงหกกลีบมา ใบหน้าเกาชิวก็แจ่มใสเป็พิเศษ
“แบบนี้คงไม่ดีกระมัง?”
หวังหลงทนดูต่อไปไม่ไหว จึงเอ่ยท้วงออกมา ทว่าเกาชิวกลับไม่รู้สึกอะไรแม้แต่น้อย นอกจากจะไม่ละอายใจแล้ว เขายังแค่นหัวเราะเ็าออกมาอีกด้วย ก่อนจะเอ่ยตามมา
“เพราะข้าสังหารเ้าอสรพิษร้ายนั่นจึงได้มา เ้ามีปัญหาตรงไหนงั้นหรือ?”
หวังหลงได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วเป็ปมแน่น ขณะที่กำลังจะโต้กลับ ก็ถูกเว่ยฟงดึงแขนดักเอาไว้เสียก่อน
“ช่างเถอะศิษย์พี่หวัง อย่าทะเลาะกันเลย...”
หวังหลงได้ยินก็โกรธมาก ที่เขาทำแบบนี้ไม่ได้คิดจะทำเพื่อตัวเองอย่างเดียว แต่เขายังตั้งใจทำเพื่อเว่ยฟงด้วยแท้ๆ ใครจะคิดว่าเว่ยฟงนอกจากจะไม่ติดใจเอาความแล้ว ยังเอ่ยปากห้ามปรามออกมาอีก
“ช่างเถอะ ศิษย์พี่เกาเป็คนสังหารเ้าอสรพิษ ในเมื่อ้า ก็ให้ศิษย์พี่เกาไปเถอะ...”
ยิ่งเว่ยฟงเอ่ยห้ามเท่าไร หวังหลงก็ยิ่งโกรธขึ้นมาเท่านั้น จากนั้นก็หันไปถามหลินเฟยยืนดูั้แ่ต้นจนจบ
“ศิษย์พี่หลินคิดว่าอย่างไรล่ะ?”
หลินเฟยยิ้มน้อยๆก่อนจะมองไปรอบๆ
“ข้าว่าเราออกจากที่นี่ก่อนเถอะ”
เมื่อสิ้นเสียง เว่ยฟงก็พยักหน้าเห็นด้วยทันที
“ศิษย์พี่หลินพูดถูก พวกเราออกจากที่นี่กันก่อนเถอะนะ”
หวังหลงได้ยินเช่นนั้นก็ชะงักทันที สายตาที่มองหลินเฟยก็เต็มไปด้วยความดูแคลน ในใจก็คิดว่าอีกฝ่ายก็เป็คนที่รักตัวกลัวตายคนหนึ่งเท่านั้น ก่อนหน้านี้นอกจากจะไม่กล้าออกมาต่อสู้แล้ว บัดนี้ถึงแม้จะพบเจอเื่อยุติธรรม ก็ยังนิ่งเฉย...
หวังหลงเห็นเพียงคนหนึ่งที่เอาแต่อ้อนวอนขอให้ออกจากที่นี่ไวๆ ส่วนอีกคนก็เอาแต่นิ่งเงียบไม่กล้าพูดอะไรออกมา ก็รู้สึกเบื่อหน่ายทันที จึงทำได้แค่แค่นหัวเราะเ็าออกมาเท่านั้น ก่อนจะยกสองมือขึ้นกอดอก โดยไม่พูดอะไรต่ออีก
หลังจากหวังหลงเงียบไป หลินเฟยก็เอ่ยซ้ำอีกครั้งว่าควรออกจากที่นี่โดยเร็ว ส่วนเว่ยฟงที่อยู่ไม่ไกลกันก็เอ่ยสนับสนุนทันที ทว่าเกาชิวกลับส่ายหัว ก่อนจะมองไปยังบึงโคลนซึ่งเป็จุดที่เ้าอสรพิษอาศัยอยู่
“ข้าเคยอ่านตำราโบราณเล่มหนึ่ง ในตำราบันทึกไว้ว่าหลินจือม่วงหกกลีบมักเกิดในจุดที่มีไอิญญาเข้มข้น ดังนั้นจุดที่มีหลินจือม่วงหกกลีบ จะต้องมีสมบัติล้ำค่าอย่างอื่นเป็แน่ ไม่ง่ายเลยกว่าจะมาถึงที่นี่ได้ แล้วจะจากไปง่ายๆได้อย่างไรกัน?”
ระหว่างที่พูดเกาชิวก็เหล่มองไปที่เว่ยฟง ก่อนจะเอ่ยเสริมออกมา
“ศิษย์น้องเว่ยปล่อยเ้าหนูทองออกมาเร็ว หากเป็สมบัติล้ำค่าจริง คงไม่อาจเห็นได้ด้วยตาเปล่า ถ้าปล่อยเ้าหนูทองออกมาละก็ จะต้องหาเจอแน่”
เว่ยฟงได้ยินดังนั้นก็เผยสีหน้าลำบากใจออกมา
“ศิษย์พี่เกา เ้าหนูาเ็จากการตอนต่อสู้ก่อนหน้า ตอนนี้จึง้าพักฟื้นสักพัก หากปล่อยออกมาก็เกรงว่าจะไม่ช่วยอะไร ดีไม่ดีอาจจะเจ็บหนักกว่าเดิม...”
ทว่าเว่ยฟงยังไม่ทันพูดจบ เกาชิวก็เอ่ยแทรกด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์เสียก่อน
“ศิษย์น้องเว่ยกังวลเกินไปแล้ว แค่ปล่อยเ้าหนูออกมาวนสักรอบ พอเจอสมบัติก็ค่อยให้มันกลับไปพัก เร็วข้าเถอะน่า อย่ามาลีลา”
พูดจบเกาชิวก็เดินเข้ามาหา หมายจะจับหนูทองที่อยู่ใต้แขนเสื้อเว่ยฟงออกมา
เว่ยฟงไม่รู้จะทำอย่างไรดี สุดท้ายจึงได้แต่จำใจปล่อยเ้าหนูออกมา ทว่าตอนนี้เ้าหนูดูต่างจากตอนที่เจอกันครั้งแรก ขนบนตัวแลดูหร็อมแหร็ม แถมยังมีรอยแผลที่เพิ่งจะสมานตัวปรากฏขึ้นเลือนราง สติก็ดูไม่ค่อยแจ่มใสนัก
หลังจากปล่อยออกมา เ้าหนูก็ไม่ได้วิ่งพล่านไปมาเหมือนเคย มันกลับเอาแต่ยืนนิ่งอยู่กับที่ เว่ยฟงเห็นดังนั้นก็ถอนหายใจออกมา
“ดูเหมือนจะไม่มีสมบัติอะไร...”
เกาชิวได้ยินดังนั้น มีหรือจะเชื่อ เขาจึงหยิบเอาหินิญญาก้อนหนึ่งยัดใส่มือเ้าหนูทันที หลังจากมันกัดกินจนหมด เกาชิวก็เหมือนนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จากนั้นก็ยัดหินิญญาอีกสิบกว่าก้อนให้มันเพิ่มอีก
เ้าหนูเห็นหินิญญามากมายก็ตาเป็ประกาย เพียงครู่เดียวก็ยัดหินิญญาทั้งหมดเข้าปาก ก่อนจะกลืนกินลงไป
จากนั้นขนอันหร็อมแหร็มของมันก็งอกออกมาอย่างรวดเร็ว เพียงพริบตาเดียวลักษณะภายนอกก็ฟื้นฟูกลับมาเป็เช่นเดิม
เมื่อเห็นดังนั้น เกาชิวก็กระหยิ่มยิ้มย่องออกมา
“เห็นไหมล่ะ เพราะเ้าหนูมันหิวอยู่แน่ๆ แค่ให้หินิญญามากขึ้นหน่อย ก็ดีขึ้นแล้ว”
ใครจะไปคาดคิดว่าพริบตาต่อมาเว่ยฟงจะมีหน้าร้อนรน คิดจะล้วงคอให้เ้าหนูขย้อนหินิญญาออกมา
ส่วนเกาชิวกลับไม่รู้เื่อะไรเลย เพราะวิชาฝึกสัตว์อสูรของหุบเขาหมื่นอสูรเป็เคล็ดลับเฉพาะตัว หากใช้หินิญญาป้อนเข้าไปก็จะสามารถเลี้ยงสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งออกมาได้ เกรงว่าหุบเขาหมื่นอสูรคงไม่มีความน่าเกรงขามอย่างทุกวันนี้เป็แน่ ฉะนั้นการยัดหินิญญาเป็จำนวนมากโดยไม่รู้ความเช่นนี้ ย่อมจะต้องเกิดเื่เป็แน่...
ส่วนหลินเฟยก็กำลังขมวดคิ้วมองไปรอบๆ หลังจากอสรพิษร้ายตายไป ก็เริ่มมีไอหยินปกคลุมหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ...
“ออกจากที่นี่กันก่อนเถอะ ไอหยินเริ่มเข้มข้นขึ้นแล้ว เกรงว่าจะต้องมีมารปีศาจปรากฏอีกแน่ๆ...”
เมื่อสิ้นเสียง เกาชิวก็แค่นหัวเราะเ็าออกมา บัดนี้เ้าหนูทองฟื้นตัวกลับมาแล้ว สมบัติล้ำค่ามากมายจึงอยู่แค่เอื้อมเท่านั้น แล้วมีหรือที่เขาจะยอมจากไปง่ายๆ?
“หากกลัวก็กลับไปก่อนสิ เดิมก็ไม่อยากพาตัวถ่วงอย่างเ้ามาด้วยอยู่แล้ว ตอนนี้ไปได้ก็ดี”
เว่ยฟงได้ยินดังนั้นก็ร้อนใจขึ้นมา ขณะที่กำลังจะลุกขึ้นเอ่ยห้าม ชั่วขณะที่ปล่อยมือออก ทั่วทั้งตัวของเ้าหนูทองก็เกิดเป็ลำแสงสว่างเรืองรองขึ้น ก่อนจะวิ่งพล่านไปมา...
เมื่อเห็นดังนั้นเว่ยฟงก็ไม่มีกะจิตกะใจจะปรามเกาชิวอีก เขาพยายามผิวปากไม่หยุด หวังว่าจะเรียกเ้าหนูกลับมา ทว่าลำแสงทั่วตัวเ้าหนูกลับสว่างจ้าขึ้นเรื่อยๆ โดยที่มันไม่สนใจเว่ยฟงแม้แต่น้อย หลังจากคำรามกู่ก้องออกมา มันก็พุ่งตัวไปยังส่วนลึกของบึงโคลนทันที...
ทว่าเวลานี้เอง บึงโคลนที่อยู่เบื้องหน้าก็มีแสงสีเงินสายหนึ่งสว่างวาบขึ้นมา จากนั้นก็มีกรงเล็บสี่ง่ามขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น ก่อนจะคว้าเข้าไปที่เ้าหนูทอง
เ้าหนูทองที่ถูกจับกรีดร้องออกมาทันที จากนั้นลำแสงทั่วตัวก็ะเิออก พริบตาถัดมาก็กลายร่างเป็หนูั์ขนาดหลายจ้าง ฟันหน้ามีแสงเรืองรองสว่างออกมา ก่อนจะขบกัดเข้าที่กรงเล็บั์ตรงหน้า จนเกิดเป็เสียงคล้ายโลหะกระทบกัน ทันใดนั้นก็มีสะเก็ดไฟมากมายแตกกระจายออกมา...
แม้มันจะกัดง่ามนิ้วของกรงเล็บั์ไม่ขาด ทว่าเ้าหนูทองก็สามารถหนีรอดออกมาได้ หลังจากตีลังกากลางอากาศสองตลบ มันก็ร่วงลงพื้นขณะที่สองตาก็ยังคงแดงก่ำ ส่วนเ้าหนูทองที่เป็ฝ่ายเสียเปรียบมีหรือจะยอม ทันใดนั้นมันก็สำแดงกายเป็ลำแสงสีทอง พุ่งตรงไปทางกรงเล็บั์ทันที
ถึงจะมีกรงเล็บอันแหลมคมและฟันหน้าอันแข็งแรงอย่างไร แต่เมื่อโจมตีไปยังกรงเล็บั์แล้ว ก็เกิดเป็เพียงสะเก็ดไฟเท่านั้น ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนใดๆทั้งสิ้น ส่วนทางกรงเล็บั์เองก็ไม่อาจทำอะไรเ้าหนูทองได้เช่นกัน...
กรงเล็บั์เอาแต่ตะปบเฉียดเ้าหนูทองไป ทว่าจู่ๆมันก็พุ่งตัวขึ้นจากบึงโคลนอีกครั้ง และตะปบเ้าหนูทองจนกระเด็นออกไป
พื้นดินก็พลันสั่นะเืรุนแรง ครั้งนี้นอกจากกรงเล็บั์แล้ว ยังมีท่อนแขนขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยเกล็ดปรากฏขึ้นมาจากพื้นดิน และที่ห่างไกลออกไปอีกหลายจ้าง ก็มีกรงเล็บสี่ง่ามสีเงินอีกข้างปรากฏออกมาด้วยอีก จากนั้นพื้นดินก็สั่นไหวรุนแรง บึงโคลนที่อยู่เบื้องหน้าก็เกิดคลื่นน้ำรุนแรง ฟองอากาศมากมายแตกกระจายไปทั่ว
เพียงครู่เดียวเบื้องหน้าก็มีเนินขนาดย่อมปรากฏขึ้น และมีกรงเล็บสีเงินขนาดใหญ่สองข้างโผล่ออกมา...
พริบตาถัดมาเนินดินก็ะเิออก เศษดินกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ พร้อมกับกลิ่นซากศพผสมรวมกับไอปีศาจ กระทั่งเกิดเป็พายุโหมกระหน่ำรุนแรง...
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------