ชย่าลิ่วอีหันปากกระบอกปืนไปทางประตู เฝยชีฉวยโอกาสกอดขาของเขาแล้วดึงเขาลงไปที่พื้น น้ำหนักเกือบสองร้อยกิโลกรัมกดทับเขาลงไปเพื่อแย่งปืนในมือของเขา ชย่าลิ่วอีดิ้นรนและยิงไปสองนัด แต่ก็ไม่โดน ในที่สุดเขาก็ใช้เข่าดันท้องของเฝยชี เพื่อพลิกตัวเขาลงไป ได้ยินเพียงเสียง "ปัง!" ดังสนั่น!
สารวัตรหัวคว้าปืนออกมาจากลิ้นชักตู้ ยิงเฝยชีเข้าที่ท้องจนไส้ทะลัก เฝยชีเอามือกุมท้องที่เต็มไปด้วยเืและเศษเนื้อ นอนอยู่บนพื้นเบิกตากว้างมองเขา "แก... แก..."
"คนข้างนอกเป็พวกแกหรือ?!" สารวัตรหัวสบถด้วยความโกรธ "ไอ้สารเลวกินดีหมีหัวใจเสือดาว[38] กล้ามากที่มาสร้างความวุ่นวายในบ้านของฉัน!"
เฝยชีพยายามฝืนใจพูดด้วยความเกลียดชังอย่างสุดซึ้ง "ไอ้แก่! แกแกล้งโง่ทำไม! ชย่าเสี่ยวลิ่ว ฉันบอกแกให้นะ คนที่ยุยงให้สวี่อิงฆ่าชิงหลงไม่ใช่ความคิดของฉัน เขาเป็คนบอกให้ฉันส่งคนไป..."
ก่อนที่เขาจะพูดจบ สารวัตรหัวก็ยกมือยิงอีกนัด ะุทะลุเข้ากลางหน้าผากของเฝยชี ครึ่งหัวถูกะเิเป็เศษเื ร่างกายที่ใหญ่โตชักกระตุกสองครั้งแล้วก็ไม่เคลื่อนไหวใดใดอีกต่อไป หลังจากปิดปากเฝยชีแล้ว เขาก็หันกลับมามองพบกับสายตาที่ตกตะลึงของชย่าลิ่วอีพอดี
ทั้งสองคนต่างตกตะลึง จากนั้นก็ยกปืนขึ้นพร้อมกัน หลังจากนั้นก็เกิดเสียงดังสนั่นสองครั้งติดต่อกัน สารวัตรหัวถูกะุเจาะเข้าที่หน้าอกจนกระเด็นล้มลงกับพื้น ส่วนะุที่เขาพลาดไปนั้นโดนโคมไฟระย้าบนเพดาน โคมไฟคริสตัลสุดหรูหนักหลายสิบกิโลกรัมร่วงลงมาแตกกระจายบนโต๊ะอาหาร!
เซี่ยลิ่วอีไม่สนใจเศษแก้วคริสตัลที่กระเด็นไปทั่ว เขารีบวิ่งไปหาสารวัตรหัว คว้าคอเสื้อของเขาแล้วตะคอกถาม "ชิงหลงเคารพนับถือแกมาตลอด! ทำไมถึงทำกับเขาแบบนี้?! ทำไม?!"
มุมปากของสารวัตรหัวสั่นเทา พูดไม่ออก มือทั้งสองข้างตะกายไปมาอย่างเปล่าประโยชน์ สารวัตรคนนี้ ผู้ซึ่งโลดแล่นในวงการมานานกว่ายี่สิบปี มีฉายาว่า "เหล่าจ่ง" ผู้ซึ่งทรงอิทธิพลต่อผู้คนในวงการมากมาย และมีทรัพย์สินมูลค่ากว่าร้อยล้าน จ้องมองไปที่โคมไฟระย้าสุดหรูที่เขาซื้อมาจากฝรั่งเศส ซึ่งตอนนี้แตกละเอียดเป็เสี่ยงๆ แล้วก็สิ้นใจตายไปพร้อมกับอาการชักกระตุก
ชย่าลิ่วอีเตะเขาอย่างแรงด้วยความโกรธ แล้วระบายความแค้นใส่ศพของเขาด้วยการยิงปืนใส่อีกสามนัด!
ทันใดนั้นประตูก็ถูกเตะเปิดจากด้านนอก บอดี้การ์ดคนหนึ่งของเฝยชีถือปืนคู่บุกเข้ามา แต่กลับกราดยิงะุทั้งหมดใส่ศพของสารวัตรหัวที่ถูกยกขึ้น ชย่าลิ่วอีใช้มือซ้ายจับคอเสื้อของสารวัตรหัว หลบอยู่ข้างหลังเขาเพื่อพักหายใจ จากนั้นก็ผลักเขาไปทางผู้บุกรุก ในขณะเดียวกันก็เปลี่ยนปืนจากมือขวาที่อ่อนแรงไปยังมือซ้ายแล้วยิงบอดี้การ์ดคนนั้นตายในทันที
ในเวลาเดียวกันนี้ เสียงปืนที่ดังสนั่นก็ดังมาจากระเบียงด้านนอกเช่นกัน คนของทั้งสองฝ่ายที่อยู่ด้านนอกอาคารได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวภายใน จึงเริ่มยิงปะทะกันโดยไม่ได้นัดหมาย ลูกน้องของเฝยชีที่อยู่บนดาดฟ้าต่างเหวี่ยงเชือกโดดลงมาที่ระเบียง แล้วเริ่มระดมยิงใส่ชย่าลิ่วอี ซึ่งเป็คนเดียวที่ยังยืนอยู่ในห้อง
ชย่าลิ่วอียกมือขึ้นยิงไปหลายนัด สังหารผู้บุกรุกสองคนแรกที่บุกเข้ามาในห้อง และบังคับให้คนที่สามถอยกลับไป ปืนในมือของเขาไม่มีะุแล้ว เขาเหนี่ยวไกสองครั้งแล้วโยนมันทิ้งไปอย่างไร้เยื่อใย
"นายใหญ่ตายแล้ว! ชย่าลิ่วอียังอยู่ข้างใน! เผามันให้ตายซะ!" ลูกน้องของเฝยชีที่หนีรอดไปะโอยู่ข้างนอก
ถังสีสองถังถูกโยนเข้ามาจากหน้าต่าง ทำให้ห้องเต็มไปด้วยกลิ่นฉุน จากนั้นก็มีคบเพลิงถูกโยนเข้ามา
ชย่าลิ่วอีรีบหันหลังกลับแล้วถอยไปทางประตู แต่บอดี้การ์ดอีกคนของเฝยชีก็เพิ่งจัดการสังหารคนข้างนอกเสร็จแล้วพุ่งเข้ามาพอดี ทั้งสองคนเผชิญหน้ากัน ชย่าลิ่วอีคว้ามีดบนโต๊ะอาหารแล้วขว้างออกไปก่อนที่อีกฝ่ายจะยกมือขึ้นยิงปืน มีดปักเข้าที่คอของบอดี้การ์ดพอดี!
เขาโน้มตัวลงไปหยิบปืนของสารวัตรหัว แล้วสอดมันเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ถอดเสื้อสูทออกมาปิดปากและจมูก จากนั้นก็ก้าวไปที่ประตู เหยียบไปที่ใบหน้าของบอดี้การ์ดที่กำลังชักกระตุกเพราะมีดปักอยู่ที่คอ จากนั้นก็หยิบปืนของอีกฝ่ายแล้วพุ่งออกไปนอกห้อง
ด้านนอกก็วุ่นวายไม่แพ้กัน ศพของคนรับใช้ในบ้านของสารวัตรหัวที่ถูกบอดี้การ์ดของเฝยชี ฆ่าตายนอนเกลื่อนอยู่ตามทางเดิน ชย่าลิ่วอีก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ประคองร่างที่นอนอยู่หลังแจกันดอกไม้ใบใหญ่ขึ้นมา แล้วเขย่าแรงๆ "อาหย่ง? อาหย่ง!"
"หัว... หัวหน้าครับ!" อาหย่งที่ตัวเต็มไปด้วยเืพยายามลืมตาขึ้นและไอออกมา เขาถูกยิงที่ท้องและกำลังจะตาย "พี่ไม่เป็ไรนะครับ... แค่ก..."
"แล้วอาเปียวล่ะ?" เซี่ยลิ่วอี๋มองไปรอบ ๆ แต่ไม่เห็นบอดี้การ์ดคนที่สอง
"แค่ก... ไม่รู้ครับ... เขาบอกว่าจะไปเข้าห้องน้ำ..."
สีหน้าของชย่าลิ่วอีเคร่งเครียดขึ้น แต่เขาไม่มีเวลาที่จะคิดอะไรมากไปกว่านี้ เสียงปืนและเสียงโกลาหลดังมาจากชั้นล่างไม่หยุด เสียงกรีดร้องของภรรยาของสารวัตรหัวดังขึ้นครู่หนึ่ง แล้วก็เงียบไป
ห้องต่างๆ ชั้นบนก็มีคนโยนถังน้ำมันเข้ามาจากระเบียง เพลิงลุกไหม้ไปทั่ว แล้วยังมีคนวิ่งขึ้นมาตามบันไดภายในบ้านอีก ชย่าลิ่วอีไม่พูดพร่ำทำเพลง โน้มตัวลงไปอุ้มอาหย่งขึ้นบ่า แล้ววิ่งไปข้างหน้า ระหว่างวิ่งเขาก็หันกลับไปยิงใส่ผู้ไล่ตามสองนัด สังหารคนที่วิ่งนำหน้ามาได้
เพื่อเป็การตอบโต้ ะุนัดแล้วนัดเล่าก็พุ่งเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ะุเจาะทะลุกำแพงและแจกันระหว่างทางจนแตกละเอียด โคมไฟระย้าในโถงทางเดินร่วงหล่นลงมาแตกกระจายเต็มพื้น ส่งเสียงดังเป๊าะแป๊ะ และมีฝุ่นควันฟุ้งกระจายไปทั่ว!
ชย่าลิ่วอีก้มตัวลงใช้ปืนบังศีรษะ พาอาหย่งวิ่งไปข้างหน้าอย่างสุดชีวิตท่ามกลางกลุ่มควันนั้น เขาได้ยินอาหย่งพูดอย่างแ่เบาว่า "หัวหน้าครับ ปล่อยผมเถอะ... รีบไป..."
"หุบปาก!" ชย่าลิ่วอีขมวดคิ้วและะโ ใช้มือขวาที่อ่อนแรงของเขาดึงคอเสื้อของอาหย่งไว้ พลางลากเขาไปยังสุดทางเดิน ในขณะเดียวกันก็ยิงไปข้างหลังอีกหนึ่งนัด ก็มีคนล้มลงไปอีกคน
หน้าต่างที่ปลายทางเดินถูกล็อคไว้ กุญแจขึ้นสนิมแน่น ไม่สามารถดึงออกได้ ชย่าลิ่วอีถอดเสื้อสูทออกมาพันรอบแขนซ้าย แล้ว "เพล้ง!" ทุบกระจกแตกละเอียด!
เขาปัดเศษกระจกที่ขอบหน้าต่างออกไปอย่างรวดเร็ว แล้วหันกลับไปอุ้มอาหย่งขึ้นเพื่อจะผลักเขาออกไปนอกหน้าต่าง ทันใดนั้น อาหย่งก็ดิ้นอย่างแรงและชนเขาไปด้านข้าง! ในขณะเดียวกันก็มีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดมาจากทางบันได ะุเจาะทะลุร่างของอาหย่งเป็รูใหญ่กว่าเดิม!
"อาหย่ง!" ชย่าลิ่วอีร้องเสียงแหบ
อาหย่งที่ปากเต็มไปด้วยเื เส้นเืที่หน้าผากปูดโปน และดวงตาแดงก่ำ มองเขาแวบหนึ่ง แล้วก็คว้าปืนที่เหลือะุเพียงสามนัดออกจากมือของชย่าลิ่วอี จากนั้นเขาก็ดึงชย่าลิ่วอีขึ้นมา แล้วใช้แรงเฮือกสุดท้ายผลักเขาออกไปนอกหน้าต่าง!
เขาหันกลับไปแล้วะโใส่ลูกน้องของเฝยชีที่กำลังพุ่งเข้ามา ในขณะที่ยิงปืนสวนกลับไปและวิ่งเข้าใส่พวกเขา! ะุพุ่งเข้ามาเหมือนสายฝน เสียงปืนดังสนั่นะเืไปทั่วทั้งคฤหาสน์!
อาคารไม่ได้สูงมาก ชย่าลิ่วอีตกลงมาจากชั้นสองลงไปในสวนพร้อมกับเสียงปืน ร่างของเขาร่วงลงบนพุ่มไม้เตี้ยๆ กลิ้งไปสองสามตลบแล้วลุกขึ้นยืน เขาหายใจหอบแรงๆ เงยหน้ามองไปที่หน้าต่างชั้นสองที่เต็มไปด้วยกลุ่มควันและฝุ่น เขากัดฟันแน่น สีหน้าเต็มไปด้วยความเศร้าโศก แล้วก็หันหน้าหนีไป ในตอนนั้นเองเขาก็ได้ยินเสียงของเสี่ยวหม่าะโมาจากนอกรั้ว "พี่ใหญ่!"
เสี่ยวหม่าค่อนข้างระมัดระวังตัวอยู่แล้ว จากสัญญาณที่เขาส่งมาก่อนที่จะเข้าไปข้างใน หลังจากเสียงปืนนัดแรกดังขึ้น ทั้งสองฝ่ายก็เปิดฉากยิงกันทันที เสียงปืนดังไม่หยุด มีศพนอนเกลื่อนกลาดอยู่บนพื้น
ชย่าลิ่วอีชักปืนกระบอกที่สองออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้ววิ่งฝ่าห่าะุกลับไปที่รถที่เต็มไปด้วยรูะุ โดยมีพวกพ้องของเขาคอยยิงคุ้มกัน
"พี่ใหญ่ พี่ไม่เป็ไรนะ?!" เสี่ยวหม่าถาม
ชย่าลิ่วอีหายใจหอบแล้วพูด "ไม่เป็ไร ตำรวจจะมาเร็วๆ นี้ ไปกันเถอะ!"
พูดแบบนี้ก็สายไปเสียแล้ว ไม่รู้ว่าข่าวรั่วไปทางไหน แต่ตอนนี้ด้านล่างมีไฟแดงกะพริบและเสียงไซเรนดังไม่หยุด รถตำรวจจำนวนมากกรูกันเข้ามา แม้แต่หน่วย SDU (หน่วยปฏิบัติการพิเศษ) ของตำรวจก็ยังถูกส่งมาด้วย แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์ร้ายแรงมาก
"ทำไมพวกเขามาเร็วขนาดนี้?!" เสี่ยวหม่าเบิกตากว้างพูด
ชย่าลิ่วอีนึกถึงอาเปียวที่หายตัวไป เขาก็คิดอะไรบางอย่างออกทันที "อย่าสู้ต่อ เผารถแล้วแยกย้ายกันไป!"
“ครับ!”
กลุ่มคนแยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็ว หายเข้าไปในความมืด คนที่เสี่ยวหม่านำมาล้วนเป็คนฉลาดและว่องไว ชย่าลิ่วอีไม่จำเป็ต้องเป็ห่วงเื่นี้ เขาเลือกเส้นทางเล็กๆ แล้วไถลลงมาจากขอบป่า วิ่งไปข้างหน้าหลายกิโล เมื่อหันกลับไปมอง เขาก็เห็นคฤหาสน์บนเนินเขากำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง เปลวไฟส่องสว่างไปทั่วท้องฟ้าครึ่งหนึ่ง
ในเวลานั้นบนูเา ตำรวจได้กั้นพื้นที่เกิดเหตุและจับกุมลูกน้องของเฝยชีหลายคนที่ติดอยู่ในบริเวณบ้านและไม่สามารถหลบหนีได้ รถดับเพลิงและรถพยาบาลก็รีบรุดมาถึงเช่นกัน นอกจากรถดับเพลิงแล้ว ยังมีรถเก๋งธรรมดาที่มีเลขทะเบียนลงท้ายด้วย 61 มาถึงด้วย ชายในชุดธรรมดาหลายคนลงจากรถและแสดงบัตรประจำตัวให้เ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังดูแลความสงบเรียบร้อย
ควันดำยังคงพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าจากชั้นบนสุดของคฤหาสน์ เซี่ยเจียหัวพาลูกน้องสองคนเดินเข้ามาใกล้บริเวณหน้าบ้าน "ใครเป็ผู้รับผิดชอบที่นี่?"
"ผมเองครับ" เ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบคนหนึ่งพูด
เชิงอรรถ
[38] กินดีหมีหัวใจเสือดาว หมายถึง คนที่มีความกล้าหาญอย่างมากหรือทำสิ่งที่กล้าหาญเกินเหตุจนดูเหมือนไม่กลัวอันตรายใด ๆ เลย
